สำหรับหนัง Marvel ในตอนนี้นั้น เเน่นอนว่าเดินทางมาไกลมากจนตอนนี้ก้าวเข้ามาถึง Phase 4 กันเเล้ว เเน่นอนว่าใน Phase 4 นี้เนี่ยมีตัวละครใหม่ๆถูกเปิดตัวขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Shang-Chi, Eternals, American Chavez, Kate Bishop ละตัวละครอื่นๆอีกมากมาย เเละเเน่นอนว่าหนังอีกเรื่องที่ทุกคนรอคอย รอดูความเป็นไปของตัวละครนี้จากความสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตว่าเขาคนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ตัวละครนั้นคือ Thor นั่นเองครับ เเน่นอนครับว่าในตอนนี้ Thor: Love And Thunder ได้ออกจากโรงภาพยนต์เเละได้เข้าฉายผ่านช่องทาง Steaming ของDisney Plus เป็นที่เรียบร้อย จากการที่ได้เห็นคะเเนนส่วนมากหลังจากคนที่ได้รับชม เเน่นอนว่ามีทั้งชอบเเละไม่ชอบวันนี้เราจะมามาเจาะลึกกันซักหน่อยว่าอะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีเสียงเเตกมากขนาดนี้ครับ (กระทู้รีวิวที่เขียนขึ้นมานี้เป็นการหาข้อมูลจากกลุ่มคนส่วนใหญ่ รวมไปถึงเป็นความคิดเห็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่าทุกท่านที่ได้อ่านกระทู้นี้มีความคิดเห็นยังไงบ้างก็สามารถมาคุยเเลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลยครับ)

     มาในประเด็นเเรกที่ใครหลายคนไม่ชอบกันเลยดีกว่าครับ นั่นก็คือประเด็นของ Gorr the God Butcher หรือ ตัวร้ายหลักจากภาค Love And Thunder นั่นเองครับ จากการหาข้อมูลนะครับพบว่า ตัวร้ายในภาคนี้เนี่ย ไม่มีความร้ายความโหด อย่างที่คิดเอาไว้ครับ รวมไปถึงว่าในช่วงของตอนจบนั้นตัวร้ายมีการกลับตัวกลับใจที่ง่ายเกินไป โดยในตอนเเรกทาง Marvel ได้มีการออกมาประกาศว่า ตัวร้ายของ Thor ภาคนี่เนี่ย เรียกได้ว่าเป็นตัวร้ายที่ดีที่สุดเท่าที่Marvel เคยทำมาเลยทีเดียว ทำให้ผู้คนก็รอดูกันใหญ่ว่าจะเป็นอย่างไร เเต่พอได้ดูเเล้วหลายคนมองว่า เป็นตัวร้ายที่ยังร้ายได้ไม่เต็มที่ ในช่วงเริ่มเรื่องนั้นมีความเเค้นกับเทพเจ้ามาก ต้องการที่จะฆ่าเทพเจ้าทุกองค์ ซึ่งเป็นการเริ่มเรื่องมาได้ดีเเละน่าสนใจครับ เเต่เมื่อดูต่อๆมาเรื่อยๆจนจบเเล้วนั้น ตัวร้ายเนี่ยไม่ได้โผล่มาเยอะอย่างที่ควรจะเป็น ซ้ำเเล้วในช่วงของตอนจบก็ได้กลับตัวกลับใจกลายเป็นคนดี เเละฝากเลี้ยงลูกสาวที่เกิดขึ้นมาใหม่ไว้กับเทพเจ้าสายฟ้าของเรา ทำให้หลายคนมองว่าในจุดนี้เนี่ยมองว่าปูบทตัวร้ายมาได้น่าเสียดายมากๆครับ


     ต่อมาในประเด็นของความสัมพันธ์ระหว่าง Thor เเละ Jane Foster นะครับที่ใครหลายคนมองว่าเล่าเร็วเกินไป ควรจะปูเรื่องราวความรักของทั้งคู่มาก่อนหน้านี้ให้มากกว่านี้ โดยในภาคนี้เนี่ยได้มีการเล่าเรื่องเพิ่มเติมสำหรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ครับ เป็นการเล่าเรื่องในมุมที่เราคนดูเนี่ยยังไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งในตอนจบนะครับ Jane Foster ก็ได้เสียชีวิตเเละได้ไปอยู่ใน  Valhalla ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับเทพเจ้าที่เสียสละตนเองในสนามรบได้อย่างสมเกียรติเเต่หลายคนก็ไม่ได้มองว่าฉากนี่เนี่ยมีความเศร้านะครับด้วยความที่ปูบทความสัมพันธ์ของทั้งสองมาไม่มากพอครับถ้าหากปูบทมาตั้งเเต่เเรกอย่างในความสัมพันธ์ระหว่างป้าเมย์กับปีเตอร์เนี่ย เเน่นอนว่าฝั่งคนดูมีน้ำตาเเตกอย่างเเน่นอนครับ


     เเละเรื่องสุดท้ายนะครับต่อยอดมาจากประเด็นที่สองครับที่คนมองว่าทำให้หนังเรื่องนี้เข้าขั้นเเย่ที่สุดเลยเนี่ย ก็คือเรื่องของการใส่มุขตลกเข้ามาในหนังเรื่องนี้ครับ เเน่นอนว่าถ้าหากติดตามหนังของ Marvel มานานก็จะพบว่าหนังทุกๆเรื่องก็จะมีการใส่มุขตลกให้มีความขำขันเล็กน้อยให้เข้ากับตัวละครเเต่ละตัว เเต่ว่าจะไม่ได้ใส่มากเกินไปจนเอียนครับ เเละโทนเรื่องของจักรวาลหนังของ Thor ในเเต่ละภาคเนี่ยเรียกได้ว่า Dark ยิ่งกว่าเรื่อยอื่นๆเลย โดยสองภาคเเรกเนี่ยครับเเฟนหนังเรียกได้ว่าไม่ชอบกันเลยทีเดียว เเต่เมื่อมาในภาคที่สามหรือภาค Thor: Ragnarok เนี่ยครับเริ่มเปลี่ยนโทนของหนังให้มีความตลกขำขันขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนเรื่องอื่นๆ ทำให้เเฟนๆชอบกันมากเลย เเล้วเหมือนทาง Marvel ก็มองว่าเรามาถูกทางเเล้วสำหรับหนังของ Thor ทำให้ในภาคสี่หรือภาค Thor: Love And Thunder เนี่ยเขาได้ใส่มุขตลกมาเต็มที่เเบบไม่มีหยุดเลยทีเดียว บางมุขเนี่ยก็ทำให้คนดูขำได้ครับ เเต่ว่าโดยส่วนใหญ่เเล้วเนี่ยเป็นมุขที่ออกจะไม่มีความขำขันซักเท่าไหร่ เเละเป็นความน่ารำคาญด้วยซ้ำครับ หนำซ้ำในเวลาที่มีฉากที่เศร้าเสียใจเช่น ฉากของ Jane Foster ที่กำลังจะเสียชีวิตเนี่ยไม่มีความเศร้าเหลืออยู่เลยครับ เพราะมันมีการใส่มุขตลกอยู่ตลอดเเล้วอยู่ๆก็ตัดมาอยู่ในฉากที่เศร้า ซึ่งผมมั่นใจครับว่าการที่เรารับชมอะไรที่มันตลกขำขันเเล้วอยู่ๆก็เปลี่ยนมาเศร้าในทันทีเนี่ย ผมว่าส่วนน้อยมากๆครับที่จะอินกับฉากเศร้าครับ


    ก็จบไปเเล้วนะครับสำหรับการรีวิว Thor: Love And Thunder ส่วนตัวเเล้วนะครับถ้าเป็นผมเนี่ยผมจะให้คะเเนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 6/10 คะเเนนครับ เพราะส่วนตัวเเล้วมองว่าหนังมันก็มีความตลกอยู่เยอะครับ เเต่ว่าเราก็อยากเสพอะไรที่มันมีมากกว่านั้น เช่น ตัวร้ายที่อยากจะเห็นถึงความน่ากลัวที่เเท้จริง ไม่มีการอ่อนข้อใดๆกับอีกฝ่าย หรือฉากความสัมพันธ์ของทั้งพระเอกเเละนางเอกที่อยากจะให้มีปมขยี้มากกว่านี้ มีการสะกดคนดูให้อินกับฉากความรักของทั้งสองมากกว่านี้ครับ มุขตลกนั้นสามารถใส่เข้ามาได้ทุกเรื่องครับ เเต่ว่าถ้ามันมากเกินไปมันก็ทำให้หนังหมดสนุกได้ใส่เข้ามาเเบบพอดีๆให้มันมีสีสันดีกว่าครับโดยรวมทั้งหมดนี้ที่กล่าวมานั้น ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่าเป็นความเห็นส่วนตัว เเละเป็นเสียงส่วนมากจากฝั่งคนดู ถ้าหากทุกท่านที่อ่านกระทู้ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับหนัง Thor: Love And Thunder เรื่องนี้ ก็สามารถเข้ามาเเสดงความคิดเห็นเเลกเปลี่ยนความรู้กันได้เลยครับ สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวไว้เเต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ