เหตุผลอะไรแม้ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงยังไงเราก็ยังถูกบลูลี่และสบประมาท

เรามีเพื่อนเก่าเป็นเพื่อนผู้ชายอยู่คนหนึ่งซึ่งเขาเป็นเพื่อนกับเราตั้งแต่สมัยอนุบาล ประถม ม.ต้นอยู่คนละห้อง ม.ปลายแยกไปเรียนที่อื่น แล้วกลับมาเรียนซ้ำกลายเป็นรุ่นน้องเรา
1 ปี  และเรียนมหาลัยคนละที่ และก็ทำให้เรียนช้ากว่าเราไป 1 ปี

นั่นแหละค่ะ เป็นเพื่อนกัน ไม่แปลก แต่แปลกคือ ทุกครั้งที่ทักกันหรือเจอกัน เขาจะต้องมีคำบลูลี่  หรือล้อ หรือ สบประมาทเราตลอด
จนตอนนี้อายุจะ 30 แล้ว มีโอกาสได้ทำงานสายงานเดียวกันแต่คนละตำแหน่งคนละพื้นที่ เขาคนนี้ก็ยังคง ทำกิริยาเช่นเดิมกับเรา  แต่คิดในแง่บวก คงคิดว่าเป็นเพื่อนกัน แต่ถามว่าสนิทมากมั้ย ก็ไม่สนิทขนาดนั้น
วันนี้เขาได้โทรมาเหมือนกับพูดเรื่องทั่วไปแต่แฝงด้วยคำบลูลี่ และสบประมาทเราเหมือนเดิม เราเลยรู้สึกแย่เพราะต้องทะเลาะกับความคิดตัวเอง ว่า เฮ้ย
-คนเรามันจะไม่มีวันพัฒนาตัวเองได้เลยหรอ
-คนเรามันจะเป็นคนที่แย่ไปตลอดเลยหรอ

-ซึ่งเมื่อย้อนไปตอนเรียนประถม เขาก็ล้อเรานะ ล้อชื่อพ่อ บ้าง แม่บ้าง ฐานะทางบ้านบ้างเพราะบ้านเราก็เป็นครอบครัวธรรมดา พ่อแม่ไม่ได้มีพร้อมอะไร
- มาตอนมัธยม ม1-ม.3 เราได้อยู่ห้อง 4 เขาได้อยู่ห้อง 3 ส่วนเพื่อนบางคนก็อยู่ห้อง 1 ซึ่งไม่ได้มีการสอบคัดห้องนะคะ เกรดเราก็เยอะกว่าเขาที่อยู่ห้อง 3 ห้อง 1 บางคน
แต่นั่นแหละค่ะ เขาก็ตามมา ล้อชื่อพ่อเราเหมือนเดิม มาเกาะหน้าต่างแล้วล้อแต่ตอนนั้นก็ยังเด็กก็ไม่คิดอะไรมาก
- ม.ปลาย เขาน่าจะไปเรียนที่อื่นแต่คงไม่จบเลยได้กลับมาเรียนที่โรงเรียนเดิม เรียนสายเดียวกับเรา แต่เป็นรุ่นน้อง เราไม่เคยล้อเลย  ไม่เคยพูดอะไร คือทักกันปกติ เวลานัดกันไปรวมรุ่นเราก็ไม่เคยล้อแต่เขากลับพูดบลูลี่เรา ไม่หยุดไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ว่าเราตัวใหญ่บ้าง  ไม่สวยบ้าง
คงไม่มีแฟนบ้าง
- มหาลัยก็แยกย้ายกันแต่จะเจอกันตอนรวมรุ่นไปรดน้ำดำหัวครูอาจารย์ ปีละครั้ง แต่ความเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ทำให้เขาเบาลงเลย เรายังเป็น คนๆนั้นที่ยังโดนคำพวกนี้
เราเล่าให้เขาฟังเหมือนแชร์เรื่องราวกันว่าไปสอบเข้าทำงานที่ๆนึง เขาก็พูดมาว่า อย่างเราหน่ะหรอจะไปสอบทำงานที่นั่น
- เข้าสู่วัยทำงาน เราได้ทำงานในตำแหน่งหนึ่งใน รร แห่งหนึ่ง ต่อมาไม่นานเขาก็ได้ทำตำแหน่งเหมือนเรา แต่อีก รร ก็มาทักขอไฟล์ เรา เราก็ให้ก็ไม่ได้มีอะไร
- และวันหนึ่งเราก็ไปสอบเป็น พร  ของรัฐ
และในวันสอบก็แอบเห็นเขาไปสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเป็นลูกจ้างในหน่วยงานนี้อยู่แล้วแต่เราพึ่งมาสอบเลย ผลออกมาปรากฎว่า เราสอบติด และได้เรียกตัวเป็น พร ในหน่วยงานนั้นซึ่งเราทำงานในปัจจุบันซึ่งคนละพื้นที่กับที่เขาเป็นลูกจ้างอยู่
ทันทีที่เขาเห็นชื่อเราและรู้ว่าเราได้เรียกตัว เขาทักมา พูดให้เราถอดใจ ว่างานที่นี่หนักอย่างนั้นอย่างนี้ ต่างกับที่เก่ามาก คนเก่าที่มาก่อนหน้านั้นอยู่ได้ 3 อาทิตย์ก็ลาออกไป จะทนได้หรอ บลาๆๆ เราก็อ่านไปก็งง นะ แต่ก็บอกไปว่า ช่างมัน มันได้เเล้วต้องทำได้  ก็พูดเกทับ ทับถมเราตลอดว่าตัวเองรู้หมดแล้ว  จนตอนนี้เราทำงาน มา 2 ปี ก็ไม่ดห็นมีปัญหากับใคร หรือกับงานเหมือนที่เขาบอกเลย
และล่าสุดที่เราอยากออกมาระบาย คือ  พูด อวดสรรพคุณตัวเองเสร็จ ก็บลูลี่เราต่อว่า ไม่ต้องย้ายมาที่นี่นะ เพราะมีคนตัวใหญ่เยอะแล้ว  เพื่อนคนนั้นคนนี้เขาคบเพราะไม่สวยหรอเขาถึงคบ  แล้วก็ถามถึงเงินเดือน เรา ว่าได้เท่าไหร่ พอเราบอก ก็ถามต่อว่า ทำไมถึงซื้อรถ เราก็บอกว่าเอามาต่อยอดการทำงาน เขากลับบอกว่า แค่จากที่ทำงานมาบ้าน ซื้อเอาไปหาผู้ชาย ไม่เอาไปเที่ยวหาพ่อแม่  แต่บอกว่าอย่างเราคงยังหาแฟนไม่ได้

-แต่ที่ทำงานเราไปบ้าน 200 กว่าโล เราซื้อมาเพื่อขับไปหา พ่อแม่และขับขนของเวลาทำงานออกพื้นที่ทุกอย่างงง ซึ่งเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเราเลย

เราเปลี่ยนไปแล้วนะ เรามีงานที่มั่นคงนะ เราได้มันมาด้วยความสามารถของตัวเอง
เราซัพพอร์ตพ่อแม่เรามากนะ เราตั้งใจจะทำบ้านให้ท่านด้วย เราก้าวหน้าไปได้ในระดับหนึ่ง ทุกคนยอมรับเรา คนที่ทำงานยอมรับเรา เราทำอะไรได้หลายอย่างเลย เราก็เป็นคนแต่งตัวนะ  มีคนคบแล้วด้วย
เอาจริงๆ เพื่อนแบบคุณไม่รู้เรื่องอะไรของเราเลย แต่กลับพูดแบบนี้กับเราตลอด เราเสียใจไม่อยากย้ายกลับบ้านละ ถ้าย้ายแล้วต้องไปเจอกับเพื่อนที่พูดจาแบบนี้กับเราทุกวัน คำทักคำพูดที่เจอเพื่อนควรดีใจที่ได้เจอกัน แต่เราก็รู้สึกแย่ทุกที

เราหายอึดอัดแล้วค่ะตอนเเรกนอนไม่หลับว่าเราแย่ขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมเราทำอะไรได้ทุกอย่างยังโดนคำพูดแบบนี้อีก

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  หากอ่านไม่รู้เรื่องขออภัยด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่