วันที่ฟ้าเปิด
ดรัสวันต์ และ Q
ท้ายบทที่แล้ว
เนตริยาค่อยๆ จรดปลายเท้าเดินคลำทางโดยระมือไปตามผนังห้อง หล่อนจะเดินไปทางด้านหลังที่จะมีบันไดลงไปข้างล่าง
“อุ๊ย ! ” หล่อนสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง คล้ายขอบไม้ จึงค่อยๆ เดินเลี่ยงไป แต่
“ว้าย ! ” เนตริยารู้สึกคล้ายร่างถูกคว้าจนล้มลงบนบางอย่างนุ่มๆ แขนแข็งแรงของใครคนหนึ่งรัดรึงอยู่รอบตัวทำให้หญิงสาวออกแรงดิ้นสุดชีวิต
“กรี๊ด ! ปล่อยนะ”
“บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ออกมา รึว่าเหงา”
3
“ไม่นะ ปล่อย !” ทั้งตะโกนทั้งหยิกข่วนจนปกป้องต้องรวบมือทั้งสองไว้ ร่างหนากดทับร่างของหญิงสาวจนหล่อนไม่สามารถกระดิกตัวได้ ยามตกใจ
จนไม่ได้ตั้งตัวเช่นนี้ แม้เนตริยาจะผ่านการฝึกวิชาป้องกันตัวมาก็ลืมที่จะใช้
“แรงเยอะเหมือนกันนะ” กว่าชายหนุ่มจะทำให้หล่อนสิ้นฤทธิ์ได้ ก็เหนื่อยเอาการ
“อย่าทำอะไรนะ” เนตริยาวอนขอเสียงเครือ กลัวเขาคิดว่าหล่อนเหงาต้องการนอนกับผู้ชาย
ปกป้องเอื้อมมือข้างหนึ่งไปเปิดไฟฉายที่วางอยู่ข้างหมอน แสงสว่างจ้าทำให้หญิงสาวต้องหลับตาลง แล้วจึงค่อยลืมขึ้นใหม่ ใบหน้าคร้ามคม
อีกทั้งหนวดเคราที่ส่งให้ใบหน้านี้ดุดัน อยู่ห่างไม่ถึงคืบ ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดแก้มยิ่งทำให้หญิงสาวทำตัวแข็งเกร็ง
“ออกมาทำไม” ปกป้องถามเสียงกร้าว
“เอ่อ เอ่อ ” หล่อนอึกอักแล้วโกหกออกไปว่า “จะไปห้องน้ำ ปล่อยซิ !” แล้วพยายามสะบัดตัวออก ปกป้องจึงคลายมือแล้วขยับตัวออก ปล่อยให้
หญิงสาวเป็นอิสระ
เนตริยารีบลนลานลุกหนีออกมายืนตั้งหลักอยู่ห่างๆ หล่อนเพิ่งเห็นตอนนี้เองว่าเขามาตั้งเตียงนอนเฝ้าหล่อนหน้าห้อง
“ไปห้องน้ำ? แล้วทำไมไม่ถือไฟฉายออกมาด้วย ออกมามืดๆ แบบนี้ ผมว่าคุณมีเจตนาอื่นมากกว่า” เขารู้ทัน
“ฉัน ฉันจะไปห้องน้ำจริงๆ นะ” เนตริยายืนกระต่ายขาเดียว
“งั้นก็ไปซิ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินถือไฟฉายส่องทางนำไปให้จนถึงห้องน้ำ จัดแจงวางไฟฉายไว้ให้ใกล้อ่างล้างหน้าแล้วถอยออกมา
“ไม่ต้องมายืนเฝ้าหรอก” เนตริยาสะบัดเสียงพร้อมทั้งค้อนให้ ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลง
ปกป้องกลับมานั่งที่เตียงพร้อมกับคิดว่าเขาต้องไม่เผลอคิดไปว่าหล่อนยอมจำนนเขาจริงๆ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เขาดูออกว่าหล่อนพยายาม
หนีอีกครั้ง แม้เขาจะเคยขู่ไปแล้วว่าแถวนี้มีอันตราย ยิ่งเวลากลางคืนด้วยแล้ว หล่อนก็ยังไม่วายหาทางหนี
เนตริยาทำเป็นเปิดน้ำ กดชักโครกให้เสียงลอดออกไปให้เขาได้ยิน หล่อนไม่ได้จะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ แต่เหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อครู่ก็ทำให้หล่อน
ได้รู้ว่าจะต้องปรับแผนการหนีใหม่ มันคงยากที่หล่อนจะหนีเอง แต่หากหล่อนเปลี่ยนเป็นใช้ปืนขู่ให้โจรอย่างเขายอมพาหล่อนกลับไปส่งน่าจะเป็นผลมากกว่า เพราะฉะนั้นหล่อนต้องพยายามหาอาวุธ
“คุณ” เสียงเรียกเตือนอยู่หน้าห้อง
เนตริยาจึงเปิดประตูออกมาแล้วเดินกลับห้อง
“เห็นหายไปนาน นึกว่าท้องเสียซะอีก”
หญิงสาวคืนไฟฉายให้เขาแล้วกำลังจะก้าวเข้าห้อง ปกป้องส่งเสียงขู่ตามหลังไปว่า
“อย่าคิดหนีอีกนะ ถ้าไม่อยากถูกล่ามโซ่”
เนตริยาหยุดชะงักแล้วหันไปมองเขาด้วยสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแล้วก้าวเข้าห้องปิดประตูใส่กลอนแน่นหนา
หญิงสาวกลับมานั่งจมอยู่กับความคิดเพื่อวางแผนหนีอีกครั้ง หล่อนจะช้าอีกไม่ได้แล้ว เพราะถ้าถึงขั้นถูกล่ามโซ่หล่อนจะไม่มีสิทธิ์หนีได้เลย
เช้ารุ่งขึ้น เนตริยาตื่นสายเพราะกว่าจะหลับลงได้ก็เกือบตีสอง ปกป้องนั่งรออยู่ก่อนแล้วที่โต๊ะอาหารที่ระเบียงหลังบ้านอันร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้
ตอนที่หล่อนเดินมาถึง เขาเงยหน้าจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ในมือขึ้นมอง ไม่ใช่แค่มองหน้าแต่มองสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ชุดเสื้อยืด
กางเกงยีนส์ที่หล่อนใส่นี้ดูทะมัดทะแมงกว่าชุดแพนท์สูทเดินทางที่หล่อนใส่เมื่อวาน
เนตริยาชะงัก ทำสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับบ่นอุบอิบเบาๆ ว่า
“คนไม่มีมารยาท”
“นั่งซิ คุณนายตื่นสาย” เขาเชื้อเชิญ
เนตริยาทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม ใบหน้าที่งออยู่แล้ว ยิ่งงอง้ำขึ้นไปอีกกับฉายาที่เขาเรียกหล่อน
ปกป้องหันไปตักข้าวต้มไก่ที่อยู่ในโถกระเบื้องใบใหญ่มาใส่ในชามที่อยู่ตรงหน้าหญิงสาว พร้อมกับอธิบายถึงเหตุผลที่เขาต้องมองหล่อนเช่นนั้น
“ผมกำลังดูว่าคุณแต่งชุดแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะวันนี้ผมคิดว่าจะพาคุณไปเข้าป่าซะหน่อย”
“เข้าป่า? ” เนตริยาทวนคำอย่างแปลกใจแล้วเริ่มวิตกกังวล หล่อนต้องรีบตัดสินใจทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะถูกพาเข้าป่าลึกเข้าไปอีก เพราะหล่อน
ยิ่งจะหนียาก วันนี้ที่หล่อนแต่งตัวเช่นนี้ก็เพื่อเตรียมหนี โชคดีที่หล่อนมีกระเป๋าเดินทางมาด้วย ทำให้มีเสื้อผ้าให้เลือกใส่ และมีรองเท้าสำหรับวิ่งติดมา
อีกคู่เพราะหล่อนมักจะจ๊อกกิ้งเพื่อออกกำลังกายทุกเย็น
“ใช่ เข้าป่า ผมกลัวว่าคุณอยู่เฉยๆ แล้วจะเบื่อ” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดี แล้วพยักพเยิดให้หล่อนเริ่มรับประทานอาหารเช้า แล้วเขาก็เริ่ม
ลงมือตักอาหารเช่นกัน
เนตริยามองอย่างแปลกใจ นี่เขารอหล่อนทานข้าวเช้าอย่างนั้นหรือ ทำไมโจรอย่างเขามีมารยาทดีแบบนี้ คิดแล้วมองสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ อาหารอย่างดีนี้เป็นมื้อที่สองที่เขาให้หล่อนมานั่งร่วมโต๊ะ ดูแลตักอาหารให้ ส่วนมื้อเย็นเมื่อวานที่เป็นอาหารปักษ์ใต้รสเผ็ดจัดที่หล่อนทานไม่ได้ เขาก็สั่งให้คนงานไปทอดไข่มาให้ คิดๆ แล้วหล่อนไม่ได้อยู่ในสภาพเชลยแม้แต่น้อย แม้แต่เมื่อคืน ยามที่หล่อนถูกเขารวบล้มลงบนเตียงแบบนั้น ถ้าเขาเป็นโจรใจทราม
หล่อนไม่น่าจะรอดมือเขาไปได้ คิดขึ้นมาครั้งไรก็ใจหาย แต่เขาก็ไม่ทำอะไรหล่อนแม้แต่น้อย
“กาแฟไหม” เขาถามขึ้นเมื่อหล่อนวางช้อนอิ่มอาหาร “บนภูเขาแถบนี้ไม่ได้มีแต่ป่าอย่างที่คุณเห็น แต่มีชาวบ้านทำไร่กาแฟด้วยเพราะอากาศเย็น เมล็ดกาแฟนี่ คั่วบดใหม่ๆ หอมมาก แล้วคุณจะติดใจ” เขาบอกยิ้มๆ
เนตริยามองเขาตาค้าง คาดไม่ถึงว่าจะเห็นแววตาอ่อนโยนและรอยยิ้มจากผู้ชายคนนี้
“นายเป็นใคร” หล่อนถามออกไปคล้ายละเมอพูดกับตัวเอง
ปกป้องหุบยิ้มรีบทำหน้าเคร่ง จ้องประสานสายตากับหล่อนแล้วตอบว่า
“ผมชื่อปกป้อง”
“ขอบคุณที่แนะนำตัว แต่ฉันอยากรู้ว่านายเป็นใครกันแน่”
เขาไม่ตอบแล้วหันไปตะโกนเรียกลูกน้องที่อยู่ข้างล่าง
“นาดีร์ เอากาแฟกับผลไม้ขึ้นมาให้คุณผู้หญิงด้วยนะ” แล้วเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับบอกหล่อนว่า “ผมขอตัว”
เนตริยามองตามร่างสูงที่เดินหายเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายโจรคนนี้ ทำไมถึงได้สุภาพขนาดนี้แถมเรียกหล่อนว่า ‘คุณผู้หญิง’ ราวกับจะให้ลูกน้องเขาเคารพหล่อนไปด้วย
นาดีร์นำผลไม้กับกาแฟมาเสิร์ฟแล้วกลับลงไปข้างล่าง หญิงสาวไม่สนใจจะรับประทานอะไรอีก หล่อนถูกทิ้งไว้คนเดียวอย่างนี้เป็นโอกาสทองที่จะ
หนี เนตริยาค่อยๆ ผุดลุกขึ้น มองซ้ายมองขวา ไม่มีใครอยู่ตรงนี้ หล่อนต้องเดินไปสำรวจดูให้แน่ใจว่าสมาชิกผู้ชายสามคนในบ้านนี้ มีใครอยู่ตรงไหนบ้าง
นายโจรอยู่ในห้อง นาดีร์อยู่ในครัวข้างล่าง แสวงล่ะ เนตริยาค่อยๆ ย่องไปมองที่หน้าบ้าน แสวงกำลังเช็ดทำความสะอาดรถ คงเตรียมจะออกเดินทางเข้าป่าอย่างที่เขาบอก
เสียงกุกกักดังแว่วมาจากห้องที่ปกป้องเดินเข้าไป ประตูที่เปิดอยู่ทำให้หญิงสาวอยากรู้ หล่อนค่อยๆ เดินเข้าไปเมียงมอง สิ่งที่เห็นภายในห้องยิ่งทำให้หล่อนแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะตู้กระจกหลายใบที่ตั้งอยู่ในห้องนี้นั้น ภายในบรรจุยาและเวชภัณฑ์มากมายและ ปกป้องกำลังจัดยาใส่กระเป๋าล่วมยาสีดำ
“นายเป็นหมอหรือ” เนตริยาหลุดคำถามออกไป
วันที่ฟ้าเปิด บทที่ 3
“อุ๊ย ! ” หล่อนสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง คล้ายขอบไม้ จึงค่อยๆ เดินเลี่ยงไป แต่
“ว้าย ! ” เนตริยารู้สึกคล้ายร่างถูกคว้าจนล้มลงบนบางอย่างนุ่มๆ แขนแข็งแรงของใครคนหนึ่งรัดรึงอยู่รอบตัวทำให้หญิงสาวออกแรงดิ้นสุดชีวิต
“กรี๊ด ! ปล่อยนะ”
“บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ออกมา รึว่าเหงา”
3
“ไม่นะ ปล่อย !” ทั้งตะโกนทั้งหยิกข่วนจนปกป้องต้องรวบมือทั้งสองไว้ ร่างหนากดทับร่างของหญิงสาวจนหล่อนไม่สามารถกระดิกตัวได้ ยามตกใจ
จนไม่ได้ตั้งตัวเช่นนี้ แม้เนตริยาจะผ่านการฝึกวิชาป้องกันตัวมาก็ลืมที่จะใช้
“แรงเยอะเหมือนกันนะ” กว่าชายหนุ่มจะทำให้หล่อนสิ้นฤทธิ์ได้ ก็เหนื่อยเอาการ
“อย่าทำอะไรนะ” เนตริยาวอนขอเสียงเครือ กลัวเขาคิดว่าหล่อนเหงาต้องการนอนกับผู้ชาย
ปกป้องเอื้อมมือข้างหนึ่งไปเปิดไฟฉายที่วางอยู่ข้างหมอน แสงสว่างจ้าทำให้หญิงสาวต้องหลับตาลง แล้วจึงค่อยลืมขึ้นใหม่ ใบหน้าคร้ามคม
อีกทั้งหนวดเคราที่ส่งให้ใบหน้านี้ดุดัน อยู่ห่างไม่ถึงคืบ ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดแก้มยิ่งทำให้หญิงสาวทำตัวแข็งเกร็ง
“ออกมาทำไม” ปกป้องถามเสียงกร้าว
“เอ่อ เอ่อ ” หล่อนอึกอักแล้วโกหกออกไปว่า “จะไปห้องน้ำ ปล่อยซิ !” แล้วพยายามสะบัดตัวออก ปกป้องจึงคลายมือแล้วขยับตัวออก ปล่อยให้
หญิงสาวเป็นอิสระ
เนตริยารีบลนลานลุกหนีออกมายืนตั้งหลักอยู่ห่างๆ หล่อนเพิ่งเห็นตอนนี้เองว่าเขามาตั้งเตียงนอนเฝ้าหล่อนหน้าห้อง
“ไปห้องน้ำ? แล้วทำไมไม่ถือไฟฉายออกมาด้วย ออกมามืดๆ แบบนี้ ผมว่าคุณมีเจตนาอื่นมากกว่า” เขารู้ทัน
“ฉัน ฉันจะไปห้องน้ำจริงๆ นะ” เนตริยายืนกระต่ายขาเดียว
“งั้นก็ไปซิ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินถือไฟฉายส่องทางนำไปให้จนถึงห้องน้ำ จัดแจงวางไฟฉายไว้ให้ใกล้อ่างล้างหน้าแล้วถอยออกมา
“ไม่ต้องมายืนเฝ้าหรอก” เนตริยาสะบัดเสียงพร้อมทั้งค้อนให้ ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลง
ปกป้องกลับมานั่งที่เตียงพร้อมกับคิดว่าเขาต้องไม่เผลอคิดไปว่าหล่อนยอมจำนนเขาจริงๆ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เขาดูออกว่าหล่อนพยายาม
หนีอีกครั้ง แม้เขาจะเคยขู่ไปแล้วว่าแถวนี้มีอันตราย ยิ่งเวลากลางคืนด้วยแล้ว หล่อนก็ยังไม่วายหาทางหนี
เนตริยาทำเป็นเปิดน้ำ กดชักโครกให้เสียงลอดออกไปให้เขาได้ยิน หล่อนไม่ได้จะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ แต่เหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อครู่ก็ทำให้หล่อน
ได้รู้ว่าจะต้องปรับแผนการหนีใหม่ มันคงยากที่หล่อนจะหนีเอง แต่หากหล่อนเปลี่ยนเป็นใช้ปืนขู่ให้โจรอย่างเขายอมพาหล่อนกลับไปส่งน่าจะเป็นผลมากกว่า เพราะฉะนั้นหล่อนต้องพยายามหาอาวุธ
“คุณ” เสียงเรียกเตือนอยู่หน้าห้อง
เนตริยาจึงเปิดประตูออกมาแล้วเดินกลับห้อง
“เห็นหายไปนาน นึกว่าท้องเสียซะอีก”
หญิงสาวคืนไฟฉายให้เขาแล้วกำลังจะก้าวเข้าห้อง ปกป้องส่งเสียงขู่ตามหลังไปว่า
“อย่าคิดหนีอีกนะ ถ้าไม่อยากถูกล่ามโซ่”
เนตริยาหยุดชะงักแล้วหันไปมองเขาด้วยสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแล้วก้าวเข้าห้องปิดประตูใส่กลอนแน่นหนา
หญิงสาวกลับมานั่งจมอยู่กับความคิดเพื่อวางแผนหนีอีกครั้ง หล่อนจะช้าอีกไม่ได้แล้ว เพราะถ้าถึงขั้นถูกล่ามโซ่หล่อนจะไม่มีสิทธิ์หนีได้เลย
เช้ารุ่งขึ้น เนตริยาตื่นสายเพราะกว่าจะหลับลงได้ก็เกือบตีสอง ปกป้องนั่งรออยู่ก่อนแล้วที่โต๊ะอาหารที่ระเบียงหลังบ้านอันร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้
ตอนที่หล่อนเดินมาถึง เขาเงยหน้าจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ในมือขึ้นมอง ไม่ใช่แค่มองหน้าแต่มองสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ชุดเสื้อยืด
กางเกงยีนส์ที่หล่อนใส่นี้ดูทะมัดทะแมงกว่าชุดแพนท์สูทเดินทางที่หล่อนใส่เมื่อวาน
เนตริยาชะงัก ทำสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับบ่นอุบอิบเบาๆ ว่า
“คนไม่มีมารยาท”
“นั่งซิ คุณนายตื่นสาย” เขาเชื้อเชิญ
เนตริยาทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม ใบหน้าที่งออยู่แล้ว ยิ่งงอง้ำขึ้นไปอีกกับฉายาที่เขาเรียกหล่อน
ปกป้องหันไปตักข้าวต้มไก่ที่อยู่ในโถกระเบื้องใบใหญ่มาใส่ในชามที่อยู่ตรงหน้าหญิงสาว พร้อมกับอธิบายถึงเหตุผลที่เขาต้องมองหล่อนเช่นนั้น
“ผมกำลังดูว่าคุณแต่งชุดแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะวันนี้ผมคิดว่าจะพาคุณไปเข้าป่าซะหน่อย”
“เข้าป่า? ” เนตริยาทวนคำอย่างแปลกใจแล้วเริ่มวิตกกังวล หล่อนต้องรีบตัดสินใจทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะถูกพาเข้าป่าลึกเข้าไปอีก เพราะหล่อน
ยิ่งจะหนียาก วันนี้ที่หล่อนแต่งตัวเช่นนี้ก็เพื่อเตรียมหนี โชคดีที่หล่อนมีกระเป๋าเดินทางมาด้วย ทำให้มีเสื้อผ้าให้เลือกใส่ และมีรองเท้าสำหรับวิ่งติดมา
อีกคู่เพราะหล่อนมักจะจ๊อกกิ้งเพื่อออกกำลังกายทุกเย็น
“ใช่ เข้าป่า ผมกลัวว่าคุณอยู่เฉยๆ แล้วจะเบื่อ” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดี แล้วพยักพเยิดให้หล่อนเริ่มรับประทานอาหารเช้า แล้วเขาก็เริ่ม
ลงมือตักอาหารเช่นกัน
เนตริยามองอย่างแปลกใจ นี่เขารอหล่อนทานข้าวเช้าอย่างนั้นหรือ ทำไมโจรอย่างเขามีมารยาทดีแบบนี้ คิดแล้วมองสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ อาหารอย่างดีนี้เป็นมื้อที่สองที่เขาให้หล่อนมานั่งร่วมโต๊ะ ดูแลตักอาหารให้ ส่วนมื้อเย็นเมื่อวานที่เป็นอาหารปักษ์ใต้รสเผ็ดจัดที่หล่อนทานไม่ได้ เขาก็สั่งให้คนงานไปทอดไข่มาให้ คิดๆ แล้วหล่อนไม่ได้อยู่ในสภาพเชลยแม้แต่น้อย แม้แต่เมื่อคืน ยามที่หล่อนถูกเขารวบล้มลงบนเตียงแบบนั้น ถ้าเขาเป็นโจรใจทราม
หล่อนไม่น่าจะรอดมือเขาไปได้ คิดขึ้นมาครั้งไรก็ใจหาย แต่เขาก็ไม่ทำอะไรหล่อนแม้แต่น้อย
“กาแฟไหม” เขาถามขึ้นเมื่อหล่อนวางช้อนอิ่มอาหาร “บนภูเขาแถบนี้ไม่ได้มีแต่ป่าอย่างที่คุณเห็น แต่มีชาวบ้านทำไร่กาแฟด้วยเพราะอากาศเย็น เมล็ดกาแฟนี่ คั่วบดใหม่ๆ หอมมาก แล้วคุณจะติดใจ” เขาบอกยิ้มๆ
เนตริยามองเขาตาค้าง คาดไม่ถึงว่าจะเห็นแววตาอ่อนโยนและรอยยิ้มจากผู้ชายคนนี้
“นายเป็นใคร” หล่อนถามออกไปคล้ายละเมอพูดกับตัวเอง
ปกป้องหุบยิ้มรีบทำหน้าเคร่ง จ้องประสานสายตากับหล่อนแล้วตอบว่า
“ผมชื่อปกป้อง”
“ขอบคุณที่แนะนำตัว แต่ฉันอยากรู้ว่านายเป็นใครกันแน่”
เขาไม่ตอบแล้วหันไปตะโกนเรียกลูกน้องที่อยู่ข้างล่าง
“นาดีร์ เอากาแฟกับผลไม้ขึ้นมาให้คุณผู้หญิงด้วยนะ” แล้วเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับบอกหล่อนว่า “ผมขอตัว”
เนตริยามองตามร่างสูงที่เดินหายเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายโจรคนนี้ ทำไมถึงได้สุภาพขนาดนี้แถมเรียกหล่อนว่า ‘คุณผู้หญิง’ ราวกับจะให้ลูกน้องเขาเคารพหล่อนไปด้วย
นาดีร์นำผลไม้กับกาแฟมาเสิร์ฟแล้วกลับลงไปข้างล่าง หญิงสาวไม่สนใจจะรับประทานอะไรอีก หล่อนถูกทิ้งไว้คนเดียวอย่างนี้เป็นโอกาสทองที่จะ
หนี เนตริยาค่อยๆ ผุดลุกขึ้น มองซ้ายมองขวา ไม่มีใครอยู่ตรงนี้ หล่อนต้องเดินไปสำรวจดูให้แน่ใจว่าสมาชิกผู้ชายสามคนในบ้านนี้ มีใครอยู่ตรงไหนบ้าง
นายโจรอยู่ในห้อง นาดีร์อยู่ในครัวข้างล่าง แสวงล่ะ เนตริยาค่อยๆ ย่องไปมองที่หน้าบ้าน แสวงกำลังเช็ดทำความสะอาดรถ คงเตรียมจะออกเดินทางเข้าป่าอย่างที่เขาบอก
เสียงกุกกักดังแว่วมาจากห้องที่ปกป้องเดินเข้าไป ประตูที่เปิดอยู่ทำให้หญิงสาวอยากรู้ หล่อนค่อยๆ เดินเข้าไปเมียงมอง สิ่งที่เห็นภายในห้องยิ่งทำให้หล่อนแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะตู้กระจกหลายใบที่ตั้งอยู่ในห้องนี้นั้น ภายในบรรจุยาและเวชภัณฑ์มากมายและ ปกป้องกำลังจัดยาใส่กระเป๋าล่วมยาสีดำ
“นายเป็นหมอหรือ” เนตริยาหลุดคำถามออกไป