โลกหลายใบ ของใครหนึ่งคน

ยุคสมัยนี้ เรื่องคุณผู้ชายมีโลกหลายใบ กลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการสื่อสารได้อย่างอิสระ คนมีช่องทางในการติดต่อกันมากขึ้น จึงมีโอกาสเจอกันได้มากขึ้น และคนไกลก็กลายเป็นคนใกล้ได้อย่างง่ายงาย เครื่องมือสื่อสารก็พัฒนาขึ้นมากมาย อำนวยความสะดวกให้ใช้งานได้ง่าย อันที่จริงแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่ดี หากใช้ในทางที่ถูกที่ควร แต่ก็ยังมีคนที่เห็นช่องว่างของการสื่อสารได้อย่างอิสระ โดยการสร้างตัวตนหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยเจตนาใดๆ ก็ตาม เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง โดยไม่ได้คิดถึงกระทบต่อตนเองและผู้อื่นที่จะตามมาในอนาคต

ชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าจะพบเจอกับเหตุการณ์นี้ เกือบจะได้เอาตัวเองเข้าไปพัวพันไปอยู่ในวังวนของการเป็นโลกหลายใบของใครบางคนแบบไม่รู้ตัว แต่จักรวาลมองว่าสิ่งๆ นั้น ไม่ได้เหมาะสมที่คนอย่างฉันสมควรจะได้รับ จึงมีเหตุการณ์ทำให้หลุดพ้นออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

เรื่องราวเริ่มต้นช่วง พ.ค. 2565 ซึ่งเป็นช่วง lockdown และทำให้ต้อง WFH มาตั้งแต่เดือนเมษายน การไม่ได้ออกไปพบเจอผู้คนภายนอก และอาศัยอยู่ตัวคนเดียวในคอนโดมิเนียมทั้งวันทั้งคืน จึงเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับคนที่ Active อย่างฉัน ก็เลยหาอะไรทำแก้เบื่อ นึกขึ้นมาได้ว่ามี account ของ app dating อยู่ app หนึ่ง เคยโหลดมาเล่นนานมาแล้ว จุดประสงค์เพื่อหาเพื่อนชาวต่างชาติและคุยฝึกภาษา ก็เลย load app และ activate account อีกครั้ง แล้วการไถหน้าจอเพื่อดูโปรไฟล์ของคนที่จะเลือกคุยก็เริ่มต้นขึ้น แต่ก็นะ ขึ้นชื่อว่า app dating ก็จะมีคนหลากหลายแบบ ทั้งดีไม่ดี หื่นไม่หื่น ผสมกันไป ก็เลือกคุย ใครทักมาดูไม่น่าจะคุยกันรู้เรื่องก็กดปฏิเสธไป บางคนทักมาแบบคุกคามทางเพศ ก็ปัดทิ้งไป

เล่นไปได้ซักพัก มีผู้ชายคนนึงทักมา เข้าไปดูโปรไฟล์ หน้าตาใช้ได้ (ดูไม่หื่น) ติดที่ว่าอายุน้อยกว่ากันมาก แต่ก็ลองคุยดูไม่เสียหาย คิดซะว่าได้เพื่อน ยังไงซะก็ต้องการหาเพื่อนคุยอยู่แล้ว คุยกันไปคุยกันมา คือเพลินมาก เป็นผู้ชายที่รู้จักเข้าหาผู้หญิงได้ถูกทางจริงๆ เราบอกว่าเราโสด หาเพื่อนคุย ถ้าคุยแล้วคลิกก็อาจจะนัดเดท และถ้าโอเคก็อาจจะพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อไปได้ แต่เรามองหาผู้ชายที่อายุมากกว่า กับเขาคือคุยเป็นเพื่อนได้ และเขาก็แนะนำตัวเองว่าโสดมา 6 ปี แล้ว เป็นทหาร อยู่แถวๆ เกียกกาย หาเพื่อนคุย หาแฟน เราตรงสเปคเขาทุกอย่าง เรื่องอายุไม่สำคัญ ก็เลยตัดสินใจว่าลองคุยดูละกัน คุยกันไปซักพัก เริ่มเบื่อคนที่ทักมาคุกคามทางเพศ เลยบอกเขาคนนั้นว่าไปคุยต่อนอก app นี้ละกัน เพราะรำคาญคนพวกนั้น ไม่อยากเข้ามาในนี้แล้ว

หลังจากได้ contact มาคุยต่อกันข้างนอก contact ที่ได้มาเป็น Line OA จุดนั้นเป็นจุดแรกที่ทำให้เอะใจว่ามันดูแปลกๆ ซึ่งพอถาม ก็ได้รับคำตอบว่าใช้ Line ทั่วไปแล้วมันเด้ง มีปัญหา ก็เลยใช้ OA แทน ก็พอจะเข้าใจได้นะ แต่ว่ามันก็แปลกอยู่ดี คุยกันไปคุยกันมาซักพัก เขาก็เริ่มขอ video call ช่วงแรกๆ คุยกันบ่อย ช่วงเวลาที่คุยส่วนมากจะเป็นตอนพักเที่ยง และก่อนนอนสลับกันไป แล้วแต่ในแต่ละวัน คุยกันไปคุยกันมา เริ่มลงลึกมากขึ้น และเขาก็เริ่มหยอดความหวังต่างๆ นาๆ ว่าปลดล็อคแล้วจะมาเจอกัน จะได้นัดเดทกัน แต่การคุยกันแบบต่อเนื่องก็เป็นได้ไม่นาน ประมาณครึ่งเดือน ความถี่ในการ call เริ่มน้อยลง ติดต่อยากขึ้น ช่วงที่ติดต่อได้ ก็ติดต่อได้เป็นบางเวลา เราคิดพฤติกรรมแบบนี้ เขาจะต้องมีแฟนหรือเมียอยู่แล้วแน่ๆ

อยู่มาวันนึง เขาบอกว่า Line OA เขาค้าง เข้าใช้งานได้บ้างไม่ได้บ้าง เลยเปลี่ยนช่องทางไปคุยกันทาง whatsapp แทน ซึ่งการติดต่อกันทาง whatsapp จะต้องมีเบอร์โทรจึงจะคุยกันได้ เราเลยตัดความสงสัยประเด็นเรื่องติดต่อยากทิ้งไป แต่ด้วยความที่ whatsapp จะมี status ของข้อความที่ส่งให้อีกฝ่ายต่างจาก Line คือ จะดูได้ว่าข้อความที่เราส่งหาอีกฝ่ายส่งไปถึงปลายทางหรือยัง status จะโชว์เครื่องหมายถูก 1 อัน ถ้าส่งถึงแล้ว จะขึ้นสองอันสีเทา และถ้าอีกฝั่งอ่านแล้วจะขึ้นสองขีดสีฟ้า ทำให้เราสังเกตเห็นช่วงเวลาในการติดต่อได้ชัดเจนมากขึ้น มันเป็นลูป เป็นช่วงเวลาจริงๆ แต่ก็ไม่เคยจะถาม

คุยๆ กันไปได้ซักประมาณเดือนกว่าๆ แล้วอยู่ๆ วันนึง ต้นเดือนกันยายน เขาก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย หายไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทั้งๆ ที่วันก่อนเขาจะหาย ยังคุยกันสนุกสนาน ทีแรกเข้าใจว่าโทรศัพท์เขาเสีย เพราะก่อนหน้านี้หน้าจอพังไปแล้วรอบนึง หายไปหนึ่งวัน แล้วก็กลับมาคุยตามปกติ ซึ่งตรงนั้นเราคิดว่าเป็นไปได้ เพราะเราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกับเขา อายุการใช้งานพอๆ กัน เราเองเพิ่งเปลี่ยน ก่อนหน้าที่เปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็เจอปัญหาเดียวกัน ตอนนั้นเลยไม่ได้คิดอะไรมาก รอบนี้คิดว่าโทรศัพท์คงจะพังไปแล้ว ต้องซื้อเครื่องใหม่ เรารออยู่หนึ่งสัปดาห์ ไม่มีการติดต่อกลับมา ทัก whatsapp ไป ก็เงียบ ขึ้นขีดเดียว ตอนนั้นแน่ใจแล้วว่าคงไปแล้วไปลับ ไม่กลับมาคุยแล้วแน่ๆ คิดว่าคงถูกคนของเขาจับได้ได้ เลยต้องเลิกคุยแบบกระทันหัน

เวลาผ่านไปห้าเดือน เขาทักเรากลับมาทางเวบบล็อคๆ นึง เขาโพสต์หน้าโปรไฟล์ถึงเรา บอกให้เราทัก whatsapp กลับไปหาเขาหน่อย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฉันเข้าไปเล่นเวบบล็อคนั้นอยู่เป็นช่วงๆ เห็นเขาเข้ามาส่องโปรไฟล์อยู่บ้าง แต่ไม่ใช่หลังจากที่หายไป ช่วงที่เขาเริ่มมาส่องน่าจะประมาณเดือนพฤศจิกายน ระหว่างนั้น เราก็สงสัย และส่องกลับตลอด แต่เขาก็ไม่เคยทัก inbox มา เราก็ทักเขากลับไปไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ยืนยันตัวตนด้วยอีเมล์

เราคิดอยู่สองสามวัน ว่าจะทัก whatsapp กลับไปหาดีมั้ย อันที่จริงเราลบ contact เขาออกไปแล้ว แต่ว่าใน whatsapp ยังมีประวัติการคุยอยู่ contact ของเขาเลยไม่ได้ถูกลบไป 100% สุดท้ายเราตัดสินใจลองทักกลับไป แล้วไม่นาน เราก็กลับมาคุยกันหวานชื่นเหมือนเดิม ในช่วงที่กลับมาคุยกันนั้น เรามีนัดเจอกันบ้าง ส่วนเรื่องการติดต่อแบบได้บางเวลา ก็ยังคงเป็นปัญหา และสร้างความคาใจให้กับเราอยู่เหมือนเดิม เราเริ่มงอแงกับพฤติกรรมที่เขาเป็น เคลียร์กันอยู่พักนึง เขาก็เงียบๆ ไป ไม่ค่อยตอบ แล้วอยู่ๆ พฤติกรรมก็เปลี่ยน พลิกกลับมาดีมาก ติดต่อได้ตลอดเวลา เลยทำให้เราคิดไปว่า ที่คุยกันเขาคงจะกลับไปคิดและปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น แต่ระหว่างนั้นก็มีปัญหาใหม่ขึ้นมา คือเรื่องการนัดเจอกัน เรารู้สึกว่าทำไมมันยากมาก ดูเขาไม่สนใจ ไม่จัดเวลาที่ดีๆ มาให้เลย บอกแค่ว่า "เดี๋ยวบอก" และมักจะนัดกระทันหันเสมอ

ด้วยความที่เราดู life coach ต่างๆ มาเยอะ เมื่อเรียบเรียงเรื่องราวได้ทั้งหมด เราว่าไม่ปกติ เขาต้องมีคนของเค้าอยู่แล้วแน่ๆ 100% ยิ่งช่วงเดือนเมษายนมา ยิ่งทำให้เรามั่นใจหนักมาก ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ หลังสงกรานต์มาก็หายเงียบไป 1 อาทิตย์ ตอนนั้นก็คิดว่าคงจะทะเลาะกับเราแล้วเราจับได้ว่ามีใครแล้ว และแถต่อไปไม่ได้แล้ว เลยไม่อยากคุย ปิดจบไปเลย แต่ปรากฏว่าเขากลับมา บอกกับเราว่าเฝ้าไข้ญาติที่ ร.พ. มันกระทันหัน ในใจที่คิดไว้ว่าเมียคลอดลูกมั้ยนะ

เขากลับมารอบนี้เราก็ยังคุยอยู่ ด้วยความอยากรู้ว่าจะมาไม้ไหน จะไปยังไงต่อ และอยากให้เขาสารภาพออกมาจากปากเขาเอง แต่คนมันปากหนัก ยืนกระต่ายขาเดียวตลอดเวลาว่าไม่มีใคร และทำตัวให้เสมือนว่าไม่มีใคร สามารถติดต่อในตอนกลางคืนได้ เปิด vedio call คุยกันได้ เราประเมินว่าการที่จะทำอย่างนั้นได้เมียต้องทำงานอะไรที่เป็นกะ และมีวันที่ไม่อยู่ตอนกลางคืน หรือไม่ได้หยุดในวันเสาร์อาทิตย์อย่างแน่นอน เพียงแต่เรายังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน และอีกพฤติกรรมหนึ่งที่เรายังเห็นเขาทำ คือเขายังคงเข้าไปเล่น app dating ที่เราเจอกัน เราเลิกเล่นไปนานแล้ว แต่ด้วยความที่เซ้นส์แปลกๆ เลย activate account กลับมาอีกรอบ และเราก็เจอเขาออนไลน์จริงๆ เราเอาเรื่องนี้มาคุยกับเขา ว่าขนาดนี้แล้วสารภาพมาเถอะ ว่าเขามีคนของเขาอยู่แล้ว หรือไม่ก็ไม่มีแต่ไม่พอใจยังอยากหาคนคุยใหม่เรื่อยๆ เขาก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้เล่น ไม่ได้คุย คุยกับเราคนเดียว เออออออออ นะ แล้วที่เห็นว่าออนไลน์นี่ใคร ผีจูออนมั้งนะ 

พีคไปอีกตอนเดือนกรกฎาคม ช่วงราชการหยุดยาวๆ เขาบอกกลับบ้าน และเราก็ไปเห็นใน app dating ว่าเขาออนไลน์ พร้อมกับ location เปลี่ยนไปอยู่ จ.ทางภาคเหนือตอนใต้ แต่เอ๊ะ บ้านเขาอยู่ฝั่งตะวันตก เรานี่ถึงขั้นไปปักหมุดดูระยะทางใน google เลยทีเดียว มันคนละทางกันเลย คิดว่าต้องกลับบ้านเมียแน่ๆ และเขาก็ไม่ยอมรับอยู่ดี บอกว่าพาที่บ้านไปทำบุญ

เราปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ทุกๆ ครั้งที่คุยกันก็จะทะเลาะกันตลอดเพราะเราไม่ไว้ใจแล้ว เราคิดว่าเขาไม่มีทางสารภาพแน่ๆ ที่ทำได้คือเราต้องเป็นคนปล่อย และตัดจบ ไม่อยากทนกับความ toxic ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามเอาชนะกัน มันไม่มีความสุข คำพูดและพฤติกรรมที่เราแสดงออกกับเขา เราไม่สามารถพูดคุยดีๆ กับเขาได้เลย เพราะจิตสำนึกเราตัดสินไปแล้วว่าเขาสมควรได้รับกับสิ่งที่เราแสดงออกต่อเขาแบบนั้นแล้ว แต่เราก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเราถึงทน ทั้งที่มันไม่ใช่ความสัมพันธ์เลยด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าจะเคยนัดเจอกันก็ตาม แต่มันไม่ได้ถือว่าเป็นความสัมพันธ์อันดี และมีอะไรให้ต้องจดจำให้ประทับใจ

เราครุ่นคิดอยู่เป็นเดือน จนสุดท้าย เราคิดว่าเราไม่ไหวแล้ว ถึงเวลาที่ต้องดึงตัวเองออกมาให้มันจบๆ เราเคลียร์สติตัวเองด้วยการทำสมาธิ เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอนครั้งละ 30 นาที ยิบย่อยระหว่างวันอีก 10-15 นาที วันละหลายรอบ เพื่อดึงสติตัวเองกลับมา และอธิษฐานว่าขอให้พบแสงสว่างพบปัญญาที่จะทำให้หลุดออกจากจุดนี้ด้วย

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเราได้รับคำตอบทุกอย่างมาอย่างงๆ จากอะไรที่มันคลุมเครือ ทุกอย่างเปิดเผยออกมาเองโดยที่ไม่คาดคิด ตลอดเวลาปีกว่าๆ นับตั้งแต่เริ่มคุย เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ไม่รู้ชื่อจริง ไม่มี socail media ต่างๆ ของเขา ที่รุ้ก็แค่เบอร์โทร สถานที่ทำงาน และที่พัก สิ่งที่เรารับรู้มา นำพาไปยังความชัดเจนในทุกๆ สิ่ง เมื่อร้อยเรียงเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น เราถึงบางอ้อในทันที ไม่ว่าจะช่วงเวลาที่เขาหายไปเข้ากลีบเมฆ ช่วงเดือนเมษาที่หายไปหนึ่งอาทิตย์ ช่วงเวลาที่ทำตัวดีติดต่อได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งวันที่เขาไปโผล่ที่ จ. ในภาคเหนือตอนใต้

ทั้งหมดทั้งปวง จำเลยจำนนด้วยหลักฐาน ทำให้เขาปฏิเสธฉันไม่ได้ว่าเขามีคนของเขาอยู่แล้วจริงๆ เพราะหลักฐานที่ฉันบอกเขา คือฉันเห็นคาตา เพียงแค่ ณ เวลานั้นที่เจอ ไม่อยากจะเข้าไปทำลายครอบครัวใครต่อหน้า ซึ่ง ณ เวลานั้น ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานะไม่ใช่แค่แฟน แต่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายแล้ว แต่ความลับไม่มีในโลก ถึงเวลามันจะเปิด มันก็มาเองโดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรมากเลย สิ่งที่ได้รับรู้เพิ่มเติมคือไม่ใช่แค่เขาแต่งงานแล้ว แต่ยังมีลูกน้อยๆ ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 5 เดือน!!!!

ตอนที่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เราช็อคจนไม่มีคำไหนจะพูดออกมาได้ ถ้าเรายังคิดจะไปต่อ เราคงตกอยู่ในสถานการณ์เมียน้อยอย่างไม่รู้ตัว สิ่งที่เราแปลกใจคือ ครอบครัวดูอบอุ่น ลูกกำลังน่ารักน่าชัง ดูรักกันดีกับเมีย ดูเอาออกเอาใจ ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน และเมียสวยมากกกกก แต่ทำไมนะถึงไม่พอกับสิ่งที่ตัวเองมี

เหมือนเรื่องจะจบ แต่ก็ยังไม่จบ...ไว้มาอัพเดทต่อค่ะ มีเรื่องพีคไปอีก!!!! คิดแล้วขยะแขยงกับผู้ชายคนนี้จริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่