สังฆเภทใหมแบบนี้? แฉพระชาตรีเคยปิดวัด สั่งบอดี้การ์ดรุมตื้บพระฝ่ายตรงข้าม

กระทู้คำถาม
....
ศึกวันอาสาฬหบูชา! แฉพระชาตรีเคยปิดวัด สั่งบอดี้การ์ดรุมตื้บพระฝ่ายตรงข้าม
ศึกวันอาสาฬหบูชา! แฉพระชาตรีเคยปิดวัด สั่งบอดี้การ์ดรุมตื้บพระฝ่ายตรงข้าม เหมือนสงครามกลางเมือง หากพระรูปไหนไม่ยอมเข้าเป็นพวกจะโดนทำร้าย มีสงฆ์เจ็บหนักถึงขั้นกรามหัก พระชราก็ไม่เว้น!
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 26 ก.ย.65 ที่วัดพุทธปัญญา ต.บางเขน จ.นนทบุรี พระอาจารย์ธวัชชัย จนฺทวํโส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา หนึ่งในพระที่ถูกทำร้ายร่างกาย ขณะพระชาตรีเป็นรักษาการเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสเป็นคน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และพระชาตรีเป็นชาว จ.พัทลุง ทั้งคู่เป็นคนใต้ด้วยกัน จึงมีความสนิทสนม ช่วงนั้นพระชาตรีขอหนีหนาวจากประเทศรัสเซียมาพักอาศัย และอดีตเจ้าอาวาสมองว่าพระชาตรีเป็นพระหนุ่ม จึงให้มาพักที่วัด จากนั้นพระชาตรีเริ่มดึงพรรคพวกเข้ามา ช่วงเวลาดังกล่าวพระสงฆ์ในวัดแตกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสที่อาพาธ และฝ่ายพระชาตรีมีสถานะพร้อมจะปะทะกันทุกเมื่อ เหมือนสงครามกลางเมือง เพราะมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง ต้องแยกกันทำวัตรเช้า โดยพระชาตรีไปเจอพระไม่มีสังกัดนอกวัดจะดึงมาเป็นพวก และนำฆราวาสเป็นชายฉกรรจ์มาเป็นบอดี้การ์ด 5-6 คน
พระอาจารย์ธวัชชัย กล่าวอีกว่า วันเกิดเหตุรุนแรง ฝ่ายพระชาตรีเรียกประชุมช่วงหัวค่ำในวันอาสาฬหบูชา เมื่อปี 2558 มีการปิดวัด ก่อนที่ฝ่ายพระชาตรีจะใช้ความรุนแรง หากใครไม่เข้าเป็นพวกจะโดนทำร้ายร่างกาย นำทั้งมีด กระบอง และปืนมาข่มขู่ ทำให้พระหนุ่มๆ ต้องวิ่งข้ามกำแพงหลังวัด แต่มีพระที่ชราภาพรูปหนึ่งหนีไม่ทัน ถูกกลุ่มพระชาตรีกระทืบ ก่อนวิ่งมาขอความช่วยเหลือที่กุฏิอาตมา แต่ปรากฏว่ากลุ่มพระชาตรีเข้ามาแย่งโทรศัพท์อาตมา พอไปหยิบก็ถูกกระทืบจนศีรษะแตก และมีพระรูปหนึ่งบาดเจ็บกรามหัก จากนั้นมีญาติโยมและเจ้าคณะตำบลมารอหน้าประตูวัด แต่พระชาตรีสั่งห้าม พร้อมระบุหากเข้ามาจะถือว่าบุกรุกสถานที่ในยามวิกาล จากนั้นอาตมาไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ไปจำวัดที่อื่น จนกระทั่งคดีไปสิ้นสุดชั้นศาล โดยอาตมาก็ให้อภัยกับคู่กรณี
พระอาจารย์ธวัชชัย กล่าวอีกว่า กรณียักยอกเงินนั้นมาทราบหลังจากเกิดเรื่องปิดวัดครั้งนั้น โดยมีพระสังฆาธิการ ตำรวจ และเจ้าคณะตำบล มาประชุมและสั่งปลดพระชาตรีออกจากตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส แล้วตรวจสอบบัญชีการเงิน พบบัญชีเงินฝากของเจ้าคณะตำบล มีเงินหายไป 4 ล้านบาท ขณะพระชาตรีดำรงตำแหน่งรักษาการเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ เพราะมีการเปิดบัญชีใหม่ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่พระชาตรีรักษาการ ไม่มีการเบิกเงินมาซ่อมแซมวิหารหรือก่อสร้างใดๆ ตามที่พระชาตรีกล่าวอ้าง

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7285260
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่