เมื่อวานนี้ ผู้ว่าชัชชาติ แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสียทุกๆ คน ในเหตุการณ์โศกนาฏกรรมกราดยิง 38 ศพ และบาดเจ็บอีกหลายท่าน เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่น่าเกิดขึ้นในเมืองไทย พร้อมกับจะร่วมขยายผลแนวทางป้องกันไม่ให้ข้าราชการในกทม. (ซึ่งเป็นส่วนที่ท่านดูแลอยู่) นำเรื่องแบบนี้ มาเลียนแบบทำซ้ำ
https://www.youtube.com/watch?v=_ltuMWZvqvI
ซึ่งสิ่งที่ผู้ว่าท่านทำนี้ เรียกว่า นำปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นไม่ว่าจะที่อื่น หรือที่กทม.ของท่านเอง มาถอดบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งปัญหาของ กทม.เอง ก็เช่น น้ำท่วม ก็เตรียมการป้องกันสำหรับปีหน้า โดยจะนำแผนที่ทุกๆ เขต ขึ้นออนไลน์ แสดงผลเลยว่า ตรอกซอกซอยที่ไหนที่เคยมีน้ำท่วม (โดยเฉพาะที่พึ่งเกิดในเดือนสองเดือนนี้) แล้ววางแผนป้องกันเลย เพราะจะได้งบปีหน้าแล้ว จะทำโน่นนี่นั่นก็ว่ากันไป เช่น เพิ่มปั๊มเคลื่อนที่ เสริมเขื่อน ลอกท่อลอกคลอง ฯลฯ แล้วให้แต่ละเขตรายงานความคืบหน้าเทียบกับแผนให้ท่านทุกๆ เดือน นับแต่นี้ไป
ส่วนเรื่องพื้นที่เอกชน ที่เป็นปัญหามาหลายปีว่า กทม.ไม่สามารถเข้าไปพัฒนาได้ ปีนี้ ท่านก็มีแนวทางว่า จะไปหาตัวบริษัทที่สร้างโครงการนั้นๆ ตั้งแต่แรกเริ่ม แล้วเจรจาให้มาปรับปรุงถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ วางท่อระบายน้ำให้เชื่อมกับ กทม. แต่ถ้าไม่ยอม ก็จะเจรจาให้เอกชนแถวนั้น บริจาคที่ถนนให้เป็นสาธารณะ กทม. ก็จะเข้าไปปรับปรุงถนนหนทางให้ได้ ถ้ายังไม่ยอมอีก กทม.ก็จะช่วยเฉพาะในส่วนที่ช่วยได้ เช่น ปรับปรุงถนนให้ไม่ได้ แต่ถ้าน้ำท่วม ก็ส่งปั๊มไปช่วยดูดน้ำได้ มอบกระสอบทรายทำเขื่อนให้ได้ เป็นต้น
ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นที่อื่น ก็เช่นเดียวกัน ท่านนำมาเป็นบทเรียนป้องกันให้ กทม.ตลอด อย่างปัญหาคนในเครื่องแบบมีความเครียด ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ทหารเครียด ฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างโหดที่โคราช ต่อมา ก็เจ๊นุชตำรวจที่ทำร้ายทหารรับใช้ โดยสว.ที่หนุน ยังลอยนวล ทำให้สังคมยิ่งอัดอั้น ต่อมา สิบโทหนุ่ม โชว์ภาพลวนลามสาวกลางออฟฟิต ต่อมา ก็หมายเรียก สว. พัวพันเรื่องการฟอกเงิน ต่อมา ก็จ่าคลั่งพกปืน เข้าที่ทำงาน แล้วยิงพวกไป 2 ศพ
ตอนนี้ มาล่าสุด อดีตตำรวจ ยิงได้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ (ยิ่งกว่าโคราชปีก่อนๆ) ซึ่งข่าวมี 2 กระแสว่า เสพยา กับทะเลาะกับเมียเครียดเรื่องไปศาล ทั้งหลายทั้งปวงนี้ มันมีหลายเหตุหลายปัจจัย ผู้ว่า ท่านพิจารณาป้องกันแบบบูรณาการ เริ่มที่ การโยกย้ายแต่งตั้ง ผอ.เขต ของกทม. 30 ตำแหน่ง ตั้งรองขึ้นมาเป็น ผอ.เขตใหม่ 12 ตำแหน่ง ผู้ว่าประกาศสยบข่าว เรื่องการใช้เงินซื้อตำแหน่ง จะไม่มีในกทม.ยุคนี้ เด็ดขาด ถ้าใครเห็นว่ามีให้มาแจ้งท่านโดยตรงได้เลย
ซึ่งเรื่องนี้ ความเห็นผม เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งเลย ที่จะป้องกันความเครียดลำดับที่หนึ่ง ในเรื่องผู้น้อยไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะทั้งที่โคราช ทั้งเรื่องเจ๊นุช ทั้งเรื่องจ่าหื่น ทั้งเรื่องกลุ่มผู้นำฟอกเงิน มันนำไปสู่ความอัดอั้นของผู้น้อยต่างๆ ได้ทั้งหมด
ต่อมาก็เรื่องยาเสพติด ผู้ว่าบอกว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องจัดการกับยาเสพติดอย่างจริงจัง แล้วปล่อยปละละเลยกันตั้งแต่ตอนไหนหนอ ซึ่งผมเสริมว่า คนที่โดนคดีเรื่องยาเสพติด ทำไมจึงให้เขาพกปืนได้ง่ายๆ เช่นนี้ นี่มันอาวุธร้ายแรง (ที่กทม. ย่อมไม่อนุญาติให้ข้าราชการพกปืนอยู่แล้ว อันนี้ผมเสริมผู้ว่าเข้ามา)
ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียในครั้งนี้ด้วยนะครับ ขอสนับสนุนองค์กรที่ถอดบทเรียนป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ดังเช่น กทม.ด้วยครับ
ชัชชาติ เสียใจ เรื่องแบบนี้ ไม่น่าเกิดขึ้น บอกว่าจะถอดบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก
https://www.youtube.com/watch?v=_ltuMWZvqvI
ซึ่งสิ่งที่ผู้ว่าท่านทำนี้ เรียกว่า นำปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นไม่ว่าจะที่อื่น หรือที่กทม.ของท่านเอง มาถอดบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งปัญหาของ กทม.เอง ก็เช่น น้ำท่วม ก็เตรียมการป้องกันสำหรับปีหน้า โดยจะนำแผนที่ทุกๆ เขต ขึ้นออนไลน์ แสดงผลเลยว่า ตรอกซอกซอยที่ไหนที่เคยมีน้ำท่วม (โดยเฉพาะที่พึ่งเกิดในเดือนสองเดือนนี้) แล้ววางแผนป้องกันเลย เพราะจะได้งบปีหน้าแล้ว จะทำโน่นนี่นั่นก็ว่ากันไป เช่น เพิ่มปั๊มเคลื่อนที่ เสริมเขื่อน ลอกท่อลอกคลอง ฯลฯ แล้วให้แต่ละเขตรายงานความคืบหน้าเทียบกับแผนให้ท่านทุกๆ เดือน นับแต่นี้ไป
ส่วนเรื่องพื้นที่เอกชน ที่เป็นปัญหามาหลายปีว่า กทม.ไม่สามารถเข้าไปพัฒนาได้ ปีนี้ ท่านก็มีแนวทางว่า จะไปหาตัวบริษัทที่สร้างโครงการนั้นๆ ตั้งแต่แรกเริ่ม แล้วเจรจาให้มาปรับปรุงถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ วางท่อระบายน้ำให้เชื่อมกับ กทม. แต่ถ้าไม่ยอม ก็จะเจรจาให้เอกชนแถวนั้น บริจาคที่ถนนให้เป็นสาธารณะ กทม. ก็จะเข้าไปปรับปรุงถนนหนทางให้ได้ ถ้ายังไม่ยอมอีก กทม.ก็จะช่วยเฉพาะในส่วนที่ช่วยได้ เช่น ปรับปรุงถนนให้ไม่ได้ แต่ถ้าน้ำท่วม ก็ส่งปั๊มไปช่วยดูดน้ำได้ มอบกระสอบทรายทำเขื่อนให้ได้ เป็นต้น
ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นที่อื่น ก็เช่นเดียวกัน ท่านนำมาเป็นบทเรียนป้องกันให้ กทม.ตลอด อย่างปัญหาคนในเครื่องแบบมีความเครียด ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ทหารเครียด ฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างโหดที่โคราช ต่อมา ก็เจ๊นุชตำรวจที่ทำร้ายทหารรับใช้ โดยสว.ที่หนุน ยังลอยนวล ทำให้สังคมยิ่งอัดอั้น ต่อมา สิบโทหนุ่ม โชว์ภาพลวนลามสาวกลางออฟฟิต ต่อมา ก็หมายเรียก สว. พัวพันเรื่องการฟอกเงิน ต่อมา ก็จ่าคลั่งพกปืน เข้าที่ทำงาน แล้วยิงพวกไป 2 ศพ
ตอนนี้ มาล่าสุด อดีตตำรวจ ยิงได้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ (ยิ่งกว่าโคราชปีก่อนๆ) ซึ่งข่าวมี 2 กระแสว่า เสพยา กับทะเลาะกับเมียเครียดเรื่องไปศาล ทั้งหลายทั้งปวงนี้ มันมีหลายเหตุหลายปัจจัย ผู้ว่า ท่านพิจารณาป้องกันแบบบูรณาการ เริ่มที่ การโยกย้ายแต่งตั้ง ผอ.เขต ของกทม. 30 ตำแหน่ง ตั้งรองขึ้นมาเป็น ผอ.เขตใหม่ 12 ตำแหน่ง ผู้ว่าประกาศสยบข่าว เรื่องการใช้เงินซื้อตำแหน่ง จะไม่มีในกทม.ยุคนี้ เด็ดขาด ถ้าใครเห็นว่ามีให้มาแจ้งท่านโดยตรงได้เลย
ซึ่งเรื่องนี้ ความเห็นผม เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งเลย ที่จะป้องกันความเครียดลำดับที่หนึ่ง ในเรื่องผู้น้อยไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะทั้งที่โคราช ทั้งเรื่องเจ๊นุช ทั้งเรื่องจ่าหื่น ทั้งเรื่องกลุ่มผู้นำฟอกเงิน มันนำไปสู่ความอัดอั้นของผู้น้อยต่างๆ ได้ทั้งหมด
ต่อมาก็เรื่องยาเสพติด ผู้ว่าบอกว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องจัดการกับยาเสพติดอย่างจริงจัง แล้วปล่อยปละละเลยกันตั้งแต่ตอนไหนหนอ ซึ่งผมเสริมว่า คนที่โดนคดีเรื่องยาเสพติด ทำไมจึงให้เขาพกปืนได้ง่ายๆ เช่นนี้ นี่มันอาวุธร้ายแรง (ที่กทม. ย่อมไม่อนุญาติให้ข้าราชการพกปืนอยู่แล้ว อันนี้ผมเสริมผู้ว่าเข้ามา)
ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียในครั้งนี้ด้วยนะครับ ขอสนับสนุนองค์กรที่ถอดบทเรียนป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ดังเช่น กทม.ด้วยครับ