เมื่อชีวิตคู่มันถึงทางตันแต่เรายังอยากเห็นการเติบโตของลูกเราควรทนต่อไปมั้ย??

สวัสดีค่ะ เราอยากได้คำปรึกษาที่พอจะทำให้เราตัดสินใจได้เด็ดขาดว่าจะต้องดำเนินชีวิตไปทางไหนถึงจะดีที่สุดสำหรับเราและลูก จุดเริ่มต้นคือเราคบกับแฟนคนนี้(แฟนคนจีนมาเลเซีย)ช่วงแรกๆมันดีมากดีมากจริงๆเขาใส่ใจดูแลเราแคร์ความรู้สึกเราเซอร์ไพรส์เก่งมันทำให้ผู้หญิงที่ผิดหวังกับความรักตลอดอย่างเราใจฟูมากๆจนเราคบกันมาจะครบ1ปีเขาทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานในวันเกิดเรา เราตกลงที่จะแต่งแต่แค่ไม่ถึงเดือนก็เกิดโควิดขึ้นมาทุกอย่างก็เลยหยุดไปหมด ก่อนหน้าที่จะคบกับแฟน เราทำงานกลางคืนซึ่งตอนเจอกับแฟนเรากำลังทำเงินได้เยอะมากๆแต่พอคบกันเขาก็ขอให้เลิกทำงานเราเลิกทำงานหลังจากที่เขาขอแต่งงานเพราะเราอยากจะสร้างครอบครัวแล้วคิดว่าคนนี้ใช่แล้วคนที่เราจะฝากชีวิตได้ เราตกลงกับเขาก่อนเลิกทำงานว่าถ้าเราเลิกทำงานเธอต้องให้เงินเดือนฉันเดือนละ1,500ริงกิต(ประมาณ12,000บาท)ซึ่งไม่ได้เยอะเลยเพราะเราคิดว่าเราอยู่กินกับเขาเงินนี้เราเอาไว้ซัพพอร์ตคนที่บ้านที่ไทยเฉยๆ เขาก็จ่ายให้เรามาเรื่อยๆเจอโควิดการเงินเขาก็ไม่ได้มีปัญหา แต่...หลังจากที่เราหยุดทำงานและย้ายมาอยู่กับเขาชีวิตเราเหมือนโดนตัดอิสระภาพตัดสังคมตัดเพื่อนฝูงตัดความเป็นส่วนตัวเขาขี้หึงมากๆเช็คเราทุกแอพที่สามารถส่งข้อความได้เช็คโทรศัพท์ตลอดเวลาแทบจะทุกยี่สิบนาทีใครส่งข้อความหาเราต้องรายงานเขาตลอดต้องแปลข้อความให้เขาฟังยังไม่พอเขาจะเอาแชทที่เราแปลไปเช็คในแอพแปลภาษาถ้าไม่ตรงนิดๆหน่อยๆก็ช่างนั่นคือเรื่องคอขาดบาดตายสามารถเอามาทะเลาะกับเราเป็นเรื่องใหญ่ได้และเขาไม่ให้เราออกจากบ้านถ้าเขาไม่พาไป เพื่อนเราชวนออกไปกินข้าวออกไปเจอกันก็ไม่ให้ไปเราชวนเขาไปด้วยเขาก็ไม่ให้ไปเหมือนชีวิตต่อจากนี้เราต้องมีแต่เขาโอเคเรายอมเพราะเราคิดว่าเป็นเพราะเขารักเรามากพอเกิดโควิดไม่กี่เดือนเราต้องกลับไทยเพราะเราอยู่เกินวีซ่าเรากลับประมาณ4-5เดือนตลอด4-5เดือนที่อยู่ไทยเขาไม่ให้เราออกจากบ้านเขาจะวีดีโอคอลตลอดเวลา10-20นาทีโทรพอตกกลางคืนจะวิดีโอคอลทิ้งไว้ตั้งแต่เข้านอนจนถึงตื่นเช้านั่นหมายความว่าเราไม่สามารถออกไปหาใครได้เลยทุกๆวันเขาจะถามว่ามีออกไปไหนทำอะไรไปกับใครออกไปกี่ครั้งในช่วงเวลาที่เขาไม่ได้โทรหาแค่ไม่กี่นาทีเขาให้เราออกไปได้แค่ซื้อของจำเป็นโทรเมื่อไหร่ต้องรับถ้ามีครั้งไหนไม่รับคือทะเลาะกันหนักมากเราก็ยอมเขาทุกอย่างจนกลับมาหาเขาและครั้งนี้ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปเขาเริ่มออกไปติดเล่นสนุ๊กเกอร์เล่นทั้งวันทิ้งให้เราอยู่บ้านแต่ก็ห้ามออกไปไหนล็อกบ้านไว้เริ่มพูดจาไม่ดีใส่เริ่มไม่มีเวลาให้เริ่มทะเลาะกันหนักและบ่อยขึ้นโควิดผ่านไป1ปีกว่าเขาของดจ่ายเงินเดือนเราก่อนแต่ยังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเราปกติให้เหตุผลว่าไม่ได้ทำงานเพราะโควิดเลยของดจ่ายเงินเดือนก่อนแต่การเงินเขาก็ไม่ได้มีปัญหานะเราแค่รู้สึกว่าเขาพยายามทำให้เราไปไหนไม่ได้ตัดขาดทุกอย่างและหมดเงินทุกบาทเพื่อที่เขาจะควบคุมเราแบบ100%และมันก็น่าจะจริงอย่างที่เราคิด เขาติดเล่นสนุ๊กเกอร์หนักมากให้เราไปเฝ้าตั้งแต่เช้าวันนี้จนถึงเช้าอีกวันวันไหนเราไม่ไปก็ล็อกบ้านไว้ไม่ให้เราได้ออกไปไหน เราเริ่มหมดความอดทนเพราะทะเลาะกันบ่อยเริ่มด่าเรารุนแรงเริ่มไม่แคร์ความรู้สึกเราเริ่มลงไม้ลงมือจนวันนึงที่เราตัดสินใจเด็ดขาดเก็บข้าวของตอนเขาไม่อยู่จะแอบหนีเราเลยลองใช้ที่ตรวจครรภ์ดูก่อนจะแอบออกไปแจ็คพอร์ตขึ้น2ขีดทุกอย่างเหมือนพังอีกครั้งเราร้องไห้หนักมากไม่รู้จะเอายังไงต่อ จริงๆเราปล่อยธรรมชาติมา2ปีแล้วแฟนบอกอยากมีลูกกับเราแต่ก็ไม่มีเช็คทุกเดือนไม่เคยติด พอเราจะไปทำไมถึงเป็นแบบนี้เหมือนความอดทนเราสิ้นสุดแล้วแต่กลับต้องมาเริ่มต้นความอดทนครั้งใหม่แผนหนีก็พักไว้ก่อนเราปรึกษาเพื่อนเขาก็แนะนำให้บอกแฟนเรื่องท้องเผื่อทุกอย่างจะดีขึ้นเพราะเขาอยากมีลูกกับเรา เราก็ยังไม่บอกผ่านมา2วันมีลูกค้าที่เคยติดต่อกันช่วงที่เราทำงานอยู่ดีๆทักแชทมาเราก็ไม่ได้เปิดอ่านไม่ได้ตอบเขามาเปิดเจอก็มาทะเลาะกับเรา เราก็เลยตัดสินใจบอกเรื่องท้องเขาดูดีใจมากและมาจับมือสัญญากับเราจะเปลี่ยนตัวเองจะขอใช้ชีวิตกับเราไปตลอดชีวิตขอจดทะเบียนสมรสกับเราจะเลิกทำไม่ดีกับเราสัญญาจะเลิกเล่นสนุ๊กเกอร์โอเคเราใจฟูขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านไป3วันเหมือนผีเข้าหลังจากวันนี้คือนรกดีๆนี่เองเขาขอออกไปเล่นสนุ๊กเกอร์อีกครั้งเราก็ปล่อยไปเล่นหนักขึ้นกว่าเดิมมากงานการไม่ทำหยุดงานมาเล่นวันไหนไปทำงานถ้ามีโอกาสก็หนีเวลางานไปเล่นแทบไม่มีวันพักถ้าเราไม่ไปด้วยก็ทิ้งเราให้อยู่บ้านทิ้งตังไว้ให้สั่งข้าวมากินเราไม่อยากไปนั่งเฝ้าเขาบ่อยเพรามีแต่คนดูดบุหรี่กลับมาบ้านทีไรกลิ่นบุหรี่ติดตัวแรงมากเรากลัวลูกเป็นอันตรายแต่พอไม่ไปก็ทะเลาะกันหนักมันเริ่มมีปากเสียงบ่อยมากทะเลาะกันหนักกว่าตอนไม่ท้องเหมือนไม่แคร์เลยว่าเราท้องอยู่ไปเฝ้าที่โต๊ะสน๊กก็ได้กินแต่มาม่าพอไม่ไปก็ได้กินข้าววันละมื้อเพราะเราเล่นทั้งวันทั้งคืนจริงๆเล่นเหมือนคนไม่เคยเล่นเหมือนกลัวพรุ่งนี้ไม่ได้เล่นถ้าวันไหนเล่นแพ้ก็มาพาลใส่เราหาเรื่องทะเลาะเราไม่พาเราไปกินข้าวบางครั้ง3วันไม่ได้กินข้าวหรือ3วันกินข้าวครั้งเดียวทั้งๆที่ท้องเขาก็ไม่สนใจเลยเรานั่งร้องไห้หน้ากระจกแทบทุกวันกินข้าวทั้งน้ำตาตลอดยิ่งเป็นโรคซึมเศร้าเป็นทุนเดิมยิ่งทำให้ความรู้สึกมันดิ่งลงทุกวันพยายามบอกกับตัวเองว่าทนอีกนิดเพื่อลูกแต่ก็มีหลายครั้งที่คิดอยากจบชีวิตทิ้งซะเพราะมันเหนื่อยใจเหลือเกินหอบท้องตั้งแต่ท้องอ่อนๆจนท้องแก่6-7เดือนไปนั่งเฝ้าที่โต๊ะสนุ๊กวันละสิบกว่าชั่วโมงถ้าเริ่มทนกลิ่นบุหรี่ไม่ไหวก็ออกไปนอนรอในรถวนเวียนอยู่แบบนี้ อีกเรื่องคือตอนเราท้องได้5เดือนเราเจอช่องทางหาเงินเขาก็โอเคสนับสนุนเราต้องใช้บัญชีเขาเพื่อให้ลูกค้าโอนเงินให้แรกๆเขาก็เอาเงินให้เราปกติทั้งๆที่เราบอกว่าเธอเก็บไว้ครึ่งนึงสิเอาไว้ตอนลูกคลอดถือว่าฉันช่วยหาเงินอีกแรงแต่เขาก็ปฏิเสธบอกว่าเงินเธอหามาได้ก็คือเงินเธอ เธอเก็บไว้หมดนั่นแหละแต่...พอเรามีลูกค้าเยอะขึ้นได้เงินเยอะขึ้นเขากลับเริ่มทำพฤติกรรมที่โคตรเห็นแก่ตัวขึ้นมาโดยที่ไม่เอาเงินให้เราเก็บไว้หมดแล้วบอกว่าใช้บัญชีเขาเงินต้องเป็นของเขาโอเคเรายอมเรายังทำงานหาลูกค้าเรื่อยๆเงินก็เข้าเรื่อยๆเราถือว่าเขาเคยหาให้เราใช้เราก็หาให้เขาใช้บ้างไม่เป็นไรหรอกกินอยู่ด้วยกันจนใกล้คลอดเราขอเงินมาซื้อของใช้ลูกเขาบอกเดี๋ยวแม่เขาจะไปให้เองของที่ได้มาคือ ชุดเด็กแรกเกิด2ชุด ถุงมือถุงเท้า3คู่ แป้งเด็ก1ป๋อง ทิชชู่เปียก1ถุง ขวดนม1ขวด เราถามเขาว่าทำไมซื้อแค่นี้เขาให้คำตอบว่าแม่เขาบอกว่าเด็กแป๊ปเดียวก็โตไม่ต้องซื้อเยอะเสื้อผ้าสองชุดก็พอ ยิ้มนะ!!พ่อแม่แฟนเรารวยระดับร้อยล้านแต่ขี้งกโคตรๆแต่มันเกินไปมั้ยเราก็ไม่ไหวนะลูกเราทั้งคนแต่จะให้เลี้ยงเหมือนลูกหมารึไงเราก็ไปหาลูกค้าหาเงินต่อครั้งนี้เราขอเอาเงินเราที่พึ่งหามาได้เขาก็ไม่ยอมให้จนทะเลาะกันใหญ่โตในที่สุดเขาก็ยอมให้เราครึ่งนึงเราเลยมีเงินไปซื้อของใช้ลูกและเราก็ได้คำตอบจากเรื่องนี้แบบชัวร์ๆแล้วว่าที่เขาไม่ยอมให้เรามีเงินติดตัวเพราะเขาต้องการควบคุมชีวิตเราแบบ100%จริงๆ จนในที่สุดลูกก็คลอดเราคิดว่าเราจะเลี้ยงลูกให้มีความสุขโฟกัสความสุขที่ลูกพอปล่อยแฟนเฮงซวยไปใช้ชีวิตตามใจให้เต็มที่เราอยู่กับลูกก็มีความสุขแล้วแต่...พอลูกคลอดออกมาแม่เขาก็เข้ามาก้าวก่ายวันแรกที่ลูกเราออกจากโรงบาลก็เอาแป้งเย็นตรางูมาทาจิ๋มลูกเราบอกว่ามันจะหายแดงให้ทาตรงที่แดงๆเราก็ทะเลาะกับแฟนเรื่องนี้หนักบอกให้ไปบอกแม่ว่าอย่าทำอีกมันก็ไม่กล้ากลัวแม่โกรธเพราะเป็นครอบครัวคนจีนแม่เป็นใหญ่เราก็เอาข้อห้ามข้างขวดแป้งแปลให้ฟังว่าเขาไม่ให้ใช้กับเด็กทารกก็โอเคเรื่องแป้งจบลงพอวันที่2ลูกเราตัวเหลืองก็ห้ามไม่ให้เราเอานมเราให้ลูกดูดบอกว่าดูดนมเราลูกจะตัวเหลืองไปซื้อนมแพะที่รีดสดๆต้มแบบชาวบ้านบังกลาขับรถมอไซค์ใส่ถังสแตนเลสมาขายซื้อให้ลูกเรากินทุกวันไม่พอลูกเราได้4วันก็ซื้อวิตามินดีแบบผงมาชงให้กินแล้วก็ให้ลูกเรากินน้ำจากขวดนมตั้งแต่ออกโรงบาลครั้งละ2ออนซ์ทุกวันเอาลูกเราไปลงยันต์บ้างล่ะเสื้อผ้าเอาไปปั๊มยันต์อีกจนเดือนแรกเราอาการซึมเศร้าหนักสงสารลูกร้องไห้ทุกวันแฟนก็ตามแม่ทุกอย่างเสียงเราคืออากาศบอกอะไรขอร้องว่าอย่าทำอะไรก็ไม่ฟังไม่สนใจลูกได้สิบวันก็เข้าอีหรอบเดิมกลับไปเล่นสนุ๊กเกอร์ทั้งวันทั้งคืนต่อลูกครบ1เดือนแม่เขาเลิกมาวุ่นวายเราได้โอกาสเลี้ยงลูกเองแบบสบายใจมีความสุขกับลูกแต่ก็ไม่วายมีเรื่องทะเลาะกันมาเรื่อยๆเราเคยจะพาลูกหนีเขาขู่เราถ้าคิดจะพาลูกหนีจะแจ้งตำรวจจับถ้าจะหนีก็ไปคนเดียวอย่าเอาลูกไปลำบากมันก็จริงถ้าลูกไปกับเราลูกลำบากแน่ๆเพราะเราไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวเลยถ้าเราจะไปคนเดียวเอาก็ตัดใจทิ้งลูกไว้อยู่กับพ่อและย่าแบบนี้แถมลูกติดของแฟนเราอีก2คนก็เกลียดลูกเราตั้งแต่อยู่ในท้องแล้วหาว่าลูกเราจะมาแย่งความรักจากพ่อเขาถ้าเราทิ้งลูกไปลูกเราจะเป็นยังไงต่อไปเราสับสนมากได้แต่กัดฟันทนอยู่ต่อไป ที่เราเล่ามาทั้งหมดอาจจะยาวหน่อยแต่เราอยากให้รู้ว่าเราอดทนมาเยอะพอที่จะตั้งคำถามเรื่องนี้แล้วจริงๆเราเหนื่อยแล้วจริงๆ มีใครพอจะให้คำปรึกษาเราได้บ้างไหม? เราก็อยากมีครอบครับที่สมบูรณ์แบบอยากดูพัฒนาการลูกไปทุกวันอยากเห็นเขาเติบโตแต่เราก็โดนทำร้ายจิตใจโดนบั่นทอนความรู้สึกไปเรื่อยๆเราก็เหนื่อยลูกก็ยังเล็กพึ่ง3เดือนเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่