(รีรัน) เหตุผลที่ทำไมคุณควรจะศึกษาวิชาการเทรด หุ้น/Forex สายเทคนิก ตั้งแต่สมัยเรียน ตอนอายุยังไม่ถึง 18 ปี

เราจะพบว่า  ในโลกยุคปัจจุบันนี้
มีคนส่วนใหญ่เลย  ที่เริ่มศึกษาวิชาการเทรด หุ้น/Forex สายเทคนิก  เอาตอนวัยทำงานแล้ว
หรือ อายุเกิน 18 ปี สำหรับผมถือว่า เริ่มเข้าสู่วัยทำงานต้นๆแล้วด้วย
เพราะคุณจะเห็นว่า มีคนบางส่วนที่ทำงานช่วยค่าเรียนที่บ้านไปด้วยเรียนมหาลัยตอนอายุ 19-22 ปี ไปด้วย
และคนส่วนใหญ่จริงๆ มักพึงมาเริ่มศึกษาวิชาพวกนี้เอาตอนอายุ 23 ปี หรือ หลังเรียนจบ มหาลัย
หรือ ช่วงที่เกิดวิกฤตตลาดร่วงแรงๆ เช่น SET ร่วงแรงไปที 960 จุด ช่วงต้นโควิด ในปี 2020

ในแวดวงเทรดเดอร์มืออาชีพ ที่สามารถเอาตัวรอดในตลาดพวกนี้ได้อย่างสม่ำเสมอจะเป็นที่รู้กัน ว่า
การศึกษาวิชาการเทรด หุ้น/Forex สายเทคนิก เหล่า  จำเป็นต้องใช้เวลาในชีวิตที่สูงมาก ไปกับการศึกษาเรื่องพวกนี้
จนสามารถใช้งานเทรดจริงได้อย่างสม่ำเสมอ
เหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะ มันมีขั้นตอนในการศึกษาและนำไปใช้งานจริงวิชาเหล่านี้  หลายขั้นตอนด้วยกัน

ขั้นตอนที่ 1 (Step 1) : ศึกษาวิชาสายเทคนิก ในภาคทฤษฏี
ซึ่งก็คือ การอ่านตำราทั้ง Text Book + แปลไทย เพื่อ จดจำ/ตีความ/ทำความเข้าใจ  มันจนบรรลุทั้ง แนวคิด/วิธีการ/แผนการเทรด ของวิชานั้นๆได้
และเราจะเห็นว่า วิชาสายเทคนิก  จะแตกออกแยกย่อยมีมากมายแบ่งเป็น วิชาใหญ่ๆดังนี้

1.อินดิเคเตอร์ต่างๆ
เช่น MA MACD RSI STO CCI DMI BB CDC ....
ที่ศึกษาการทำนายราคาด้วยสมการทางคณิตศาสตร์และสถิติ

2.ทฤษฏี Dow ธรรมดาทั่วๆไปเฉยๆ
รู้เทรนของกราฟราคา
บิดาของวิชาสายเทคนิกหลายวิชา
เช่น ข้อ 3 , 6

3.Elliott Wave(EW) + FIbo
วิชาที่ศึกษา พฤติกรรมแรงซื้อขายของมวลชนทางจิตวิทยาความ โลภ/กลัว ของคนส่วนใหญ่ในตลาด
อ่านกราฟนับเวฟหา Pattern ของราคา

4.Harmonic Parttern + Fibo
วิชาที่ค้นพบ Pattern ที่ต่อยอดมาจาก EW ข้อ 3

5.Price Pattern ธรรมดาทั่วๆไป
วิชาที่ศึกษา Pattern ของราคา
เช่น สามเหลี่ยมปากปิด  ธง  หัวไหล่

6.Demand-Supply Zone หรือ SMC / RTM / ICT ตามแต่ละสำนักจะเรียกชื่อ
วิชาที่ศึกษา โซนราคาที่เจ้ามือเข้าทำการ Buy Sell

7.Price Action วิชาแท่งเทียนสายกราฟเปล่า
วิชาที่ศึกษา พฤติกรรมรูปแบบของแท่งเทียน

โดยขั้นตอนนี้ คุณจะเสียเวลาไปอย่างมาก  และมาก-น้อยต่างกัน  ตามแต่ละความสามารถการเรียนรู้และดาวโหลดข้อมูลได้ในแต่ละคน
หรือ พูดง่ายๆ IQ มีผลต่อขั้นตอนนี้แน่ๆ  เพราะคุณต้องอาศัยการ จดจำ/ตีความ/ทำความเข้าใจ
ซึ่งบางคนอาจ จดจำ เก่ง แต่ ตีความ ไม่เก่ง
ซึ่งบางคนอาจ จดจำ ไม่เก่ง แต่ ตีความ เก่ง
ก็อาจใช้เวลาได้มากน้อยต่างกันด้วย 
แต่ที่ผมพบเจอ  คนส่วนใหญ่ที่มีสติปัญญาในระดับปกติจะเสียเวลาเรียนรู้ ศึกษา วิชาเทคนิกในขั้นตอนนี้ไปอย่างน้อยเกิน 2 ปีแน่ๆ
กว่าจะจดจำและเข้าใจทุกวิชามันหมด
 
*********************************************************************************************************************************************************

ขั้นตอนที่ 2 (Step 2) : ศึกษาวิชาสายเทคนิก ในภาคทดสอบตัววิชา กับกราฟจริง
ซึ่งก็คือ การนำเอาทฤษฏี แนวคิด มาทำการทดสอบกับกราฟจริง  ว่า  ได้ผลลัพท์เป็นไปตามที่ตำราบอกไว้หรือไม่
เพื่อเก็บข้อมูลหาค่าสถิติ  เช่น WinRate / MaxDawDawn (MaxDD) / Risk Per Trade / Risk Reward Ratio (RR) จากแผนการเทรดของแต่ละวิชา
เรียกวิธีการทำแบบนี้ว่า การ Test ระบบเทรด
ถ้าเก็บสถิติกราฟจริงที่ตลาดได้เฉลยและจบไปแล้ว  เรียกว่า Back Test
ถ้าเก็บสถิติกราฟจริงที่ตลาดยังไม่ได้เฉลยและกำลังดำเนินอยู่ ไม่ว่าคุณจะเทรดด้วยพอร์ต Demo หรือ จดบันทึก  เรียกว่า Foward Test
ซึ่งจำเป็นต้องทำอย่างมากก่อนการนำไปใช้งานเทรดจริงในขั้นตอนที่ 3 (Step 3)
เพราะไม่งั้นคุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า สิ่งที่คุณศึกษาทฤษฏีแต่ละวิชาเทคนิกมาจากตำรา  มันถูกต้องหรือไม่  ถูกซักกี่ % กี่เรื่องในตำรานั้น
กราฟจริงจะแหกตำราที่คุณเคยศึกษามาได้หรือไม่ 

และขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่เสียเวลาชีวิตของคุณมากที่สุดก็ว่าได้

เพราะไม่ว่าคุณจะ Back Test ก็เสียเวลาอย่างมากที่ต้องมานั่งไล่กราฟจริงย้อนหลัง บันทึกจดเก็บข้อมูลสถิติเอาเอง
หรือ ต่อให้คุณใช้ Bot ช่วย Back Test เลย ยังมีวิธีที่ Bot Back Test ออกมาไม่ดี
เช่น EW (ข้อ3) เพราะมันคือ จิตวิทยามวลชน Bot ไม่สามารถตีความจิตวิทยาคนได้โดยสมบูรณ์

และถ้าคุณ Foward Test กับกราฟจริง ไม่ว่า จะด้วยการดูกราฟจริงไปเรื่อยๆ และบันทุกเก็บข้อสถิติในโปรแกรม เช่น Excel
หรือ เทรดจริงแล้วดูผลลัพท์พอร์ต+บันทึกไปด้วยเลย  จะเสียเวลามากที่สุดในทุกขั้นตอน
เพราะคุณลองนึกภาพดู  ปกติค่าสถิติที่พอจะใช้งานได้จากการ Foward Test ควรเป็นเท่าไหร่ถึงพอจะนำไปใช้เทรดจริงได้ดี
คือเท่าไหร่  ตอบให้นะคับ คือ อย่างน้อยเกิน 2 ปี
และถ้าให้มีคุณภาพแบบสุดๆเลย คือ อย่างน้อย 10 ขึ้นไป
เพราะจำเป็นต้องเก็บข้อมูลสถิติทั้งรอบของ เทรนขาขึ้น / Sildway / เทรนขาลง ตามทฤษฏี Dow
พูดง่ายๆในขั้นตอนนี้  ถ้าจะเก็บค่าสถิติเพื่อสร้างระบบเทรดที่มีคุณภาพควรใช้เวลาเกิน 10 ปี  (ถ้ากรณีที่เน้นเอาชัวจริงๆนะ)

*********************************************************************************************************************************************************

ขั้นตอนที่ 3 (Step 3) : ศึกษาวิชาสายเทคนิก ในภาคปฏิบัติ เทรดจริง กับกราฟจริงๆ
ซึ่งก็คือ การนำเอาทฤษฏี แนวคิด (Step 1) + ข้อมูลสถิติจากการเทรดระบบเทรด (Step 2) 
มาเทรดจริง  ที่ต้องมีการฝึกฝนการแก้เกมกรณีที่เรา ทายผิดทาง  จะทำยังไงต่อไป  เปลี่ยนจากไม้ Buy เป็น Sell ไหม
หรือ รอ Buy ของเทรนขาลงจบแล้ว  และยังมีสภาพจิตใจที่ต้องฝึกฝนในการเผชิญหน้ากับตลาดจริงอีก
ขั้นตอนนี้แต่ละคนจะเสียเวลามากน้อยต่างกันขึ้นกับ  ไหวหริบ และ สภาพจิตใจ นิสัย แต่ละคน
บางคนเป็นคนไหวพริบดี / นิสัยไม่กลัวการสูญเสียเงิน  ก็จะผ่านมันไปได้ไว 
แต่ถ้า ไม่  อาจติดอยู่ในขั้นตอนนี้นานเกิน 5 ปี ก็ไม่ไปไหน
และผมให้คนส่วนใหญ่กว่าจะผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ขั้นต่ำควรจะอย่างน้อยเกิน 2 ปี

*********************************************************************************************************************************************************

จึงสรุปได้ว่า เวลาที่ต้องเสียไปในชีวิตของขั้นตอนทั้งหมดเพื่อพร้อมบวกเผชิญหน้ากับตลาดแบบเอาชัวๆเลย 
ว่า จะสามารถทำกำไรอย่างยั่งยืน และ รอดตายจากตลาดได้เป็นประจำ  ไม่ใช่โชคช่วยได้ Big Shot แล้วรวยไปเลย  แบบผ็มากับดวงนะ
ต้องใช้เวลาอย่างน้อยเกิน 2 + 10 + 2 = 14 ปี
ซึ่งคุณจะพบว่า (กรณีที่เริ่มต้นด้วยเงินหลักหมื่น)

ถ้ามาเริมศึกษาตอนอายุ 23 ปีหลังเรียนจบ
- กว่าจะพร้อมเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ 23 + 14 = 37 ปี

ถ้ามาเริมศึกษาตอนอายุ 30 ปี วัยทำงานเต็มที่ ที่แทบไม่มีเวลาในชีวิตเหลือจากการทำงาน
(ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเทรดและดูกราฟจริงในตลาดพวกนี้เลย)
- กว่าจะพร้อมเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ 30 + 14 = 44 ปี
และอาจใช้เวลาในขั้นตอนที่ 1 + 2 เพิ่มมากกว่านี้ด้วย 
เพราะคนส่วนใหญ่ทำงานหนัก  จนไม่มีเวลามาเคร่งเรื่องศึกษาวิชาเทคนิกพวกนี้อย่างจริงจังอีกแล้วก็ได้
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "วัยทำงาน"  ไม่ใช่ "วัยเรียน"
ก็ต้องทำงานไปจนตายในโลกทุนนิยมนั้นละ 
ก็ใช่ว่า จะรวยได้ ง่ายๆ  ถ้าไม่พึง 3 ขั้นตอนในการชนะตลาดพวกนี้

ถ้ามาเริมศึกษาตอนอายุ 10 ปี  วัยเรียน ยังอยู่ชั้นประถม ป.4 อยู่เลย
- กว่าจะพร้อมเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ  10 + 14 = 24 ปี ตอนที่เป็นวัยรุ่นได้ใช้ชีวิตเต็มที่กับเงินจากการเทรดที่หามาได้พอดี
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "วัยเรียน" ที่มีเวลาชีวิตมากพอสมควรในการศึกษาวิชาเทคนิกพวกนี้
และอย่าคิดว่า เด็กประถมศึกษาเรื่องพวกนี้ไม่ได้  วิชาสายเทคนิก ทุกวิชาที่กล่าวไป
อาศัยแค่ การบวกลบคูณหาร เทียบ % ง่ายๆ  / หลัก Demand Supply ที่เข้าใจไม่ยาก
และการตีความการเข้าทำของเจ้ามือ หรือ นึกง่ายๆเหมือนให้เด็กประถมเล่นเกม RoV / PubG
แล้วคิดหาหนทาง/กลยุทธ ว่า จะชนะศัตรูยังไง  เอาตัวรอดจากศัตรูยังไงในเกมที่เล่นอยู่
เด็กวัยนี้เล่นเกมยุแล้ว  ศึกษาวิชาเทคนิกพวกนี้ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป
และเด็กสามารถให้พ่อแม่เปิดพอร์ต แล้วนำพอร์ตพ่อแม่ มาเทรดก็สามารถทำได้

ที่นี้คุณเห็นกันหรือยัง  เริ่มต้นศึกษาวิชาสายเทคนิก วิเคราะห์กราฟ ช้า  อายุเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่