ผมไม่ได้อยู่กับพ่อเลยตั้งแต่จำความได้ ตอนเด็กอญุ่กับแม่และยายเลี้ยงผมมา จนถึง 3 ขวบ
พ่อขับรถชนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้แม่เสีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ยายด็เลี้ยงมาตลอด โดยที่พ่อเขาจะแวะมาหาเกือบทุกสัปดาห์แโดยมีขนม + ค่าใช้จ่าย ให้ยายไว้ใช้สอยและเป็นค่าใช้จ่าย
(เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเท่าที่จำความได้พ่อไม่ขาดตกบกพร่อง)
พ่อแต่งงานใหม่ครับ อยู่ กทมกับแม่ใหม่ มีลูก 3 คน โดยเมื่อผมจบ ป 6 ที่ ตจว จึงได้ย้ายไปอยู่กับพ่อ
ปัญหาต่างๆเริ่มเกิดหลังจากเข้าไปอยู่บ้านหลังนี้ มองย้อนไปในอดีต คิดว่าแม่เลี้ยงไม่อยากให้มาอยู่ด้วย โดยเงินที่ให้แบบจำกัด พอดีใช้ต่อสัปดาห์ หรือพาเพื่อนมามาเล่นเกมส์ที่บ้าน
ไม่ได้ แม่เลี้ยงไม่พอใจ ออกอาการชัดเจน ผมคิดว่าน่าจะมีเรื่องอื่นๆอีก แต่ลืมไปบ้างแล้วครับ
เช้าวันหนึ่ง ฝนตกหนักมาก ผมเลยไปปลุกพ่อให้ไปส่งที่โรงเรียน (สมัยนั้นนั่งรถเมล์ไปเรียน) แต่แม่เลี้ยงไม่พอใจ บอกว่าฝนตกไปเองไม่ได้หรืออย่างไร
แต่พ่อก็ไปส่งโรงเรียนน่ะ แถวแอบเอาเงินใส่มือเพิ่มให้ด้วย
ด้วยหลายเหตุการณ์ ทำให้คิดว่า พ่อคงติดต่อไปทางน้าสาว (บ้านน้องสาวแม่แท้ๆของผม) เพื่อให้มารับไปอยู่ด้วย แต่ พ่อเขาก็ส่งค่าใช้จ่ายต่างๆมาให้ครับ จนถึงส่งไปเรียนเมืองนอกกลับมา (ลูกเขาก็ไปเรียนเมืองนอกเหมือนกัน)
และผมทำงานค่อนข้างโอเคจนถึงตอนนี้ และมีเงินเก็บพอสมควร
อีกเหตุการณ์ที่ไม่ลืมคือ ครอบครัวเขาย้ายบ้านไปอยู่บ้านริมน้ำใหญ่โต แต่พ่อไม่เคยชวนไปอยู่เลย ผมก็ไม่เป็นไร คิดว่าคงเป็นเพราะแม่เลี้ยงควบคุมอยู่)
ซื้อรถให้ลูกเขาใช้ แต่ผมต้องทำงานผ่อนรถเอง มันทำให้ผมคิดว่า มันไม่เท่าเทียมกันเลย
แต่ปัญหาไม่จบ คือ พ่อแม่เขามีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจของเขา ล้มละลายครับ โดนยึดทรัพย์สินหมด โดยพ่อและแม่เลี้ยงเป็นบุคคลล้มละลาย
(เรื่องนี้ผมก็ยังสงสัยว่าโดนยึดหมดจริงหรือไม่) โดยที่ลูกเขาต้องซื้อบ้าน เพื่อให้ออกไปอยู่กันกับครอบครัวของเขา ลูกชายของเขาเป็นคนผ่อนบ้าน ลูกสาวอีกคนทำงานตจว
(หน้าที่การงานดีมาก) อีกคนแต่งงานออกเรือนไปแล้ว
ผมเกิดคำถามในหัวมากมายว่า ผมควรช่วยเรื่องการเงินทางบ้านเขาไหม
1. ลูกเขาสองคน หน้าที่การงานดีมาก ผมคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการเงินที่จะให้พ่อแม่เขาใช้จ่าย
2. พ่อเขาจะชอบพูดประมาณ ลูกชายเขาก็จ่ายค่าบ้าน เลี้ยงเขา น่าจะพูดเป็นนัยๆ เรื่องเงินให้ผมช่วย
3. ผมช่วยพ่อได้ครับ แต่ไม่ใช่กับแม่เลี้ยง ถ้าให้เงินพ่อไป แม่เลี้ยงเก็บแน่นอน (เคยให้ไปก้อนใหญ่ก้อนนึงแล้ว คงโดนเขาเก็บไปหมด)
4. ผมทำงาน ตจว ตอนนี้ผมยังไม่รู้บ้านใหม่ที่พ่อเขาอาศัยอยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ
เรื่องเงินนี่ แม่เลี้ยงไม่เคยกระเด็นมาให้ผมเลยครับ ขนาดเงินคืนจากประกันสุขภาพอะไรสักอย่างเนี่ยแหล่ะครับ สามพันกว่าบาท เงินคืนมาในชื่อผม แม่เลี้ยงทวงคืนไม่หยุด
บอกว่าเงินเขา
5. ผมเคยถามพ่อครับเมื่อไม่นานนี้ว่า ผมเกิดมาทำไม พ่อยังคิดว่าผมเป็นลูกไหม บ้านไม่เคยชวนไปอยู่ พ่อตอบว่า มีห้องเหลือๆว่างก็มาอยู่
ผมบอกเลยว่า มีห้องทำไว้ให้ กับห้องเหลือว่าง มันมีความหมายต่างกันมากน่ะ ผมบาปไหม
ปัญหารบกวนสมอง บั่นทอนสุขภาพจิต
พ่อขับรถชนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้แม่เสีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ยายด็เลี้ยงมาตลอด โดยที่พ่อเขาจะแวะมาหาเกือบทุกสัปดาห์แโดยมีขนม + ค่าใช้จ่าย ให้ยายไว้ใช้สอยและเป็นค่าใช้จ่าย
(เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเท่าที่จำความได้พ่อไม่ขาดตกบกพร่อง)
พ่อแต่งงานใหม่ครับ อยู่ กทมกับแม่ใหม่ มีลูก 3 คน โดยเมื่อผมจบ ป 6 ที่ ตจว จึงได้ย้ายไปอยู่กับพ่อ
ปัญหาต่างๆเริ่มเกิดหลังจากเข้าไปอยู่บ้านหลังนี้ มองย้อนไปในอดีต คิดว่าแม่เลี้ยงไม่อยากให้มาอยู่ด้วย โดยเงินที่ให้แบบจำกัด พอดีใช้ต่อสัปดาห์ หรือพาเพื่อนมามาเล่นเกมส์ที่บ้าน
ไม่ได้ แม่เลี้ยงไม่พอใจ ออกอาการชัดเจน ผมคิดว่าน่าจะมีเรื่องอื่นๆอีก แต่ลืมไปบ้างแล้วครับ
เช้าวันหนึ่ง ฝนตกหนักมาก ผมเลยไปปลุกพ่อให้ไปส่งที่โรงเรียน (สมัยนั้นนั่งรถเมล์ไปเรียน) แต่แม่เลี้ยงไม่พอใจ บอกว่าฝนตกไปเองไม่ได้หรืออย่างไร
แต่พ่อก็ไปส่งโรงเรียนน่ะ แถวแอบเอาเงินใส่มือเพิ่มให้ด้วย
ด้วยหลายเหตุการณ์ ทำให้คิดว่า พ่อคงติดต่อไปทางน้าสาว (บ้านน้องสาวแม่แท้ๆของผม) เพื่อให้มารับไปอยู่ด้วย แต่ พ่อเขาก็ส่งค่าใช้จ่ายต่างๆมาให้ครับ จนถึงส่งไปเรียนเมืองนอกกลับมา (ลูกเขาก็ไปเรียนเมืองนอกเหมือนกัน)
และผมทำงานค่อนข้างโอเคจนถึงตอนนี้ และมีเงินเก็บพอสมควร
อีกเหตุการณ์ที่ไม่ลืมคือ ครอบครัวเขาย้ายบ้านไปอยู่บ้านริมน้ำใหญ่โต แต่พ่อไม่เคยชวนไปอยู่เลย ผมก็ไม่เป็นไร คิดว่าคงเป็นเพราะแม่เลี้ยงควบคุมอยู่)
ซื้อรถให้ลูกเขาใช้ แต่ผมต้องทำงานผ่อนรถเอง มันทำให้ผมคิดว่า มันไม่เท่าเทียมกันเลย
แต่ปัญหาไม่จบ คือ พ่อแม่เขามีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจของเขา ล้มละลายครับ โดนยึดทรัพย์สินหมด โดยพ่อและแม่เลี้ยงเป็นบุคคลล้มละลาย
(เรื่องนี้ผมก็ยังสงสัยว่าโดนยึดหมดจริงหรือไม่) โดยที่ลูกเขาต้องซื้อบ้าน เพื่อให้ออกไปอยู่กันกับครอบครัวของเขา ลูกชายของเขาเป็นคนผ่อนบ้าน ลูกสาวอีกคนทำงานตจว
(หน้าที่การงานดีมาก) อีกคนแต่งงานออกเรือนไปแล้ว
ผมเกิดคำถามในหัวมากมายว่า ผมควรช่วยเรื่องการเงินทางบ้านเขาไหม
1. ลูกเขาสองคน หน้าที่การงานดีมาก ผมคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการเงินที่จะให้พ่อแม่เขาใช้จ่าย
2. พ่อเขาจะชอบพูดประมาณ ลูกชายเขาก็จ่ายค่าบ้าน เลี้ยงเขา น่าจะพูดเป็นนัยๆ เรื่องเงินให้ผมช่วย
3. ผมช่วยพ่อได้ครับ แต่ไม่ใช่กับแม่เลี้ยง ถ้าให้เงินพ่อไป แม่เลี้ยงเก็บแน่นอน (เคยให้ไปก้อนใหญ่ก้อนนึงแล้ว คงโดนเขาเก็บไปหมด)
4. ผมทำงาน ตจว ตอนนี้ผมยังไม่รู้บ้านใหม่ที่พ่อเขาอาศัยอยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ
เรื่องเงินนี่ แม่เลี้ยงไม่เคยกระเด็นมาให้ผมเลยครับ ขนาดเงินคืนจากประกันสุขภาพอะไรสักอย่างเนี่ยแหล่ะครับ สามพันกว่าบาท เงินคืนมาในชื่อผม แม่เลี้ยงทวงคืนไม่หยุด
บอกว่าเงินเขา
5. ผมเคยถามพ่อครับเมื่อไม่นานนี้ว่า ผมเกิดมาทำไม พ่อยังคิดว่าผมเป็นลูกไหม บ้านไม่เคยชวนไปอยู่ พ่อตอบว่า มีห้องเหลือๆว่างก็มาอยู่
ผมบอกเลยว่า มีห้องทำไว้ให้ กับห้องเหลือว่าง มันมีความหมายต่างกันมากน่ะ ผมบาปไหม