[SR] เดินป่าโบราณประเทศลาว น้ำตกตาดกลาง - ภูพระด่าง -ทะเลลาว(เขื่อนน้ำเงิม) 23-25 ก.ย 65

กระทู้รีวิว


Dairy log 1 : ที่มา
หวัดดีเราขอแนะนำตัวอีกครั้งละกันนะ ชื่อหลุยส์ IG: louuuuuuiser_ และ Nirach97
เหตุผลที่มี 2 แอ็ค เพราะลงสตอรี่บ่อยกระจายความเสี่ยง ความรำคาญคน Follow ฮ่าาา
เค.. เข้าเรื่อง 
.
.
.
"ทริป เดินป่าโบราณประเทศลาว น้ำตกตาดกลาง - ภูพระด่าง -ทะเลลาว(เขื่อนน้ำงึม) 23-25 ก.ย 65"
 ยินดีตอนรับสู่ดินเเดนป่ลาวเหนือ เเขวงเวียงจันทร์


ที่มาจริงๆ เริ่มมาจากทริปเดินป่าลาวใต้ โบลาเวน (Bolaven Plateau) เป็นครั้งเเรกที่เราเองเป็นคนฟอร์มทีมจัดทริปหารเฉลี่ย ซึ่งที่นั้นก็เป็นที่โจษจัน จดจำ ประทับใจไม่ลืม เพื่อนๆในทีมต่างก็เริ่มติดใจป่าลาวเข้าแล้วสิ หรือว่าเราอาจจะคิดไปเองนะ...wink
ซึ่งเราเองก็สิงสถิตอยู่ในกลุ่ม หาทริปเดินป่าไทยมาหลายปีละ เริ่มเห็นคนไทยรีวิวที่เดินป่า ตปท กันเยอะมากขึ้น 1ในนั้นคือที่นี่แหละ
แว๊บคือสวยแหะ น่าดันจังเลย ส่งรีวิวให้เพื่อนพร้อมแปะยา ว่าสักรอบไหม??
อ้าว Deal done เฉย.. ทุกคนอยากกลับมาจอยกันอยู่เเล้ว
ทริปนี้เราไปกัน 15 คน 
ทีมเดิมจากลาวใต้ +หน้าใหม่ 
นี่ไงทีมเราเอง น่ารักกันทุกคนเลยใช่ไหมล่าาา..55 
หลุยส์ โอ็ต มีน บุ๋มบิ๋ม บัว ท็อป อาร์ม โจ๋ หนุน เต้ย เมฆ
ภีม ดิว แบงค์ 
...
เข้าเรื่อง จริงๆละที่มา/ความเป็นมา wiki
ป่าสงวนแห่งชาติภูเขาควาย (ลาว: ປ່າສະຫງວນແຫ່ງຊາດພູເຂົາຄວາຍ, อังกฤษ: Buffalo Mountain) เป็นป่าสงวนแห่งชาติในแขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว มีเนื้อที่มากกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร มีจุด check point อยู่หลายที่ เเต่เนื่องด้วยทีมเราไป 3ว 2ค ต้องตัดออกไปหลายจุดอยู่เหมือนกัน
จบที่ Route น้ำตกตาดกลาง-ภูพระด่าง

Dairy log 2 : เริ่มผจญจัย
เรานัดรวมตัวกันในรุ่งสางหน้าด่าน หนองคาย - เวียงจันทร์ 
-เช้าวันที่ฝนตั้งเค้าพร้อมที่จะเทลงอยู่ตลอดเวลา พรางนึกในจัย ยิ้มจะล่มไหมหว่าาาาา อ่ะเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เริ่มต้นขึ้นที่ด่าน จนท.ตร เรียกค่าไถ่เพื่อนที่ไม่มีพาสปอร์ต ด้วยเพราะที่จะไปอยู่นอกเขตเมือง โดนไป 3 เทา บางคนเเทบจะเปลี่ยนใจนั่งกินเบียร์ที่เวียงจันทร์อยู่แล้ว
 ยิ่งเพิ่มความจัยแป้วเข้าไปอีก
  กว่าจะได้เริ่มสตาร์ทไปจุดลงเรือก็ปาไป 9 โมงละ ยิ่งใกล้ถึง ฝนก็ยิ่งหนัก ขู่ให้ใจเราเขวกว่าเดิม
..
ขอบคุณที่ฟ้ายังเห็นใจ
ณ ท่าเรือ แดนสวรรค์น้ำงึมรีสอร์ท ฝนที่หนักมาตลอดทางก็ดูจะบางลงทันที ใช่แล้ว.. คุณได้ไปต่อ



Dairy log 3 : ธารเวลา
ขออนุญาตแปะเพลง ธารเวลา - นายสว่าง https://www.youtube.com/watch?v=t3dES_lCmr0
ฟังไปกับอ่านบทนี้ละกันนะ ยิ้ม
เรานั่งเรือแล่นข้ามผ่านผืนน้ำผืนใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า ทะเลน้ำจืดประเทศลาว (ประเทศลาวไม่มีพื้นที่ติดชายทะเล) มองเห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่สุดสายตา ความฮือฮาตื่นเต้นของทุกคนมักจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เรือนั้นโยกโคลงเคลงไปมา กลับกลายเป็นว่าความไม่สมดุลนี้ที่ทุกคนต่างก็ดูยินดีที่จะให้มันเกิดขึ้น ใช้เวลา30 นาทีได้ เรือนี่ก็พาพวกเรามายังหมู่บ้าน ภูเก้านาง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง (เท้า) พวกเราเริ่มเดินกันสู่เเค้มป์เเรกที่น้ำตกตาดกลาง แรกๆเราสังเกตบางคนดูเนือยๆกับการเดินระยะเเรก เพราะไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ ลัดเลาะตามเส้นทางไปไร่สวนของชาวบ้าน ผ่านลำธารเล็กๆพอให้ได้ฮือฮากับจังหวะลื่นๆของเเต่ละคน เราเองก็ลื่นด้วย - - พอเดินเข้าไปลึกความตื่นเต้นก็ขยายตัวขึ้นทุกขณะ ลำธารสายใหญ่เริ่มถี่ขึ้นความท้าทายกลับกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนพร้อมพุ่งเข้าหามัน พวกเราใช้เวลากับการเล่นน้ำระหว่างทางไปสักพัก เเล้วเดินต่อ ในระหว่างนั้นมีน้ำตกหลายจุดให้เเวะชมกันจนเพลิน เป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติเสิร์ฟความชุ่มฉ่ำของน้ำลำธารได้อย่างแท้จริง


Dairy log 4 : For-rest-op
เสียงร้องเจี๊ยวจ๊าวของกลุ่มเพื่อนที่เดินนำไปก่อน ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ รับรู้ได้ถึงสิ่งที่พวกนั้นกำลังเจอะเจอกัน เป็นเสียงที่บ่งบอกถึงความสนุกสนาน เราเดินรั้งท้ายเพราะมัวเเต่เเวะเล่นข้างทาง ไม่นานรองเท้าที่ดูจะน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเนื่องด้วยน้ำที่ดูดซับเข้าไปเต็มเปา เสียงดัง"ชวบแฉะ" ตลอดเวลา พาเรามาถึงต้นกำเนิดเสียง จุดที่เพื่อนๆกำลังเพลิดเพลินกับการโพสท่ารูปคู่กับน้ำตกอันสวยงามที่ถูกโอบล้อมไปด้วยป่าดิบชื้น ไหลลงสู่ข้างล่าง เราไม่ค่อยใช้เวลากับจุดนี้เท่าไหร่นักเพราะเริ่มล้าและอยากจะถึงที่พักเต็มที แต่จุดที่พักเเรมคืนเเรกของพวกเราอยู่ด้านบนของน้ำตกนั่น ซึ่งบทบาทของเเขนเรานั้นดูจะสำคัญขึ้นมาทันทีเมื่อทางที่ขึ้นไปมันทั้งชันและมีเเค่เชือก1เส้นที่ให้เราดังตัวเองบวกกับกระเป๋าบนหลังที่หนักเกิน10 kg. แต่พวกเราทุกคนก็ผ่านมามันได้และทำได้ดี
ลานหินอันกว้างติดกับน้ำตกที่ไหลผ่าน ณ จุดค้างเเรมคืนเเรกที่ "น้ำตกตาดกลาง" พอถึงไม่นานนักบรรยากาศรอบๆก็เริ่มมืดลง เพื่อนๆต่างกันทำภารกิจที่ตระเตรียมกันมา บ้างก็เตรียมอาหาร จัดแจงที่พัก บ้างก็เต็มที่กับการเล่นน้ำจนมือเท้าซีดกันเลยทีเดียว (สังเกตได้จากมือเราเอง) ความเหนื่อยล้าในการเดินทางวันแรกถูกชะล้างด้วยน้ำที่เยือกเย็นหายไปจนหมด และเข้าสู่ค่ำคืนอันเเสนเหน็บหนาวในจิตใจของเราเอง ยิ้ม


Dairy log 5 : บทสนทนาของคนแปลกหน้า
จริงๆมันก็ไม่เชิงหรอกเพราะส่วนใหญ่เราเคยเจอกันมาบ้างเเล้ว เเต่ก็จะมีเพื่อนใหม่อีกส่วนในทริปที่ยังไม่รู้จักนอกจากชื่อเล่นเเค่นั้น แต่ใช่ว่าคนที่เราเคยเห็นหรือรู้จักกันมาดีเเค่ไหน บางเรื่องก็เหมือนจะทำให้รู้สึกว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยก็เป็นได้.. เสียงรอบข้างตอนกลางคืนดูจะโดนกลบเกลื่อนนไปกับเสียงของน้ำตกข้างๆเเค้มป์ที่ไหลซัดสาดโขดหินเสียงดังตลอดว่า แต่มันก็แพ้ถูกกลบไปอีกชั้นด้วยเสียงของบทสนทนาในวงเพื่อนๆที่ต่างคนต่างมีเรื่องที่ตัวเองอยากเล่า อยากฟัง มุขที่หยอดเข้ามาเป็นระยะก็ทำให้บรรยากาศคืนนี้ดูจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ที่เพิ่งเคยเจอกัน เอาจริงๆการรู้จักแค่3วัน2คืนก็เป็นระยะเวลาที่พอดีแล้ว สำหรับการที่จะแบ่งปันหรือสร้างเรื่องราวดีๆให้กัน เพราะเวลาสั้นๆแบบนี้มันก็ยากที่คนคนนึงจะเเสดงด้านลบๆออกมาให้คนอื่น ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมีและมันจะเกิดก็ตอนที่มันมีระยะเวลา และใช้ความคุ้นเคยกันมากกว่านี้ ค่ำคืนเเรกที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ขบขัน โดยที่มีแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้น ซึ่งเหมือนมันจะดูน้อยไปสำหรับพวกเพื่อน ส่วนเราเอง3กระป๋องก็ไม่ไหวเเล้ว - - 55
ก่อนจะทะยอยแยกย้ายไปเอาถุงนอน กลับบิดเสียดกันในฟลายชีทเรือนใหญ่555



Dairy log 6 : สับตีนแตก
ใช่ มันคือ"เดิน"อย่างเดียวในวันที่ 2 ของทริป ด้วยระยะทางเเละจุดหมายมันถูกจำกัดมาด้วยเวลา ดังนั้นการทำเวลาคือสิ่งที่สำคัญ ก่อนสู่เพลทเเรกการดันตัวเองขึ้นทางชัน45องศา ระยะทางเกือบ 2 km เห็นจะได้ มันชันเเละลื่น เพราะตรงบริเวณนั้นเป็นป่าดิบชื้น รอบข้างไม่มีอะไรเลยนอกจากจะ หันไปทางไหนก็เจอสีหน้าอาการเหนื่อยหอบของเเต่ละคน และรู้สึกได้ถึงมวลออกซิเจนที่ต่ำ เราดันขึ้นถึงเพลท1ในวันที่สองได้ กับระยะทางที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ เเดดที่ช่วงเช้าโดนปกคลุมไปด้วยเงาของต้นไม้ สู่แดดช่วงบ่ายที่ยอดหญ้าโดนเงาของพวกเราปกคลุมทุกที่ที่เดินผ่าน แน่นอนความร้อน ความเหนื่อยล้า เริ่มกัดกร่อนจิตใจให้เราท้อมากขึ้น แต่ทางเดียวที่จะพ้นคือ เดินต่อไปให้ถึงเพลท 2 หรือ บริเวณยอดเขา "ภูพระด่าง" ให้เร็วๆ เพราะเมื่อไต่ระดับความสุงมากขึ้นเท่าไหร่ความเย็นก็เหมือนจะมีมากขึ้น ผ่านป่าหญ้าคาที่สูงท่วมหัว เเต่ก็ไม่ได้ช่วยบดบังเเสงเเดด เมื่อขึ้นไปเรื่อยๆความหวังที่จะเห็นวิวที่สวยงามก็มีมากขึ้น หน้าผาที่ตระหง่านเบื้องหน้าเหมือนจะชักจูงให้เรามีเเรงที่จะเดินต่อ ถ้ามีโอกาสและเวลาเยอะกว่านี้อยากจะเดินเก็บทุกจุดเลยแหละ แต่เป้าหมายวันนี้ยอดภูพระด่างก็คงเป็นสิ่งสำเร็จเเล้วกับเวลาที่เหลืออยู่...


Dairy log 7 : จุดสุดยอด
ถึงเป้าหมาย จุดชมวิว ภูพระด่าง ที่เราดึงดันตัวเองมาทั้งวัน เพื่อได้เสพกับบรรยากาศข้างบนนี่ 
ลม สายลมเย็นๆพัดผ่านตัวเรา ปลอบประโลมร่างกายที่อ่อนล้าเต็มที 
ดอกไม้ ดอกไม้สีชมพูเบ่งบานราวกับรอตอนรับผู้มาเยือน (ดอกไม้นั้นคือความจริงใจของเรานะ)
พระพุทธรูปโบราณ ที่ถึงแกะสลักด้วยหินที่ตั้งอยู่ตรงจุดชมวิว ที่มองไปเห็นผืนน้ำอยู่เบื้องล่าง สอบถามคนนำทางก็ยังไม่รู้ที่มาเเน่ชัด เพราะมีมาตั้งเเต่รุ่นทวดแล้ว
ภูเขา ข้างบนนั่นคือจุดสูงสุด เเต่มองไปอีกฝากของสันเขา ก็จะเห็น ภูพะได ที่ตั้งสูงเด่น เเต่เสียดายไว้มีโอกาสจะกลับมานะ
หมอก ไอหมอกฝนที่ก่อตัวบดบังวิว 360 ได้ไวจนแทบตั้งตัวกันไม่ทัน ก็เหมือนจะบอกกับเราว่าความสุขอาจจะอยู่ได้ไม่นานเท่าที่เราคาดหวัง จงเต็มที่กับช่วงเวลานั้นให้มากนะ
ท้องฟ้า เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบท้องฟ้าตอนเย็นมาก เพราะสีสันที่มันละเลงมาในเเต่ละวันคือ ไม่เคยซ้ำเเละก็ดึงดูดสายตาให้อยากมองมันอยู่อย่างนั้น..
ช่วงเวลานั้นมันดีมากเลยนะ  และก็เธอ...

Dairy log 8 : เเค้มป์2
17.30 น. สัมภาระบนหลังที่แบกมาทั้งวัน ถูกวางลงบนพื้นไม้ไผ่ที่ถูกตีเป็นแผ่น ถึงสักที... เหมือนกับว่าธรรมชาติไม่อยากให้เราพักสายตาเลยจริงๆ เพราะจุดพักของเราเป็นกระท่อม 3 หลังที่สามารถดูวิวได้ 360 องศา ข้างหน้าเป็นผืนน้ำอันกว้าง หมู่เกาะเล็กๆถูกเรียงรายสุดลูกลูกตา พระอาทิตย์กำลังจะตก เเต่นั่นแหละคือไฮไลท์ เเสงสาดตกกระทบบนผืนน้ำสีครามกลายเป็นส้ม มันสวยมากจริงๆนะ แต่วันนี้ร่างกายดูจะถูกใช้งานมาเยอะ จนถึงเวลาที่มันต้องเอาคืน เลยต้องขอตัวไปนอนก่อนเพื่อนๆทุกคน เสียงของเพื่อนที่กำลังสนุกสนานก็กับค่ำคืนสุดท้ายดังอยู่ได้ไม่นาน ฝนก็เทลงมาทำให้ต้องเเยกย้ายกันไปพักผ่อน ราตรีสวัสดิ์
****เอ๊ะลืมไปความพีคตอนไปอาบน้ำ อย่าเรียกว่าอาบเลย เละกว่าตอนที่ยังไม่ได้อาบ5555 ด้วยทางที่ไปต้องเดินลุยโคลนที่เกิดจากรอยเท้าฝูงวัวของชาวบ้านที่เหยียบย่ำ จนเกิดเป็นหลุมโคลนตลอดทางเรียกได้ถ้าเดินพลาดล่ะเกิดมีหวังเละโคลนสาบวัวเเน่ น้ำที่อาบก็น้อยนิดจนได้เเค่ล้างเเขนขา สรูปได้ว่าคนที่ไม่อาบเย็นวันนั้นคือผู้โชคดี

Dairy log 9 : สู่ผืนน้ำ
เช้าที่ตื่นมากับอาการปวดเมื่อยร่างกาย เเละเสียงของลมปะทะประตูไม้ไผ่ที่ถูกลมกระเเทกอยู่ตลอดทั้งคืน หมอกขาวที่ที่ปกคลุมผืนน้ำกลายเป็นทะเลหมอกที่ซ้อนทับทะเลน้ำจืดอีกชั้น ไม่นานเเสงพระอาทิตย์ก็สอดเเทรกก้อนเมฆ เกิดเป็นเส้นเเสงสีทองตกกระทบไปยังหมู่เกาะและผืนน้ำ มองทีไรก็สุดแต่ประทับใจที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างปกติ(ธรรมดา)ของธรรมชาติ แต่พิเศษสำหรับเรา 

ชื่อสินค้า:   เดินป่าลาว
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่