"ธรรมะ" ที่แท้จริงอยู่ที่ไหน

พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(ท่านพ่อลี ธมฺมธโร) 

ปกิณกะธรรม ๓
แสดงธรรม ณ วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี
เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๗

"ธรรมะ" ที่แท้จริงอยู่ที่ไหน
คำพูด, หนังสือหรือคัมภีร์เหล่านี้เป็นเพียง "เงา" ของธรรมะ
ส่วนตัวจริงของธรรมะนั้นอยู่ที่ "จิตใจ"
ใจที่เป็นธรรมะคือใจที่เป็นปกติ เยือกเย็น ใจสบาย
ส่วนใจที่ไม่เป็นธรรมะ ก็คือ ใจที่หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน ใจไม่สบาย
ถ้าใจสบาย รัศมีของความสบายก็จะเปล่งออกมาที่กายเป็นกายสบาย
จะอยู่ที่ไหนก็สบาย จะกิน, นอน, เดิน, นั่งก็สบาย
เงินจะมีใช้ก็สบาย จะไม่มีใช้ก็สบาย จะใช้หมดก็สบาย
ใครจะว่าดีก็สบาย ว่าไม่ดีก็สบาย ฯลฯ
ส่วนใจที่ไม่มีธรรมะนั้น
รัศมีของความไม่สบายก็จะเปล่งออกมาที่กาย
เป็นกายที่ไม่สบาย ใจก็ผีสิง กายก็ผีสิง
ส่วนใจที่สบายนั้น...คือ ใจที่เทวดาสิง
"ทาน" ที่พร้อมด้วยองค์ ๔ คือ
วัตถุสมบัติ
ได้มาด้วยความสุจริต
เจตนาสมบัติ
ประกอบด้วยใจที่ไม่โลภ โกรธ หลง
คุณสมบัติ
ผู้ให้ต้องมีกายสุจริต ๓ วจีสุจริต ๔ มโนสุจริต ๓ *
ผู้รับก็ต้องมีคุณธรรม
คือ ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ และศีล ๒๒๗ เป็นต้น
(* คือ ละเว้นความทุจริต ดังนี้
กายทุจริต ๓ ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ๑ ลักฉ้อ ๑ ประพฤติผิดในกาม ๑
วจีทุจริต ๔ อย่าง ได้แก่ พูดเท็จ ๑ พูดส่อเสียด ๑ พูดคำหยาบ ๑ พูดเพ้อเจ้อ ๑
มโนทุจริต ๓ อย่าง ได้แก่ โลภอยากได้ของเขา ๑ พยาบาทปองร้ายเขา ๑
เห็นผิดจากครองธรรม ๑ - เพิ่มเติมโดยผู้ตั้งกระทู้)
ตัวผู้ให้มีองค์ ๓ ก็เหมือนมีก้อนเส้า ๓ ก้อน
ผู้รับมีอีกองค์หนึ่งก็เป็นภาชนะที่วางบนก้อนเส้า
เมื่อทานนั้นประกอบด้วยองค์ ๔ ดังนี้เมื่อใด
พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าเป็นทานอันเลิศ
ของดีนั้นทำนิดเดียวก็เป็นมาก
ของไม่ดีทำมากก็เป็นของน้อย
ของดีด้วย...ทำมากด้วย...ยิ่งดีเลิศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่