ตามที่ผมตั้งหัวข้อเลยครับ
และนี้คิอสิ่งที่ผมเป็นและปัญหาของผม ผมไม่รู้จะทำยังไง
.
.
.
ผมเป็นคนแปลกแยกและอ่อนไหวง่ายมากครับ
ตอนนี้ผมเรียนอยู่ ปี3 ที่ม.กึ่งรัฐในไทย ผมเป็นคนที่เรียกได้ว่าเป็นคนหัวปานกลางค่อนไปทางดี แต่ปัญหาของผมคือ ขี้เกียจและเบื่อง่ายมาก เรื่องใหนที่สนใจก็จะพุ่งใส่เต็มทีเต็มแรง งานที่ได้ออกมาก็จะดีมากๆ
แต่วิชาหรืองานที่ผมไม่สนใจก็คือจะเมินเฉยไปเลย พองานค้างกองพะเนิน ผมจะอ้างว่าเวลาไม่มีไม่มีอารมณ์ทำ
แต่ผมเองที่รู้ว่าดีว่าตัวเองแค่ยืดเวลาออกไป ไม่อยากทำ ไม่อยากรับรู้ เหมือคนทำงานไม่เป็นมืออาชีพอะครับ มันเกี่ยวข้องกับความรู้สึกผมด้วย
ผมมีความฝันว่าอยากเขียนหนังสือนิยายแนวสะเทือนอารมณ์เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเอง [ผมพยายามอยู่ในแบบที่ทีเล่นทีจริงไม่มีความสม่ำเสมอ] ผมกังวลว่ามันจะพออยู่พอกินไหม ถ้าผมทำสำเร็จที่บ้านจะยินดีหรือเปล่า ใจผมจะพังไหมเวลาที่โดนถากถางเรื่องหน้าที่การงานในระหว่างทางที่ผมกำลังสร้างตัว[เพราะแบบนี้ผมจึงอยากให้ผลงานเป็นที่ยอมรับก่อนจบการศึกษา และกดดันตัวเองอยู่ในขณะนี้]
คณะที่เรียนอยู่ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับสายงานที่ฝันไว้เลย แต่เงินค่อนค้างดี ในอนาคตผมไม่อยากทำทั้งสองควบคู่กันไปเพราะกลัวจะทำพังทั้งคู่แล้วไม่ประสบความสำเร็จสักทาง
ตอนนี้ ผมรับวาดรูปเป็นฟรีเเลนซ์เป็นครั้งคราวเพื่อหารายได้เสริม ถ้าทำจริงจังและว่างระบบให้ทำงานได้ดีขึ้นผมมั่นใจว่าผมทำได้เเน่นอน แต่จะพ่วงมากับสุขภาพของผม [สายตา กระดูกต่างๆ ขนาดไม่ได้รับงานแบบ full time ผมยังปวดออดๆแอดๆ] ผมอยากเรียนเพิ่มตรงนี้นะ แต่ติดที่ผมกลัวว่าจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองหนักใจขึ้นมาเปล่าๆ ทั้งเรียน ทั้งความฝัน ทั้งงานอดิเรก มันผสมกันไปมั่ว ผมแยกแยะเวลางานกับเวลาเล่นไม่ออกเลย ผมเคยจัดตารางงานในสัดส่วนที่พอเหมาะ แต่พอเอาเข้าจริงก็ทำไมได้ เพราะผมหรือไม่ก็สภาพเเวดล้อมที่ทำให้ผมนอยง่ายมาก เอะอะก็เคลียดเอะก็เศร้าหดหู่ จนไม่เป็นอันทำอะไร พอดูเหมือนจะมีเวลาก็เล่นไปเรื่อย พอเดดไลน์มาถึงผมก็เคลียดอีกละ
ผมรู้ว่าทุกคนจะบอกว่าเออ...เองก็รู้นี้ ก็ปรับปรุงซะ ต่อไปนี้ก็ทำให้ดี
หรือไม่ก็ โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว มีความรับผิดชอบสิ อย่าทำอะไรตามใจตัวเองมากเกินไป
[อาจจะเป็นเสียงที่ผมพยายามบอกกับตัวเอง]
เพราะผมอยู่ตรงกลางเลือกทางไหนก็ได้ แต่ต้องรับความเสี่ยงไว้ให้ได้ด้วยตัวเอง เพราะเราไม่ได้ตัวคนเดี่ยวผมเป็นพี่ใหญ่ มีน้องชายอีกคน พ่อแม่ก็เริ่มจะทำงานกันไม่ไหวแล้ว ส่งเสียผมเรียนคงจะหวังพึ่งผมอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ผมอยากให้ทางบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ในขณะที่พ่อแม่ยังอยู่ดี ผมอยากมีเงินมาปรับปรุงในส่วนนี้ ส่วนตัวผมไม่ต้องการอะไรโก้หรู ผมแค่อยากมีบ้านหลังเล็กอยู่คนเดี่ยวกับแมวหมาสองสามตัวไม่มีใครมารบกวนและสร้างสรรคงานเขียนอยู่ที่นั้น [อาจจะดูเพ้อฝันไปบ้างแต่มันคือภาพที่อยากให้เป็นจริงสักวัน]
ผมควรทำยังไงดี
หรือจริงแล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ทางเลือก
มันขึ้นอยู่ที่ตัวผม มีใครพอจะแนะนำการปรับนิสัยได้บ้างไหมครับ คิดว่าผมควรจะทำยังไงดี
ผมไม่อยากเสียใจในปั้นปลายชีวิตเมื่อพ่อแม่จากไปและเมื่อน้องผมมีครอบครัวใหม่
เพราะสุดท้ายผมก็ดูเหมือนจะตัวคนเดียว
.
.
.
ผมอยากแก้นิสัยไม่มีความรับผิดชอบครับ แนะนำให้ผมที
และนี้คิอสิ่งที่ผมเป็นและปัญหาของผม ผมไม่รู้จะทำยังไง
.
.
.
ผมเป็นคนแปลกแยกและอ่อนไหวง่ายมากครับ
ตอนนี้ผมเรียนอยู่ ปี3 ที่ม.กึ่งรัฐในไทย ผมเป็นคนที่เรียกได้ว่าเป็นคนหัวปานกลางค่อนไปทางดี แต่ปัญหาของผมคือ ขี้เกียจและเบื่อง่ายมาก เรื่องใหนที่สนใจก็จะพุ่งใส่เต็มทีเต็มแรง งานที่ได้ออกมาก็จะดีมากๆ
แต่วิชาหรืองานที่ผมไม่สนใจก็คือจะเมินเฉยไปเลย พองานค้างกองพะเนิน ผมจะอ้างว่าเวลาไม่มีไม่มีอารมณ์ทำ
แต่ผมเองที่รู้ว่าดีว่าตัวเองแค่ยืดเวลาออกไป ไม่อยากทำ ไม่อยากรับรู้ เหมือคนทำงานไม่เป็นมืออาชีพอะครับ มันเกี่ยวข้องกับความรู้สึกผมด้วย
ผมมีความฝันว่าอยากเขียนหนังสือนิยายแนวสะเทือนอารมณ์เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเอง [ผมพยายามอยู่ในแบบที่ทีเล่นทีจริงไม่มีความสม่ำเสมอ] ผมกังวลว่ามันจะพออยู่พอกินไหม ถ้าผมทำสำเร็จที่บ้านจะยินดีหรือเปล่า ใจผมจะพังไหมเวลาที่โดนถากถางเรื่องหน้าที่การงานในระหว่างทางที่ผมกำลังสร้างตัว[เพราะแบบนี้ผมจึงอยากให้ผลงานเป็นที่ยอมรับก่อนจบการศึกษา และกดดันตัวเองอยู่ในขณะนี้]
คณะที่เรียนอยู่ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับสายงานที่ฝันไว้เลย แต่เงินค่อนค้างดี ในอนาคตผมไม่อยากทำทั้งสองควบคู่กันไปเพราะกลัวจะทำพังทั้งคู่แล้วไม่ประสบความสำเร็จสักทาง
ตอนนี้ ผมรับวาดรูปเป็นฟรีเเลนซ์เป็นครั้งคราวเพื่อหารายได้เสริม ถ้าทำจริงจังและว่างระบบให้ทำงานได้ดีขึ้นผมมั่นใจว่าผมทำได้เเน่นอน แต่จะพ่วงมากับสุขภาพของผม [สายตา กระดูกต่างๆ ขนาดไม่ได้รับงานแบบ full time ผมยังปวดออดๆแอดๆ] ผมอยากเรียนเพิ่มตรงนี้นะ แต่ติดที่ผมกลัวว่าจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองหนักใจขึ้นมาเปล่าๆ ทั้งเรียน ทั้งความฝัน ทั้งงานอดิเรก มันผสมกันไปมั่ว ผมแยกแยะเวลางานกับเวลาเล่นไม่ออกเลย ผมเคยจัดตารางงานในสัดส่วนที่พอเหมาะ แต่พอเอาเข้าจริงก็ทำไมได้ เพราะผมหรือไม่ก็สภาพเเวดล้อมที่ทำให้ผมนอยง่ายมาก เอะอะก็เคลียดเอะก็เศร้าหดหู่ จนไม่เป็นอันทำอะไร พอดูเหมือนจะมีเวลาก็เล่นไปเรื่อย พอเดดไลน์มาถึงผมก็เคลียดอีกละ
ผมรู้ว่าทุกคนจะบอกว่าเออ...เองก็รู้นี้ ก็ปรับปรุงซะ ต่อไปนี้ก็ทำให้ดี
หรือไม่ก็ โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว มีความรับผิดชอบสิ อย่าทำอะไรตามใจตัวเองมากเกินไป
[อาจจะเป็นเสียงที่ผมพยายามบอกกับตัวเอง]
เพราะผมอยู่ตรงกลางเลือกทางไหนก็ได้ แต่ต้องรับความเสี่ยงไว้ให้ได้ด้วยตัวเอง เพราะเราไม่ได้ตัวคนเดี่ยวผมเป็นพี่ใหญ่ มีน้องชายอีกคน พ่อแม่ก็เริ่มจะทำงานกันไม่ไหวแล้ว ส่งเสียผมเรียนคงจะหวังพึ่งผมอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ผมอยากให้ทางบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ในขณะที่พ่อแม่ยังอยู่ดี ผมอยากมีเงินมาปรับปรุงในส่วนนี้ ส่วนตัวผมไม่ต้องการอะไรโก้หรู ผมแค่อยากมีบ้านหลังเล็กอยู่คนเดี่ยวกับแมวหมาสองสามตัวไม่มีใครมารบกวนและสร้างสรรคงานเขียนอยู่ที่นั้น [อาจจะดูเพ้อฝันไปบ้างแต่มันคือภาพที่อยากให้เป็นจริงสักวัน]
ผมควรทำยังไงดี
หรือจริงแล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ทางเลือก
มันขึ้นอยู่ที่ตัวผม มีใครพอจะแนะนำการปรับนิสัยได้บ้างไหมครับ คิดว่าผมควรจะทำยังไงดี
ผมไม่อยากเสียใจในปั้นปลายชีวิตเมื่อพ่อแม่จากไปและเมื่อน้องผมมีครอบครัวใหม่
เพราะสุดท้ายผมก็ดูเหมือนจะตัวคนเดียว
.
.
.