เพิ่งเคยมีแฟน ค้นพบว่าความรักความสัมพันธ์มันยากจริงๆค่ะ ขอคำแนะนำได้ไหมคะ

สวัสดีค่ะ พอดีเจอปัญหาเรื่องความรักความสัมพันธ์ อยากปรึกษาท่านอื่นๆ เผื่อท่านไหนมีคำแนะนำในการพูดคุยกับแฟน ปล่อยวางใจตัวเอง หรือทางออกอื่นๆ ค่ะ

พอดีเราค้นพบว่าตอนนี้เรากำลังเหนื่อยกับนิสัยเฟรนด์ลี่ เล่นหยอกล้อกับผู้หญิงของแฟนค่ะ คือเค้าอัธยาศัยดี เป็นคนน่ารัก ไม่ค่อยมีช่องว่างกับใคร ผู้หญิงแอบชอบเยอะ ก่อนคบกันเราก็สังเกตว่าเค้าเทคแคร์ผู้หญิงดี (ทำงานที่เดียวกัน แต่คนละห้อง ช่วงพักจะเจอกันตลอด พนักงานนั่งกินข้าวด้วยกัน) ใครเล่นอะไรก็เล่นด้วย มีผู้หญิงมาหยอดมาทีเล่นทีจริงเค้าก็ขำๆ ตามน้ำได้ กับรุ่นน้องก็ถึงเนื้อถึงตัวเค้าได้ ดูไม่คิดอะไรเลย

ช่วงแรกเราแอบสนใจเค้านิดหน่อย ก็แอบรู้สึกแปลกๆ บ้าง (เวลาเล่นอะไรถึงเนื้อถึงตัวกับน้องคนอื่น) วิเคราะห์แล้วก็รู้สึกว่ายั้งใจไว้ดีกว่า เราคงเหนื่อยถ้าเกิดชอบเค้าขึ้นมาจริงๆ บวกกับกังวลหลายๆ อย่างเช่น ครอบครัว สังคม เพื่อนฝูง เพราะบ้านเค้ามีฐานะ ดูเป็นคนกว้างขวาง โตมาในสังคมคนมีเงิน โปรไฟล์ดี เคยอยู่ในวงการ ต่างจากเราที่เป็นคนธรรมดา ไม่มีอะไรหวือหวา (แต่ปัจจุบันก็เข้ากันได้ดีกับบ้านเค้าค่ะ ส่วนสังคมเพื่อนยังไม่มีโอกาสเจอ เค้าไม่ได้สังสรรค์กับเพื่อนบ่อย)

แต่กลายเป็นว่าเป็นเค้าที่มาบอกชอบเราก่อน เราก็คุยกันตรงๆ ว่าคิดอะไร ยังไง จนเปิดใจ คุยกัน คบกันเป็นแฟน ช่วงแรกๆ เรายังไม่รู้สึกกับเค้ามาก ส่วนเค้าใส่ใจสนใจเรามากๆ เค้าพูดกับเราเองก่อนด้วยว่าพอมีแฟนก็ต้องวางตัวใหม่เรื่องเทคแคร์หรือเล่นกับคนอื่นก็ต้องมีขอบเขต เราก็รู้สึกดีที่เขาพูดขึ้นมาเอง ก็ไม่ได้ห่วงอะไร แต่ล่าสุดมีน้องพนักงานใหม่เข้ามา น้องเป็นคนเฟรนด์ลี่ ตลก เราสังเกตว่าแฟนเราดูสบายใจกับน้องคนนี้ แล้วก็มีไปหยอกล้อหรือแกล้งบ้างให้เหตุผลว่าน้องเค้าแกล้งสนุก เราก็รู้สึกว่าลึกๆ แล้วเราไม่ค่อยโอเค เราหวงเค้า เราไม่อยากให้เค้าปันความรู้สึกเอ็นดูหรือมองว่าใครน่ารักไปให้คนอื่นเลยนอกจากคนในครอบครัวเค้าและเรา เรารู้สึกหวงความรู้สึกดีๆ ของเค้าที่มีให้คนอื่นที่เป็นเพศตรงข้ามที่ดูแล้วสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นมากกว่าเพื่อนพี่น้องได้

เราเคยคุยกับเค้าตรงๆ ว่าเราหึงอยู่นะจากที่เราเคยเห็น (ตอนนั้นคือช่วงแรกที่คุยกัน น้องคนใหม่ยังไม่เข้ามาทำงาน) เคยถามตรงๆ ว่าเค้าเป็นคนชอบบริหารเสน่ห์ตัวเองมั้ย ถ้ารู้ว่าทำอะไรแล้วอีกฝ่ายคิด ยังทำอยู่มั้ย เค้าก็ยืนยันว่าไม่ แล้วก็บอกเค้าว่าจริงๆ เราเป็นคนไม่ขี้หึง ถ้าเราไม่เห็น เราให้เค้าไปทานข้าวเย็นกับทีม outsource ที่มีแต่ผู้หญิงล้วนได้โดยไม่มีเราไปด้วย ไม่จี้ถามว่าคุยอะไรกัน คุยนานไปมั้ยหรืออะไรเลย ซึ่งเค้าก็น่ารักและรายงานเราตลอด แยกย้ายกันก็โทรมาหาทันที ไม่มีอะไรต้องห่วง แต่เราพบว่าเรารับมือกับการเห็นแฟนผูกมิตรกับเพื่อนต่างเพศในที่ทำงานเดียวกันไม่ค่อยได้จริงๆ เราอึดอัด แต่ก็ไม่อยากพูดซ้ำๆ ให้เค้าอึดอัดตาม เพราะคิดว่าพื้นฐานเค้าเป็นคนแบบนั้น และมันคงเป็นการเข้าสังคมของเค้า

เราเคยพลาดครั้งนึงคือบอกเค้าไปว่าเราไม่โอเคที่เค้าเทคแคร์คนอื่นก่อนเรา และเราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเราอยากมีแฟนที่ดีขนาดนี้มั้ย เรามาคิดดูทีหลังก็รู้สึกว่าเราพูดขวานผ่าซากเกินไป แต่เราคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะลึกๆ แล้วเราอยากให้เค้ายกให้เราเป็นอันดับหนึ่งคู่กับครอบครัวของเค้า ไม่ใช่ดีกับทุกคนจนบางทีหลงลืมเราไป

หลังๆ เราสังเกตว่าเค้าดูอึดอัดกับเรา (หรืออาจเป็นเราเองที่อึดอัด และเค้าสัมผัสได้ เลยต่างคนต่างเงียบ) เพราะที่ทำงานจะล้อเล่นกันแบบไม่มีขอบเขตบ่อยๆ มีน้องกับพี่ในที่ทำงานมาพูดเล่นว่าจะเป็นเมียน้อยแฟนเรา หรือพูดเล่นอะไรทำนองยุ่งเกี่ยวกับแฟนเราเยอะ ทำให้เราและแฟนต้องพยายามตามน้ำไปเหมือนไม่คิดอะไร แต่อันที่จริงเราแค่พยายามทำเหมือนไม่คิด ช่วงหลังพออยู่ด้วยกันมันเหมือนไม่มีเรื่องคุย เพราะเวลาเรามีเรื่องให้คิดเราจะเงียบลง

เรารู้สึกกับเค้ามากขึ้น อยากอยู่ด้วย คิดถึง อยากใช้เวลาด้วยกัน แต่เค้าเริ่มอยากโฟกัสเรื่องเส้นทางชีวิตของเค้า อยากทำธุรกิจของตัวเอง (มีมาเล่าให้เราฟังบ้าง) ช่วงหลังเค้าเริ่มขอกลับบ้านบ่อยๆ ให้เหตุผลเราว่าเหนื่อย เราก็เก็บมาเฟลนิดๆ ที่เค้ารู้สึกว่าเหนื่อยแล้วอยากกลับบ้านนอน ใช้ชีวิตคนเดียว ไม่คิดว่าการอยู่กับเรามันทำให้หายเหนื่อย เคยเปิดใจคุยเค้าก็บอกว่าเค้าเป็นแบบนี้ การพักผ่อนของเค้าคือการอยู่กับตัวเองที่บ้าน เราเองก็เป็นคนโลกส่วนตัวสูง ก็ค่อนข้างเข้าใจครึ่งหนึ่ง แต่แค่ครึ่งเดียว เพราะเรารู้สึกว่าตัวเราต่อให้เหนื่อย ขี้เกียจออกจากบ้าน แต่ถ้าได้เจอเค้า ก็ออกได้ เพราะคิดถึง อยากใช้เวลาด้วย

ช่วงแรกๆ ที่คุยกัน เค้ามาส่งตลอด และทุกครั้งที่มาส่ง บางทีถึงบ้านเราตั้งแต่ 3 ทุ่ม แต่จะนั่งจับมือกัน คุยกันเรื่อยเปื่อยจนตี 1-2 เค้าถึงกลับ และตอนนั้นเรามีความสุขดีทั้งคู่

คุยกันได้เดือนกว่า ก็เป็นแบบนั้นมาตลอด ไม่ได้อยู่ด้วยกันจนดึกทุกวัน แต่ก็ใช้เวลาด้วยกันเยอะ จนตกลงคบกัน ปัจจุบันคบมาได้แค่ 1 เดือนกว่าๆ เค้ากลายเป็นสนใจเราน้อยลง จนเราไม่รู้ว่าเพราะจริงๆ เราต่างเริ่มรู้สึกว่าการต้องปรับตัวเข้าหากัน พยายามเข้าใจกัน มันทำให้ต้องฝืนและเหนื่อยมั้ย

เค้าเคยบอกว่าเค้าอยากแต่งงานกับเรา และถ้ามีครอบครัว มันต้องใช้เงินมาก แต่เค้ารู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีอะไรมั่นคง เลยค่อนข้างโฟกัสงานเยอะ เราก็เข้าใจ พยายามไม่งอแง ถึงจะเคยงอแงว่าเหงานิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ไปอธิบายและขอโทษเค้า ให้พื้นที่เค้า

เหมือนลึกๆ เรารู้สึกเศร้าที่ความรักของเค้าดูน้อยลง ส่วนความรักของเรามันมากขึ้น หรือบางทีมันอาจเป็นเพราะเค้าเป็นตัวเองมากขึ้น หรืออะไรก็ตาม แล้วเราไม่อยากร้องขอ เรามองว่าความรักเป็นเรื่องของการให้ด้วยความเต็มใจ เค้าอยากให้เท่าไรก็เท่านั้น ซึ่งเรามีแต่มอบให้เค้ามากขึ้น ตั้งใจทำหน้าที่ตัวเองทุกอย่างให้ดี เคลียร์งานให้เสร็จเพื่อที่เลิกงานจะได้มีเวลาให้เค้า วางแผนชีวิตว่าจะหาเงินเพิ่มยังไง หาวิธีซัพพอร์ตเค้า ชวนเค้าทำอะไรดีๆ ด้วยกัน พยายามทำให้ชีวิตเราทั้งคู่ดีขึ้นในมุมที่เราทำได้ เพื่อจะรักเค้าให้ดี เพื่อดูแลรักเราให้ดี

แต่มันอดเสียใจไม่ได้จริงๆ ค่ะ เรารู้สึกว่าเรากำลังฝืนข่มความรักความคิดถึงที่ตัวเองมี เพื่อต่ออายุความสัมพันธ์ครั้งนี้จนไม่มั่นใจแล้วว่า จริงๆ เราเหมาะที่จะเป็นคนรักกันจริงๆ มั้ย เรารู้สึกว่าความรู้สึกของเรามันไม่เท่ากัน บางครั้งก็นึกเศร้าที่สังคมเค้ามีแต่ผู้หญิงรายล้อมมากมาย ขณะที่รอบตัวเราแทบจะมีแต่ผู้หญิง 100% ไม่มีเรื่องผู้ชายให้เค้าต้องมาหึงหวงเลย 

ตัวเค้าเคยมีแฟนมาบ้าง ส่วนเราเพิ่งมีเค้าเป็นแฟนคนแรก และอยากให้เป็นคนสุดท้าย แต่เพิ่งรู้ค่ะว่าความรักความสัมพันธ์มันไม่ง่าย และเรายังไม่รู้ว่าเราควรจัดการยังไงดี รู้สึกว่าต้องคุยกับเค้า แต่ก็ไม่รู้ว่าคุยแล้วจะยังไง กลัวว่ามันเหมือนเราอยากไปใส่กรงจับนกมาขังไว้มั้ย เค้าจะยิ่งอึดอัดมั้ย พยายามปล่อยวางใจตัวเองก็มีเรื่องให้ต้องเก็บมาคิดตลอด เพราะที่ทำงานเราสังสรรค์กันเยอะ ชวนกันเที่ยวบ่อยๆ จะไม่ไปก็ดูไม่เอาสังคม ก็ต้องไปกัน พอไปเราก็ต้องได้เจอซีนอึดอัด ซึ่งถ้ามันยังเป็นแบบนี้ แล้วเราจะมีความสุขสบายใจได้ยังไง คิดไม่ตกเลยค่ะ

ขอโทษที่เขียนยาวและอาจจะเขียนงงๆ นะคะ และขอบคุณมากๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ สับสนจริงๆ ยิ่งเขียนเหมือนได้พรั่งพรูความในใจเพลินเลย 555

ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านมีแต่ความสุขความสบายใจในทุกๆ วันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่