แชร์ประสบการณ์ BDSM ให้ฟังหน่อย

จากมุมมองคนภายนอก หลายคนอาจติดภาพจำว่าผู้ที่มีรสนิยมแบบ BDSM จะชื่นชอบความรุนแรง โซ่ แส้ กุญแจมือต้องมา ผ้าปิดตา ชุดหนังต้องมี แต่ที่จริงแล้ว BDSM ไม่ใช่แค่การใช้ความรุนแรง,ควบคุม หรือมีอำนาจเหนืออีกฝ่าย แต่เกิดจากความไว้ใจ ความยินยอม และความเคารพ แม้ว่าจะหว่างทำกิจกรรมนั้น จะเกิดความรุนแรง ความเจ็บปวด มากแค่ไหนก็ตาม แต่ทั้งหมดนั้นยังคงอยู่บนพื้นฐานของความยินยอม และข้อตกลงร่วมกันเพื่อลดความอันตรายให้น้อยที่สุด
        BDSM  นั้นทุกอย่างทำเพื่อลดความอันตรายให้น้อยที่สุด ซึ่งความปลอดภัยด่านแรกก็คือ Consent หรือความยินยอม
ความยินยอมเป็นหัวใจหลักของ BDSM ซึ่งนั่นคือหนึ่งในตัวแปรหลักที่ทำให้ BDSM ต่างจาก การทำร้ายทางเพศ หรือพูดง่ายๆว่า BDSM คือ ความปลอดภัย, ความมีสติ และ ความยินยอม ซึ่งผู้ที่มีกิจกรรมแบบ BDSM มักจะใช้ 3 คำนี้ในการอธิบายรูปแบบการมีเพศสัมพันธ์ของพวกเขา ดังนั้นการทำร้ายร่างกายจึงไม่ใช่ BDSM
   -ความปลอดภัย(Safe) คือการที่ผู้เข้าร่วมได้รับการเตือนถึงความเสี่ยงและได้มีการป้องกันเพื่อให้มีความเสี่ยงน้อยลง และอาจจะรวมถึงการได้ทำความเข้าใจถึงเทคนิคและอุปกรณ์ที่จะใช้ในซีนซึ่งจะช่วยลดความกลัวที่เกิดจากความไม่รู้และความเสี่ยงอันตรายจากอุปกรณ์ต่างๆ หรือในบางคนการได้รู้ว่าจะถูกกระทำอะไรจะช่วยลดความวิตกกังวลที่จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกระหว่างเพลย์ได้
   -ความมีสติ(Sane) คือการที่ผู้เข้าร่วมอยู่ในสถานะที่พวกเขาสามารถแยกแยะระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการได้ และนั่นหมายถึงการกระทำและการตัดสินใจต้องไม่ถูกอารมณ์และความรู้สึกในขณะนั้นครอบงำจนทำอะไรเกินเลย
   -ความยินยอม (Consent) คือการที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในซีนได้พูดคุยและตกลงถึงขอบเขตของแต่ละฝ่าย ความเท่าเทียมคือสิ่งสำคัญในการพูดคุย ความยินยอมนั้นต้องมีเสมอ หรือ พูดง่ายๆว่าหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยากเปลี่ยนใจเกี่ยวกับกิจกรรมใดๆระหว่างเพลย์เขาคนนั้นสามารถที่จะต่อรองกันใหม่ได้ หากไม่ได้รับความยินยอม การกระทำใดๆก็ไม่ต่างอะไรจากการข่มขืน ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ การกำหนดข้อจำกัด(Limits)จะช่วยให้การเพลย์นั้นไม่เป็นการล่วงละเมิดอีกฝ่ายได้
ซึ่งข้อจำกัดมีทั้ง แบบ Soft Limits (ซอฟต์ ลิมิต) และ Hard Limits (ฮาร์ด ลิมิต)
      -ซอฟต์ ลิมิต คือ ข้อจำกัดที่อาจจะยืดหยุ่นได้ หรือ อาจผลักดันให้ก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดนั้นๆได้ ซึ่งควรใช้ร่วมกับ Safeword (หัวข้อต่อไปที่จะคุยกันนะคะ) ซึ่งหาก sub/slave รู้สึกไม่สบายใจที่จะทำต่อก็สามารถใช้ Safeword เพื่อให้หยุดการกระทำนั้นได้
      -ฮาร์ด ลิมิต คือ ข้อจำกัดที่ห้ามกระทำโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะสถานการณ์ใด
ปลอดภัยต่อมา เซฟเวิร์ดคือสิ่งสำคัญก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมทางเพศที่มีความตื่นเต้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแค่การใช้บทบาทสมมติ หรือของเล่น,ไวเบรเตอร์ หรือ อะไรที่รุนแรงกว่านั้นอย่างเซ็กซ์แบบโลดโผน หรือการเล่นแบบ S&M มันอาจจะฟังดูน่าตื่นเต้นและเร้าอารมณ์ แต่ก่อนจะไปสู่จุดนั้น คุณและคู่ของคุณต้องรู้สึกว่าปลอดภัยระหว่างที่มีกิจกรรม เพราะบางครั้ง คำว่า " ไม่นะ! หรือ อย่านะ!" อาจจะหมายถึง "ได้ หรือ อย่าหยุด " และบางที คำว่า " ไม่" อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของซีน คุณทั้งคู่จึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ตรงกันและยังคงยินยอมต่อการกระทำนั้น เซฟเวิร์ด จึงเป็นตัวช่วยที่ดี และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณทั้งคู่สนุกและมีความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจในขณะที่อาจจะถูกมัด หรือถูกควบคุมอยู่ แต่อาจจะมีอะไรที่คุณร้สึกไม่สบายใจ หรืออาการชาที่ส่วนต่างๆของร่างกาย คำเพียงคำเดียวนี้จะช่วยให้เหตุการณ์ไม่เลวร้ายลงได้ เซฟเวิร์ด จะเป็นอะไรก็ได้ เช่นผลไม้ สัตว์ แต่ที่นิยมที่สุดคือ สี และที่ใช้กันประจำคือ
    -สีแดง เพื่อให้หยุดการกระทำนั้นๆ ซึ่ง dom อาจจะปรับเปลี่ยนท่าทาง หรือ เปลี่ยนไปเพลย์รูปแบบอื่น
    -สีเหลือง เพื่อให้ลดความรุนแรง หรือ ช้าลง
    -สีเขียว เพื่อให้กิจกรรมที่หยุดก่อนหน้าดำเนินต่อไป
ถ้าไม่สามารถพูดเซฟเวิร์ดได้จะเพราะรูปแบบการเพลย์เช่นโดนมัดปากหรือใส่ฮู๊ดแบบเต็มหัว หรือเพราะถูกใช้คำสั่งไม่ให้พูดแต่ซับรู้สึกผิดปกติจะใช้เซฟเวิร์ดอย่างไร
- ให้ซับถือพวงกุญแจ หรือวัตถุมีเสียงอย่างกระดิ่ง,กระพรวนไว้ในมือเพื่อให้เมื่อปล่อยแล้วมีเสียง
- เครื่องคลิกเรียกสุนัข
- ภาษามือ
- ทำเสียงฮัมต่ำๆชัดเจน 3 ครั้งเพื่อเป็นสัญญาณให้หยุดหรืออาจจะฮัมเพลงที่ตกลงกันไว้
- การดีดนิ้ว
- ดอมเอานิ้ววางในมือของซับ เพื่อให้บีบตอบรับว่ายังสามารถดำเนินการเพลย์ต่อได้
- วัตถุที่มองเห็นได้ง่ายในสภาวะแสงน้อย อย่างแท่งเรืองแสงก็ใช้งานได้ดีเหมือนกัน
- การกระพริบตาเป็นสัญญาณ
Safeword นั้นสามารถใช้ได้ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้ง Dom และ Sub
        หลังจากกิจกรรมทั้งหมดจบลง จะมีการ After Care หรือ การดูแลกันหลังจากกิจกรรมจบลง คือช่วงเวลาที่คู่เพลย์ใช้เวลาในการสำรวจตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจบซีน คุณอาจจะต้องการสงบสติอารมณ์ลงหรือสำรวจสภาพร่างกายและจิตใจ หลังจากสำรวจแล้วคุณอาจจะอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคู่เพลย์ของคุณ และรวมถึงรับฟังความต้องการของคู่ของคุณด้วย จุดประสงค์หลักของอาฟเตอร์แคร์คือเพื่อให้คุณเองปรับตัวเองให้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเพลย์แบบใช้บทบาทสมมติ ซึ่งการดูแลกันนี้ ไม่ใช่แค่ Sup ที่ต้องการอาฟเตอร์แคร์ แต่รวมถึงดอมด้วยเช่นกันเพราะการเพลย์ในแต่ละครั้งต้องผ่านการวางแผนล่วงหน้าเป็นขั้นตอนและยังต้องระวังอย่างยิ่งไม่ให้เกิดความผิดพลาดหรือเมื่ออารมณ์พาไปจนอาจจะเกินขอบเขตที่ตกลงไว้ ดอมมีหน้าทีนำพาซับไปให้ถึงความคาดหมายของซับรวมถึงตอบรับหากซับต้องการก้าวข้ามลิมิตที่ตกลงไว้ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้เหนื่อยมาก เพราะคนเราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิดว่าการทำร้ายผู้อื่นคือความผิด ดังนั้น ดอมเองก็รู้สึกผิดในขณะหรือหลังจากใช้ความรุนแรงและอำนาจเหนือซับจนเมื่อจบซีนอาจจะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ อาฟเตอร์แคร์ที่เราอยากแนะนำให้ซับทำให้กับดอมคือ การบอกว่าการเพลย์นั้นเป็นการเพลย์ที่ซับรู้สึกดีหรือสนุกกับมัน และดอมทำตามข้อตกลงได้ดีมากหรือไม่มีการกระทำเกินเลยแต่อย่างใด รวมถึงการนอนกอด , บีบนวด , อาบน้ำด้วยกัน   , เสนอเครื่องดื่มให้    หรืออาจจะจบด้วยเพศสัมพันธ์ดีๆ
        แล้วข้อแตกต่างระหว่าง BDSM และ การทำร้ายร่างกายคืออะไร
การเพลย์ BDSM มีทั้งการลงโทษ,การทำให้อับอายหรือแกระทั้งการเสียน้ำตา ซึ่งเมื่อมองจากสายตาคนนอกอาจจะมองว่านั่นคือการทำร้ายร่างกาย ซึ่งยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร แต่เมื่อนำทั้งสองอย่างมาเทียบกันแล้วนั้นจะพบว่ามีข้อแตกต่างหลายข้อเลยค่ะ เช่น
การทำร้ายร่างกายนั้นเป็นสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ในขณะที่ซีน BDSM ที่ดีนั้นจะไม่เป็นการกระทำที่เกิดจากอารมณ์โกรธ ซีนได้รับการเตรียมและวางแผนอย่างดีด้วยความใส่ใจและการนึกถึงความต้องการของซับเป็นสำคัญ
การทำร้ายร่างกายมักจะจบด้วยความรู้สึกทางลบ แต่ BDSM จะถูกออกแบบให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกดีและได้รับควาพอใจเมื่อมันจบลง ซึ่งเป็นหน้าที่ของดอมในการทำอาฟเตอร์แคร์เมื่อซีนจบลงเพื่อให้แน่ใจว่าซับมีความสุขกับซีนนั้น ในทางตรงกันข้ามการทำร้ายร่างกายทั้งผู้กระทำและถูกกระทำต่างเศร้า , โกรธอับอายหลังจากเหตุการณ์นั้นจบลง
      การทำร้ายร่างกายใน BDSM 
แม้ว่าจะมีการศึกษาแล้วว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับ BDSM มักจะมีโอกาสในการทำร้ายร่างกายต่ำ แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่เกิดขึ้นเลย การทำร้ายร่างกายนั้นถือเป็นเรื่องต้องห้ามในความสัมพันธ์แบบ BDSM หรือระหว่างซีนซึ่งการทำรายร่างกายนั้นมันจะพบได้ในความสัมพันธ์แบบอื่นๆเช่นกัน ซึ่งการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ เช่น
   -การละเลยขอบเขตของเพศสัมพันธ์
   -การทำร้ายร่างกายโดยไม่ได้รับความยินยอมหรือไม่ได้มีการพูดคุยกันก่อน
   -พฤติกรรมการใช้อำนาจควบคุมหรือความหึงหวงที่เกินขอบเขต
   -อารมณ์ที่ขึ้นลงโดยไม่สามารถคาดเดาได้
   -ใช้การออกคำสั่งและความกลัวในการควบคุมอีกฝ่าย
   - ตัดขาดผู้ถูกกระทำจากเพื่อนและครอบครัว
       ซึ่งหากพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นในกิจกรรมแบบ BDSM ให้ถอยออกมาและขอความช่วยเหลือ หรือหากคุณพบเหตุการณ์นั้นในอีเวนต์ BDSM ให้หาผู้ดูแลงานหรือผู้มีอำนาจ แต่หากเป็นการเพลย์ส่วนตัวกับพาร์ทเนอร์คนใหม่ให้สร้างช่องทางการติดต่อฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อน หรือหากพบว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายให้แจ้งตำรวจทันทีที่ทำได้
        ซึ่งอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำกิจกรรมนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ถูกทำขึ้นมาเฉพาะ อย่างเช่นเชือก ก่อนจะเลือกเชือกต้องคำนึงถึงคุณสมบัติต่อไปนี้ก่อน
1.ความยืดหยุ่น
2.ผิวสัมผัส
3.การเสียดทาน
4.ความสามารถในการยืด
5.ความทนทาน
6.ความแข็งแรง
       แต่เหนืออื่นใด ขอให้สื่อสารกับคู่ของคุณก่อนมัด แต่อะไรบ้างที่ควรสื่อสาร
1.ความรู้สึก - หากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเริ่มชา หรือไม่มีความรู้สึก หรือปวด หรือเจ็บใดๆต้องไม่นิ่งนอนใจ ต้องสื่อสารบอกให้ผู้มัดรู้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่อง ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
2.ข้อจำกัด - ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดของร่างกายหรือจิตใจ ขอให้ตกลงก่อนเริ่มการเพลย์เพราะนอกจากจะสบายใจทั้งสองฝ่ายแล้วจะช่วยให้การเพลย์เกิดความต่อเนื่องด้วย
        แม้ว่าจะมีขั้นตอนเพื่อลดความอันตรายให้น้อยที่สุด มีอุปกรณ์ที่เฉพาะไว้ใช้ยังไง แต่บางครั้งก็มักจะเกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตอยู่บ่อย ๆ อาจจะเกิดจากความไม่ชำนาญ หรือไม่มีขอบเขตในการเล่นของผู้เล่น อย่างการบีบคอจนขาดอากาศหายใจ เป็นต้น และสัญญา  สัญญาคือเอกสารที่ทำเมื่อมีการยกอำนาจให้อีกฝ่ายโดยสมบูรณ์ หรือ เมื่อมีการเพลย์ ความสำคัญของสัญญาคือการได้สื่อสารและการได้เจรจาข้อตกลงการเพลย์ ซึ่งทำได้ง่ายๆด้วยการเขียนลงในกระดาษไปจนถึงการทำเป็นเอกสารทางการ(แต่ไม่มีผลทางกฏหมาย) ทั้งนี้ไม่จำเป็นว่าแต่ละคู่จะต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอไป แต่ก็ควรมีการตกลงกันก่อนเพลย์ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งถ้าหากเจอคนที่ไม่ดี ที่ใช้การเล่น BDSM ในการบังหน้า เพื่อหวังที่จะข่มขืนหรือใช้กำลังบังคับคนอื่นอย่างผิด ๆ ก็จะไม่สามารถแจ้งความเพื่อดำเนินคดีหรือเรียกร้องอะไรได้ เผลอ ๆ อาจจะเจอเหตุการณ์ Victim Blaming โดยการพูดใส่ว่าเป็นการ “สมยอม” ทั้ง ๆ ที่มีกฎว่า ถ้าเล่นแล้วจู่ ๆ อยากหยุดโดยการพูด Safe words เป็นสัญญาณ แต่อีกฝ่ายไม่หยุด ก็ถือว่าเป็นการข่มขืนโดยไม่สมยอมเช่นกัน แต่ในการไม่สมยอมนั้น ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะการเล่นแบบ BDSM นั้นก็ค่อนข้างที่จะไม่มีการยอมรับจากสังคมในวงกว้าง และยังถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองเล่นอะไรแบบนี้ดู และเสี่ยงมาก ๆ หากเล่นโดยขาดความรู้ ความชำนาญในการเล่น (ของเล่นแต่ละแบบ หรือท่าทางแต่ละท่า จะต้องมีเวลาจำกัด ว่าควรไม่เกินกี่นาที กี่วินาที ระดับความแรง ฯลฯ) ความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การโดนแบล็กเมล์ หลอกชิงทรัพย์ คุกคามทางเพศ (ซึ่งไม่ต่างจากการนัดเจอกับคนแปลกหน้าในรูปแบบอื่น ๆ)
        จากที่กล่าวมาข้างต้นเจ้าของกระทู้ต้องการ รับฟังประสบการณ์ในการ play ของแต่ละท่าน ว่ามีประสบการณ์ที่ดีหรือไม่อย่างไร ก่อนจะเล่นมีการณ์ศึกษาหาความรู้จากที่ไหน  หากข้อมูลไม่ถูกต้องประการณ์ใดสามารถแสดงความคิดเห็นเป็นข้อมูลที่ถูกต้องได้เลยค่ะ ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ

การสอบถามความเห็นนี้จะใช้ประกอบการ การทำรายงาน เรื่อง แชร์ประสบการณ์ BDSM ให้ฟังหน่อย เนื่องจากภายในวิชา 050104  มีการพูดถึงรสนิยมทางเพศนี้ขึ้นมา มีหัวข้อนึงที่น่าสนใจ คือเรื่อง รสนิยมทางเพศแบบ BDSM ถูกมองว่าเป็นรสนิยมทางเพศที่รุนแรงและเป็นการล่วงละเมิดทางเพศซึ่ง ดังนั้นจึงต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมว่า แท้จริงแล้ว BDSM เป็นรสนิยมทางเพศที่รุนแรงและเป็นการล่วงละเมิดทางเพศจริงหรือไม่ โดยข้อมูลจะไม่ระบุตัวตนผู้ตอบคำถามนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่