วันที่ฟ้าเปิด บทที่ 4

กระทู้คำถาม
วันที่ฟ้าเปิด
ดรัสวันต์ และ Q


4

       ปกป้องอุ้มร่างที่เปียกโชกและหมดสตินั้นขึ้นมาบนบ้าน ค่อยๆ วางร่างอ่อนปวกเปียกและบอบช้ำลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม เสียใจเหลือเกินที่
เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เป็นความประมาทเลินเล่อของเขาเองที่ปล่อยให้หล่อนมีโอกาสหนีไปได้ จนหล่อนต้องมาบาดเจ็บถึงเพียงนี้ 

       ตอนที่เขาไปถึงรถที่จอดทิ้งไว้เพราะชนเข้ากับกำแพงดินนั้น เขาไม่แปลกใจเลยที่เนตริยาควบคุมรถไม่ได้ เพราะเส้นทางลงเขามหาโหดเช่นนี้
ต้องเป็นคนที่ชำนาญทางจริงๆ ถึงจะขับได้ 

      นาดีร์ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มากับเขาด้วย ปกป้องสั่งให้ไปดูสภาพรถว่ายังใช้งานได้หรือไม่ ส่วนเขาจะต้องควานหาเนตริยาให้เจอ

      ปกป้องยืนเคว้งคว้างอยู่กลางถนน ส่ายสายตามองไปรอบๆ พร้อมทั้งคาดเดาว่าหล่อนคงฉลาดพอที่จะไม่เดินไปตามถนนให้เขาหาหล่อนเจอ  
ในราวป่าทางขวามือนั่นคือเส้นทางเดียวที่หล่อนจะหนีได้เพราะอีกฟากถนนเป็นกำแพงภูเขาที่บางช่วงเป็นหุบเหวที่ไม่มีใครเดินได้อยู่แล้ว เขาจึงมั่นใจ
ว่าหญิงสาวจะต้องเดินเข้าไปในป่าอย่างแน่นอน เขาจึงแกะรอยตามไป จนเมื่อฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง ฝนไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแต่อย่างใด
เขาชินกับการใช้ชีวิตในป่าฝนแห่งนี้ แต่เนตริยาซิ ความรู้สึกเป็นห่วงทับทวี เพราะป่าแถบนี้ไม่มีที่หลบฝน อีกทั้งลำธารที่อยู่ไม่ไกลนั้น น้ำจะไหลบ่าจากต้นน้ำลงมาอย่างรุนแรงหลังจากฝนกระหน่ำเช่นนี้เสมอ

     แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เสียงโครมครืนของน้ำดังสะท้อนก้องมาแต่ไกล ปกป้องรีบวิ่งหนีห่างออกจากแนวลำธารเพื่อเอาตัวรอด แต่...

     กรี๊ด !

     เสียงกรีดร้องที่ดังแว่วมาก่อนจะถูกกลบด้วยเสียงน้ำ ทำให้ปกป้องใจหาย นึกภาวนาขออย่าให้เนตริยาถูกน้ำพัดตกลงไปในลำธาร แล้วไหลตามมวลน้ำไป ถ้าเป็นเช่นนั้นเธออาจไม่รอด !

     เขาออกวิ่งไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงหวีดร้องของหญิงสาวแม้จะมีมวลน้ำที่ล้นตลิ่งลำธารซัดเข้ามาทำให้เขาถลาล้มลง ชายหนุ่มกัดฟันรวบรวมพละกำลังลุกขึ้นออกวิ่งตามหาอย่างไม่ลดละ 

     มวลน้ำละลอกหลังลดความรุนแรงลงแล้ว เพียงไม่นานเขาก็มองเห็นร่างอันไร้สติของเนตริยาถูกน้ำซัดไปติดอยู่กับโคนต้นไม้ 

     ปกป้องผวาเข้าไปจับร่างนั้นพลิกตัวขึ้นเพื่อสำรวจบาดแผล มีรอยแดงที่หน้าผากที่อาจจะกระแทกกับต้นไม้

     “คุณ..เนตร..” เขาพยายามเขย่าตัวเรียกให้หญิงสาวรู้สึกตัว แต่ไม่เป็นผล รึว่าหล่อนจะสำลักน้ำเข้าไปจนหายใจไม่ได้ เขารีบจับร่างหล่อนให้นอน
หงายกับพื้นราบแล้วใช้นิ้วล้วงเข้าไปในปากให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางทางหายใจ แล้วช่วยผายปอดด้วยการประสานมือทั้งสองกดลงบนจุดกึ่งกลางอก
30 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก เพียงครู่หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกตัว หล่อนไอและสำลักน้ำออกมา แล้วเริ่มหายใจได้

     “เนตร คุณไม่เป็นอะไรแล้วนะ” เขาละล่ำละลักบอกด้วยความดีใจ 

     แม้จะสามารถหายใจได้แล้ว แต่ความบอบช้ำและอ่อนเพลียของร่างกายทำให้หญิงสาวหลับไป ปกป้องรีบช้อนร่างเปียกปอนนั้นขึ้น บอกตัวเองว่า
เขาจะต้องรีบพาหล่อนกลับไปบ้านโดยด่วนเพราะสิ่งที่เขาหวั่นเกรงอย่างยิ่งคือเกรงว่าสมองอาจจะกระทบกระเทือน อีกทั้งเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มเช่นนี้ 
อาจทำให้ปอดบวมได้

      เขาอุ้มร่างคนเจ็บเดินจากราวป่าออกมายังถนน เป็นระยะทางกว่าครึ่งกิโลจึงมาถึงรถยนต์ที่นาดีร์พยายามซ่อมจนสตาร์ตได้สำเร็จ แม้ด้านหน้าจะยุบและฝากระโปรงโก่งไปบ้าง ก็ยังไม่เสียหายถึงเครื่องยนต์ คงเป็นเพราะชนกับผนังดินร่วนซุย หากเป็นหินอาจจะเสียหายมากกว่านี้ 
 

      ทั้งหมดกลับมาถึงบ้าน แสวงที่ถูกเนตริยาใช้ท่อนไม้ตีจนหัวโนนั้น ยังมีน้ำใจออกมาช่วยเปิดประตูรถให้ปกป้องอุ้มหญิงสาวออกมา แล้วแสวงก็กุลีกุจอไปจัดเตรียมเตียงพยาบาลไว้ให้อย่างดีเพราะรู้ถึงความสำคัญของหญิงสาวผู้นี้

     ปกป้องมองร่างที่เปียกปอนนั้น อย่างแรกเขาต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หล่อนก่อน แต่ครั้นเอื้อมมือไปดึงเสื้อยืดขึ้น หน้าท้องขาวเนียนนั้น ก็ทำให้มือ
ชายหนุ่มเกิดอาการชะงัก เขาไม่กล้า ทั้งๆ ที่เขาก็เคยทำคลอดมาแล้ว 

     “แสวงออกไปก่อน แล้วปิดประตูด้วย” เขาหันไปบอกลูกน้อง พอประตูห้องปิดลงแล้ว ชายหนุ่มพยายามปลุกให้หญิงสาวคืนสติ เพื่อที่ว่าหล่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง

     “คุณ..คุณเนตร” เขาพยายามเรียกอีกครั้ง พร้อมกับใช้ผ้าขนหนูเช็ดใบหน้าและผมที่เปียกนั้นให้อย่างเบามือ มองดูรอยแดงที่หน้าผากที่เริ่มช้ำ
เขาหันไปเปิดตู้หยิบยาบรรเทาอาการฟกช้ำออกมาทาบริเวณนั้น 

     “คุณ คุณ” พยายามเรียกอีกครั้ง พร้อมกับเขย่าตัว คราวนี้หญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้น ปกป้องจึงค่อยโล่งอก “รู้สึกตัวแล้วใช่ไหม”

     “ฉัน ฉันอยู่ที่ไหน”

     “คุณถูกน้ำซัดไป เปียกทั้งตัวเลย เปลี่ยนเสื้อผ้านะ ผมจะไปเอาเสื้อแห้งๆ มาให้” แล้วชายหนุ่มก็ผลุนผลันออกไปที่ห้องของหญิงสาวรื้อกระเป๋า
เดินทางที่เสื้อผ้ายังพับเรียบร้อยอยู่ในนั้น เขาเลือกได้ชุดกระโปรงยาวผ้าฝ้ายลายดอกเล็กๆ มาได้ตัวหนึ่งแล้วรีบกลับมายังห้องพยาบาล 
หญิงสาวยังคงนอนลืมตามองไปรอบๆ 

     “เปลี่ยนเสื้อนะครับ ลุกไหวไหม” ปกป้องพยุงให้หล่อนลุกขึ้นนั่ง

     “โอย” เนตริยาอุทาน และยกมือขึ้นจับศีรษะตรงรอยช้ำนั่น 

    “เจ็บใช่ไหม”

   หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างอ่อนแรง 

    “ผมทายาให้แล้ว เดี๋ยวคงหาย” เขาปลอบแล้วถามว่า “เปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้ไหม”

    เนตริยาก้มลงมองตัวเองในสภาพเปียกปอนนั้น สติเริ่มกลับคืนมามากขึ้น

    “ผมเอาเสื้อแห้งๆ มาให้แล้ว” เขาวางชุดกระโปรงนั้นลงข้างๆ “เปลี่ยนเสื้อไหวไหม...” เขาถามซ้ำแล้วรอคำตอบ ท่าทางสมองของหญิงสาวดูจะ
สั่งงานช้า “... ถ้าไม่ไหว ผมจะเปลี่ยนให้ ! ” เขาลงเสียงหนักตอนท้ายราวกับจะกระตุ้นทิฐิมานะของหญิงสาว 

     ได้ผล ใบหน้าที่ซีดเซียวนั้นระเรื่อขึ้นทันที

     “ก็ออกไปซิ ! ฉันเปลี่ยนเองได้” เสียงที่สะบัดออกมานั้น ทำให้ปกป้องใจชื้นขึ้นว่าสมองของหล่อนคงปกติดีไม่กระทบกระเทือนอย่างที่เขาเกรงแต่แรก

      เขาจัดแจงดึงฉากผ้าสีเขียวที่อยู่ในโครงเหล็กเคลือบสีขาวอย่างที่เคยมีใช้ตามโรงพยาบาลยุคเก่าออกมากางกั้นให้ 

    “นายออกไปนอกห้องดีกว่า” เนตริยายังไม่ไว้ใจนัก 

    “ผมจะรออยู่ตรงนี้ เผื่อคุณล้ม” เขายืนยันจากอีกฟากของฉากกั้น

    “ห้ามแอบดูนะ” หล่อนทำเสียงขู่

     คราวนี้ปกป้องหัวเราะออกมา

    “สาบานจะไม่”

    หญิงสาวใช้มือทั้งสองดึงเสื้อยืดโปโลออกทางศีรษะอย่างทุลักทุเลเพราะยังรู้สึกเคล็ดยอกตามหลังไหล่ อีกทั้งเสื้อเปียกอุ้มน้ำถอดยาก แล้วตามมา
ด้วยบราเซียร์ลูกไม้ที่หล่อนปลดออกอย่างขัดเขินกับความหละหลวมที่หล่อนไม่คุ้นเคย แล้วรีบสวมเสื้อชุดกระโปรงนั้นทันที ส่วนกางเกงยีนส์ทั้งฟิต
และหนักน้ำเช่นนี้ ทำให้ถอดลำบาก

     “เสร็จหรือยัง” เสียงถามดังมาจากหลังฉาก

     ไม่มีคำตอบ มีแต่เสียงอึกอักที่พยายามจะถอดกางเกงยีนส์ที่ทั้งฟิตและอุ้มน้ำนั้น

    “ผมเข้าไปนะ”

     “อื้อ ไม่...”  เป็นจังหวะที่หญิงสาวรูดกางเกงลงมาที่ปลายเท้าแล้วดึงกระโปรงลงมาคลุมพอดี แต่กางเกงที่ยังพันอยู่ที่ข้อเท้าทำให้หล่อนเสีย
การทรงตัว ปกป้องเข้ามารับร่างนั้นไว้ได้ทันก่อนที่หล่อนจะล้มลง ชายหนุ่มค่อยๆ ประคองเนตริยาให้นั่งลงบนเตียงอีกครั้งแล้วก้มลงช่วยดึงกางเกง
จนหลุดจากปลายเท้า

     “ผมจะเอาไปให้เขาซัก” เขาบอกแล้วรวบเอาผ้าเปียกเหล่านั้นมาถือ เนตริยารีบตระครุบดึงคืนมาเพราะมีชุดชั้นในของหล่อนอยู่ในนั้น ใบหน้าแดงระเรื่อ

     “ไม่ต้อง ฉันซักเอง” 

     ปกป้องมองอาการกระมิดกระเมี้ยนดึงบราเซียร์ลูกไม้และอันเดอร์แวร์สีหวานแอบไว้ข้างหลังให้พ้นสายตาเขา แล้วพอจะเข้าใจ

     “ชุดชั้นในผู้หญิงน่ะหรือ คนงานของผมเขาไม่ถือหรอก”

     “แต่ฉันถือ” เสียงที่ยืนยันหนักแน่น และใบหน้าที่ยังคงระเรื่อแดงอยู่เช่นนั้นทำให้ชายหนุ่มไม่อยากฝืนใจ

     “ถ้างั้น ผมจะให้เขาเอาตะกร้าผ้ามาให้คุณใส่ชุดชั้นในถ้าคุณอยากจะซักเอง ส่วนเสื้อกับกางเกงนี้ผมจะให้คนงานซักให้เพราะคุณไม่สบายนะ คุณต้องพัก”

      อาการยอกตามไหล่หลัง ทำให้เนตริยารู้สึกล้าขึ้นมาทั้งตัว หล่อนไม่อยากดื้อดึงต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่