โค้ชด่วนน่าจะรู้ดีกว่าใคร

ด้วยความที่นักกีฬาไทยเรามีรูปร่างเล็กเสียเปรียบส่วนสูง เสียเปรียบเรื่องความแข็งแรงทางร่างกาย การคาดหวังให้ผู้เล่นตัวเก่งของเราแค่ 6-7 คนเป็นคนทำผลงานให้กับทีมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดการแข่งขันตลอดทัวร์นาเมนต์นั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในการแข่งขันระดับโลก ทีมไทยต้องเล่นอย่างน้อย 12 แมตช์ ( VNL 2022 แข่ง 3 สนาม) และ 5+4 = 9 แมตช์ (WCH 2022 รอบแรก + รอบสอง) สังเกตเห็นได้ชัดว่า ศักยภาพของนักกีฬาไทยตัวหลัก 6-7 คนจะทำผลงานได้ดีแค่ช่วงแรก ๆ ของการแข่งขันเท่านั้น เพราะสภาพร่างกายแต่ละคนยังฟิตและมีพละกำลังดีอยู่ พอเราใช้งานผู้เล่นหน้าเดิม 6-7 คนลงเล่นติดต่อกันไปเรื่อย ๆ ผลงานในแมตช์หลัง ๆ จะเริ่มตกต่ำลง ขนาดเจอทีมที่เราคิดว่าน่าจะผ่านได้ไม่ยาก ก็กลายเป็นผ่านยากขึ้นมาทันที แถมยังแพ้หมดรูปแต้มขาด 3 เซตรวดอย่างผิดความคาดหมายของกองเชียร์ชาวไทยอีกด้วย แน่นอนว่าการมีเครื่องมือช่วยฟื้นฟูความอ่อนล้าทางร่างกายนักกีฬาติดไปด้วยก็มีส่วนช่วยฟื้นฟูเรียกความฟิตกลับคืนมาได้บ้าง แต่ยังไงก็ไม่สามารถเรียกคืนความฟิตกลับมาทั้ง 100% ในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้

จากผลงานของตัวหลักสาวไทย 6-7 คนชุดนี้ เราจะเห็นได้ว่าทีมไทยจะทำผลงานได้ดีสุดไม่เกิน 5 แมตช์ หลังจากนั้นจะเริ่มหมดสภาพ ทางเดียวที่โค้ชด่วนต้องหาหนทางแก้ไขคือ ทำอย่างไรถึงจะสามารถใช้ผู้เล่นสำรองอีก 8 คนในทีมให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทีมได้ ตอนฝึกซ้อมลงทีมแบ่งข้างแข่งกันเอง โค้ชด่วนเคยทดลองสลับตัวผู้เล่นตัวสำรองบางคนมาอยู่ฝั่งตัวจริง แล้วเอาผู้เล่นตัวจริงบางคนไปอยู่กับฝั่งตัวสำรอง เพื่อหาสูตรไลน์อัพแบบใหม่ ๆ ดูบ้างไหม การทดลองเปลี่ยนแปลงสูตรไลน์อัพเป็น 5 จริง + 1 สำรอง หรือ 4 จริง + 2 สำรอง หรือ 5 จริง + 1 มือเซตสำรอง แม้ว่า performance ก็ดีสู้ตัวจริง 6 คนไม่ได้แต่มันอาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างในตอนแข่งขันจริงก็ได้ เพราะเป็นไลน์อัพที่คู่แข่งคาดไม่ถึงและไม่ได้เตรียมการมารับมือไว้ก่อน ต่อให้ใช้สูตรไลน์อัพส่วนผสมแบบใหม่แล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้ ก็ยังช่วยให้นักกีฬาตัวจริงของเราอย่างน้อย 1 คนได้พัก และให้โอกาสนักกีฬาตัวสำรองอย่างน้อย 1 คนได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองในเกมการแข่งขันระดับโลก ถ้าเขาแจ้งเกิดได้สำเร็จแบบออมสิน ทีมไทยก็จะได้นักกีฬาฝีมือดีไว้ใช้งานเพิ่มอีก 1 คน  

นักกีฬาเรามีขนาดไซซ์แค่รถเก๋งต่อให้มีความแรง เร็ว คล่องแคล่ว ว่องไว ยังไง ก็ไม่สามารถปะทะซึ่งหน้ากับนักกีฬาฝั่งตรงข้ามที่มีไซซ์ขนาดรถสิบล้อได้ ทางเดียวที่ทำได้คือ ต้องฝึกรถเก่งทั้ง 14 คนในทีมให้มีขีดความสามารถในการขับเคลื่อนได้ดีพอ ๆ กัน สามารถทดแทนซึ่งกันและกันได้โดยที่ผลงานทีมไม่ดร็อปลงไปมาก ลดการพึ่งพานักกีฬาตัวหลักเพียง 6-7 คนหน้าเดิม ๆ ลงสู้ทุกเกมกับคู่แข่งทุกชาติ เพราะคู่แข่งเขาจับทางผู้เล่นทีมไทยได้หมดแล้ว เราใช้ผู้เล่นหน้าเดิม 6-7 คน สไตล์การเล่นแบบเดิม โดยเฉพาะมือเซต กับตัวตีหลัก ๆ ที่เป็นคนทำคะแนน เขาศึกษามาเป็นอย่างดี คู่แข่งแค่จับตายผู้เล่นตัวหลักของเราคนใดคนหนึ่งได้ แผนการเล่นของทีมไทยก็จะสั่นคลอนและสะดุดลงทันที

ทุกคนคงดูออกว่า ทีมคู่แข่งทำลายระบบการเล่นของทีมไทยด้วยวิธีอะไรบ้าง
1. ใช้ลูกเสิร์ฟที่ทรงพลังทำลายการรับบอลแรกโดยเสิร์ฟจี้ไปที่นักกีฬาตัวหลักของเราที่เป็นเป้าหมายการกำจัดออกจากเกมคนแรก
2. ศึกษารูปแบบการเซตของมือเซตตัวจริง ไม่เปิดโอกาสให้มือเซตเราได้เซตบอลตามที่ถนัดได้ 
3. จับตายผู้เล่นตัวหลักของไทยไม่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นคนนั้นทำแต้มได้ง่าย ๆ 
4. ใช้ผู้เล่นของเขาที่มีความเร็วและความแข็งแรงเหนือกว่านักกีฬาเรา คอยสกัดกั้น ขึ้นบล็อกการรุกของทีมไทยทั้งบอลสูตร บอลเร็ว บอลโครงสร้างจนอยู่หมัด 
5. จู่โจมทีมไทยด้วยการยกบอลสูง ทำ counter attack ด้วยตีคร่อมบล็อกของไทยเป็นตัวทำคะแนน 
 
ถ้าทีมไทยแก้จุดอ่อนที่เป็นปัญหาทั้ง 5 ข้อนี้ไม่ได้ ยังไงก็แพ้คู่แข่งวันยังค่ำ เราใช้งานผู้เล่นตัวหลักที่ดีที่สุด 6-7 คนไปจนหมดตั้งแต่รอบแรก ๆ พอเข้าไปถึงรอบลึก ๆ เราก็จะไม่มีนักกีฬาตัวเก่งเหลือไว้ให้ใช้งานได้อีกแล้ว ตัวเก่งแต่ละคนเหลือสภาพความฟิตแค่ 60-70% ดูภายนอกอาจจะไม่รู้สึกแตกต่าง แต่พอลงแข่งจริงจะสังเกตได้ว่าพละกำลังของนักกีฬาเราหมดไวมาก ผลสุดท้ายคือ คุณจะเห็นโค้ชด่วนหน้าหล่า ทำอะไรไม่ถูกเหมือนเดิม ๆ อย่างที่เคยเห็นทุกครั้งที่ทีมไทยแพ้หมดรูปแต้มขาดให้กับทีมคู่แข่ง

วลีเด็ดประจำวัน : ความคาดหวังต้องตั้งอยู่บนเหตุผลที่ไม่ขัดแย้งกับความจริง วลี "Size Doesn't Matter" ที่ชาวต่างชาติกล่าวยกย่องทีมไทยนั้น เป็นแค่คำโฆษณาทางการตลาดที่ใช้เรียกแขก สร้างความสนใจให้ทุกคนเข้ามาดูผลงานของนักกีฬาไทยที่ทำได้ดีแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่