คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
คงจะยากเพราะอเมริกาสกัดเต็มที่แน่ ยังไงอเมริกาก็ต้องการผูกขาดการควบคุมในโลกโซเชียลเอาไว้ ถ้ามีใครมามีอิทธิพลเหนือกว่าอเมริกาก็ควบคุมการออกข่าวอะไรไม่ได้สิ เห็นกันชัดๆเลยในกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน แพลตฟอร์มแทบทุกรายของอเมริกาต่างพากันแบนข่าวและข้อมูลจากทางรัสเซียเต็มที่ ควบคุมข้อมูลที่จะไปถึงผู้คน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
อย่าเพิ่งพูดไปถึงเท็คโนโลยีเลยครับ โลกไม่มีทางยอมรับจีนในด้านSoft Powerได้เลย ไม่ว่าจีนจะสร้างเท็คโนโลยีอะไร จะทำจรวดสุดไฮเท็คจนสามารถขนคนไปต่างดาวได้ หรือสร้างวัคซีนที่ป้องกันได้ทุกโรค หรือจะสร้างหนังที่ทำเงินถล่มทลายก็ไม่มีใครยอมรับจีนจนกว่าจีนจะก้ามข้ามสิ่งต่อไปนี้
1 การให้ที่แท้จริง จีนต้องเรียนรู้ที่จะให้โดยไม่หวังผลตอบแทนแก่ชาวโลก ไม่ใช่ปล่อยกู้ดอกมหาโหด หรือเข้าไปลงทุนแล้วหวังผลประโยชน์แบบโลภมาก และยังมองไม่เห็นเลยว่าจีนจะก้าวข้ามเรื่องั้นได้ยังไง มันฝังรากลึกอยู่ในระดับประชาชนและนักธุรกิจ ก็ยอมรับว่าการลงทุนมันก็ต้องแสวงหากำไร การเจรจามันต้อง win-win ไม่ใช้เอาแต่ได้แบบทุกวันนี้
2 หยุดปิดกันเสรีภาพทางความคิด ต่อให้จีนพัฒนาเท็คโนโลยีใหม่ๆได้ก็ไม่สามารถเปิดSoft Powerได้ เพราะหัวใจของSoft Power คือคน คือเมนทาลิตี้ของคน ซึ่งมันก็ขัดต่อนโยบายการปกครองของจีน ศิลปิน หรือนักธุรกิจก็ยังไม่อาจมีเสรีภาพทางความคิดได้ เรื่องSoft Powerก็ยังไม่ต้องพูดถึง (กรณีศิลปินชายแต่งตัวอ่อนแอ่นหรือแจ็คหมา)
เอาแค่2สิ้งนี้ก็ยากแล้ว ยังไม่ต้องไป3ไป4
----------------------------------
ญี่ปุ่นเคยดันเคป๊อปไปจนเท็คโนโลยีและความคิขุ มังงะหรือหนัง AV มาสู่ยุคเกาหลีที่ทำได้ดีทั้งซีรี่ หนัง ศิลปินเพลงฯลฯ แต่หลายเรื่องก็ยังก้าวไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องชาตินิยมบางอย่างเลยลดทอนอยู่พอสมควร แต่ลอกสูตรเจแปนมาพอสมควร ต้องชื่นชมที่มาต่อยอดและพัฒนาต่อได้ดี แต่ก็แลกกับแรงกดดันลงไปสู่สังคมที่เคร่งครัดจนความหมายของชีวิตอาจจะต้องทบทวน
จีนประวัติศาตรเขายาวนานจนวัฒนธรรมมันฝังรากลึกและแผ่อำนาจทางวัฒนธรรมไปรอบๆอย่างฝังลึก มันคงเป็นเรื่องจิตวิญญาญชาวผิวเหลืองซึ่งผมมองว่าดี มันเป็นSoft Powerของจีนอยู่แล้ว แค่เราไม่นับมันเท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงประเทศแบบแยกไต้หวันและฮ่องกงออกมาในยุคปัจจุบัญ มันแทบไม่เหลืออะไรเลย
1 การให้ที่แท้จริง จีนต้องเรียนรู้ที่จะให้โดยไม่หวังผลตอบแทนแก่ชาวโลก ไม่ใช่ปล่อยกู้ดอกมหาโหด หรือเข้าไปลงทุนแล้วหวังผลประโยชน์แบบโลภมาก และยังมองไม่เห็นเลยว่าจีนจะก้าวข้ามเรื่องั้นได้ยังไง มันฝังรากลึกอยู่ในระดับประชาชนและนักธุรกิจ ก็ยอมรับว่าการลงทุนมันก็ต้องแสวงหากำไร การเจรจามันต้อง win-win ไม่ใช้เอาแต่ได้แบบทุกวันนี้
2 หยุดปิดกันเสรีภาพทางความคิด ต่อให้จีนพัฒนาเท็คโนโลยีใหม่ๆได้ก็ไม่สามารถเปิดSoft Powerได้ เพราะหัวใจของSoft Power คือคน คือเมนทาลิตี้ของคน ซึ่งมันก็ขัดต่อนโยบายการปกครองของจีน ศิลปิน หรือนักธุรกิจก็ยังไม่อาจมีเสรีภาพทางความคิดได้ เรื่องSoft Powerก็ยังไม่ต้องพูดถึง (กรณีศิลปินชายแต่งตัวอ่อนแอ่นหรือแจ็คหมา)
เอาแค่2สิ้งนี้ก็ยากแล้ว ยังไม่ต้องไป3ไป4
----------------------------------
ญี่ปุ่นเคยดันเคป๊อปไปจนเท็คโนโลยีและความคิขุ มังงะหรือหนัง AV มาสู่ยุคเกาหลีที่ทำได้ดีทั้งซีรี่ หนัง ศิลปินเพลงฯลฯ แต่หลายเรื่องก็ยังก้าวไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องชาตินิยมบางอย่างเลยลดทอนอยู่พอสมควร แต่ลอกสูตรเจแปนมาพอสมควร ต้องชื่นชมที่มาต่อยอดและพัฒนาต่อได้ดี แต่ก็แลกกับแรงกดดันลงไปสู่สังคมที่เคร่งครัดจนความหมายของชีวิตอาจจะต้องทบทวน
จีนประวัติศาตรเขายาวนานจนวัฒนธรรมมันฝังรากลึกและแผ่อำนาจทางวัฒนธรรมไปรอบๆอย่างฝังลึก มันคงเป็นเรื่องจิตวิญญาญชาวผิวเหลืองซึ่งผมมองว่าดี มันเป็นSoft Powerของจีนอยู่แล้ว แค่เราไม่นับมันเท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงประเทศแบบแยกไต้หวันและฮ่องกงออกมาในยุคปัจจุบัญ มันแทบไม่เหลืออะไรเลย
ความคิดเห็นที่ 23
จริงๆ ศักยภาพของจีนเรือง Softpower ถือว่าดีพอสมควรนะครับ ทรัพยากรก็เยอะ อย่างซีรีย์เรื่อง"ฉางอันสิบสองชั่วยาม" งานโปรดักชั่นนี่คือระดับเทียบเท่ากับหนังโรง blockbuster ได้เลย จนดูตอนแรกก็นึกว่าหนังโรง ที่ใหนได้มันคือซีรีย์ครับ ลองไปหาดูครับ....
แต่ปัญหาคือ....ทางรัฐบาลจีนกีดกันออกกฏห้ามนู่นห้ามนี่เยอะมาก เช่นออกกฏห้ามผู้ชายหน้าหวาน ห้ามทำซีรีย์แนวนู่นนี่ อย่างมีช่วงนึงที่ซีรีย์แนวๆย้อนเวลากำลังมาแรง อยู่ดีๆไปออกกฏว่าห้ามทำเพราะมีคนไปเลียนแบบซีรีย์จนถึงกับชีวิต เหมือนกับว่านี่คือการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งที่ 2 ไม่มีผิด
ส่วนเกมก็หนักไม่แพ้กัน ห้ามมีเลือด ห้ามมีศพ ห้ามมีผี ห้ามมีเนื้อหาทางเพศ หรือเอาง่ายๆคือเกมต้องมีเนื้อหาสำหรับทุกเพศทุกวัยเท่านั้น 12+ นี่คือให้มากที่สุดแล้ว และเรท 12+ ของเค้าคือ 20+ ต้องยืนยันตัวตนก่อนเล่น จำกัดเวลาเล่นอีก เรียกได้ว่าเซ็นเซอร์น้องๆออสเตรียเลย
ลองไปดู PUBG Mobile เวอร์ชั่นจีนดูครับ ที่ชื่อ Game for Peace(ตรงใหน?) และลองเปรียบเทียบกับ PUBG Mobile เวอร์ชั่นทั่วโลกจะรู้ได้ว่าเวอร์ชั่นจีนเซ็นเซอร์+propaganda หนักมาก
ส่วนเรื่อง Tiktok ที่อเมริกากังวลมันมีอยู้ก็คือ
- จีนจะเอาข้อมูลของคนอเมริกันเอาไปทำอะไรบางอย่าง
- ใช้เป็นเครื่องมือในการแฝง propaganda
ถ้ารัฐบาลจีนไม่ห้ามนู่นห้ามนี่เยอะแยะหรือเข้าไปมีเอี่ยว(แฝง propaganda) จนวุ่นวายไปหมดซะก่อน ผมว่าพอสู้เกาหลีหรือญี่ปุ่นได้สบายๆเลย
แต่ปัญหาคือ....ทางรัฐบาลจีนกีดกันออกกฏห้ามนู่นห้ามนี่เยอะมาก เช่นออกกฏห้ามผู้ชายหน้าหวาน ห้ามทำซีรีย์แนวนู่นนี่ อย่างมีช่วงนึงที่ซีรีย์แนวๆย้อนเวลากำลังมาแรง อยู่ดีๆไปออกกฏว่าห้ามทำเพราะมีคนไปเลียนแบบซีรีย์จนถึงกับชีวิต เหมือนกับว่านี่คือการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งที่ 2 ไม่มีผิด
ส่วนเกมก็หนักไม่แพ้กัน ห้ามมีเลือด ห้ามมีศพ ห้ามมีผี ห้ามมีเนื้อหาทางเพศ หรือเอาง่ายๆคือเกมต้องมีเนื้อหาสำหรับทุกเพศทุกวัยเท่านั้น 12+ นี่คือให้มากที่สุดแล้ว และเรท 12+ ของเค้าคือ 20+ ต้องยืนยันตัวตนก่อนเล่น จำกัดเวลาเล่นอีก เรียกได้ว่าเซ็นเซอร์น้องๆออสเตรียเลย
ลองไปดู PUBG Mobile เวอร์ชั่นจีนดูครับ ที่ชื่อ Game for Peace(ตรงใหน?) และลองเปรียบเทียบกับ PUBG Mobile เวอร์ชั่นทั่วโลกจะรู้ได้ว่าเวอร์ชั่นจีนเซ็นเซอร์+propaganda หนักมาก
ส่วนเรื่อง Tiktok ที่อเมริกากังวลมันมีอยู้ก็คือ
- จีนจะเอาข้อมูลของคนอเมริกันเอาไปทำอะไรบางอย่าง
- ใช้เป็นเครื่องมือในการแฝง propaganda
ถ้ารัฐบาลจีนไม่ห้ามนู่นห้ามนี่เยอะแยะหรือเข้าไปมีเอี่ยว(แฝง propaganda) จนวุ่นวายไปหมดซะก่อน ผมว่าพอสู้เกาหลีหรือญี่ปุ่นได้สบายๆเลย
แสดงความคิดเห็น
จีนจะทำยังไงให้มี Soft Power กระจายไปทั่วโลกเหมือนอเมริกาได้ครับ เช่น Facebook NetFlix Youtube
Facebook = Weibo
Netflix = iQIYI
Youtube = Youku
มีหลุดมา ที่ส่งผลกระทบต่อโลกและนิยมมากที่สุดตอนนี้ คือ TIKTOK ซึ่งทางอเมริกาพยายามปิดกั้นหรือลดบทบาทอยู่
คิดว่าในอนาคตจะมีตัวอื่น ขยายไปทั่วโลกได้ ตอนนี้มีไหมครับ และ คิดว่าจะใช้เวลานานไหม