JJNY : 5in1 เตือนคนไทยทำใจ│แท็กซี่นัดบุก‘พลังงาน’│โฆษกเพื่อไทยเบรกปชป.│สมชัยเปิดรายได้'มีชัย'│จวกรัสเซีย“เล่นงานพลเรือน”

กกพ.เตือนคนไทยทำใจ ค่าไฟไม่มีต่ำกว่า 4 บ.อีกแล้ว เชื้อเพลิงพุ่ง-ก๊าซอ่าวไทยหด
https://www.matichon.co.th/economy/news_3558781
 
 
กกพ.เตือนคนไทยทำใจ ค่าไฟไม่มีต่ำกว่า 4 บ.อีกแล้ว เชื้อเพลิงพุ่ง-ก๊าซอ่าวไทยหด
 
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) กล่าวในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Energy  Symposium 2022 จัดโดยสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เรื่องวิกฤตพลังงานและแผนของประเทศว่า แนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมที่ประชาชนต้องจ่ายในระดับต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วยคงจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว เนื่องจากเชื้อเพลิงเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมพึ่งพาก๊าซอ่าวไทยราคาต่ำ แต่ปัจจุบันปริมาณก๊าซจำกัดจนไทยต้องนำเข้าเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) นอกจากนี้การนำเข้าแบบสัญญาระยะยาวก็ทำได้ยาก ระยะหลังผู้ขายนิยมตลาดจรเพราะราคาสูงกว่า ปัจจุบันแอลเอ็นจี คิดเป็นต้นทุนผลิตไฟ 10 บาทต่อหน่วย ก๊าซอ่าวไทย 2-3 บาทต่อหน่วย และน้ำมัน 6 บาทต่อหน่วย
 
นายคมกฤชกล่าวว่า ปัจจุบันค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ปรับขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่าไฟไทยทำให้ค่าไฟเฉลี่ยต้องจ่ายอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย หากสถานการณ์ราคาพลังงานยังผันผวน แนวโน้มค่าไฟคงต้องปรับตัวสูงขึ้นอีก แต่จะมากน้อยเพียงใดอยู่ที่ปริมาณก๊าซในอ่าวไทย โดยเฉพาะแหล่งเอราวัณต้องเร่งผลิตเพิ่มมาสู่ระดับปกติ ส่วนการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระค่าเชื้อเพลิงแทนประชาชนคงทำได้ยาก เพราะปัจจุบันรับภาระเกือบ 1 แสนล้านบาท



พรุ่งนี้บ่ายโมง ‘แท็กซี่’​ กว่า 60 คัน นัดบุก ‘พลังงาน’ จี้สางปัญหาปล่อยค่าก๊าซลอยตัว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3558587

13 ก.ย.นี้ ‘แท็กซี่’​ กว่า 60 คัน เตรียมบุกพลังงาน จี้สางปัญหาปล่อยค่าก๊าซลอยตัว แนะออกบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงช่วยเหลือ
 
นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย เปิดเผยว่า เวลา 13.00 น. วันที่ 13 กันยายนนี้ สมาคม พร้อมสมาชิกจะนำรถแท็กซี่ จำนวน 50-60 คัน ไปที่กระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือถึง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากผลกระทบราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
นายวิฑูรย์กล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากที่ได้เกิดการระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบถึงประชาชนในทุกสาขาอาชีพอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ รัฐบาลได้มีการออกมาตรการในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนต้องงดการเดินทาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางได้ ส่งผลให้คนขับรถแท็กซี่ขาดรายได้ และมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังไม่สามารถปรับอัตราค่าโดยสารได้ในขณะนี้ และนโยบายการแก้ปัญหาของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากกระทรวงพลังงานได้มีนโยบายปล่อยราคาก๊าซลอยตัว และมีการปรับขึ้นราคาก๊าซมาโดยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
 
นายวิฑูรย์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบและช่วยให้ผู้ขับรถแท็กซี่ยังสามารถไปต่อในอาชีพนี้ได้ จึงขอความกรุณาให้กระทรวงพลังงานช่วยดำเนินการ 4 ข้อ ดังนี้ 

1. ลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับใช้กับรถยนต์ (เอ็นจีวี)​ และก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี)​ ให้กับผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) 
 
2. ออกบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงให้กับผู้ขับรถแท็กซี่ และให้ครอบคลุมจำนวนผู้ขับรถแท็กซี่ทุกคน
 
“3.ส่งเสริมให้มีการนำรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาทำเป็นรถแท็กซี่เร่งด่วน เพื่อทดแทนการขาดแคลนรถแท็กซี่ที่หายไปจากการประสบปัญหาผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 และให้รัฐบาลรับแลกเปลี่ยนรถแท็กซี่เดิมในปัจจุบันเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในราคาที่ยุติธรรม และ 4.จัดหาถุงยังชีพเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบในการยังชีพให้ผู้ขับรถแท็กซี่และครอบครัวอย่างทั่วถึง” นายวิฑูรย์ระบุ


 
‘โฆษกเพื่อไทย’ เบรก ปชป. ทำความเข้าใจ ‘ซอฟต์เพาเวอร์-ทูตการค้า’ ให้ดี ‘ทักษิณ’ ริเริ่มหรือเปล่า?
https://www.matichon.co.th/politics/news_3558229
 
‘โฆษกเพื่อไทย’ เบรก ปชป. ทำความเข้าใจ ‘ซอฟต์เพาเวอร์’ ให้ดีก่อน ระบุ ‘ทักษิณ’ เป็นคนคิด
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9-10 กันยายนที่ผ่านมาว่า จากกรณีคนในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาตอบโต้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าลอกนโยบาย ทั้งในเรื่องของคำว่าเซลส์แมนขายสินค้าเกษตรในต่างประเทศ หรือซอฟต์เพาเวอร์ โดยระบุว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำมาตลอด บุคคลผู้นั้นอาจจะไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของคำว่าซอฟต์เพาเวอร์ โดยซอฟต์เพาเวอร์ของ พท.คือต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่ในวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสังคมไทย มีความสร้างสรรค์ ความละเมียดที่ดำรงอยู่ที่แสดงออกผ่านการปรุงอาหาร การประดิษฐ์สร้างสรรค์ หัตถกรรม ไปจนถึงงานศิลปะทุกแขนง สามารถด้านกีฬา การเขียนซอฟต์แวร์ และความสามารถทางอีสปอร์ต ฯลฯ
 
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า แต่หากมาดูผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันเกี่ยวกับซอฟต์เพาเวอร์ของกระทรวงพาณิชย์ที่นำโดยนายจุรินทร์ยังถูกตั้งคำถาม เพราะที่ผ่านมาคนไทยที่มีฝีมือ หรือองค์กรภาคเอกชนก็ล้วนดิ้นรนหาทางเติบโตเองทั้งสิ้น
 
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ หากจะกล่าวถึงคำว่า “เซลส์แมน” หรือ “ทูตการค้า” นั้น บุคคลที่ริเริ่มใช้คำนี้คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่กระตุ้นให้ผู้แทนทางการทูตในต่างประเทศในขณะนั้น ร่วมมือกันขายภาพพจน์และภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ไปเจาะตลาด สร้างรายได้ในต่างประเทศ โดยนายทักษิณได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ นำมาปรับใช้ในขณะที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ จนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้นำสินค้าไทยไปขายในเวทีโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นการสานต่อแนวคิด เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีแนวคิดสร้างเศรษฐกิจเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนเช่นเดียวกัน หากใครจะเอาคำนี้ไปใช้ก็ไม่ว่ากัน หากทำแล้วเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน
 
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า รัฐบาลพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงพรรค พท. ได้คิดค้นและพัฒนาแนวคิดจากหลายภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ จนต่อยอดมาเป็นนโยบายใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ล้วนเปลี่ยนชีวิตให้กับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่คิดค้นขึ้นใหม่ครั้งแรก นโยบาย 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP) และอีกมากมาย ที่พัฒนาต่อยอด คิดใหม่ ทำใหม่ให้กับคนไทย จนกลายมาเป็นนโยบายหลักที่สร้างความเท่าเทียม สร้างโอกาส สร้างชีวิตใหม่ให้กับคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
 
“ไม่มีรัฐบาลไหนยกเลิกโครงการดังกล่าวได้ แม้แต่รัฐบาลนี้ก็ยังต้องดำเนินการต่อ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เองยังเคยนำเอาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคไปพูดบนเวทีโลก แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้แสดงท่าทีอื่นใดต่อการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว
 

 
สมชัย เปิดรายได้ 'มีชัย' ร่าง รธน.ฟันเบี้ยประชุม 4.5 ล้าน - นั่งเก้าอี้ คสช.ได้อีกเกือบ 7 ล้าน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3558395

‘สมชัย’ เปิดรายได้ ‘มีชัย’ ร่าง รธน.ฟันเบี้ยประชุม 4.5 ล้าน – นั่งเก้าอี้ คสช.ได้อีก รวม 6.95 ล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 12 กันยายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นเรื่องเบี้ยประชุมของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า 
 
เพราะเบี้ยประชุม ไม่ต้องเสียภาษี
 
กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ประชุมครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 ประชุมครั้งสุดท้ายครั้งที่ 501 วันที่ 11 กันยายน 2561 มีเวลาในการทำงานรวม 2 ปี 11 เดือน
 
ประชุม 501 ครั้ง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ได้รับเบี้ยประชุมครั้งละ 9,000 บาท ตามพระราชกฤษฎีกา ที่ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2557
 
เบี้ยประชุมเฉพาะนายมีชัย จึงเป็นเงินรวมประมาณ 4.5 ล้านบาท ซึ่งไม่ต้องไปรวมกับเงินเดือนที่ต้องเสียภาษี
 
ส่วนเงินเดือนของนายมีชัยนั้น ได้เงินเดือนในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดือนละ 119,920 บาท ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2557 ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2562 รวม 58 เดือน รวมเป็นเงิน 6.95 ล้านบาท
 
การเสียภาษีที่ครอบคลุมเฉพาะเงินเดือน จึงอยู่ในอัตราสูงสุดที่ร้อยละ 25 แต่หาก กรธ.รับเป็นเงินเดือน ไม่รับเบี้ยประชุม อัตราภาษีก้าวหน้าในส่วนที่เกิน 2 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป จะเสียในอัตราร้อยละ 30
 
คนรู้กฎหมาย จึงรู้ว่าอะไรสมควร อะไรไม่สมควร

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0mVsF3h6kRbedW1G7Wmeqkegi2LBSegswnXxhfhuzjtkeTvshTxfHA1NbgLoKAFVTl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่