ก้างปลาติดคอ อย่ากลืนก้อนข้าวเหนียว"

...
ก้างปลาติดคอ... - อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ | Facebook
"ก้างปลาติดคอ อย่ากลืนก้อนข้าวเหนียว"

น่าจะพอได้เห็นข่าวเรื่องนี้กันมั้งครับ ที่อาจารย์หมอ นวรัตน์ (แพทย์หญิง นวรัตน์ อภิรักษ์กิตติกุล อาจารย์แพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี) ได้โพสต์เตือนภัย เกี่ยวกับเรื่อง "ก้างปลาติดคอ" (ดู https://www.facebook.com/navarat.apirak/posts/10225689021989532) ว่า เวลากินปลา ให้ระวังก้าง และหากก้างปลาติดคอ อย่ากลืนข้าวปั้นหรือกล้วยทับ เพราะอาจยิ่งทำให้ก้างปลาปักลึกขึ้น และหายากขึ้น ข้าวปั้นอาจทำให้ก้างปลาปักลึกลง หรือก้างอาจจะรูดลงไปปักที่อื่นในหลอดอาหารได้ แถมอาจทำให้ติดเชื้อลุกลามได้ด้วย

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ที่ดีมากเลยครับ ที่ความเชื่อพื้นบ้านอย่างการ "กลืนก้อนข้าวเหนียว หรือก้อนขนมปัง หรือกล้วย" เพื่อให้ก้างปลาหลุดจากที่ตำคอนั้น กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะจริงๆ แล้ว อาจทำให้ก้างปลาปักลึกลงไป และเกิดแผลมากขึ้นได้
อีกความเชื่อผิดๆ ที่บอกว่า "ให้ดื่มน้ำมะนาว เพื่อให้ก้างปลาอ่อนนุ่มลง" ซึ่งอันนี้ก็ไม่จริง เพราะน้ำมะนาวไม่สามารถทำให้ก้างปลาละลาย และหลุดหายไปเองได้ อย่างที่หลายคนเข้าใจ และหากดื่มในปริมาณที่มากๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
ความรู้สึกเวลาที่ก้างปลาติดคอนั้น จะมีอาการเจ็บจี๊ดอย่างเฉียบพลัน บริเวณที่ถูกก้างตำ กลืนน้ำลายแล้วรู้สึกเจ็บ จนสามารถบอกตำแหน่งได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอม (ก้าง) ติดอยู่บริเวณใดของคอ
เมื่อมั่นใจว่ามีก้างปลาติดคอ ให้หลีกเลี่ยงการเอานิ้ว ไปล้วงเอาก้างปลาออกมา หรือการไปบีบนวดคอจากภายนอก เพราะจะทำให้ก้างปลาทิ่มลึกลงไปมากกว่าเดิม
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น ถ้าเป็นก้างขนาดเล็ก ให้ดื่มน้ำ กลั้วคอแรงๆ แล้วบ้วนออก ก้างปลาเล็กๆ มักจะสามารถหลุดออกมาได้
แต่หากกลั้วคอแล้ว ก้างปลายังติดคออยู่ ไม่หลุดออกมา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อนำก้างปลาออกอย่างถูกวิธี

ไม่ควรปล่อยให้ก้างปลาติดคอเป็นระยะเวลานาน เพราะนอกจากจะทำให้เจ็บแล้ว ยังทำให้เกิดแผล ที่อาจจะเกิดการติดเชื้อ เกิดภาวะแทรกซ้อน เป็นหนองในลำคอ ลุกลามไปสู่ช่องอก เป็นอันตรายร้ายแรงได้ครับ
ดังนั้น กินปลาครั้งต่อไป ให้ระมัดระวังก้างปลาติดคอนะครับ เรื่องใหญ่กว่าที่คิดมากครับ
ข้อมูลจาก https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%95/ และ https://www.bpksamutprakan.com/care_blog/view/190
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  อาหารไทย สังคมคุณแม่ วิทยาศาสตร์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่