บันทึกไว้ว่าไปมาแล้ว..อุทยานแห่งชาติขุนตาน 24-25 กันยายน 2565

เรื่องเที่ยวน่ะไม่กลัว กลัวจะไม่ได้เที่ยวซะมากกว่า
เมฆทมึนก่อตัวมาตั้งแต่รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสถานีพิษณุโลก
สถานีปลายทาง ขุนตาน จ. ลำพูน
จะเข้าหน้าหนาวอยู่แล้วรออีกนิดก็ไม่ได้..ทำตัวเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตตลอดซะอย่างงั้น
“ก็ถ้าไม่เที่ยวตอนนี้แล้วจะไปเที่ยวตอนไหน”
หวูดดังหวีด หวิวหวูด สุดเสียงแว่ว
กังวานแล้วค่อยจางหายกับสายฝน
ออกเดินทางผ่านทิวทุ่งมุ่งผจญ
ท่ามผู้คนบนรถไฟไปขุนตาน
นี่เราออกเดินทางก่อนตะวันจะขึ้นเสียอีก
ณ เวลา 04.40 น.
เลือกใช้บริการรถด่วน (Express) เพราะราคาน่าคบหา ตกคนละ 552 บาท ทั้งไปและกลับ
ไม่จำเป็นต้องนั่งตู้นอนให้เปลืองสะตุ้งสตังค์ ใช้เวลาเดินทางแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น ชมวิวข้างทางเพลินๆ เดี๋ยวก็ถึงปลายทางเองแหละเนอะ
++ ก๋อยจำสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ต้องนั่งรถไฟกลับบ้านที่ กทม. จองตั๋วรถเร็ว ราคาโอเค พอมีปัญญาจ่าย
ช่วงเทศกาลลองนึกดูว่าคนมหาศาลบานตะไท แถมขึ้นกลางทางอีก บางครั้งจึงไม่มีที่นั่ง
ทำงัยได้ทางเลือกเรามีน้อยเหลือเกิน ก็ต้องยืนหลับบ้าง แอบนั่งหลับพิงเก้าอี้เค้าบ้าง..นึกแล้วก็สงสารตัวเองนะ
แต่มานึกอีกทีก๋อยว่านี่แหละ “รสชาติของชีวิต” มันก็ต้องมีหวาน มีขม กลมกล่อมจะตายไป ++
ข้อดีของการนั่งรถไฟ = ฉันไม่แคร์
ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง ถ้าชอบชีวิต Slow life นั่งรถไฟคือตอบโจทย์
การเดินทางไปขุนตานเริ่มต้นมาจากวันหยุดที่มีน้อยนิด ใช้เวลาโดยประมาณ 2 วัน 1 คืน ทริปเล็กๆ ที่เราสามารถทำเวลาได้ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ รออะไรล่ะก๋อย จองตั๋วรถไฟผ่านออนไลน์กันไปเลย จองที่พักอุทยานให้เรียบร้อยด้วยล่ะ ส่วน Q-Que ก็อย่าให้ขาดตกบกพร่อง
รวมค่าใช้จ่ายให้คร่าวๆ สำหรับทริปนี้
ค่าที่พักอุทยาน 500 บาท สำหรับ 2 คน
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 40 บาท
ค่าตั๋วรถไฟ 1,104 บาท (รถด่วน ชั้น 2 อากาศปรับเองโดยการดึงหน้าต่างเปิด-ปิด)
ค่ากินดื่ม 1,500 บาท
ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ขี่ไปขึ้นรถไฟ 50 บาท
3,194 บาท (ตกคนละ 1,597 บาท)
อุทยานแห่งชาติขุนตาน
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตานมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีอุโมงค์ขุนตานซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยชาวเยอรมัน มีเนื้อที่ประมาณ 159,556.25 ไร่ หรือ 255.29 ตารางกิโลเมตร ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 54 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2518 ให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 10 ของประเทศไทย
ศึกษาเกี่ยวกับสภาพถูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศ และข้อมูลอื่นๆ ของอุทยานได้ที่นี่เลยจ้า
https://nps.dnp.go.th/parksdetail.php?id=140

จากสถานีรถไฟ การเดินทางไปที่ทำการอุทยานค่อนข้างสะดวก (หรือเปล่า..ดูเอาเองนะจ๊ะ 555) คือเดินไปตามทางเดินธรรมชาติและถนนภายในอุทยานประมาณ 1.3 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการแล้ว หน้าฝนทางก็จะประมาณนี้ รองเท้าดีๆ จึงสำคัญเพราะกันลื่นล้มได้จ้า
หึหึหึ..แต่จะว่าไปก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะต้องแบกสัมภาระขึ้นไปเอง ถามว่ารถมีบริการมั้ย???
มีจ้า เที่ยวละ 300 บาท นั่งได้ 6 คน (แอบเสียดายงินเนอะ ถือว่าเรามาออกกำลังกายก็แล้วกัน)..ฮุยเลฮุย!
ปล. ไม่คิดว่า 1.3 กม. จะเล่นเอาหอบขนาดนี้ ร่างกายต้องพร้อมระดับหนึ่งเลยแหละ ไปติดตามตอนต่อไปกันจ้า

ทริปเทาเทา @ดอยขุนตาน (เทาน่ะเมฆนะ)
เมฆทมึนก่อตัวมาตั้งแต่รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสถานีพิษณุโลก
สถานีปลายทาง ขุนตาน จ. ลำพูน
จะเข้าหน้าหนาวอยู่แล้วรออีกนิดก็ไม่ได้..ทำตัวเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตตลอดซะอย่างงั้น
ช่วงเทศกาลลองนึกดูว่าคนมหาศาลบานตะไท แถมขึ้นกลางทางอีก บางครั้งจึงไม่มีที่นั่ง
ทำงัยได้ทางเลือกเรามีน้อยเหลือเกิน ก็ต้องยืนหลับบ้าง แอบนั่งหลับพิงเก้าอี้เค้าบ้าง..นึกแล้วก็สงสารตัวเองนะ
แต่มานึกอีกทีก๋อยว่านี่แหละ “รสชาติของชีวิต” มันก็ต้องมีหวาน มีขม กลมกล่อมจะตายไป ++
ค่าที่พักอุทยาน 500 บาท สำหรับ 2 คน
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 40 บาท
ค่าตั๋วรถไฟ 1,104 บาท (รถด่วน ชั้น 2 อากาศปรับเองโดยการดึงหน้าต่างเปิด-ปิด)
ค่ากินดื่ม 1,500 บาท
ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ขี่ไปขึ้นรถไฟ 50 บาท
3,194 บาท (ตกคนละ 1,597 บาท)
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตานมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีอุโมงค์ขุนตานซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยชาวเยอรมัน มีเนื้อที่ประมาณ 159,556.25 ไร่ หรือ 255.29 ตารางกิโลเมตร ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 54 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2518 ให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 10 ของประเทศไทย
จากสถานีรถไฟ การเดินทางไปที่ทำการอุทยานค่อนข้างสะดวก (หรือเปล่า..ดูเอาเองนะจ๊ะ 555) คือเดินไปตามทางเดินธรรมชาติและถนนภายในอุทยานประมาณ 1.3 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการแล้ว หน้าฝนทางก็จะประมาณนี้ รองเท้าดีๆ จึงสำคัญเพราะกันลื่นล้มได้จ้า
มีจ้า เที่ยวละ 300 บาท นั่งได้ 6 คน (แอบเสียดายงินเนอะ ถือว่าเรามาออกกำลังกายก็แล้วกัน)..ฮุยเลฮุย!