ผลงานทัพช้างศึก ทีมชาติไทยชุดใหญ่ไม่เข้าเป้า ภายใต้การคุมทัพของ"มาโน่ โพลกิ้ง" แพ้ให้กับทัพเสือเหลืองมาเลเซีย เมื่อวิเคราะห์จากรูปเกมส์ ทีมชาติไทยชุดนี้เป็นทีมที่เล่นด้วยความสามารถเฉพาะตัวนักฟุตบอลมากกว่าระบบทีม ไม่ช่วยกันวิ่งไล่บอล เล่นฟุตบอลช้า บุกแล้วตำแหน่งหลุด เมื่อคิดอะไรไม่ออกจะใช้โยนเข้าไปอย่างเดียว เหมือนกับ ทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยุคก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน
เมื่อมาวิเคราะห์จากรูปเกมส์ทีมชาติมาเลเซีย จะเห็นชัดเจนว่า ระบบทีมของทีมชาติมาเลเซียเปลี่ยนไปจากเดิม หลังเหนียวขึ้น วิ่งบด วิ่งกดดันเข้าใส่อย่างดุดัน ตามสไตล์พลังโสม เหมือนระบบทีมทัพดาวทองของ"ปาร์คฮังซอ"ไม่มีผิด จะแตกต่างกันที่เบสิคฟุตบอลและพละกำลังที่ทีมชาติเวียดนามเหนือกว่าอย่างชัดเจน มีข้อสังเกตุว่า "คิม พัง กอน" และ "ปาร์คฮังซอ" ลักษณะการทำทีมคล้ายกัน เป็นระบบมาตราฐานตามสไตล์ฉบับดั้งเดิมของเกาหลีใต้ แต่การทำทีมของ"ชิน แท ยง"กุนซือใหญ่ทีมชาติอินโดนีเซียมีความแตกต่างกันชัดเจน โดยใช้ระบบการทำทีมลักษณะฟุตบอลสมัยใหม่ ผสมผสานความแข็งแรงแบบฉบับพลังโสม สไตล์เหมือนระบบฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ยุคใหม่
ถ้าทีมชาติไทยอยากก้าวไปสู่ระดับเอเชียต้องมีการยกเครื่องเปลี่ยนแปลง ณ เวลานี้ยังทัน มีเวลาให้สร้างทีมอีกหลายเดือน ก่อนถึงรายการใหญ่อย่างเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ควรจ้างโค้ชที่มีประสบการณ์ลูงและประสบความสำเร็จในระดับเอเชีย โค้ชที่ทุ่มเททำงาน ไม่ใช่จ้างโค้ชตกยุค บินกลับบ้านเกิดบ่อยๆ หรือจ้างโค้ชที่มีประสบการณ์แค่ในระดับอาเซียน
เปลี่ยนโค้ชใหม่ยังทัน! สนใจหรือไม่ "Kim Hak bum" เฟอร์กี้ แห่งแดนโสมขาว ดีกรีเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ และแชมป์เคลีก 3สมัย
Kim Hak-bum (คิม ฮักบอม) อดีตหัวหน้าโค้ชชาวเกาหลีใต้ U23 สร้างประวัติศาสตร์นําเกาหลีใต้ชุด U23 คว้าแชมป์ U23 AFC Championship 2020 และเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ 2018 คนนี้น่าจะเป็นเพื่อนเดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เห็นชอบบอกบ่อยๆว่ามีเพื่อนเป็นโค้ชทีมระดับทีมชาติ ได้แชมป์เอเชียนเกมส์ ถ้าทีมชาติ ทีมไทยลีก สนใจให้ติดต่อมาได้เลย และคนนี้แหละที่มีข่าวลือจากเวียดนามว่าอาจจะมาเสียบแทน"ปาร์คฮังซอ"
สำนักข่าวนิวส์ 1 ของเกาหลีใต้ระบุว่า ชื่อของ "คิม ฮัก บอม" ที่มีฉายา "เฟอร์กี้แห่งเกาหลี" ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมช้างศึกหลังจากการปลด"อากิระ นิชิโนะ" โดยสำนักข่าวนิวส์ 1 ของเกาหลีใต้ยังรายงานแบบเดียวกับสื่อเวียดนามด้วยว่า คิม ฮัก บอม ได้ยื่นหนังสือถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแล้ว ซึ่งดีลนี้จะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลชาวไทยได้อย่างแน่นอน
แต่สุดท้ายอย่างที่ทราบ มาดามเลือกมาโน่ โพลกิ้ง เป็นกุนซือใหญ่ทีมชาติไทย
กุนซือรายนี้ มีเกียรติประวัติไม่ธรรมดา เคยพาซองนัม เอฟซี คว้าแชมป์เคลีก เกาหลีใต้มาแล้วในปี 2006 ซึ่งก่อนหน้านั้น เจ้าตัวก็อยู่ในทีมงานสตาฟฟ์โค้ช พาทีมซองนัมได้แชมป์เคลีก 3 สมัยติดต่อกัน ช่วงระหว่างปี 2001-2003 ก่อนจะพาซองนัมได้แชมป์เอฟเอคัพ อีกในปี 2014
จากนั้นในปี 2018 พาทีมพลังโสมชุดU-23 ปี ที่นำทัพโดย ซอน เฮือง มิน กองหน้าสเปอร์ส คว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2018 และยังนำทีมเกาหลีใต้ชุด U-23 ปี ได้แชมป์เอเชียในปี 2020 อีกด้วย แต่หลังจากพาทีมตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลชายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่เพิ่งจบลงไป ด้วยการแพ้ เม็กซิโก 3-6 สถานการณ์ในเวลานี้ก็เปลี่ยนไป
และสื่อแดนโสมดังกล่าวระบุว่า คิม รู้สึกว่า การทำทีม 23 ปีของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นช่วงยุคทองฟุตบอลเยาวชนของเกาหลีใต้ มาถึงลิมิตแล้ว และต้องการหาความท้าทายใหม่ ๆ โดยหลังจากเดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อปีก่อนในเกม 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย โค้ชคิมบอกว่า ได้เห็นนักเตะที่มีศักยภาพมากมาย แสดงให้เห็นว่า"คิม ฮัก บอม"มีความสนใจประเทศไทยจริงๆ ถึงได้เลือกเจาะจงไทยเป็นประเทศแรกๆ
หลังจากที่โค้ช "Kim Hak bum"ไขก๊อกลาออกจากการทำฟุตบอลเยาวชนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เปลี่ยนทีมงานใหม่ชุดใหม่ วงการฟุตบอลเยาวชนเกาหลีใต้เริ่มตกต่ำ เกาหลีใต้พัฒนารูปร่างนักเตะ แต่ไม่พัฒนาระบบวิธีการเล่น ซึ่งระบบวิธีการเล่นสำคัญมากๆสำหรับฟุตบอลยุคใหม่ ดูตัวอย่างญี่ปุ่น ชุดเยาวชนตัวค่อนข้างเล็กบางคล้ายๆไทย แต่นักเตะญี่ปุ่นมีเบสิคฟุตบอลที่ดี มีความรวดเร็ว ประกอบทั้งระบบวิธีการเล่นเป็นฟุตบอลสมัยใหม่ จากฟุตบอลที่น่าเบื่อเน้นผลในยุคโค้ชโมริยาสุ เฮดโค้ชใหญ่ที่วางแผนงานทุกชุดของญี่ปุ่น พอเปลี่ยนทีมงานชุดเยาวชนใหม่โดยการนำของโค้ช"โกโออิวะ" (แชมป์ACL2018) กลายเป็นว่า ฟุตบอลเล่นสนุกขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ฟุตบอลเยาวชนของญี่ปุ่นช่วงนี้ดูดีผิดหูผิดตากว่าช่วงก่อนหน้านี้ ล่าสุดทั้งชุด U-23 และ U-16 ญีุ่่ปุ่นสามารถชนะเกาหลีใต้ ด้วยสกอร์ 3-0 ได้ทั้ง 2 รุ่น
ถ้าโค้ช "Kim Hak bum" เฟอร์กี้ แห่งแดนโสมขาว ยังทำทีมเยาวชนอยู่ เชื่อว่าผลงานชุดเยาวชนเกาหลีใต้คงไม่ตกต่ำขนาดนี้
โค้ช"คิม ฮัก บอม" วินัยเข้มข้นมาก ถ้าคิดว่าปาร์คฮังซอ วินัยเฮียบแล้ว แต่สำหรับ"คิม ฮัก บอม"ต้อง x3 เข้าไป แต่โค้ชคิมเป็นโค้ชแนวสายวิชาการ เน้นแทคติก รูปแบบระบบทีมเป็นหลัก(คล้ายๆโค้ชอิชิอิ) ไม่ใช่โค้ชสายลุย สายบ้าพลัง ที่จะต้องมาขุนนักเตะให้บ้าพลังเหมือนโค้ชปาร์ค ดังนั้น เรื่องการทำโทษนักเตะถึงเนื้อถึงตัว ไม่มีให้เห็นอย่างแน่นอน
อยากจะก้าวไปสู้ระดับเอเชีย หรืออยู่แค่ในระดับอาเซียน ลองถามใจกันดู




มนต์ขลัง"เชื่อแป้ง"เริ่มเสื่อมสลาย เปลี่ยนโค้ชใหม่เรียกศรัทธา "Kim Hak bum" ดีกรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์ แชมป์เคลีก 3สมัย
เมื่อมาวิเคราะห์จากรูปเกมส์ทีมชาติมาเลเซีย จะเห็นชัดเจนว่า ระบบทีมของทีมชาติมาเลเซียเปลี่ยนไปจากเดิม หลังเหนียวขึ้น วิ่งบด วิ่งกดดันเข้าใส่อย่างดุดัน ตามสไตล์พลังโสม เหมือนระบบทีมทัพดาวทองของ"ปาร์คฮังซอ"ไม่มีผิด จะแตกต่างกันที่เบสิคฟุตบอลและพละกำลังที่ทีมชาติเวียดนามเหนือกว่าอย่างชัดเจน มีข้อสังเกตุว่า "คิม พัง กอน" และ "ปาร์คฮังซอ" ลักษณะการทำทีมคล้ายกัน เป็นระบบมาตราฐานตามสไตล์ฉบับดั้งเดิมของเกาหลีใต้ แต่การทำทีมของ"ชิน แท ยง"กุนซือใหญ่ทีมชาติอินโดนีเซียมีความแตกต่างกันชัดเจน โดยใช้ระบบการทำทีมลักษณะฟุตบอลสมัยใหม่ ผสมผสานความแข็งแรงแบบฉบับพลังโสม สไตล์เหมือนระบบฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ยุคใหม่
ถ้าทีมชาติไทยอยากก้าวไปสู่ระดับเอเชียต้องมีการยกเครื่องเปลี่ยนแปลง ณ เวลานี้ยังทัน มีเวลาให้สร้างทีมอีกหลายเดือน ก่อนถึงรายการใหญ่อย่างเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ควรจ้างโค้ชที่มีประสบการณ์ลูงและประสบความสำเร็จในระดับเอเชีย โค้ชที่ทุ่มเททำงาน ไม่ใช่จ้างโค้ชตกยุค บินกลับบ้านเกิดบ่อยๆ หรือจ้างโค้ชที่มีประสบการณ์แค่ในระดับอาเซียน
เปลี่ยนโค้ชใหม่ยังทัน! สนใจหรือไม่ "Kim Hak bum" เฟอร์กี้ แห่งแดนโสมขาว ดีกรีเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ และแชมป์เคลีก 3สมัย
Kim Hak-bum (คิม ฮักบอม) อดีตหัวหน้าโค้ชชาวเกาหลีใต้ U23 สร้างประวัติศาสตร์นําเกาหลีใต้ชุด U23 คว้าแชมป์ U23 AFC Championship 2020 และเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ 2018 คนนี้น่าจะเป็นเพื่อนเดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เห็นชอบบอกบ่อยๆว่ามีเพื่อนเป็นโค้ชทีมระดับทีมชาติ ได้แชมป์เอเชียนเกมส์ ถ้าทีมชาติ ทีมไทยลีก สนใจให้ติดต่อมาได้เลย และคนนี้แหละที่มีข่าวลือจากเวียดนามว่าอาจจะมาเสียบแทน"ปาร์คฮังซอ"
สำนักข่าวนิวส์ 1 ของเกาหลีใต้ระบุว่า ชื่อของ "คิม ฮัก บอม" ที่มีฉายา "เฟอร์กี้แห่งเกาหลี" ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมช้างศึกหลังจากการปลด"อากิระ นิชิโนะ" โดยสำนักข่าวนิวส์ 1 ของเกาหลีใต้ยังรายงานแบบเดียวกับสื่อเวียดนามด้วยว่า คิม ฮัก บอม ได้ยื่นหนังสือถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแล้ว ซึ่งดีลนี้จะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลชาวไทยได้อย่างแน่นอน
แต่สุดท้ายอย่างที่ทราบ มาดามเลือกมาโน่ โพลกิ้ง เป็นกุนซือใหญ่ทีมชาติไทย
กุนซือรายนี้ มีเกียรติประวัติไม่ธรรมดา เคยพาซองนัม เอฟซี คว้าแชมป์เคลีก เกาหลีใต้มาแล้วในปี 2006 ซึ่งก่อนหน้านั้น เจ้าตัวก็อยู่ในทีมงานสตาฟฟ์โค้ช พาทีมซองนัมได้แชมป์เคลีก 3 สมัยติดต่อกัน ช่วงระหว่างปี 2001-2003 ก่อนจะพาซองนัมได้แชมป์เอฟเอคัพ อีกในปี 2014
จากนั้นในปี 2018 พาทีมพลังโสมชุดU-23 ปี ที่นำทัพโดย ซอน เฮือง มิน กองหน้าสเปอร์ส คว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2018 และยังนำทีมเกาหลีใต้ชุด U-23 ปี ได้แชมป์เอเชียในปี 2020 อีกด้วย แต่หลังจากพาทีมตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลชายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่เพิ่งจบลงไป ด้วยการแพ้ เม็กซิโก 3-6 สถานการณ์ในเวลานี้ก็เปลี่ยนไป
และสื่อแดนโสมดังกล่าวระบุว่า คิม รู้สึกว่า การทำทีม 23 ปีของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นช่วงยุคทองฟุตบอลเยาวชนของเกาหลีใต้ มาถึงลิมิตแล้ว และต้องการหาความท้าทายใหม่ ๆ โดยหลังจากเดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อปีก่อนในเกม 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย โค้ชคิมบอกว่า ได้เห็นนักเตะที่มีศักยภาพมากมาย แสดงให้เห็นว่า"คิม ฮัก บอม"มีความสนใจประเทศไทยจริงๆ ถึงได้เลือกเจาะจงไทยเป็นประเทศแรกๆ
หลังจากที่โค้ช "Kim Hak bum"ไขก๊อกลาออกจากการทำฟุตบอลเยาวชนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เปลี่ยนทีมงานใหม่ชุดใหม่ วงการฟุตบอลเยาวชนเกาหลีใต้เริ่มตกต่ำ เกาหลีใต้พัฒนารูปร่างนักเตะ แต่ไม่พัฒนาระบบวิธีการเล่น ซึ่งระบบวิธีการเล่นสำคัญมากๆสำหรับฟุตบอลยุคใหม่ ดูตัวอย่างญี่ปุ่น ชุดเยาวชนตัวค่อนข้างเล็กบางคล้ายๆไทย แต่นักเตะญี่ปุ่นมีเบสิคฟุตบอลที่ดี มีความรวดเร็ว ประกอบทั้งระบบวิธีการเล่นเป็นฟุตบอลสมัยใหม่ จากฟุตบอลที่น่าเบื่อเน้นผลในยุคโค้ชโมริยาสุ เฮดโค้ชใหญ่ที่วางแผนงานทุกชุดของญี่ปุ่น พอเปลี่ยนทีมงานชุดเยาวชนใหม่โดยการนำของโค้ช"โกโออิวะ" (แชมป์ACL2018) กลายเป็นว่า ฟุตบอลเล่นสนุกขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ฟุตบอลเยาวชนของญี่ปุ่นช่วงนี้ดูดีผิดหูผิดตากว่าช่วงก่อนหน้านี้ ล่าสุดทั้งชุด U-23 และ U-16 ญีุ่่ปุ่นสามารถชนะเกาหลีใต้ ด้วยสกอร์ 3-0 ได้ทั้ง 2 รุ่น
ถ้าโค้ช "Kim Hak bum" เฟอร์กี้ แห่งแดนโสมขาว ยังทำทีมเยาวชนอยู่ เชื่อว่าผลงานชุดเยาวชนเกาหลีใต้คงไม่ตกต่ำขนาดนี้
โค้ช"คิม ฮัก บอม" วินัยเข้มข้นมาก ถ้าคิดว่าปาร์คฮังซอ วินัยเฮียบแล้ว แต่สำหรับ"คิม ฮัก บอม"ต้อง x3 เข้าไป แต่โค้ชคิมเป็นโค้ชแนวสายวิชาการ เน้นแทคติก รูปแบบระบบทีมเป็นหลัก(คล้ายๆโค้ชอิชิอิ) ไม่ใช่โค้ชสายลุย สายบ้าพลัง ที่จะต้องมาขุนนักเตะให้บ้าพลังเหมือนโค้ชปาร์ค ดังนั้น เรื่องการทำโทษนักเตะถึงเนื้อถึงตัว ไม่มีให้เห็นอย่างแน่นอน
อยากจะก้าวไปสู้ระดับเอเชีย หรืออยู่แค่ในระดับอาเซียน ลองถามใจกันดู