[CR] ภูเขาไฟแห่งเมืองอุบลราชธานี วัดเกษตรสมบูรณ์ (ภูน้อย) หรือ วัดป่าคีรีบรรพต

ภูเขาไฟแห่งเมืองอุบลราชธานี วัดเกษตรสมบูรณ์ (ภูน้อย) หรือ วัดป่าคีรีบรรพต 





ทริปนี้มีน้องอยากไปดูกุ้งเดินขบวนที่แก่งลำดวน แต่ว่าต้องดูตอนมืด เลยไปเป็นเพื่อน ระหว่างทางก็แวะเที่ยวก่อน พวกเราเดินทางจาก อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ไปวิ่งไปทางอำเภอเดชอุดม ผ่านอำเภอน้ำยืน 

คำขวัญอำเภอน้ำยืน
ดินแดนสามเหลี่ยมมรกต คีรีบรรพตศากยมุนี มากมีพืชเศรษฐกิจ ถิ่นสถิตนารายณ์บรรทมสิทธุ์ ช่องอานม้าสู่ดินโดจีน ยลถิ่นกุ้งเดินขบวน งามล้วนวัฒนธรรม

ระว่างทางผ่านตำบลบุเปือย อำเภอเดชอุดม ถนน 4 เลน น้องบอกว่าที่นี่มีภูเขาไฟด้วย ผมก็พึ่งรู้น้องพาแวะจุดชมวิวก่อน 



บริเวณจุดชมวิวมีร้านขายผลไม้ แปลงดอกดาวกระจาย อาคารชมวิว 2 ชั้น และห้องน้ำ แต่เหมือนว่าจะร้างไปแล้ว ทรุดโทรมไปพอควร แต่ก็ยังพอแวะชมได้อยู่ 

พิกัดจุดชมวิววัดเกษตรสมบูรณ์ (ภูน้อย) หรือ วัดป่าคีรีบรรพต googlemap
https://goo.gl/maps/3RF1nSAJHPzyw95D8

รูปบริเวณจุดชมวิวจาก googlemap (ไม่ได้ถ่ายไว้)


การขึ้นชมวิวที่อาคารชมวิวชั้นสอง ต้องเดินระวัง ไม่รู้สร้างยังไงเวลาเดินขึ้นชั้น 2 ถ้าไม่ระวังหัวจะโขกกับพื้นชั้น 2 งงมากสร้างได้ไง


เมื่อขึ้นมาชั้น 2 วิวด้านหน้าก็จะเป็นสวนชาวบ้าน และมีภูเขาลูกย่อยๆดูเด่น ในทุ่งราบกว้าง ภูลูกนี้เป็นที่ตั้งของวัดเกษตรสมบูรณ์ (ภูน้อย) หรือ วัดป่าคีรีบรรพต ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว





บริเวณด้านหน้าของอาคารชมวิว มีทุ่งดอกดาวกระจายไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป 


ดาวกระจายฝรั่ง/ดาวกระจายเหลือง/Cosmos/Mexican Aster
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cosmos spp.
ชื่อสามัญ: วงศ์ : Asteraceae
ประเภท : ไม้ดอกอายุสั้น
ความสูง :  0.30 – 1.50 เมตร
ลำต้น: มีทั้งต้นเตี้ยและต้นสูง นิยมปลูก 2 ชนิด คือ  ดาวกระจายฝรั่ง กลุ่ม Sensation Type (C. bipinnatus Cav.)ใบรูปใบหอก ขอบใบหยักเว้าลึกแบบขนนกเป็นเส้นเรียวยาว สีเขียวสด เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 4 – 8 เซนติเมตร กลีบดอกสีขาว ชมพู แดง และสองสีในดอกเดียวกัน ติดเมล็ดในฤดูหนาว ดาวกระจาย กลุ่ม Klondyke Type (C. sulphureus Cav.) ใบหยักเว้าลึกแบบขนนก 5 – 7 แฉก แต่ละแฉกรูปใบหอก สีเขียวเข้ม เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 4 – 6 เซนติเมตร กลีบดอกสีเหลือง ส้ม ส้มอมแดง และสองสีในดอกเดียวกัน ปลูกได้ทั่วไป
ดอก : มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน กลีบดอกชั้นนอกรูปขอบขนาน ปลายหยัก 2 – 3 หยัก กลีบดอกชั้นในสีเหลือง เป็นหลอดกระจุกกลางดอก
ผล : ผลแห้ง เมล็ดยาวเรียว
ดิน : ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี
แสงแดด : เต็มวัน
สภาพแวดล้อม : หลีกเลี่ยงพื้นที่ลมแรง ทนแล้งได้ดี
น้ำ/ความชื้น : ปานกลาง
ขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด ต้องย้ายต้นกล้าอย่างเบามือและมีตุ้มดินติดรากด้วย หลังเพาะ 2 – 2/1-2 เดือนจึงออกดอก
การใช้งานและอื่นๆ : ชื่อสกุล Cosmos มาจากภาษากรีกว่า Kosmos แปลว่า เครื่องประดับ นิยมปลูกเป็นแปลงประดับ หรือเป็นทุ่งกว้าง

** ข้อมูลจาก
https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138292.html
----------------------------------------------------------------------------

หรือจะไปจุดถ่ายรูปทุ่งดอกดาวกระจาย ที่มีการสร้างสะพานไว้ให้ถ่ายรูปสวยๆ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ตำบลบุเปือย ต้องไปอีกจุดซึ่งอยู่ไม่ไกล

พิกัด ทุ่งดอกดาวกระจาย ค้อยภูซัน บ.เกษตรสมบูรณ์ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ตำบลบุเปือย"  มาเซลฟี่เก็บภาพบรรยากาศสวยๆกลางทุ่งดอกดาวกระจาย
https://goo.gl/maps/qTUEq8BG15v3prd38

ภาพจาก https://web.facebook.com/1555612047871120/posts/3353632368069070/?_rdc=1&_rdr








-------------------------------------------------------
บ้านบุเปือย หมู่ 1 ตำบลบุเปือย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เดิมชื่อบ้าน บุระเบ๊ะ 

"บุระเบ๊ะ" เป็นภาษาส่วย เป็นคนเผ่าๆหนึ่งในสมัยนั้น มีภาษาเป็นของตนเองแต่ไม่ปรากฏมีตัวหนังสือไว้เป็นลายลักษณ์อักษร คนส่วยเดิมเป็นคนโกยหรือคนกวย แต่ขึ้นต่อรัฐบาลไทย

ในขณะนั้นมีการเกณฑ์ผู้คนไปเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ แต่ "คนโกย"?หรือ "กวย" เมื่อถูเกณฑ์ทหารฝึกไม่ได้ เพราะฟังภาษาไทยไม่ออก ทางการจึงสั่งให้คนโกยหรือกวย หาของไปบรรณาการแก่ทางราชการ แทนการไปเป็นทหารเรียกว่า "ไปส่งส่วย" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

คำว่า "บุ" ภาษาไทยแปลว่า "ป่าร้าง" สมัยนั้นมีการทำไร่เลื่อนลอย

"ระเบ๊ะ" เป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งภาษาไทยเรียกว่า "ต้นกะบาก"

ต่อมาราวปี พ.ศ. 2487 ได้เปลี่ยนชื่อหมู่เป็น "บ้านบุเปือย" โดยการแนะนำของ "ขุนศรีขรภูมิ" เจ้าเมืองเดชอุดมในขณะนั้น

เจ้าเมืองเดชอุดมได้ออกมาตรวจราชการ พอมาถึงบ้านบุระเบ๊ะ ท่านได้พักแรมที่หมู่บ้านนี้ และได้ร่วมออกล่าสัตว์ป่ากับราษฎร

ท่านเห็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วย "ไม้เปือย" (ภาษาไทยเรียกว่าต้นตะแบก) ท่านจึงให้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า "บ้านบุเปือย"

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บ้านบุเปือยอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาไฟเก่ามาหลายหมื่นปี ลักษณะเหมือนภูเขาแต่เป็นภูเขาดินเตี้ยๆดินเป็นสีแดงเข้ม

ชาวบ้านมักนิยมเรียกภูเขานี้ว่า “ภูดินแดง”

ข้อมูลจาก
http://seeyouagain-ubon.com/view.aspx?id=988







บริเวณบ้านบุเปือยพื้นดินเป็นดินภูเขาไฟ ทำให้ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกพืช ผลไม้ต่างๆ มากมาย แถมยังมีที่พักแบบโฮสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย เผื่อใครสนใจ