บอกก่อนว่าเราไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ไม่เคยทำงานเลย ที่นี่คือที่แรก
เราเข้าไปสมัครงาน แล้วก็ได้เริ่มงานในวันถัดไป
วันแรกที่ไปเข้างาน ก็จัดของ เช็ดShelf(ชั้นวางของ) พักกินข้าวแบบเรียงคิวแบบไปกินทีละคน
วันที่ 2 ได้ยืนเครื่อง คิดเงินให้ลูกค้าแล้ว เราก็แบบเงอะๆงะๆ คิดเงินช้า เพราะยังใหม่อยู่ ก็มีพี่พนักงานคนอื่นๆช่วยสอน
ลูกค้าบางคน grabบางคน ว่าเราว่าคิดเป็นมั้ยเนี่ย ช้า ถอนหายใจใส่ วีนใส่บ้าง บางคนมาถามหาของ เราก็ไม่รู้ว่ามันมีหรือหมด เราก็บอกลูกค้าว่า รอสักครู่นะคะ แล้วก็ไปถาม ผจก.หรือไม่ก็ sl ก็โดนลูกค้าบ่น แค่นี้ก็ไม่รู้ เป็นพนักงานอะไรทำไมไม่รู้ บลาๆ (คิดในใจก็พึ่งมาสมัครทำงานจะไปรู้ดีได้ไง ป้ายทีหน้าอกก็ติดอยู่ว่า พนง.ใหม่ เห้อออออ )
ผ่านไป 1 อาทิตย์ เข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 เริ่มคิดเงินได้ดีกว่าเดิม แต่ยังมีหลายๆอย่างที่ยังทำไม่ค่อยเป็น เช่น ลูกค้ามาชำระเงิน บัตร gift card ชำระบิล ลูกค้าฝากเงิน โอนเงิน ชำระค่าเน็ตโทรศัพท์ ออเดอร์Grab
อ่าาาแล้วก็มาถึงเรื่องที่ต้องการจะเล่าจริงๆสักที
คือมีป้าคนหนึ่งมาซื้อของ ซื้อกะละมัง ซื้อของบลาๆๆ เราก็คิดเงินตามปกติ แล้วทีนี้เราเห็นว่าป้าไม่มีกระเป๋าผ้า หรือเตรียมถุงมาใส่ ก็ถามป้าคนนั้นว่า " ลูกค้ารับถุงมั้ยคะ เหลือแต่ถุงใบละ 4 บาท กับ 6 บาท " เท่านั้นแหละ ป้าแกก็วีนเลยจ้าาา บอกฉันว่า " แค่นี้ก็คิดไม่ได้หรอ ! ว่าควรใส่ถุงหรือไม่ใส่ถุง ! "
นี่ก็คิดในใจฉันก็ทำตามหน้าที่ของฉันอะ ถุงมันมี ราคา 1 บาท 4 บาท 6 บาท วันนั้นถุง 1 บาทมันหมด ก็เหลือ 4 บาท กับ 6 บาท
ป้าก็ถามฉันอีกว่า " ถุง 4 บาท มันสมควรซื้อมั้ย! แค่นี้ก็คิดไม่ได้หรอ! ทำไมไม่เหมือนกับ......เขาให้ถุงฟรี แล้วบ้านฉันก็อยู่ใกล้ๆแถวนี้ ฉันเอารถมอเตอร์ไซค์มา ฉันไม่ได้ขับรถยนต์มา แล้วถ้าไม่มีถุงจะถือไปยังไง !!! มันสมควรซื้อหรอถุง 4 บาท " พูดแบบนี้วนอยู่ 2 รอบมั้งแล้วก็โวยวายเสียงดังลั่นร้าน แล้วเราก็เลยตอบกลับไปว่า "ลูกค้าก็ซื้อถุงไงคะ " แล้วป้าแกก็บอก " งั้นไม่เอาแล้ว เอาสินค้าอันนี้ออก ซื้อไปก็ถือกลับไปไม่ได้ " ผจก.ก็มาเอาของที่คิดไว้ออกให้ ป้าคนนั้นก็เดินออกจากร้านไป พร้อมกับพูดว่า "แค่นี้ก็คิดไม่ได้ว่ามันสมควรซื้อมั้ยถุง4บาท "
เราหันหน้ามามอง ผจก.แล้วบอกว่า เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวนะพี่
พี่ ผจก.ก็บอกว่า เขาอยู่แถวนี้ มาซื้อของบ่อย ก็น่าจะรู้ ( รู้ว่าที่นี่ไม่ได้ให้ถุงฟรีเหมือนแต่ก่อนตั้งนานแล้ว )
เรานี่ถอนหายใจรัวๆ แต่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรป้าแกได้ อันนี้คิดเล่นๆนะ ถ้าไม่ได้เป็นพนักงานนี่ จะสวนป้าให้หน้าหงายเลย
แล้วก็มาเจออีก เราก็คิดเงินให้เต็มที่แล้ว ดีที่สุดแล้วก็ยังมาบ่นเราว่า คิดเงินช้า ทอนตังช้า ทีหลังก็พัฒนาเครื่องคิดเงินให้มันคิดเร็วๆด้วย เปลี่ยนเครื่องไปเลย ลีลา !
เราท้อมากเจอลูกค้าแบบนี้ ลูกค้าบางคนก็ดูถูก มองเราเป็นเหมือนขี้ข้า พูดไม่ดีกับเรา คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้าแล้วจะต้องเป็นพระเจ้าเสมอไปหรอ นิสัยไม่ดีแบบนี้ไม่สมควรเป็นพระเจ้าหรอกค่าาา เห้อออ เราก็คนเหมือนคุณแค่มาสมัครเป็นพนักงาน ทำไมเป็นพนักงานแคชเชียร์พนักงานร้านสะดวกซื้อมันดูต่ำต้อยขนาดนั้นเลยหรอคะ ลูกค้าที่ดีมีเยอะค่ะ แต่ลูกค้าที่ไม่ดีก็ไม่ใช่น้อยๆเลย
น่าเศร้า 🙂 นี่สินะงานบริการ หื้ออออ
เล่าประสบการณ์การเป็นพนักงานแคชเชียร์ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งกับการเจอลูกค้าที่นิสัยไม่น่ารัก
เราเข้าไปสมัครงาน แล้วก็ได้เริ่มงานในวันถัดไป
วันแรกที่ไปเข้างาน ก็จัดของ เช็ดShelf(ชั้นวางของ) พักกินข้าวแบบเรียงคิวแบบไปกินทีละคน
วันที่ 2 ได้ยืนเครื่อง คิดเงินให้ลูกค้าแล้ว เราก็แบบเงอะๆงะๆ คิดเงินช้า เพราะยังใหม่อยู่ ก็มีพี่พนักงานคนอื่นๆช่วยสอน
ลูกค้าบางคน grabบางคน ว่าเราว่าคิดเป็นมั้ยเนี่ย ช้า ถอนหายใจใส่ วีนใส่บ้าง บางคนมาถามหาของ เราก็ไม่รู้ว่ามันมีหรือหมด เราก็บอกลูกค้าว่า รอสักครู่นะคะ แล้วก็ไปถาม ผจก.หรือไม่ก็ sl ก็โดนลูกค้าบ่น แค่นี้ก็ไม่รู้ เป็นพนักงานอะไรทำไมไม่รู้ บลาๆ (คิดในใจก็พึ่งมาสมัครทำงานจะไปรู้ดีได้ไง ป้ายทีหน้าอกก็ติดอยู่ว่า พนง.ใหม่ เห้อออออ )
ผ่านไป 1 อาทิตย์ เข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 เริ่มคิดเงินได้ดีกว่าเดิม แต่ยังมีหลายๆอย่างที่ยังทำไม่ค่อยเป็น เช่น ลูกค้ามาชำระเงิน บัตร gift card ชำระบิล ลูกค้าฝากเงิน โอนเงิน ชำระค่าเน็ตโทรศัพท์ ออเดอร์Grab
อ่าาาแล้วก็มาถึงเรื่องที่ต้องการจะเล่าจริงๆสักที
คือมีป้าคนหนึ่งมาซื้อของ ซื้อกะละมัง ซื้อของบลาๆๆ เราก็คิดเงินตามปกติ แล้วทีนี้เราเห็นว่าป้าไม่มีกระเป๋าผ้า หรือเตรียมถุงมาใส่ ก็ถามป้าคนนั้นว่า " ลูกค้ารับถุงมั้ยคะ เหลือแต่ถุงใบละ 4 บาท กับ 6 บาท " เท่านั้นแหละ ป้าแกก็วีนเลยจ้าาา บอกฉันว่า " แค่นี้ก็คิดไม่ได้หรอ ! ว่าควรใส่ถุงหรือไม่ใส่ถุง ! "
นี่ก็คิดในใจฉันก็ทำตามหน้าที่ของฉันอะ ถุงมันมี ราคา 1 บาท 4 บาท 6 บาท วันนั้นถุง 1 บาทมันหมด ก็เหลือ 4 บาท กับ 6 บาท
ป้าก็ถามฉันอีกว่า " ถุง 4 บาท มันสมควรซื้อมั้ย! แค่นี้ก็คิดไม่ได้หรอ! ทำไมไม่เหมือนกับ......เขาให้ถุงฟรี แล้วบ้านฉันก็อยู่ใกล้ๆแถวนี้ ฉันเอารถมอเตอร์ไซค์มา ฉันไม่ได้ขับรถยนต์มา แล้วถ้าไม่มีถุงจะถือไปยังไง !!! มันสมควรซื้อหรอถุง 4 บาท " พูดแบบนี้วนอยู่ 2 รอบมั้งแล้วก็โวยวายเสียงดังลั่นร้าน แล้วเราก็เลยตอบกลับไปว่า "ลูกค้าก็ซื้อถุงไงคะ " แล้วป้าแกก็บอก " งั้นไม่เอาแล้ว เอาสินค้าอันนี้ออก ซื้อไปก็ถือกลับไปไม่ได้ " ผจก.ก็มาเอาของที่คิดไว้ออกให้ ป้าคนนั้นก็เดินออกจากร้านไป พร้อมกับพูดว่า "แค่นี้ก็คิดไม่ได้ว่ามันสมควรซื้อมั้ยถุง4บาท "
เราหันหน้ามามอง ผจก.แล้วบอกว่า เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวนะพี่
พี่ ผจก.ก็บอกว่า เขาอยู่แถวนี้ มาซื้อของบ่อย ก็น่าจะรู้ ( รู้ว่าที่นี่ไม่ได้ให้ถุงฟรีเหมือนแต่ก่อนตั้งนานแล้ว )
เรานี่ถอนหายใจรัวๆ แต่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรป้าแกได้ อันนี้คิดเล่นๆนะ ถ้าไม่ได้เป็นพนักงานนี่ จะสวนป้าให้หน้าหงายเลย
แล้วก็มาเจออีก เราก็คิดเงินให้เต็มที่แล้ว ดีที่สุดแล้วก็ยังมาบ่นเราว่า คิดเงินช้า ทอนตังช้า ทีหลังก็พัฒนาเครื่องคิดเงินให้มันคิดเร็วๆด้วย เปลี่ยนเครื่องไปเลย ลีลา !
เราท้อมากเจอลูกค้าแบบนี้ ลูกค้าบางคนก็ดูถูก มองเราเป็นเหมือนขี้ข้า พูดไม่ดีกับเรา คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้าแล้วจะต้องเป็นพระเจ้าเสมอไปหรอ นิสัยไม่ดีแบบนี้ไม่สมควรเป็นพระเจ้าหรอกค่าาา เห้อออ เราก็คนเหมือนคุณแค่มาสมัครเป็นพนักงาน ทำไมเป็นพนักงานแคชเชียร์พนักงานร้านสะดวกซื้อมันดูต่ำต้อยขนาดนั้นเลยหรอคะ ลูกค้าที่ดีมีเยอะค่ะ แต่ลูกค้าที่ไม่ดีก็ไม่ใช่น้อยๆเลย
น่าเศร้า 🙂 นี่สินะงานบริการ หื้ออออ