วันนี้ขออนุญาตแบ่งปันข้อมูลให้ฟังกันนะครับ นานๆ จะมาสักครั้ง ไม่ค่อยได้รีวิวในช่วงปีหลังๆนี้ สิ่งที่ผมจะขออนุญาตเล่าให้ฟัง อาจจะเป็นประโยชน์กับบางท่านที่กำลังจะ Retention กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ อันนี้ขออนุญาตเอ่ยชื่อขององค์กรเลย เพราะไม่ได้เป็นเรื่องกล่าวหาว่าร้ายแต่อย่างใด
อันนี้จะเป็นประโยชน์กับพนักงานบริษัท ที่กู้เงินกับ ธอส. แล้วจะ Retention
***การ Retention ที่ผมกำลังทำอยู่ อาจจะไม่ได้ตรงกับของท่านใด หรือธนาคารอื่นที่มิใช่ของ ธอส.นะครับ ของที่อื่นเป็นเช่นไรผมไม่ทราบ แต่ของที่ผมได้ผ่านมาเป็นแบบนี้ เลยขออนุญาตแบ่งปันกันไป
ผมเองเป็นลูกค้าของ ธอส. มาตั้งแต่ครั้งแรกที่ซื้อบ้าน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยใช้สิทธิของสวัสดิการของโรงงานที่ทำไว้กับธนาคารไว้ ทำให้ได้โปรโมชั่น หรือสิทธิดอกเบี้ยน้อยลงนิดหน่อย ปัจจุบันผ่านมาเกือบ 10 ปี ประมาณนั้น ผมทำการ Retention มาครั้งนี้เหมือนจะเป็นครั้งที่ 3 ถ้าจำไม่ผิด ดอกเบี้ยที่ผมได้รับมาตลอดในฐานะที่เป็นสิทธิสวัสดิการคือ MRR-2 นั่นหมายถึงว่า ผมจะได้ดอกเบี้ย 4.15 และผมจะครบกำหนดสัญญาในวันที่ 3 พย. 2565 ด้วยความที่ผมอาจจะไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด คิดว่าผมสามารถที่ยื่นเรื่อง ยื่นเอกสารไปที่ธนาคารก่อนได้ ก่อนถึงวันที่ 3 พย สักเดือนนึง หรือน้อยกว่านั้น ยื่นไปก่อน ด้วยความเข้าใจว่า ผมจะได้เสียดอก 4.15 ต่อเนื่องกันไป หรือถ้ามี air time ในช่วงระหว่างพิจารณา 1 เดือน หรือน้อยกว่านั้น ถือว่าเป็นเรื่องรับได้
แต่ก่อนที่ผมจะไปยื่นเรื่องล่วงหน้า ผมเคยถามเจ้าหน้าที่ว่า ผมสามารถที่จะมายื่นก่อนได้หรือไม่ เท่าที่ผมฟังมาไม่ผิด ท่านนั้น(ใหญ่สุดในสาขา) เคยบอกว่า มายื่นได้ แต่ก็ต้องมีขบวนการพิจารณา อาจจะเดือนนึง เค้าก็บอกตามตรงไปว่า อาจจะต้องเสียดอก ปรกติ คือ MRR6.15 1 เดือน ประมาณนี้ เป็นกันทุกธนาคาร เป็นเรื่องปรกติ อันนี้ผมยอมรับได้ ผมเลยคิดจะไปก่อนเพื่อยื่นเรื่องล่วงหน้าสัก 20-30 วันเผื่อจะพิจารณาเร็ว หรืออย่างช้าก็ 2 เดือน นั่นหมายถึง ผมไปก่อน 1 เดือน เสียดอก MRR เต็มๆ ก็ 1 เดือน อันนี้คือช้าสุดๆ แล้ว เพราะผมเข้าใจว่าการ Retention กับที่เดิม การพิจารณาน่าจะเร็วกว่าการ Refinance เพราะข้อมูลเดิม ลูกค้าเดิม ประวัติย่อมไม่เสีย เพราะธนาคารหักผ่านบัญชีเงินเดือนทุกเดือนไม่มีล่าช้าสักนิด
อาทิตย์ที่ผ่านมาเลยไปยื่นที่สาขานึงตรง Little Japan เพราะด้วยเหตุจำเป็นต้องไปที่ดินต่อ และเวลาไม่ได้ เลยยอมไปต่างสาขา ปรากฏว่ายื่นไม่ได้ เพราะพนักงานบอกว่า ต้องรอให้เลยหรือตรงกับวันที่หมดสัญญาก่อน ถึงทำได้ และจะใช้เวลา 3 เดือน เพราะต้องบวกเข้าไปอีก 1 เดือนสำหรับ ส่งเอกสารเข้า กทม. แล้ว กทม. จะมีหน้าที่กระจายเอกสารไปสาขาเอง แล้วถ้าฝากไว้ที่เค้า เอกสารอาจจะหายได้ ??? บอกมาแบบนี้ก็เหมือนบอกว่า ไปที่ สาขาหลักในเมืองเถอะ อยู่กับเค้า เค้าไม่ดูแลให้นะ เพราะเอกสารเยอะ และจะบวกเพิ่มไปอีก 1 เดือน
สุดท้ายไปที่ในเมือง ก็ปรากฏการณ์เดียวกัน ไม่ได้เช่นกัน รอหมดสัญญาก่อน ค่อยมา
สิ่งที่ผมกำลังสงสัย คือ
1. ผมมา retention ขั้นตอนพิจารณาคงไม่น่าถึง 60 วัน ผมคิดเผื่อไว้ก่อน อาจจะ 10 วันก็ได้ แต่ปัญหาคือ ทำไมต้องรอให้หมดสัญญา แล้วทำไมถึงยื่นเรื่องก่อนไม่ได้ ผมมองเผินๆ เหมือนจะพยายามทำให้ระยะเวลานานออกไป เพื่อกินส่วนต่างจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เป็น ลอยตัวเต็มๆ แทนที่ลูกค้าเดิม ประวัติเดิม แทนที่จะต้องขอบคุณที่ไม่ไปไหน ยังเสียเงินดอกเบี้ยให้ธนาคารอยู่ อำนวยความสะดวกให้ ยื่นเรื่องก่อน เพื่อย่นระยะเวลาออกไป ถึงวันกำหนดก็ทำเรื่องไป
*** ผมเพิ่งทราบจากเจ้าหน้าที่สาขานึง แถวๆ ข้าวแห้ง...... บอกว่า ในภาคตะวันออกแอกสารทั้งหมดจะส่งไปที่ส่วนกลางภาคตะวันออก ตรงไหนก็ไม่รู้ จะช้าจะเร็ว อยุ่ตรงนี้ ***
ผมสงสัยเลยส่งเรื่องสอบถามไปทางสำนักงานใหญ่ ว่าทำไมถึงจะยื่นก่อนไม่ได้ สุดท้าย ก็มีเจ้าหน้าที่ท่านนึงของสาขาชลบุรี โทรมาบอกว่า ทำได้ ยื่นเรื่องก่อนได้ เป็นนโยบายเพิ่งออก ให้มายื่นก่อนได้ เป็นนโยบายใหม่
สุดท้ายก่อนที่ผมจะลงข้อมูลนี้ ผมโทรไปถามที่ สาขานึงที่ไม่ได้เกี่ยวกันกับผม แต่อยากลองดู สาขาข้าวแห้ง.... ก็บอกไม่ได้ค่ะ ต้องถึงวันก่อนเท่านั้น
นี่แหละครับ ต่างสาขา ไม่เหมือนกัน ผมละงงกับระบบของที่ ธนาคารแห่งนี้มากๆ คือ ไม่ว่าจะเรื่องเอกสาร ก็ต้องส่งไปกทม. แล้วค่อยส่งมาสาขาที่ทำเรื่อง แล้วระยะเวลามี 1 เดือน
ฝากถึงหลายๆ ท่านที่กำลังจะ retention กับ ธนาคารธอส.นะครับ ผมเข้าใจว่าแต่ละท่านคงไม่ได้มีวันลามากมาย แต่เจ้าหน้าที่ของที่นี่ก็ไม่ค่อยมีความเข้าใจและไม่ยืดหยุ่น สมกับเป็น........... ธนาคารเลิก 15.30 เข้าใจได้ อันนี้เป็นบางสาขา ถ้าดิวกับพวกธนาคารพาณิชย์ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเจ้าหน้าที่ทำโอ บางทีพนักงานอย่างเราๆ เลิกงาน ก็แค่เอกเอกสารไปฝาก ถ้าเป้นบางสาขาของ ธอส. เช่นชลบุรี คำตอบแบบนี้ไม่มีนะครับ
เราเลิก 15.30 ค่ะ 
สั้นๆ ได้ใจความ แต่ถ้าเป็นของ Amata จะบอกว่า เลิกงานเอามาฝากไว้ได้ เนี่ยแหละครับ การบริการมันผิดกันตรงนี้
สุดท้าย เป้าหมายของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์คืออะไรครับ รู้ทั้งรู้ว่า เอกสารเยอะ งานเยอะ ช้า แทนที่จะให้ลูกค้าเอกสารไปยื่นก่อน เพื่อให้มีเวลา กลับต้องมารอให้สัญญาหมด แล้วค่อยทำ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า ใช้เวลา แต่ก็ยังทำแบบนี้ หรือต้องการให้คนเสียดอก MRR เต็มๆ ครับ อันนี้ผมอดสงสัยไม่ได้จริงๆ
และท้ายสุด มนุษย์เงินเดือนปากกัดตีนถึบแบบพวกผม ก็พยายามที่จะดิ้นรนที่จะหาดอกเบั้ยถูกๆ หาทุกวิถีทาง ถ้าทำได้ก็อยากให้เงินลอยมาจากฟ้า แล้วปิดหนี้บ้านให้หมด ก็พยายามหาทาง พยายามร่นระยะเวลา ส่งเอกสารก่อน อย่าคิดว่า เดือนเดียวไม่มีผลนะครับ ลอยตัวเดือนเดียว อย่างพวกผมก็เหนื่อยแล้ว คนกุ้ก็พยายามหาทางให้ดอกน้อยสุด แต่สุดท้ายมาเจอกระบวนการของธนาคารที่อาจได้ชื่อว่า เป็นธนาคารของรัฐที่มีมาเพื่อให้ประชาชนได้มีที่พักอาศัยได้ง่ายขึ้น แต่กลับกลายเป็นอาจกุ้ง่าย แต่ขั้นตอน และกระบวนการอันแสนล้าหลังและเทอะทะ มันทำให้ภาระมันไปตกกับคนกู้
Retention ที่เดิมกับ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทำไมยื่น Retention ก่อนไม่ได้ ต้องรอหมดสัญญา จุดประสงค์เพื่อ ??
อันนี้จะเป็นประโยชน์กับพนักงานบริษัท ที่กู้เงินกับ ธอส. แล้วจะ Retention
***การ Retention ที่ผมกำลังทำอยู่ อาจจะไม่ได้ตรงกับของท่านใด หรือธนาคารอื่นที่มิใช่ของ ธอส.นะครับ ของที่อื่นเป็นเช่นไรผมไม่ทราบ แต่ของที่ผมได้ผ่านมาเป็นแบบนี้ เลยขออนุญาตแบ่งปันกันไป
ผมเองเป็นลูกค้าของ ธอส. มาตั้งแต่ครั้งแรกที่ซื้อบ้าน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยใช้สิทธิของสวัสดิการของโรงงานที่ทำไว้กับธนาคารไว้ ทำให้ได้โปรโมชั่น หรือสิทธิดอกเบี้ยน้อยลงนิดหน่อย ปัจจุบันผ่านมาเกือบ 10 ปี ประมาณนั้น ผมทำการ Retention มาครั้งนี้เหมือนจะเป็นครั้งที่ 3 ถ้าจำไม่ผิด ดอกเบี้ยที่ผมได้รับมาตลอดในฐานะที่เป็นสิทธิสวัสดิการคือ MRR-2 นั่นหมายถึงว่า ผมจะได้ดอกเบี้ย 4.15 และผมจะครบกำหนดสัญญาในวันที่ 3 พย. 2565 ด้วยความที่ผมอาจจะไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด คิดว่าผมสามารถที่ยื่นเรื่อง ยื่นเอกสารไปที่ธนาคารก่อนได้ ก่อนถึงวันที่ 3 พย สักเดือนนึง หรือน้อยกว่านั้น ยื่นไปก่อน ด้วยความเข้าใจว่า ผมจะได้เสียดอก 4.15 ต่อเนื่องกันไป หรือถ้ามี air time ในช่วงระหว่างพิจารณา 1 เดือน หรือน้อยกว่านั้น ถือว่าเป็นเรื่องรับได้
แต่ก่อนที่ผมจะไปยื่นเรื่องล่วงหน้า ผมเคยถามเจ้าหน้าที่ว่า ผมสามารถที่จะมายื่นก่อนได้หรือไม่ เท่าที่ผมฟังมาไม่ผิด ท่านนั้น(ใหญ่สุดในสาขา) เคยบอกว่า มายื่นได้ แต่ก็ต้องมีขบวนการพิจารณา อาจจะเดือนนึง เค้าก็บอกตามตรงไปว่า อาจจะต้องเสียดอก ปรกติ คือ MRR6.15 1 เดือน ประมาณนี้ เป็นกันทุกธนาคาร เป็นเรื่องปรกติ อันนี้ผมยอมรับได้ ผมเลยคิดจะไปก่อนเพื่อยื่นเรื่องล่วงหน้าสัก 20-30 วันเผื่อจะพิจารณาเร็ว หรืออย่างช้าก็ 2 เดือน นั่นหมายถึง ผมไปก่อน 1 เดือน เสียดอก MRR เต็มๆ ก็ 1 เดือน อันนี้คือช้าสุดๆ แล้ว เพราะผมเข้าใจว่าการ Retention กับที่เดิม การพิจารณาน่าจะเร็วกว่าการ Refinance เพราะข้อมูลเดิม ลูกค้าเดิม ประวัติย่อมไม่เสีย เพราะธนาคารหักผ่านบัญชีเงินเดือนทุกเดือนไม่มีล่าช้าสักนิด
อาทิตย์ที่ผ่านมาเลยไปยื่นที่สาขานึงตรง Little Japan เพราะด้วยเหตุจำเป็นต้องไปที่ดินต่อ และเวลาไม่ได้ เลยยอมไปต่างสาขา ปรากฏว่ายื่นไม่ได้ เพราะพนักงานบอกว่า ต้องรอให้เลยหรือตรงกับวันที่หมดสัญญาก่อน ถึงทำได้ และจะใช้เวลา 3 เดือน เพราะต้องบวกเข้าไปอีก 1 เดือนสำหรับ ส่งเอกสารเข้า กทม. แล้ว กทม. จะมีหน้าที่กระจายเอกสารไปสาขาเอง แล้วถ้าฝากไว้ที่เค้า เอกสารอาจจะหายได้ ??? บอกมาแบบนี้ก็เหมือนบอกว่า ไปที่ สาขาหลักในเมืองเถอะ อยู่กับเค้า เค้าไม่ดูแลให้นะ เพราะเอกสารเยอะ และจะบวกเพิ่มไปอีก 1 เดือน
สุดท้ายไปที่ในเมือง ก็ปรากฏการณ์เดียวกัน ไม่ได้เช่นกัน รอหมดสัญญาก่อน ค่อยมา
สิ่งที่ผมกำลังสงสัย คือ
1. ผมมา retention ขั้นตอนพิจารณาคงไม่น่าถึง 60 วัน ผมคิดเผื่อไว้ก่อน อาจจะ 10 วันก็ได้ แต่ปัญหาคือ ทำไมต้องรอให้หมดสัญญา แล้วทำไมถึงยื่นเรื่องก่อนไม่ได้ ผมมองเผินๆ เหมือนจะพยายามทำให้ระยะเวลานานออกไป เพื่อกินส่วนต่างจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เป็น ลอยตัวเต็มๆ แทนที่ลูกค้าเดิม ประวัติเดิม แทนที่จะต้องขอบคุณที่ไม่ไปไหน ยังเสียเงินดอกเบี้ยให้ธนาคารอยู่ อำนวยความสะดวกให้ ยื่นเรื่องก่อน เพื่อย่นระยะเวลาออกไป ถึงวันกำหนดก็ทำเรื่องไป
*** ผมเพิ่งทราบจากเจ้าหน้าที่สาขานึง แถวๆ ข้าวแห้ง...... บอกว่า ในภาคตะวันออกแอกสารทั้งหมดจะส่งไปที่ส่วนกลางภาคตะวันออก ตรงไหนก็ไม่รู้ จะช้าจะเร็ว อยุ่ตรงนี้ ***
ผมสงสัยเลยส่งเรื่องสอบถามไปทางสำนักงานใหญ่ ว่าทำไมถึงจะยื่นก่อนไม่ได้ สุดท้าย ก็มีเจ้าหน้าที่ท่านนึงของสาขาชลบุรี โทรมาบอกว่า ทำได้ ยื่นเรื่องก่อนได้ เป็นนโยบายเพิ่งออก ให้มายื่นก่อนได้ เป็นนโยบายใหม่
สุดท้ายก่อนที่ผมจะลงข้อมูลนี้ ผมโทรไปถามที่ สาขานึงที่ไม่ได้เกี่ยวกันกับผม แต่อยากลองดู สาขาข้าวแห้ง.... ก็บอกไม่ได้ค่ะ ต้องถึงวันก่อนเท่านั้น
นี่แหละครับ ต่างสาขา ไม่เหมือนกัน ผมละงงกับระบบของที่ ธนาคารแห่งนี้มากๆ คือ ไม่ว่าจะเรื่องเอกสาร ก็ต้องส่งไปกทม. แล้วค่อยส่งมาสาขาที่ทำเรื่อง แล้วระยะเวลามี 1 เดือน
ฝากถึงหลายๆ ท่านที่กำลังจะ retention กับ ธนาคารธอส.นะครับ ผมเข้าใจว่าแต่ละท่านคงไม่ได้มีวันลามากมาย แต่เจ้าหน้าที่ของที่นี่ก็ไม่ค่อยมีความเข้าใจและไม่ยืดหยุ่น สมกับเป็น........... ธนาคารเลิก 15.30 เข้าใจได้ อันนี้เป็นบางสาขา ถ้าดิวกับพวกธนาคารพาณิชย์ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเจ้าหน้าที่ทำโอ บางทีพนักงานอย่างเราๆ เลิกงาน ก็แค่เอกเอกสารไปฝาก ถ้าเป้นบางสาขาของ ธอส. เช่นชลบุรี คำตอบแบบนี้ไม่มีนะครับ เราเลิก 15.30 ค่ะ
สุดท้าย เป้าหมายของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์คืออะไรครับ รู้ทั้งรู้ว่า เอกสารเยอะ งานเยอะ ช้า แทนที่จะให้ลูกค้าเอกสารไปยื่นก่อน เพื่อให้มีเวลา กลับต้องมารอให้สัญญาหมด แล้วค่อยทำ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า ใช้เวลา แต่ก็ยังทำแบบนี้ หรือต้องการให้คนเสียดอก MRR เต็มๆ ครับ อันนี้ผมอดสงสัยไม่ได้จริงๆ
และท้ายสุด มนุษย์เงินเดือนปากกัดตีนถึบแบบพวกผม ก็พยายามที่จะดิ้นรนที่จะหาดอกเบั้ยถูกๆ หาทุกวิถีทาง ถ้าทำได้ก็อยากให้เงินลอยมาจากฟ้า แล้วปิดหนี้บ้านให้หมด ก็พยายามหาทาง พยายามร่นระยะเวลา ส่งเอกสารก่อน อย่าคิดว่า เดือนเดียวไม่มีผลนะครับ ลอยตัวเดือนเดียว อย่างพวกผมก็เหนื่อยแล้ว คนกุ้ก็พยายามหาทางให้ดอกน้อยสุด แต่สุดท้ายมาเจอกระบวนการของธนาคารที่อาจได้ชื่อว่า เป็นธนาคารของรัฐที่มีมาเพื่อให้ประชาชนได้มีที่พักอาศัยได้ง่ายขึ้น แต่กลับกลายเป็นอาจกุ้ง่าย แต่ขั้นตอน และกระบวนการอันแสนล้าหลังและเทอะทะ มันทำให้ภาระมันไปตกกับคนกู้