" สัตว์ "ตอนที่ 38 :...ตอบปัณหา..เรื่องสัตว์....

กระทู้สนทนา


1.พระอรหันต์ ดับอวิชชาได้อย่างไร?
ตอบ...  นี่คือขั้นตอน..ของการดับซึ่ง..อวิชชา 12 ขั้นตอน...พระอรหันต์ ดับอวิชชาได้อย่างนี้
นั้น..ย่อมเล็งเห็นว่าภิกษุนั้น..เป็นผู้บริสุทธิ์จากธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโลภะ 
ต่อแต่นั้นเขาจะพิจารณาใคร่ครวญภิกษุนั้นให้ยิ่งขึ้นไปในธรรม
ทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ….ในธรรมทั้งหลายอันเป็น
ที่ตั้งแห่งโมหะ…. เมื่อเขาใคร่ครวญดูอยู่ซึ่งภิกษุนั้น
ย่อมเล็งเห็นว่า เป็นผู้บริสุทธิ์จากธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่ง
โทสะ....ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ
ลำดับนั้น เขา :-
(๑) ปลูกฝัง ศรัทธา ลงไปในภิกษุนั้น ครั้นมีศรัทธาเกิดแล้ว
(๒) ย่อม เข้าไปหา ครั้นเข้าไปหาแล้ว
(๓) ย่อม เข้าไปนั่งใกล้ ครั้นเข้าไปนั่งใกล้แล้ว
(๔) ย่อม เงี่ยโสตลง ครั้นเงี่ยโสตลง
(๕) ย่อม ฟังซึ่งธรรม ครั้นฟังซึ่งธรรมแล้ว
(๖) ย่อม ทรงไว้ซึ่งธรรม
(๗) ย่อม ใคร่ครวญซึ่งเนื้อความแห่งธรรมทั้งหลาย
อันตนทรงไว้แล้ว เมื่อใคร่ครวญซึ่งเนื้อความแห่งธรรมอยู่
(๘) ธรรมทั้งหลายย่อมทนต่อความเพ่งพินิจ,
เมื่อการทนต่อการเพ่งพินิจของธรรมมีอยู่
(๙) ฉันทะย่อมเกิดขึ้น ผู้มีฉันทะเกิดขึ้นแล้ว
(๑๐) ย่อม มีอุสสาหะ ครั้นมีอุสสาหะแล้ว
(๑๑) ย่อม พิจารณาหาความสมดุลย์แห่งธรรม,
ครั้นมีความสมดุลย์แห่งธรรมแล้ว
(๑๒) ย่อม ตั้งตนไว้ในธรรมนั้น; เขาผู้มีตน
ส่งไปแล้วอย่างนี้อยู่ ย่อม กระทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะ
(ความจริงโดยจริงความหมายสูงสุด) ด้วยนามกาย ด้วย,
ย่อม แทงตลอดซึ่งธรรมนั้น แล้วเห็นอยู่ด้วยปัญญา ด้วย. <===นี้..ขั้นตอนนี้..อวิชชาจะถึงความสิ้นไป..

ยังมีอีกแบบหนึ่ง...
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=24&A=2712&Z=2781
อวิชชาสูตร
...
 ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ 
- การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ย่อมยังการฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ 
- การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังศรัทธาให้บริบูรณ์ 
- ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยแยบคายให้บริบูรณ์ 
- การทำไว้ในใจโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์ 
- สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ 
- การสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสุจริต ๓ ให้บริบูรณ์ 
- สุจริต ๓ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์
- สติปัฏฐาน ๔ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ 
- โพชฌงค์ ๗ ที่บริบูรณ์ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ 
วิชชาและวิมุตตินี้มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้ ฯ <===นี้..ขั้นตอนนี้..อวิชชาจะถึงความสิ้นไป..
 
2.”พระอรหันต์”กับ “สัตว์” สัมพันธ์กันอย่างไร
ตอบ...  สัตว์คือผูที่มี..ตัณหา-อุปาทาน..ในขันธ์5..เพราะว่ามีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น... 
          ส่วน...พระอรหันต์..คือ..ผู้ที่สามารคลายกำหนัด..สลัดออกจาก..อุปาทานขันธ์5ได้..เพราะรู้โดยชอบ ( มีวิชชา - อวิชชาสิ้นไป)
          แค่นี้...น่าจะรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง..สัตว์ - พระอรหันต์..ได้แล้ว
          ธาตุที่ลุกด้วยไฟราคะ-ไฟโทสะ-ไฟโมหะ...นี่หละ..สัตว์
          ธาตุนั้นหละ...ที่ไฟทั้ง 3 กองดับลง..เพราะรู้โดยชอบ - อวิชชา-ตัณหา-อุปาทานสิ้นไป.. นี่หละเรียกว่า " พระอรหันต์..หรือ..นิพพานธาตุ "

3.ใครบรรลุธรรมกันแน่ พระอรหันต์บรรลุธรรม หรือ สัตว์บรรลุธรรม
ตอบ...มันแล้วแต่จะตอบ.. คุณจะตอบว่า " สัตว์..คือ..ผู้บรรลุธรรม " ..ก็ได้
          หรือ..ตอบว่า  " พระอรหันต์..คือ..ผู้บรรลุธรรม " ..ก็ได้
          อุปมา..เช่น.. นาย ก.  กับ.. ผู้ป่วย ก.  เมื่อหายป่วยแล้ว...
          คุณจะบอกว่า.. ผู้ป่วย ก...หายป่วย..ก็ได้
          หรือ..ตอบว่า  " นาย ก. หายป่วยแล้ว...คือ..ผู้หายป่วย " ..ก็ได้

           โดยไม่เอาเรื่องติ๊งต๊อง..มาคัดคานว่า... อ้าวผู้หายป่วยที่ชื่อนาย ก. จะมาหายป่วยได้อย่างไร!!!
           หรือ....มาคัดคานว่า... อ้าวผู้ป่วยที่ชื่อนาย ก. ยังป่วยอยู่...จะมาบอกว่าเป็นผู้หายป่วยได้อย่างไร!!!

           โอ..ถ้าจะเอาแบบเป๊ๆ.... งั้นผมจะบอกว่า..  
           ผู้ที่หายป่วย (บรรลุธรรม)...ก็คือ..อดีตผู้ป่วย ก.(สัตว์) ที่ปัจจุบันคือ..ผู้หายจากการป่วยแล้วที่ชื่อ..นาย ก..(พระอรหันต์)

4.การที่มี”พระอรหันต์” และ “สัตว์” แสดงว่าสองชีวิต ใช่ไหม
ตอบ..  ผู้หายป่วยที่ชื่อ..นาย ก.(พระอรหันต์)  กับ  ผู้ที่กำลังป่วยที่ชื่อ  นาย ก.(สัตว์)
          ทั้ง 2 ใช่บุคคล..เดียวกันไหม?   <--นี่คือคำตอบ...     
       
 
5.การที่พระอรหันต์ หรือสัตว์ ดับอวิชชาตัณหาได้แล้ว จะสูญสลายหายไปเลยใช่ไหม
ตอบ...  เมื่อหายป่วย(บรรลุธรรม..ดับอวิชชา-ตัณหาได้)...ผู้ป่วยที่ชื่อนาย ก.  ก็จะไม่มีอีกต่อไป..
           ปรากฏแต่..ผู้หายป่วยที่ชื่อ..นาย ก.

          เช่นกัน  เมื่อดับอวิชชา-ตัณหาขอุปาทานได้แล้ว..ได้แล้ว => สัตว์ก็จะหายไป..ไม่มีอีก
          จะปรากฏแต่...ธาตุที่ดับเย็น..ที่เรียกว่า " นิพพานธาตุ"....หรือ...อมตธาตุ " ..หรือ.. " พระอรหันต์ "...
          ซึ่งธาตุนี้...จะคงอยู่แบบเที่ยงแท้ถาวร... ดังที่พระองค์กล่าวว่า
           - อชาตํ -- ไม่ได้กาเกิด
           - อภูตํ -- ไม่ได้การเป็น 
           - อกตํ -- ไม่กระทำ
           - อสงฺขตํ -- ไม่กระการปรุงแต่ง

           - น อุปาโท ปญฺญายญตฺติ --- ไม่ปรากฎการเกิด..
           - น วโย ปญฺญายญตฺติ --- ไม่ปรากฎการเสื่อม..   
           - น ฐิตสฺส อญฺญถตฺตํ ปญฺญายติ --- ไม่ปรากฏว่า..เมื่อตั้งอยู่..จะเป็นไปอย่างอื่น..

6.ใครเป็นผู้สร้างกรรมใหม่
ตอบ...  " บุคคล "..คือ..ผู้ที่สร้างกรรมใหม่
           
ปล...เดียวจะมีคนเอา...โมลิยผัคคุนสูตร..มาคัดง้างคำตอบนี้
       https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=16&siri=8
       หรือ..ไม่ก็...ติมพรุกขสูตร
       https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=16&A=506&Z=556

7.ใครเป็นผู้รับวิบากของกรรมเก่า
ตอบ...  " บุคคล "..คือ..ผู้รับผล
           
ปล...เดียวจะมีคนเอา...โมลิยผัคคุนสูตร..มาคัดง้างคำตอบนี้
       https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=16&siri=8
       หรือ..ไม่ก็...ติมพรุกขสูตร
       https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=16&A=506&Z=556

8. เมื่อปฏิบัติได้ดี สัตว์ หรือขันธ์ เป็นผู้เปลี่ยนแปลงไป
ตอบ...  ปฏิบัติได้..หรือ..ไม่ได้ ...ขันธ์ย่อมเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติแห่ง..สังขตะ..ของมันอยู่แล้ว
           
          ส่วนสัตว์ที่ปฏิบัติได้... สัตว์คือผู้ที่ละอนุสัยได้... ละสังโยชน์ได้..
          ไม่ใช่ขันธ์ 5... เป็นสิ่งที่ละสังโยชน์   แต่ขันธ์5...เป็นสิ่งที่สัตว์ถูกสังโยชน์ผูกเข้าไว้...
          ดังอุปมาของท่านจิตตคฤหบดี.... เรื่องวัวขาว - วัวดำ..
          วัวขวา..ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผูกติดกับวัวดำ..  ทั้งวัวดำก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผูกติดกับวัววขาว
           เชื่อกผูกวัว..ต่างหาก..ที่ผูกวัว 2 ตัวเข้าด่วยกัน...
 
9. “สัตว์” ต้องไปเกาะ สัตว์นรกบ้างไหม ไปเกาะเทวดาบ้างไหม
ตอบ...  สัตว์..ไม่ได่ไปเกาะสัตว์นรก-เทวด... อันนี้เปแนการกล่าวที่ไม่ถูก
            แต่...สัตว์คือผู้ที่..ไปได้กายสัตว์นรก..หรือ..กายเทวดา
          
10. ขันธ์ เกิดดับไปทุกขณะ ตอนที่ขันธ์ดับ สัตว์ ทำอะไรอยู่
ตอบ...  เวทนา - สัญญา - สังขาร - วิญญาณ... 4อย่างนี้เท่านั้น..ที่เกิดดับตลอดวันตลอดคืน..
          ส่วน...รูปขันธ์..ไม่ได่เกิดดับ..ตลอดเวลา ..
          อันนี้..พระองค์ทรงกล่าวไว้ใน..อัสสุตวตาสูตร
          
          การไปบอกว่ารูปขันธ์เกิดดับตลอดเวลา <== อันนี้..เป็นสัทธรรมปฏิรูป.. เป็นสาวกภาสิตา.. เป็นของภายนอก

11.สัตว์ คุย หรือสื่อสารกับขันธ์ ได้ไหม
ตอบ...  คุณคุยกันสมองของตัวเองไหม?
          คุณสื่อสารกับ..ไขสันหลังของคุณหรือไม่?
          ถ้าคุณตอบได้... นี่คือคำตอบในคำถามของคุณ



12.สัตว์ ควบคุม ขันธ์ได้ไหมว่า วันนี้สัตว์อยากดูหนัง ก็บงการขันธ์ให้ไปโรงหนัง
ตอบ...  การที่สัตว์..คิด(เจเตติ).. การที่สัตว์ดำริ(ปกปฺเปติ)...  นี่มันก็ชัดแล้วว่า..
           สัตว์คิด..สัตว์ดำริ..สัตว์เจตนา..  เหล่านี้..คือ..สังขารทังหลาย  หรือเรียกว่า " เจตน - ผัสสะ - มนสิการ"

13.ถ้า “ขันธ์” ไม่พอใจ”สัตว์ตัวนี้”  จะยกเลิก ไม่ให้”สัตว์ตัวนี้” ขอเลือก “สัตว์ตัวใหม่” ได้ไหม
ตอบ...  ยกเว้นรูป...  นามกายและวิญญาณ..ก็คือ..อาการของสัตว์
           ขันธ์ไม่ใช่ชีวะ...  ดังนั้น..ไม่ใช่ขันธ์กระทำ   
           สัตว์คือผู้กระทำ.. ชาตสฺส - ภูตสฺส - กตสฺส(แห่ง..การกระทำ) - สังขตสฺส(แห่ง..การปรุงแต่ง)

14.ระหว่าง “สัตว์” กับ “ขันธ์” ใครใหญ่กว่า(มีอำนาจมากกว่า)
ตอบ...  สัตว์สามารถคลายกำหนัดจากขันธ์5..ได้  ก็คงตอบคำถามได้ด้วยตัวเอง..

15.ตอนที่เกิด ทุกขเวทนา ใครเป็นคนรู้สึกเจ็บปวด “สัตว์” หรือ “ขันธ์”
ตอบ...  สัตว์บุคคล..คือ..ผู้เสวยเวทนา   ไม่ใช่ขันธ์

ปล...เดียวจะมีคนเอา...โมลิยผัคคุนสูตร..มาคัดง้างคำตอบนี้
       https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=16&siri=8
       หรือ..ไม่ก็...ติมพรุกขสูตร
       https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=16&A=506&Z=556

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่