ก๋วยเตี๋ยวญวน 2 (ลูกชายคนโต)
เป็นร้านที่ไม่อยากแนะนำ ไม่อยากรีวิว เพราะกลัวว่าคนจะรู้จักไปมากกว่านี้จนหาที่นั่งลำบาก
ตัวร้านจริง ๆ หาไม่ยาก อยู่ตรงสี่แยกซอย ก.ม. 25
แต่ป้ายไม่ชัด เอาเป็นว่าถ้าเข้าซอยมาเจอ 4 แยก ให้เลี้ยวขวาและหาที่จอดได้เลย
ที่นี่แหนมเนืองราคาเริ่มต้น 60 บาท ซึ่งรับรองว่าคุณหาได้ไม่ง่ายในกรุงเทพ
อาหารอย่างอื่นก็เช่นเดียวกัน สนนราคา 50-60 ยกเว้นคุณจะสั่งจานใหญ่ก็จะอยู่ที่ 100
แหนมเนืองที่นี่คุ้มค่าถือว่าผ่านแต่ไม่โดดเด่น
แต่จานที่แนะนำคือ ปอเปี๊ยทอด ที่ร้านทอดแป้งได้กรอบและรอไม่นาน เพราะทอดสองครั้ง
วุ้นเส้น หมูสับ ผัก ใส่มาในสัดส่วนที่พอดี รสชาติกลมกล่อมไม่ถูกกลบรสด้วยพริกไทย และไม่ใส่วุ้นเส้นจนเกินงาม
ที่ร้านนี้ข้อห้ามเด็ดขาดคือ ห้ามเอาปอเปี๊ยะจิ้มลงไปในถ้วยน้ำจิ้ม
วิธีการกินที่ถูกต้องต้อง้ตักผักดองพร้อมน้ำจิ้มราดลงไปบนปอเปี๊ยและกินพร้อม ๆ กันเท่านั้น
อาหารบางอย่างเขามีเนื้อคู่ การพรากสิ่งที่คู่กันมันเป็นบาปเราไม่ควรทำ
เฝอและเกาเหลาหมูหรือเนื้อตุ๋นเป็นอีกจานที่แนะนำ
หมูเปื่อยกำลังดี สัดส่วนเนื้อกับมันและเอ็นลงตัว น้ำซุปหอมและหวานจากหอมหัวใหญ่ที่สุกแต่ไม่เละ
และยังพอได้กลิ่นฉุนนิด ๆ กรุบหน่อย ๆ
เกาเหลาเย็นตาโฟแห้งก็แนะนำให้ลอง รสชาติจัดจ้าน เผ็ดกำลังดี การันตีว่าสาว ๆ ต้องชอบ
สำหรับคอหมูยอ หมูยอลวกจิ้มของที่นี่เป็นหมูยอหนัง สไลด์มาด้วยมุมประมาณ 15-20 องศา
น้ำจิ้มมีมาให้ทั้งแบบเปรี้ยวหวานเผ็ดแบบไทย ๆ ส่วนใครอยากกินแบบเวียดนาม น้ำจิ้มพริกไทย-เกลือ-ผงชูรส ทางร้านก็เสริฟมาให้

ไอเท็มลับที่คนมักพลาดเพราะติดกับดักชื่อร้าน คือหมูย่างและเนื้อย่าง
ข้อควรปฏิบัติคือห้ามสั่งจานเล็ก ให้สั่งจานใหญ่เท่านั้นมันถึงจะสาแก่ใจ
ตัวเนื้อจะถูกหมักก่อนย่าง (จริง ๆ เรียกว่าครวน/คั่ว ในหม้อจะใกล้เคียงกว่า)
รสชาติหวานไม่มาก ๆ เค็มนิด ๆ ถูกคั่วมาพร้อมกระเทียม
กินตัดกับน้ำจิ้มของที่ร้านที่คล้ายน้ำจิ้มแจ่วเพราะมีทั้งข้าวคั่วและมะขาม แต่มาในเวอร์ชั่นที่เคลียร์และสดชื่นกว่า
เป็นเมนูที่แนะนำจริง ๆ และเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นอาหารรับขวัญวันออกเจ
แม้ว่าจะเปิดเกือบทุกวัน แต่หากใครไม่ใช่เจ้าถิ่นและอยู่แถวนี้ เช็คก่อนก็ดี
เพราะบางทีเฮียที่ร้านก็หนีเที่ยวและแอบปิดร้านในวันที่เราโหยหาสิ่งที่คอยเยียวยาจิตใจ
#กินข้าวกับอาเฮีย
#เหล็กไม่เอาถ่าน
ก๋วยเตี๋ยวญวน 2 (ลูกชายคนโต)
เป็นร้านที่ไม่อยากแนะนำ ไม่อยากรีวิว เพราะกลัวว่าคนจะรู้จักไปมากกว่านี้จนหาที่นั่งลำบาก
ตัวร้านจริง ๆ หาไม่ยาก อยู่ตรงสี่แยกซอย ก.ม. 25
แต่ป้ายไม่ชัด เอาเป็นว่าถ้าเข้าซอยมาเจอ 4 แยก ให้เลี้ยวขวาและหาที่จอดได้เลย
ที่นี่แหนมเนืองราคาเริ่มต้น 60 บาท ซึ่งรับรองว่าคุณหาได้ไม่ง่ายในกรุงเทพ
อาหารอย่างอื่นก็เช่นเดียวกัน สนนราคา 50-60 ยกเว้นคุณจะสั่งจานใหญ่ก็จะอยู่ที่ 100
แหนมเนืองที่นี่คุ้มค่าถือว่าผ่านแต่ไม่โดดเด่น
แต่จานที่แนะนำคือ ปอเปี๊ยทอด ที่ร้านทอดแป้งได้กรอบและรอไม่นาน เพราะทอดสองครั้ง
วุ้นเส้น หมูสับ ผัก ใส่มาในสัดส่วนที่พอดี รสชาติกลมกล่อมไม่ถูกกลบรสด้วยพริกไทย และไม่ใส่วุ้นเส้นจนเกินงาม
ที่ร้านนี้ข้อห้ามเด็ดขาดคือ ห้ามเอาปอเปี๊ยะจิ้มลงไปในถ้วยน้ำจิ้ม
วิธีการกินที่ถูกต้องต้อง้ตักผักดองพร้อมน้ำจิ้มราดลงไปบนปอเปี๊ยและกินพร้อม ๆ กันเท่านั้น
อาหารบางอย่างเขามีเนื้อคู่ การพรากสิ่งที่คู่กันมันเป็นบาปเราไม่ควรทำ
เฝอและเกาเหลาหมูหรือเนื้อตุ๋นเป็นอีกจานที่แนะนำ
หมูเปื่อยกำลังดี สัดส่วนเนื้อกับมันและเอ็นลงตัว น้ำซุปหอมและหวานจากหอมหัวใหญ่ที่สุกแต่ไม่เละ
และยังพอได้กลิ่นฉุนนิด ๆ กรุบหน่อย ๆ
เกาเหลาเย็นตาโฟแห้งก็แนะนำให้ลอง รสชาติจัดจ้าน เผ็ดกำลังดี การันตีว่าสาว ๆ ต้องชอบ
สำหรับคอหมูยอ หมูยอลวกจิ้มของที่นี่เป็นหมูยอหนัง สไลด์มาด้วยมุมประมาณ 15-20 องศา
น้ำจิ้มมีมาให้ทั้งแบบเปรี้ยวหวานเผ็ดแบบไทย ๆ ส่วนใครอยากกินแบบเวียดนาม น้ำจิ้มพริกไทย-เกลือ-ผงชูรส ทางร้านก็เสริฟมาให้
ไอเท็มลับที่คนมักพลาดเพราะติดกับดักชื่อร้าน คือหมูย่างและเนื้อย่าง
ข้อควรปฏิบัติคือห้ามสั่งจานเล็ก ให้สั่งจานใหญ่เท่านั้นมันถึงจะสาแก่ใจ
ตัวเนื้อจะถูกหมักก่อนย่าง (จริง ๆ เรียกว่าครวน/คั่ว ในหม้อจะใกล้เคียงกว่า)
รสชาติหวานไม่มาก ๆ เค็มนิด ๆ ถูกคั่วมาพร้อมกระเทียม
กินตัดกับน้ำจิ้มของที่ร้านที่คล้ายน้ำจิ้มแจ่วเพราะมีทั้งข้าวคั่วและมะขาม แต่มาในเวอร์ชั่นที่เคลียร์และสดชื่นกว่า
เป็นเมนูที่แนะนำจริง ๆ และเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นอาหารรับขวัญวันออกเจ
แม้ว่าจะเปิดเกือบทุกวัน แต่หากใครไม่ใช่เจ้าถิ่นและอยู่แถวนี้ เช็คก่อนก็ดี
เพราะบางทีเฮียที่ร้านก็หนีเที่ยวและแอบปิดร้านในวันที่เราโหยหาสิ่งที่คอยเยียวยาจิตใจ
#กินข้าวกับอาเฮีย
#เหล็กไม่เอาถ่าน