หนี้ทะลุ10ล้านล้านแล้ว! เพื่อไทย ฉะรัฐบาลกู้อีก 1 ล้านล้าน สร้างภาระหนี้ประชาชน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7290760
เพื่อไทย จวกรัฐบาล คิดจะกู้อีก 1 ล้านล้านบาท สร้างภาระหนี้เพิ่ม เกินจีดีพีแล้ว เผยไทยมีหนี้สินรวม 10 ล้านล้าน เป็นเรื่องอันตรายมาก ชี้ควรปล่อยรัฐบาลใหม่ทำ
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565 นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึง ครม.รับทราบแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1,052,785.47 ล้านบาท โดยกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 695,000 ล้านบาท กู้เพื่อเสริมสภาพคล่องคงค้างให้เพียงพอกับการเบิกจ่าย วงเงิน 45,000 ล้านบาท กู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ กฟผ.วงเงิน 85,000 ล้านบาท กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วงเงิน 30,000 ล้านบาทว่า
ไม่แปลกใจที่รัฐบาลกู้มาเพื่อโปะงบประมาณ เพราะตลอด 8 ปี รัฐบาลกู้เงินมาตลอด
อยากถามว่าเวลานี้ หนี้สาธารณะที่ออกกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะ รัฐบาลกู้ทุกปี จนใกล้ชนเพดานหนี้สาธารณะแล้ว หากรัฐบาลกู้อีก 1 ล้านล้านก็จะเกินจีดีพี
สำนักบริหารหนี้สาธารณะรายงานเมื่อเดือน ก.ค.65 ไทยมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 10 ล้านล้าน หากกู้เพิ่มอีกจะเป็น 11 ล้านล้านบาท ซึ่งอันตรายมาก รัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่ากู้เงินรอบใหม่จะนำเงินไปทำอะไร เงินกู้มหาศาลจะนำมาพลิกฟื้นสร้างเศรษฐกิจได้หรือไม่ น่าประหลาดใจที่รัฐบาลอ้างว่าเศรษฐกิจฟื้น แต่ทำไมเก็บภาษีพลาดเป้าทุกปี
นาย
สมคิด กล่าวต่อว่า การกู้เงินรอบใหม่ รัฐบาลจำเป็นต้องออกเป็นพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)เงินกู้นำเข้าสู่สภา เพื่อขอรับการอนุมัติ ดังนั้น ต้องบอกความจริงกับประชาชน มีรายละเอียดการใช้เงินที่ชัดเจน อย่ายื่นมาเพียงกระดาษแผ่นเดียว เหมือนเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้กู้เงินช่วงปลายรัฐบาล ไม่มีรัฐบาลไหนเขาทำกัน
ขอเตือนว่ารัฐบาลไม่ควรนำเงินกู้ไปทำโครงการใหม่ ควรให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการ โดยมารยาทไม่ควรทำ
นอกจากนี้อยากให้พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรักษาการนายกฯ ช่วยตรวจสอบเงินกองทุนประกันภัย ที่จะเยียวยาให้กับผู้เอาประกันภัยจากสถานการณ์โควิด ที่ซื้อประกันโควิด เจอจ่ายจบ ผู้ซื้อประกันกว่า 680,000 คน ยังไม่มีใครได้เงินเลย เพราะบริษัทประกันภัยปิดกิจการ รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร พรรคเคยทวงถามจากรัฐบาล แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ อยากถามว่าเมื่อไหร่รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้ ประชาชนเดือดร้อนแต่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ปัญหาของประชาชน รัฐบาลกลับไม่สนใจแล้วจะไปสนใจเรื่องอะไร
หมอเก่งซัดต่อ สอนอนุทินอย่าใช้ตรรกะวิบัติ เหน็บเพราะไม่ฟังใคร กฎหมายกัญชาจึงถูกพรรคร่วมรัฐบาลโหวตคว่ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3588298
เมื่อวันที่ 28 กันยายน นพ.
วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ตอบโต้ ถึงกรณีที่ นพ.
วาโยแนะให้ไปศึกษาวิชาแพทย์ให้ถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะออกนโยบายสาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องกัญชาว่า ตนและพรรค ก.ก. เป็นพรรคที่ยืนหยัดอยู่บนหลักการโดยมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะเตือนและชี้ให้เห็นข้อบกพร่อง และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้รัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีได้รู้ ได้เห็น และรับฟัง เพื่อนำไปปรับใช้และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม
“แต่ปัญหาคือ ทุกครั้งก็มักจะออกมาเป็นว่า ไม่รับฟังอะไรเลย ปัญหามันเกิดขึ้นจริงๆ คุณต้องยอมรับสิ แต่ไม่เคยเลยที่จะออกมาโต้แย้งด้วยหลักการและเหตุผล นำเสนอข้อมูลประกอบการโต้แย้งที่มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือเพียงพอ และเป็นที่ยอมรับในแวดวงวิชาการ แต่มักตีรวนไปเรื่องอื่น ผมไม่อยากเห็นรัฐมนตรีของประเทศไทยใช้ตรรกะวิบัติแบบนี้เลย” นพ.วาโยกล่าว
นพ.
วาโยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนและพรรค ก.ก. ไม่ได้ขัดอะไรเรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์เลย โดยหากจะเสนอที่ไปไกลกว่านั้น ก็ยังไม่ได้คัดค้านอะไร หากมีมาตรการเพื่อการควบคุมการใช้อย่างรัดกุมและมีการดำเนินการที่เป็นไปตามหลักสากล
“อย่างล่าสุด ที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ เข้าสภาในวาระที่ 2 ผมและพรรคก้าวไกลเราก็ลงมติให้เดินหน้าพิจารณาต่อนะ เพราะเรายึดมั่นตามหลักการตามระบบรัฐสภา และเราต้องการให้มีกฎหมายออกมาควบคุมเรื่องกัญชาให้เร็วที่สุด ถึงเราจะไม่ได้เห็นด้วยในสาระสำคัญส่วนใหญ่ก็เถอะ”
“ขนาดผมอยู่ฝ่ายค้าน แต่ก็ยังคงแสดงความเห็นและลงมติไปตามหลักการเสมอมานะ ไม่เคยตีรวนนอกเรื่องอะไรไป เอาจริงๆ ผมว่าท่านอย่ามาโต้ไปโต้มากับผมเลย เอาเวลาไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลของท่านดีกว่า ฟังคนอื่นเขาบ้าง เขาชี้ให้ท่านเห็นปัญหาและนำเสนอแนวทางแก้ไข แต่ท่านก็ไม่ฟัง จนแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลเองยังต้องโหวตสวนปัดตกร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่ท่านเสนอมา ยังดีนะที่เขาโหวตสวนปัดให้กลับไปแก้มาใหม่ ไม่ใช่โหวตคว่ำกลางวาระ 2 ถ้าเป็นแบบนั้นนี่ต้องยุบสภาเลยนะครับ กฎหมายที่รัฐมนตรีเสนอมาแล้วถูกสภาโหวตคว่ำกลางคัน” นพ.
วาโยกล่าว
นพ.
วาโยกล่าวว่า ตนไม่ได้อยากดังและไม่ได้โกรธอะไรรัฐมนตรีเลย ที่พูดก็เพราะเป็นห่วงเด็กและเยาวชนจริงๆ และอยากให้ประเทศไทยมีรัฐมนตรีที่รับฟังผู้คนอย่างรอบด้าน ทุ่มเทให้กับการทำงานในกระทรวงมากกว่าเสียเวลาไปกับการดูแลลูกหาบและดึงคนจากพรรคอื่น
ส.อ.ท.จับตาพายุโนรู โรงงานรับมือน้ำท่วม
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_419138/
ประธาน ส.อ.ท. เผย อากาศทั่วโลกแปรปรวน จับตาพายุโนรูใกล้ชิด โรงงานเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม
นาย
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สำหรับพายุ “
โนรู” ที่จะส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักในประเทศไทยช่วงระยะนี้นั้น ทางส.อ.ท.และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ได้ติดตามข่าวสารและประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทั่วโลกในช่วงนี้มีอากาศที่แปรปรวน เกิดน้ำท่วมในหลายประเทศ ซึ่งเราเองก็มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและพื่นที่ที่มีความเสี่ยงจากพายุ
ทั้งนี้โรงงานต่างๆ ที่อยู่ในแถบที่มีความเสี่ยง ก็ได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ เตรียมกระสอบทราย เพื่อป้องกันและรับมือหากเกิดน้ำท่วมในเบื้องต้นแล้ว
JJNY : หนี้ทะลุ 10 ล้านล้านแล้ว!│หมอเก่งซัดต่อ สอนอนุทินอย่าใช้ตรรกะวิบัติ│ส.อ.ท.จับตาพายุโนรู│โคราชอ่วม ฤทธิ์พายุโนรู
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7290760
เพื่อไทย จวกรัฐบาล คิดจะกู้อีก 1 ล้านล้านบาท สร้างภาระหนี้เพิ่ม เกินจีดีพีแล้ว เผยไทยมีหนี้สินรวม 10 ล้านล้าน เป็นเรื่องอันตรายมาก ชี้ควรปล่อยรัฐบาลใหม่ทำ
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึง ครม.รับทราบแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1,052,785.47 ล้านบาท โดยกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 695,000 ล้านบาท กู้เพื่อเสริมสภาพคล่องคงค้างให้เพียงพอกับการเบิกจ่าย วงเงิน 45,000 ล้านบาท กู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ กฟผ.วงเงิน 85,000 ล้านบาท กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วงเงิน 30,000 ล้านบาทว่า ไม่แปลกใจที่รัฐบาลกู้มาเพื่อโปะงบประมาณ เพราะตลอด 8 ปี รัฐบาลกู้เงินมาตลอด
อยากถามว่าเวลานี้ หนี้สาธารณะที่ออกกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะ รัฐบาลกู้ทุกปี จนใกล้ชนเพดานหนี้สาธารณะแล้ว หากรัฐบาลกู้อีก 1 ล้านล้านก็จะเกินจีดีพี
สำนักบริหารหนี้สาธารณะรายงานเมื่อเดือน ก.ค.65 ไทยมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 10 ล้านล้าน หากกู้เพิ่มอีกจะเป็น 11 ล้านล้านบาท ซึ่งอันตรายมาก รัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่ากู้เงินรอบใหม่จะนำเงินไปทำอะไร เงินกู้มหาศาลจะนำมาพลิกฟื้นสร้างเศรษฐกิจได้หรือไม่ น่าประหลาดใจที่รัฐบาลอ้างว่าเศรษฐกิจฟื้น แต่ทำไมเก็บภาษีพลาดเป้าทุกปี
นายสมคิด กล่าวต่อว่า การกู้เงินรอบใหม่ รัฐบาลจำเป็นต้องออกเป็นพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)เงินกู้นำเข้าสู่สภา เพื่อขอรับการอนุมัติ ดังนั้น ต้องบอกความจริงกับประชาชน มีรายละเอียดการใช้เงินที่ชัดเจน อย่ายื่นมาเพียงกระดาษแผ่นเดียว เหมือนเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้กู้เงินช่วงปลายรัฐบาล ไม่มีรัฐบาลไหนเขาทำกัน ขอเตือนว่ารัฐบาลไม่ควรนำเงินกู้ไปทำโครงการใหม่ ควรให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการ โดยมารยาทไม่ควรทำ
นอกจากนี้อยากให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรักษาการนายกฯ ช่วยตรวจสอบเงินกองทุนประกันภัย ที่จะเยียวยาให้กับผู้เอาประกันภัยจากสถานการณ์โควิด ที่ซื้อประกันโควิด เจอจ่ายจบ ผู้ซื้อประกันกว่า 680,000 คน ยังไม่มีใครได้เงินเลย เพราะบริษัทประกันภัยปิดกิจการ รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร พรรคเคยทวงถามจากรัฐบาล แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ อยากถามว่าเมื่อไหร่รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้ ประชาชนเดือดร้อนแต่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ปัญหาของประชาชน รัฐบาลกลับไม่สนใจแล้วจะไปสนใจเรื่องอะไร
หมอเก่งซัดต่อ สอนอนุทินอย่าใช้ตรรกะวิบัติ เหน็บเพราะไม่ฟังใคร กฎหมายกัญชาจึงถูกพรรคร่วมรัฐบาลโหวตคว่ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3588298
เมื่อวันที่ 28 กันยายน นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ตอบโต้ ถึงกรณีที่ นพ.วาโยแนะให้ไปศึกษาวิชาแพทย์ให้ถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะออกนโยบายสาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องกัญชาว่า ตนและพรรค ก.ก. เป็นพรรคที่ยืนหยัดอยู่บนหลักการโดยมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะเตือนและชี้ให้เห็นข้อบกพร่อง และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้รัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีได้รู้ ได้เห็น และรับฟัง เพื่อนำไปปรับใช้และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม
“แต่ปัญหาคือ ทุกครั้งก็มักจะออกมาเป็นว่า ไม่รับฟังอะไรเลย ปัญหามันเกิดขึ้นจริงๆ คุณต้องยอมรับสิ แต่ไม่เคยเลยที่จะออกมาโต้แย้งด้วยหลักการและเหตุผล นำเสนอข้อมูลประกอบการโต้แย้งที่มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือเพียงพอ และเป็นที่ยอมรับในแวดวงวิชาการ แต่มักตีรวนไปเรื่องอื่น ผมไม่อยากเห็นรัฐมนตรีของประเทศไทยใช้ตรรกะวิบัติแบบนี้เลย” นพ.วาโยกล่าว
นพ.วาโยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนและพรรค ก.ก. ไม่ได้ขัดอะไรเรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์เลย โดยหากจะเสนอที่ไปไกลกว่านั้น ก็ยังไม่ได้คัดค้านอะไร หากมีมาตรการเพื่อการควบคุมการใช้อย่างรัดกุมและมีการดำเนินการที่เป็นไปตามหลักสากล
“อย่างล่าสุด ที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ เข้าสภาในวาระที่ 2 ผมและพรรคก้าวไกลเราก็ลงมติให้เดินหน้าพิจารณาต่อนะ เพราะเรายึดมั่นตามหลักการตามระบบรัฐสภา และเราต้องการให้มีกฎหมายออกมาควบคุมเรื่องกัญชาให้เร็วที่สุด ถึงเราจะไม่ได้เห็นด้วยในสาระสำคัญส่วนใหญ่ก็เถอะ”
“ขนาดผมอยู่ฝ่ายค้าน แต่ก็ยังคงแสดงความเห็นและลงมติไปตามหลักการเสมอมานะ ไม่เคยตีรวนนอกเรื่องอะไรไป เอาจริงๆ ผมว่าท่านอย่ามาโต้ไปโต้มากับผมเลย เอาเวลาไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลของท่านดีกว่า ฟังคนอื่นเขาบ้าง เขาชี้ให้ท่านเห็นปัญหาและนำเสนอแนวทางแก้ไข แต่ท่านก็ไม่ฟัง จนแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลเองยังต้องโหวตสวนปัดตกร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่ท่านเสนอมา ยังดีนะที่เขาโหวตสวนปัดให้กลับไปแก้มาใหม่ ไม่ใช่โหวตคว่ำกลางวาระ 2 ถ้าเป็นแบบนั้นนี่ต้องยุบสภาเลยนะครับ กฎหมายที่รัฐมนตรีเสนอมาแล้วถูกสภาโหวตคว่ำกลางคัน” นพ.วาโยกล่าว
นพ.วาโยกล่าวว่า ตนไม่ได้อยากดังและไม่ได้โกรธอะไรรัฐมนตรีเลย ที่พูดก็เพราะเป็นห่วงเด็กและเยาวชนจริงๆ และอยากให้ประเทศไทยมีรัฐมนตรีที่รับฟังผู้คนอย่างรอบด้าน ทุ่มเทให้กับการทำงานในกระทรวงมากกว่าเสียเวลาไปกับการดูแลลูกหาบและดึงคนจากพรรคอื่น
ส.อ.ท.จับตาพายุโนรู โรงงานรับมือน้ำท่วม
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_419138/
ประธาน ส.อ.ท. เผย อากาศทั่วโลกแปรปรวน จับตาพายุโนรูใกล้ชิด โรงงานเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สำหรับพายุ “โนรู” ที่จะส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักในประเทศไทยช่วงระยะนี้นั้น ทางส.อ.ท.และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ได้ติดตามข่าวสารและประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทั่วโลกในช่วงนี้มีอากาศที่แปรปรวน เกิดน้ำท่วมในหลายประเทศ ซึ่งเราเองก็มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและพื่นที่ที่มีความเสี่ยงจากพายุ
ทั้งนี้โรงงานต่างๆ ที่อยู่ในแถบที่มีความเสี่ยง ก็ได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ เตรียมกระสอบทราย เพื่อป้องกันและรับมือหากเกิดน้ำท่วมในเบื้องต้นแล้ว