บทที่ 21 ข้อตกลงใหม่
บรรยากาศในห้องรับแขกของสำนักงานเอกภพสืบสวนตอนนี้เป็นไปด้วยความเงียบ หลังจากที่ผู้ว่าจ้างได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับคดีให้กับนักสืบฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
“คุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ เกี่ยวกับเรื่องนี้"
เอกภพอัดบุหรี่เข้าไปเต็มปอดก่อนจะพูดออกมาว่า
“ผมคิดว่าเป็นการฆ่าตัวตายนั้นแหละครับ เพียงแต่คุณน่ะเป็นกังวลมากเกินไปหน่อยแค่นั้นเอง"
“แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันมีหลักฐานอะไรบางอย่างที่ยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายล่ะ"
หญิงชราควานหาอะไรในกระเป๋าอยู่สักครู่หนึ่งจึงหยิบกระดาษขาดๆใบหนึ่งออกมาแล้วส่งมันให้เขาดู มันคือชิ้นส่วนของจดหมายข้างในมีข้อความที่ไม่สมบูรณ์นักเนื่องจากถูกฉีกจนขาดไป แต่ก็พออ่านจับใจความได้ว่า
" เมื่อเสร็จธุระทางนี้แล้วฉันจะรีบกลับโดยเร็วที่สุด
รักและคิดถึงเสมอ
สุดา "
“ฉันเจอมันซุกอยู่ในเสื้อชั้นในของผู้ตาย" หญิงชรายิ้มน้อยๆที่มุมปาก
“มันหมายถึงอะไร"
“เนื้อความในจดหมายนั้นจะหมายถึงอะไรก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ ชื่อผู้เขียนที่ลงไว้ข้างล่างสุดนั้นต่างหากล่ะที่สำคัญ”
“ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยเถอะครับ"
“จะอยากรู้ไปทำไมล่ะคะ ในเมื่อคุณเองก็ไม่ได้อยากจะรับงานนี้อยู่แล้วนี่"
เอกภพหัวเราะ ฮิฮิ ในลำคอ
“ผมต้องยอมรับเลยว่าเรื่องของคุณมันน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ จนผมอดที่จะอยากรู้ไม่ได้”
“แล้วตกลงว่าคุณจะช่วยดิฉันไหมล่ะคะ”
“ครับ ตกลงว่าผมรับงานนี้ กรุณาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมได้ฟังเถอะ:
คราวนี้หญิงชรายิ้มออกมาได้
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ คือดิฉันสงสัยว่าตอนนี้เจ้านายคนหนึ่งของดิฉันอาจไม่ใช่คนเดิมค่ะ"
“หือ"
เอกภพเอามือกอดอกแสดงท่าทีสนใจ
"มีความเป็นได้ว่าเธอจะถูกสลับตัว”
“มันคงจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมที่คุณเล่าก่อนหน้านี้ใช่ไหม”
“ค่ะ เป็นไปได้ที่ผู้ตายอาจจะไปล่วงรู้ความลับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้า จึงถูกฆ่าปิดปาก"
“แล้วก่อนตายเธอได้ทำท่าทางแปลกๆบ้างไหม อย่างเช่นหวาดกลัว สับสน โกรธ อะไรทำนองนี้"
"ก่อนเกิดเหตุดิฉันไม่ได้อยู่กับเธอค่ะ เนื่องจากวันนั้นที่บ้านมีงานแล้วดิฉันก็ยุ่งทั้งวัน ” หล่อนหยุดชะงักไปสักครู่แล้วจึงพูดต่อ
“แต่เมื่อสามวันก่อนเกิดเหตุ ดิฉันสังเกตเห็นว่าเธอพูดจาแปลกๆ"
“พูดว่ายังไงเหรอครับ”
“อยู่ๆเธอก็พูดออกมาว่า "ฉันจะรวยแล้วนะป้าๆ“ ฉันคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย หล่อนเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ”
พูดจบแล้วหล่อนก็ยกน้ำเย็นขึ้นจิบนิดหน่อยก่อนจะพูดต่อไป
“จนกระทั่งเธอตาย แล้วดิฉันก็ได้พบกับจดหมายนั่น จึงพอปะติดปะต่อเรื่องได้บ้างนิดหน่อย"
“คนที่ชื่อสุดาคือใครเหรอครับ” นักสืบจุดบุหรี่สูบอีกหนึ่งมวนก่อนจะเอนหลังพิงกับผนังโซฟา
“หล่อนเคยเกือบจะเป็นคนใช้ของที่บ้านค่ะ"
“เอ้ะ เกือบเป็นเหรอครับ" เขามีสีหน้าแปลกใจ
“ค่ะ เธอมาสมัครงานที่บ้านแต่คุณท่านไม่ได้รับเอาไว้"
“ขอโทษนะครับ แล้วคุณรับใช้อยู่บ้านไหนเหรอผมยังไม่ทราบเรื่องนี้เลย คงจะกรุณามากถ้าคุณจะบอก”
“ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ดิฉันตั้งใจจะบอกคุณทุกเรื่องอยู่แล้ว ดิฉันเป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่ที่บ้านวรภักดิ์ชื่อว่าสุณีค่ะ”
อะแฮ่ม แค่ก ๆ เสียงเอกภพสำลักควันบุหรี่จนน้ำหูน้ำตาไหล ทำให้หญิงชราต้องกลั้นหัวเราะแทบแย่ ก่อนจะยกน้ำให้เขาดื่ม
"ดื่มน้ำเสียหน่อยเถอะค่ะ มันจะข่วยให้ดีขึ้นได้"
“ขอบคุณมากครับ ว่าแต่คุณข่วยบอกผมอีกทีเถอะว่าคุณทำงานอยู่ที่บ้านใคร"
“ก็บ้านวรภักดิ์ของพระยาสุทินเสนายังไงล่ะคะ"
“พระยาสุทินที่เพิ่งเสียไปใช่ไหมครับ:
“ค่ะ งานร้อยวันของท่านเพิ่งล่วงมาได้ไม่กี่วันนี้"
“อืม งั้นเรามาพูดถึงเรื่องผู้หญิงที่ชื่อสุดากันต่อเถอะ" เขาดับบุหรี่ก่อนพูดจะอีกครั้งอย่างเป็นงานเป็นการ
“ถ้างั้นผู้หญิงที่ชื่อสุดาก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านวรภักดิ์ในเวลานี้"
“อันที่จริงมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ดิฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเธอยังอยู่ในบ้านตอนนี้น่ะสิคะ"
“เพราะจดหมายนั่นใช่ไหมครับ” เขาชี้มือไปที่เศษจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วสบตากับหญิงชรา
“ค่ะ เศษจดหมายนี่คือหลักฐานยืนยันว่าสุดายังอยู่ในบ้านวรภักดิ์"
“การจะลักพาตัวใครสักคนแล้วสวมรอยเข้าไปใช้ชีวิตอยู่แทนที่ นั่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคุณ มันจะไม่มีใครที่รู้สีกผิดสังเกตบ้างเลยเหรอ"
“คุณณไม่ได้เห็นเหมือนกับที่ฉันเห็นน่ะสิถึงได้พูดแบบนี้"
หญิงชราพักหายใจอยู่สักครู่จึงได้พูดต่อ
“หล่อนน่ะมีหน้าตาที่เหมือนกับคุณอรสามาก เหมือนมากจนแยกกันแทบไม่ออกว่าใครเป็นใคร แถมอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกันที่รู้ก็เพราะว่าฉันเป็นคนรับมันเข้ามาเอง”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะถ้าเจ้านายทุกคนได้เห็นว่าหล่อนมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับคุณอรสา ก็ย่อมตระหนักดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
"ใครบอกคุณเรื่องนั้นล่ะคะ มีเจ้านายคนเดียวเท่านั้นทึ่ได้เห็นหน้านางสุดา คือคุณพิเชษฐ์น้องชายสุดท้องของบ้านวรภักดิ์ยังไงล่ะ”
“อ้าว แล้วคนอื่นๆไปไหนกันหมดล่ะ"
“วันนั้นเป็นวันธรรมดา คุณๆท่านอื่นออกไปทำงานกันหมด เหลือแค่คุณพิเชษฐ์ ดิฉันแล้วก็คนใช้อีกสองสามคนค่ะ"
“อืม แล้วยังไงต่อครับ"
“ ดิฉันก็พานางสุดาขึ้นไปมอบตัวก็บคุณพิเชษฐ์ที่บนตึกใหญ่ จากนั้นจึงลงมารอข้างล่าง ”
“งั้นคุณก็ไม่ได้อยู่ฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกันสิ"
“ค่ะ ก็คุณพิเชษฐ์บอกให้ดิฉันออกไปรอข้างนอกก่อน”
นักสืบพยักหน้าช้าๆ แล้วบอกให้หล่อนพูดต่อไป
“พวกเขาคุยกันอยู่ประมาณยี่สิบนาที นางสุดาก็เดินออกมาจากห้องแล้วก็บอกกับดิฉันว่าคุณท่านไม่ได้รับมันไว้ ส่วนด้วยเหตุผลอะไรนั้นดิฉันไม่ได้ซักถามค่ะ"
“ รื่องนี้เกิดมานานหรือยังครับ"
“หลังจากที่เสร็จงานศพเจ้าคุณสุทินได้ไม่กี่วันค่ะ"
เอกภพพยักหน้าอีกครั้งแล้วขยับตัวเพื่อจัดท่าทางใหม่
“ต่อจากนั้นคุณสุดาก็ออกจากบ้านไปโดยที่ไม่มีใครเห็น นอกจากคุณกับคุณพิเชษฐ์และพวกคนใช้ซึ่งไม่ได้สลักสำคัญอะไร ถูกต้องไหมครับ"
“ถูกต้องตามนั้นแหละค่ะ"
“แล้วคุณมีอะไรเพิ่มเติมที่จะบอกผมอีกไหม"
“คงจะไม่แล้วล่ะค่ะ ดิฉันบอกคุณไปจนหมดเปลือกแล้วนี่" หล่อนตอบยิ้มๆ
“งั้นผมขอสรุปแบบง่ายๆให้ฟังเลยก็แล้วกัน ถ้าผิดพลาดตรงไหนทักท้วงมาเลยนะครับ"
หญิงชราพยักหน้าช้าๆ
“คุณต้องการให้ผมสืบให้รู้ว่าใครที่เป็นคนฆ่านางน้อย เพราะสงสัยว่านางน้อยอาจถูกฆ่าเพราะว่าไปรู้ความลับเกี่ยวกับการสลับตัวของคุณอรสากับคุณสุดา"
“ค่ะ ถูกต้องแล้วค่ะ" หล่อนชิงตอบเกือบจะทันทีที่เขาพูดจบ
“นั่นคือหนึ่งงานแล้วนะครับ แล้วถ้าคุณอยากจะรู้ความจริงทุกเรื่องเกี่ยวกับคุณอรสา คุณจำเป็นจะต้องจ่ายเพิ่มนะครับ"
“ค่ะ ฉันยินดีจ่ายเพิ่มค่ะ คิดว่าไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรแค่หาให้ได้ว่าใครเป็นฆ่านังน้อย เมื่อได้ตัวแล้วมันก็จะพาเราไปกระชากหน้ากากคุณอรสาตัวปลอมนั้นเองแหละค่ะ"
“ได้ครับ งั้นคุณช่วยจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าสี่สิบเปอร์เซ็น เสร็จแล้วเซ็นตรงนี้ด้วยนะครับ"
เอกภพสอบถามถึงรายละเอียดของคดีกับผู้ว่าจ้างต่ออีกประมาณยี่สิบนาที หญิงชราจึงได้ขอตัวกลับก่อน ส่วนเอกภพก็กลับไปนั่งที่ห้องทำงานตามเดิม
พิษสวาท อำพราง (บทที่21)
บรรยากาศในห้องรับแขกของสำนักงานเอกภพสืบสวนตอนนี้เป็นไปด้วยความเงียบ หลังจากที่ผู้ว่าจ้างได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับคดีให้กับนักสืบฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
“คุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ เกี่ยวกับเรื่องนี้"
เอกภพอัดบุหรี่เข้าไปเต็มปอดก่อนจะพูดออกมาว่า
“ผมคิดว่าเป็นการฆ่าตัวตายนั้นแหละครับ เพียงแต่คุณน่ะเป็นกังวลมากเกินไปหน่อยแค่นั้นเอง"
“แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันมีหลักฐานอะไรบางอย่างที่ยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายล่ะ"
หญิงชราควานหาอะไรในกระเป๋าอยู่สักครู่หนึ่งจึงหยิบกระดาษขาดๆใบหนึ่งออกมาแล้วส่งมันให้เขาดู มันคือชิ้นส่วนของจดหมายข้างในมีข้อความที่ไม่สมบูรณ์นักเนื่องจากถูกฉีกจนขาดไป แต่ก็พออ่านจับใจความได้ว่า
" เมื่อเสร็จธุระทางนี้แล้วฉันจะรีบกลับโดยเร็วที่สุด
รักและคิดถึงเสมอ
สุดา "
“ฉันเจอมันซุกอยู่ในเสื้อชั้นในของผู้ตาย" หญิงชรายิ้มน้อยๆที่มุมปาก
“มันหมายถึงอะไร"
“เนื้อความในจดหมายนั้นจะหมายถึงอะไรก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ ชื่อผู้เขียนที่ลงไว้ข้างล่างสุดนั้นต่างหากล่ะที่สำคัญ”
“ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยเถอะครับ"
“จะอยากรู้ไปทำไมล่ะคะ ในเมื่อคุณเองก็ไม่ได้อยากจะรับงานนี้อยู่แล้วนี่"
เอกภพหัวเราะ ฮิฮิ ในลำคอ
“ผมต้องยอมรับเลยว่าเรื่องของคุณมันน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ จนผมอดที่จะอยากรู้ไม่ได้”
“แล้วตกลงว่าคุณจะช่วยดิฉันไหมล่ะคะ”
“ครับ ตกลงว่าผมรับงานนี้ กรุณาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมได้ฟังเถอะ:
คราวนี้หญิงชรายิ้มออกมาได้
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ คือดิฉันสงสัยว่าตอนนี้เจ้านายคนหนึ่งของดิฉันอาจไม่ใช่คนเดิมค่ะ"
“หือ"
เอกภพเอามือกอดอกแสดงท่าทีสนใจ
"มีความเป็นได้ว่าเธอจะถูกสลับตัว”
“มันคงจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมที่คุณเล่าก่อนหน้านี้ใช่ไหม”
“ค่ะ เป็นไปได้ที่ผู้ตายอาจจะไปล่วงรู้ความลับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้า จึงถูกฆ่าปิดปาก"
“แล้วก่อนตายเธอได้ทำท่าทางแปลกๆบ้างไหม อย่างเช่นหวาดกลัว สับสน โกรธ อะไรทำนองนี้"
"ก่อนเกิดเหตุดิฉันไม่ได้อยู่กับเธอค่ะ เนื่องจากวันนั้นที่บ้านมีงานแล้วดิฉันก็ยุ่งทั้งวัน ” หล่อนหยุดชะงักไปสักครู่แล้วจึงพูดต่อ
“แต่เมื่อสามวันก่อนเกิดเหตุ ดิฉันสังเกตเห็นว่าเธอพูดจาแปลกๆ"
“พูดว่ายังไงเหรอครับ”
“อยู่ๆเธอก็พูดออกมาว่า "ฉันจะรวยแล้วนะป้าๆ“ ฉันคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย หล่อนเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ”
พูดจบแล้วหล่อนก็ยกน้ำเย็นขึ้นจิบนิดหน่อยก่อนจะพูดต่อไป
“จนกระทั่งเธอตาย แล้วดิฉันก็ได้พบกับจดหมายนั่น จึงพอปะติดปะต่อเรื่องได้บ้างนิดหน่อย"
“คนที่ชื่อสุดาคือใครเหรอครับ” นักสืบจุดบุหรี่สูบอีกหนึ่งมวนก่อนจะเอนหลังพิงกับผนังโซฟา
“หล่อนเคยเกือบจะเป็นคนใช้ของที่บ้านค่ะ"
“เอ้ะ เกือบเป็นเหรอครับ" เขามีสีหน้าแปลกใจ
“ค่ะ เธอมาสมัครงานที่บ้านแต่คุณท่านไม่ได้รับเอาไว้"
“ขอโทษนะครับ แล้วคุณรับใช้อยู่บ้านไหนเหรอผมยังไม่ทราบเรื่องนี้เลย คงจะกรุณามากถ้าคุณจะบอก”
“ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ดิฉันตั้งใจจะบอกคุณทุกเรื่องอยู่แล้ว ดิฉันเป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่ที่บ้านวรภักดิ์ชื่อว่าสุณีค่ะ”
อะแฮ่ม แค่ก ๆ เสียงเอกภพสำลักควันบุหรี่จนน้ำหูน้ำตาไหล ทำให้หญิงชราต้องกลั้นหัวเราะแทบแย่ ก่อนจะยกน้ำให้เขาดื่ม
"ดื่มน้ำเสียหน่อยเถอะค่ะ มันจะข่วยให้ดีขึ้นได้"
“ขอบคุณมากครับ ว่าแต่คุณข่วยบอกผมอีกทีเถอะว่าคุณทำงานอยู่ที่บ้านใคร"
“ก็บ้านวรภักดิ์ของพระยาสุทินเสนายังไงล่ะคะ"
“พระยาสุทินที่เพิ่งเสียไปใช่ไหมครับ:
“ค่ะ งานร้อยวันของท่านเพิ่งล่วงมาได้ไม่กี่วันนี้"
“อืม งั้นเรามาพูดถึงเรื่องผู้หญิงที่ชื่อสุดากันต่อเถอะ" เขาดับบุหรี่ก่อนพูดจะอีกครั้งอย่างเป็นงานเป็นการ
“ถ้างั้นผู้หญิงที่ชื่อสุดาก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านวรภักดิ์ในเวลานี้"
“อันที่จริงมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ดิฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเธอยังอยู่ในบ้านตอนนี้น่ะสิคะ"
“เพราะจดหมายนั่นใช่ไหมครับ” เขาชี้มือไปที่เศษจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วสบตากับหญิงชรา
“ค่ะ เศษจดหมายนี่คือหลักฐานยืนยันว่าสุดายังอยู่ในบ้านวรภักดิ์"
“การจะลักพาตัวใครสักคนแล้วสวมรอยเข้าไปใช้ชีวิตอยู่แทนที่ นั่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคุณ มันจะไม่มีใครที่รู้สีกผิดสังเกตบ้างเลยเหรอ"
“คุณณไม่ได้เห็นเหมือนกับที่ฉันเห็นน่ะสิถึงได้พูดแบบนี้"
หญิงชราพักหายใจอยู่สักครู่จึงได้พูดต่อ
“หล่อนน่ะมีหน้าตาที่เหมือนกับคุณอรสามาก เหมือนมากจนแยกกันแทบไม่ออกว่าใครเป็นใคร แถมอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกันที่รู้ก็เพราะว่าฉันเป็นคนรับมันเข้ามาเอง”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะถ้าเจ้านายทุกคนได้เห็นว่าหล่อนมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับคุณอรสา ก็ย่อมตระหนักดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
"ใครบอกคุณเรื่องนั้นล่ะคะ มีเจ้านายคนเดียวเท่านั้นทึ่ได้เห็นหน้านางสุดา คือคุณพิเชษฐ์น้องชายสุดท้องของบ้านวรภักดิ์ยังไงล่ะ”
“อ้าว แล้วคนอื่นๆไปไหนกันหมดล่ะ"
“วันนั้นเป็นวันธรรมดา คุณๆท่านอื่นออกไปทำงานกันหมด เหลือแค่คุณพิเชษฐ์ ดิฉันแล้วก็คนใช้อีกสองสามคนค่ะ"
“อืม แล้วยังไงต่อครับ"
“ ดิฉันก็พานางสุดาขึ้นไปมอบตัวก็บคุณพิเชษฐ์ที่บนตึกใหญ่ จากนั้นจึงลงมารอข้างล่าง ”
“งั้นคุณก็ไม่ได้อยู่ฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกันสิ"
“ค่ะ ก็คุณพิเชษฐ์บอกให้ดิฉันออกไปรอข้างนอกก่อน”
นักสืบพยักหน้าช้าๆ แล้วบอกให้หล่อนพูดต่อไป
“พวกเขาคุยกันอยู่ประมาณยี่สิบนาที นางสุดาก็เดินออกมาจากห้องแล้วก็บอกกับดิฉันว่าคุณท่านไม่ได้รับมันไว้ ส่วนด้วยเหตุผลอะไรนั้นดิฉันไม่ได้ซักถามค่ะ"
“ รื่องนี้เกิดมานานหรือยังครับ"
“หลังจากที่เสร็จงานศพเจ้าคุณสุทินได้ไม่กี่วันค่ะ"
เอกภพพยักหน้าอีกครั้งแล้วขยับตัวเพื่อจัดท่าทางใหม่
“ต่อจากนั้นคุณสุดาก็ออกจากบ้านไปโดยที่ไม่มีใครเห็น นอกจากคุณกับคุณพิเชษฐ์และพวกคนใช้ซึ่งไม่ได้สลักสำคัญอะไร ถูกต้องไหมครับ"
“ถูกต้องตามนั้นแหละค่ะ"
“แล้วคุณมีอะไรเพิ่มเติมที่จะบอกผมอีกไหม"
“คงจะไม่แล้วล่ะค่ะ ดิฉันบอกคุณไปจนหมดเปลือกแล้วนี่" หล่อนตอบยิ้มๆ
“งั้นผมขอสรุปแบบง่ายๆให้ฟังเลยก็แล้วกัน ถ้าผิดพลาดตรงไหนทักท้วงมาเลยนะครับ"
หญิงชราพยักหน้าช้าๆ
“คุณต้องการให้ผมสืบให้รู้ว่าใครที่เป็นคนฆ่านางน้อย เพราะสงสัยว่านางน้อยอาจถูกฆ่าเพราะว่าไปรู้ความลับเกี่ยวกับการสลับตัวของคุณอรสากับคุณสุดา"
“ค่ะ ถูกต้องแล้วค่ะ" หล่อนชิงตอบเกือบจะทันทีที่เขาพูดจบ
“นั่นคือหนึ่งงานแล้วนะครับ แล้วถ้าคุณอยากจะรู้ความจริงทุกเรื่องเกี่ยวกับคุณอรสา คุณจำเป็นจะต้องจ่ายเพิ่มนะครับ"
“ค่ะ ฉันยินดีจ่ายเพิ่มค่ะ คิดว่าไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรแค่หาให้ได้ว่าใครเป็นฆ่านังน้อย เมื่อได้ตัวแล้วมันก็จะพาเราไปกระชากหน้ากากคุณอรสาตัวปลอมนั้นเองแหละค่ะ"
“ได้ครับ งั้นคุณช่วยจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าสี่สิบเปอร์เซ็น เสร็จแล้วเซ็นตรงนี้ด้วยนะครับ"
เอกภพสอบถามถึงรายละเอียดของคดีกับผู้ว่าจ้างต่ออีกประมาณยี่สิบนาที หญิงชราจึงได้ขอตัวกลับก่อน ส่วนเอกภพก็กลับไปนั่งที่ห้องทำงานตามเดิม