JJNY : 5in1 หนี้ครัวเรือนพุ่ง!│ปลดฟ้าผ่า!‘Shopee’│ณัฐวุฒิชี้ชัด‘ตู่’หมดสภาพ│ก้าวไกลจับมือกทม.│โนรูมุ่งหน้ามาเวียดนามไทย

หนี้ครัวเรือนพุ่ง! ไตรมาส 2 ทะลุ 88% ต่อจีดีพี เผยยอดหนี้รวม 3 ล้านล้านบาท
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7285814
 
 
หนี้ครัวเรือนพุ่ง! ไตรมาส 2 ทะลุ 88% ต่อจีดีพี เผยยอดหนี้รวมเกือบ 3 ล้านล้านบาท แบงก์ชาติจ่อคลอดนโยบายแก้หนี้ยั่งยืน
  
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2565 นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจไทยที่สะสมมานาน และซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยให้รุนแรงขึ้นในช่วงโควิด เห็นได้จากปี 2553 หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 60% ของจีดีพี ผ่านไป 10 ปี หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 80% ของจีดีพีในปี 2562 และล่าสุดไตรมาส 2/2565 หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 88% ของจีดีพี ในช่วงโควิด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการทางการเงินหลากหลายเพื่อช่วยกลุ่มลูกหนี้ให้ตรงจุด รวดเร็ว และเหมาะสมกับทุกสถานการณ์
 
นายเศรษฐพุฒิ กล่าวต่อว่า ระยะถัดไป ธปท. จะออกแนวทางนโยบายการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืน ภายในปี 2565 เพื่อสื่อสารทิศทางการดำเนินงานของ ธปท.ที่จะผลักดันในอนาคต และแนวทางการทำงานร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ ในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาไปอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ออกหลักเกณฑ์เรื่องการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) ที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งครอบคลุมถึงหนี้ใหม่ที่มีคุณภาพ และการให้ข้อมูลลูกหนี้ที่ควรรู้ เพื่อปรับพฤติกรรมให้เกิดวินับทางการเงินและลดการก่อหนี้เกินตัว เป็นต้น นอกจากนี้ จะพัฒนาแผนงานต่อไปเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านพ้นไปได้ และส่งเสริมเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
 
นายเศรษฐพุฒิ กล่าวอีกว่า ภาคการเงินเป็นกลไกสำคัญในการส่งผ่านความช่วยเหลือไปสู่ลูกหนี้ โดยเดือน ก.ค. 2563 สถาบันการเงินได้ช่วยเหลือลูกหนี้สะสมสูงสุดอยู่ที่ 12.5 ล้านบัญชี ยอดหนี้รวม 7.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นราว 40% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบ ทยอยลดลงมาตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งล่าสุด ณ เดือน มิ.ย. 2565 ค่าคงเหลือลูกหนี้อยู่ที่ 3.9 ล้านบัญชี ยอดหนี้เกือบ 3 ล้านล้านบาท หรือ 14% ของสินเชื่อรวม
นายเศรษฐพุฒิ กล่าวต่อว่า เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด หรือสมู้ดเทคออฟ การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนจึงมี 3 องค์ประกอบหลัก คือ 
 
1.ต้องทำอย่างครบวงจร สอดคล้องกับลักษณะปัญหาในแต่ละช่วงของการเป็นหนี้ โดยในช่วงตั้งแต่ก่อนก่อหนี้ต้องสร้างวินัยทางการเงินให้ลูกหนี้
นายเศรษฐพุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนของเจ้าหนี้ต้องปล่อยหนี้อย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับความสามารถการชำระหนี้ และให้ข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้กู้ เช่น การให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) ช่วงขณะเป็นหนี้ต้องสร้างกลไกช่วยลูกหนี้ ให้ชำระหนี้ได้เร็วขึ้น เพื่อให้หนี้ไม่พอกพูน เช่น กลไล Risk-based Pricing คือ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อโดยเพิ่มการประเมินความเสี่ยงเข้ากับต้นทุน สำหรับการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
 
โดยความเสี่ยงที่เพิ่มเข้าไปขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้ขอสินเชื่อ จะช่วยให้ลูกหนี้รับดอกเบี้ยลดลง และเหมาะสมกับความเสี่ยงของตน รวมทั้งมีแนวทางรีไฟแนนซ์หนี้สะดวกขึ้นในต้นทุนที่เหมาะสม และในช่วงที่มีปัญหาชำระหนี้ ควรมีกลไกสนับสนุนการแก้ปัญหาหนี้ให้เป็นมาตรฐาน เพื่อช่วยลูกหนี้หลุดจากวงจรหนี้ได้ เช่น การไกล่เกลี่ยหนี้นอกศาล หรือการแก้หนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย
 
2. ต้องทำให้ถูกหลักการ โดยพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม รู้ว่าอะไรควรทำ และที่สำคัญรู้ว่าอะไรไม่ควรทำ หลักๆ คือ
2.1 ต้องแก้หนี้ให้ตรงจุด สอดคล้องกับปัญหาลูกหนี้
2.2 ไม่สร้างภาระเพิ่มให้ลูกหนี้ในอนาคต
2.3 ไม่ลดโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ
และ 2.4 เจ้าหนี้และลูกหนี้ต้องร่วมมือกัน และตั้งใจจริงในการแก้ไขหนี้
ซึ่งการดำเนินการภายใต้หลักการเหล่านี้ต้องใช้เวลา เพราะหนี้ครัวเรือนไมยเป็นปัญหาสะสมมานานและเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากฝั่งเจ้าหนี้และลูกหนี้ จึงไม่สามารถแก้ได้ด้วยมาตรการเดียว แต่ต้องอาศัยมาตรการที่หลากหลายและต้องดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง
 
3. บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเงินในฐานะเจ้าหนี้ที่ต้องให้สินเชื่อใหม่โดยคำนึงถึงศักยภาพลูกหนี้ในการชำระหนี้มากขึ้น พร้อมกับให้ข้อมูลที่ได้กระตุ้นการก่อหนี้เกินตัว ภาครัฐมีบทบาทในการสร้างรายได้ และเตรียมโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้านข้อมูลที่เอื้อต่อการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ภาคเอกชนก็ต้องยกระดับบทบาทนายจ้างในการดูแลปัญหาหนี้ของลูกจ้าง และลูกหนี้ก็ต้องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้านการเงิน ก่อหนี้โดยการคำนึงถึงศักยภาพของตนเอง และมีวินัยในการชำระหนี้
 
ทั้งนี้ ธปท.ได้ดำเนินการแก้หนี้โดยยึดตามแนวทางข้างต้น และงานมหกรรมรวมใจแก้หนี้ในครั้งนี้ ก็เป็นการต่อยอดจากสิ่งที่ ธปท.ทำมาอย่างต่อเนื่อง โดย ธปท.ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ภาคส่วนต่างๆ เห็นถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไขเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาชำระหนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต
 
นายเศรษฐพุฒิ กล่าวต่อว่า ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ พิเศษกว่าครั้งก่อนเนื่องจากมีเจ้าหนี้เข้าร่วมกว่า 60 ราย และครอบคลุมประเภทหนี้มากขึ้น เช่น สินเชื่อบัตรเครดิตส่วนบุคคล เช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ จำนำทะเบียนรถ นาโนไฟแนนซ์ เป็นต้น ที่สำคัญเปิดโอกาสให้ลูกหนี้เจรจาแก้หนี้กับเจ้าหนี้บนข้อตกลงที่ผ่อนปรนให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ จะต้องกับความต้องการมากขึ้น


 
ปลดฟ้าผ่า! ‘Shopee’ ประเทศไทย สั่งลดพนักงาน ชี้ ‘ปรับ’ เพื่อ ‘ไปต่อ’
https://www.dailynews.co.th/news/1512640/
 
“Shopee ประเทศไทย” ปลดพนักงานฟ้าผ่าอีกหนึ่งระลอก ย้ำการปรับในครั้งนี้ เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพให้มากขึ้น
 
กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนสนใจ เมื่อมีรายงานข่าวจากหลายสำนักตรงกันว่า Shopee ประเทศไทย เตรียมประกาศเลิกจ้างพนักงานอีกระลอก หลังจากเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ได้ปลดลดพนักงานในประเทศจีน-อินโดนีเซีย 
 
โดยข่าวเลิกจ้างล่าสุด เกิดขึ้นภายหลังมีการประชุมใหญ่ในวันนี้ ซึ่งมีแจ้งเหตุผลว่า การปรับลดพนักงานในไทยลง เพื่อปรับโครงสร้างขององค์กรให้สามารถตอบรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่มีความผันผวนตลาดอีคอมเมิร์ซ มีการแข่งขันกันดุเดือด และความท้าทาย ซึ่งการปลดเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหลักเดียว
  
อย่างไรก็ตาม ยังคงยืนยันว่า การลดพนักงานลงครั้งนี้ จะไม่กระทบถึงภาพรวมการดำเนินงานของ Shopee ในประเทศไทย ทุกอย่างยังคงเดินหน้าต่อ โดยปัจจุบัน Shopee  มีพนักงานในไทยราว 1 พันคน ซึ่งการปรับทีมให้มีความคล่องตัว จึงเป็นเรื่องที่ต้องปรับเพื่อสามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้…


  
ณัฐวุฒิ ยกชัยชนะ 2 จว. ชี้ชัด ‘บิ๊กตู่’ หมดสภาพ หากรอดปม 8ปี พท.แลนด์สไลด์แน่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7285781
 
ณัฐวุฒิ แซะแรง ‘ประยุทธ์’ หมดสภาพผู้นำ แชมป์เก่าพปชร. สนามร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์ ยังไม่กล้าใช้ชื่อหาเสียง เย้ยยิ่งอยู่นาน เพื่อไทยยิ่งใกล้แลนด์สไลด์
  
วันที่ 26 ก.ย. 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า 

บางประการจากการเลือกตั้ง นายก อบจ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ปราศรัย พบปะประชาชนทั้ง 2 สนาม รวม 20 เวที สัมผัสอารมณ์ความรู้สึก ยืนสบตาคนหลายหมื่นคน พบเห็นข้อสังเกตบางแง่มุมมาเล่าสู่กันฟัง
 
1. ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยออกตัวในฐานะผู้ท้าชิง แต่พลิกกลับเอาชนะแชมป์เก่าขาดลอยทั้ง 2 สนาม
 
2. แชมป์เก่าทั้งคู่ ครั้งที่แล้วเปิดตัวเป็นพลังประชารัฐ แต่รอบนี้ไม่ได้ยินชื่อพรรคและชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากทั้ง 2 เวทีแม้แต่ครั้งเดียว ที่ร้อยเอ็ด ผู้สมัครบางคน นอกจากลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาล ยังปลดป้ายพรรคออกจากสำนักงาน แสดงตัวเป็นผู้สมัครอิสระ
 
นี่คือสภาพถดถอยอย่างยิ่งของพล.อ.ประยุทธ์ สวนทางกับภาวะผู้นำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่พุ่งขึ้นหลังนำทัพชนะแบบแลนด์สไลด์
 
เชื่อว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึง ในพื้นที่เข้มแข็งของพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายประชาธิปไตย เช่น อีสาน เหนือ และกทม. หากพล.อ.ประยุทธ์ ยังเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ไม่ว่าในฐานะแคนดิเดตนายกฯ หรืออยู่เบื้องหลัง จะเห็นผู้สมัครพรรคนั้น หาเสียงโดยเน้นคะแนนเขตเพื่อเอาตัวรอด ปล่อยคะแนนพรรคเป็นของฝ่ายประชาธิปไตย ลูกพรรคจะทิ้งพล.อ.ประยุทธ์ กลางสนาม
 
3. การบริหารงานทั้งยุคคสช.และหลังเลือกตั้ง ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในความรู้สึกประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นจุดอ่อน และตัวปัญหาใหญ่สุดของรัฐบาล การประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามพล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นจุดแข็งในการเลือกตั้ง เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันก็จะหาเสียงโดยไม่กล้าพูดชัดว่าจะร่วมรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ์อีก
 
4. นอกจากเศรษฐกิจ ปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ปัญหายาเสพติดก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้กัน คนทั้งประเทศรับรู้ ยาบ้า ยาอี ยาไอซ์ มีขายราคาถูกทุกหย่อมหญ้า 8 ปีที่ผ่านมา นายกฯไม่เคยลงมือทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ล้มละลายอย่างที่สุดในการแก้ปัญหายาเสพติด
 
5. เป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เป็นที่รับรู้ เข้าใจ และตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆจากประชาชนทุกกลุ่ม ขณะที่อีกส่วนรอความชัดเจนเรื่องนโยบาย ถ้าหลังยุบสภา เพื่อไทยประกาศนโยบายชัดเจนโดนใจ ตอบโจทย์ชีวิตคนส่วนใหญ่ แลนด์สไลด์จะไม่ใช่แค่สโลแกนหาเสียง แต่จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เหมือนที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว หมัดเด็ดของเพื่อไทยหลังจากนี้ คือนโยบาย

6. ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง ตั้งใจรอคอยการเลือกตั้ง กระแสข่าวรัฐประหารที่เริ่มส่งกลิ่น ปะทะโดยตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชน ถ้าลงมือทำ จะเป็นความท้าทายและสุ่มเสี่ยงที่สุดของฝ่ายอำนาจนิยม การยึดอำนาจคงทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายทางการเมืองจะสูงเกินคาดเดา ปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ พังไปในการเลือกตั้ง น่าจะเป็นทางเลือกที่ลงตัวกว่า
 
7. ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ รอด อยู่ต่อได้หลัง 30 ก.ย. สถานะของเขาจะเป็นเหมือนหัวคะแนนหลักของพรรคเพื่อไทย อยู่นานเท่าไหร่ เพื่อไทยก็เข้าใกล้แลนด์สไลด์เท่านั้น ไม่เชื่อก็ลองดู
  
https://www.facebook.com/Nattawut.UDD/posts/pfbid02rjohBxnHbhAhvKb3zDBQye3iTZBTx6Hrt5qfnyxdv7CnmJz8ZGwhDgULUwsrae3el
 

  
ก้าวไกล จับมือ กทม. แก้ปัญหาน้ำท่วมบางขุนเทียน
https://www.innnews.co.th/news/local/news_417608/
 
ก้าวไกล จับมือ กทม. แก้ปัญหาน้ำท่วมบางขุนเทียนเรื้อรัง หลังฝนตกต่อเนื่อง
 
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม. เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวว่าหลังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนจนเวลานี้ส่งผลให้พื้นที่เขตบางขุนเทียน โดยเฉพาะซอยเทียนทะเล 26 มีน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืนประชาชนไม่สามารถออกไปทำงานได้ รวมถึงบ้านเรือนที่มีผู้ป่วยผู้สูงอายุที่ต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ก็ประสบปัญหาจากฝนตกต่อเนื่องอย่างหนัก
 
ปัญหาที่เกิดขึ้นตนได้หารือไปยังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เพื่อเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเดิม พื้นที่ซอยเทียนทะเล 26 เป็นพื้นที่เอกชนที่มีข้อพิพาทแต่คดีจบไปแล้ว และศาลมีคำสั่งให้เขตบางขุนเทียนเป็นผู้รับดูแลเป็นพื้นที่นี้ ดังนั้นพื้นที่ซอยเทียนทะเล 26
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่