**กระทู้นี้มีจุดประสงค์ในการแนะนำแนวทางในการแก้ไขปัญหาเมื่อมีการโอนเงินผิดบัญชี และขอให้งดการแสดงความเห็นในเชิงกล่าวโทษ ทับถม ซ้ำเติมฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด**
เมื่อเทคโนโลยีมือถือก้าวล้ำจนเพียงปลายนิ้ว คุณก็ทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารได้อย่างว่องไว สะดวก ได้ทุกเวลา โดยเฉพาะโอนพร้อมเพย์โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ ทำให้ไม่ทราบชื่อธนาคารปลายทาง
การโอนเงินผิดบัญชี จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพียงความผิดพลาดแค่ปลายนิ้วสัมผัส(บางจังหวะแค่นิ้วไปใกล้ยังไม่ทันโดนหน้าจอด้วยซ้ำ)
เมื่อผิดพลาดโอนเงินผิดบัญชี สิ่งที่จะต้องรีบดำเนินการมีดังต่อไปนี้
1.ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เพื่อใช้ยื่นกับธนาคารต้นทางของเรา โดยนำบัตรประชาชน สลิปการโอนเงินที่ผิด สมุดบัญชีที่โอนผิด
ไปด้วย ตำรวจที่รับเรื่องลงบันทึกประจำวันให้เรา จะกลายเป็นเจ้าของสำนวน และรับผิดชอบดูแลเราจนจบคดี ถือว่าสำคัญมาก
2. ไปติดต่อธนาคารต้นทางที่เรามีบัญชี เพื่อให้ช่วยส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ หรือ
ติดต่อ call center ของธนาคาร เพื่อให้เขาช่วยรับเรื่องและประสานงานให้ (ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 1-3 วัน ในการส่งเรื่องไปสำนักงานใหญ่ และกว่าจะได้รับการติดต่อจากธนาคารปลายทางที่โอนผิดไป เจ้าหน้าที่แจ้งว่าภายใน 20 วัน หรือ
ติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่โดยตรง ถ้าพอจะเดินทางสะดวก จะรวดเร็วยิ่งขึ้น และจะได้คำตอบว่าเราพลาดโอนเงินผิดไปธนาคารใด เมื่อรู้แล้วจึงจะสามารถให้ข้อมูลกับสน.ตำรวจในพื้นที่ในการระบุชื่อธนาคารในหมายเรียกได้
โดยใช้หลักฐาน สำเนาบัตรประชาชน(ขีดฆ่าศาสนาและกรุ๊ปเลือด) สลิปการโอนเงินที่ผิด และหนังสือลงบันทึกประจำวัน อย่าลืมนำสมุดบัญชีและบัตรประชาชนตัวจริงไปด้วย (เซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องให้เหมือนกับในสมุดบัญชี)
ทางธนาคารต้นทางจะบอกให้เราไปติดต่อกับธนาคารปลายทางต่อเอง และจะแจ้งเราว่าส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่แล้ว โดยที่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องส่งไปที่แผนกอะไร ให้เราไปติดตามเรื่องเอาเอง
3.กลับไปติดต่อส.น.ตำรวจในพื้นที่เพื่อขอหมายเรียกเอกสาร ในการขออายัดเฉพาะยอดเงินที่เราโอนผิดไป
ในทางปฏิบัติจะเกิดประเด็นปัญหา กล่าวคือ การโอนเงินผิดบัญชี มิใช่การถูกหลอกให้โอนเงิน ทางตำรวจจึงยังไม่สามารถออกหมายเรียกให้อายัดบัญชีได้ทันที
ต้องผ่านขั้นตอนแรกคือ ขอหมายเรียกเอกสารจากธนาคารว่า มีการโอนเงินผิดจริง จากบัญชีอะไรมาเข้าบัญชีอะไร ในส่วนนี้ทางธนาคารต้องอาศัยอำนาจของตำรวจในการเรียกข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อเรานำไปยื่นกับธนาคารปลายทาง เช่น ธนาคารสาขาใดก็ได้ เขาจะส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ให้เรา แต่ขั้นตอนนี้จะใช้ระยะเวลา2-3เดือนเลยทีเดียว
*** เราอย่าเพิ่งถอดใจยอม call center ที่ให้รอ 20วัน หรือถอดใจปล่อยทิ้งไว้ ควรร้องขอให้ทางฝ่ายตำรวจสืบสวนช่วยติดต่อกับเจ้าของบัญชีที่เราโอนผิด เพื่อลองเจรจากับเจ้าของบัญชีปลายทางให้โอนเงินคืนกลับมาให้เรา และแจ้งเขาว่าจะมีความผิดตามกฎหมาย หากถอนเงินส่วนที่โอนผิดออกมาใช้ (แต่ตอนนี้ทุกคนกลัวแก๊งมิจฉาชีพกันไปหมด ไม่ค่อยมีใครเชื่อตำรวจจริงกันแล้ว) ***
หากเจ้าของบัญชีปลายทางสุจริตใจอยากคืนเงินแต่ยังกังวลใจ ให้ไปติดต่อที่ส.น.ใกล้บ้าน เพื่อลงบันทึกประจำวันและให้ช่วยกลั่นกรองว่าเป็นความจริง และมิได้มีส่วนในการกระทำผิดของแก๊งมิจฉาชีพ เพื่อเซฟตัวเอง
เมื่อเราขอให้ฝ่ายสืบสวนช่วยติดต่อทางเจ้าของบัญชีปลายทาง โดยหากติดต่อหลายครั้งแล้วติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงจะพิจารณาออกหมายเรียกเอกสาร เพื่อขออายัดยอดเงินในส่วนที่โอนผิดให้เราต่อไป เพื่อให้เรานำไปยื่นกับธนาคารปลายทางที่โอนผิด ในขั้นตอนนี้จะถูกเรียกว่าเป็นการดำเนินคดีแล้ว
ทราบมาว่าทางตำรวจร้อยเวรเคยช่วยออกหมายเรียกเอกสาร ขออายัดยอดเงินให้ไปยื่นกับธนาคาร เพื่อลดขั้นตอนแรกที่ใช้เวลานานเกินไปไม่ทันกาล แต่ในภายหลังกลับถูกทางกรมบัญชีกลางเรียกสอบ ซึ่งก็คงเป็นไปตามระเบียบภายในของหน่วยงานนั้น ทว่ากลับสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับตำรวจที่ได้ทำงานและมีใจต้องการช่วยเหลือบริการประชาชน
ยังไงเราสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้(ขออายัดยอดเงินที่โอนผิด) ได้จนถึงเที่ยงคืน ก่อนที่กะดึกจะออกเวร มีการเข้าเวรตลอด24ช.ม.
**อยากส่งกำลังใจให้กับตำรวจท่านที่ทำงานเสียสละ โดยเห็นแก่ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง**
4.ไปติดต่อธนาคารปลายทางที่โอนผิด
โดยทางธนาคารสามารถอายัดเฉพาะยอดเงินที่โอนผิดไปได้ และบัญชีนั้นยังสามารถใช้ทำธุรกรรมได้อยู่
แต่ในทางปฏิบัติ หากเกิดความล่าช้าขึ้น หรือหากบัญชีปลายทางใช้เงินเข้าออกบ่อย ยอดเงินที่โอนผิดเข้าไปก็อาจถูกถอนออกมาใช้ ทางธนาคารจึงจำต้องอายัดบัญชีเพื่อป้องกันความเสียหายให้เรา
เราควรจะไปยื่นที่สำนักงานใหญ่เลย เพื่อลดขั้นตอนให้เร็วขึ้น ทางสำนักงานใหญ่จะเช็คข้อมูลที่เกี่ยวข้องและพิจารณาอายัดยอดเงินในบัญชีให้โดยไม่ล่าช้า
ทางธนาคารปลายทางจะต้องติดต่อเจ้าของบัญชีปลายทางที่โอนผิด เพื่อให้เซ็นต์ยินยอมให้ทางธนาคารโอนเงินคืนไปยังบัญชีธนาคารต้นทางของเรา
จะช้าจะเร็วขึ้นอยู่กับว่าได้รับความยินยอมเร็วหรือไม่ และหากไม่ได้รับความยินยอม ก็เป็นหน้าที่ของทางตำรวจในพื้นที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คงไม่มีใครอยากให้ใครต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำจากความผิดพลาดเพียงปลายนิ้วของเราเองแน่นอน หากเป็นไปได้อยากแค่อายัดยอดเงินเฉพาะที่โอนผิดทันที แต่เจ้าของบัญชียังสามารถใช้บัญชีตนเองทำธุรกรรมส่วนอื่นได้ตามปกติ
หากเรายื่นอายัดยอดเงินที่โอนผิดช้าไป ทางเจ้าของบัญชีปลายทางที่โอนผิด จะมีความผิดทางอาญาทันที หากใช้เงินในบัญชีในส่วนที่เราโอนผิดไป
และหากเคยได้ยินข่าว เจ้าของบัญชีปลายทางได้ใช้เงินจนหมด โดยชดใช้คืนบางส่วน และยอมติดคุก
เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร ถ้าลดขั้นตอนต่างๆลงไปได้ไม่ล่าช้า อายัดเฉพาะยอดเงินเฉพาะส่วนที่โอนผิดได้ทันที ก็คงจะไม่สร้างภาระและความเดือดร้อนให้กับทุกๆฝ่ายจนเกินควร โดยเฉพาะยั่วกิเลสมนุษย์กับเงินตรา
ทางที่ดีอย่าโอนเงินผิดเป็นดีที่สุดนั่นแหละ แต่คนเราผิดพลาดกันได้ Human error ก็ขอให้ข้อมูลข้างต้นเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาสำหรับคนที่โอนเงินผิดไป
ผิดพลาดเพียงปลายนิ้ว ถึงกับตาค้างไป 3 คืน (กรณีโอนเงินผิด)
เมื่อเทคโนโลยีมือถือก้าวล้ำจนเพียงปลายนิ้ว คุณก็ทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารได้อย่างว่องไว สะดวก ได้ทุกเวลา โดยเฉพาะโอนพร้อมเพย์โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ ทำให้ไม่ทราบชื่อธนาคารปลายทาง
การโอนเงินผิดบัญชี จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพียงความผิดพลาดแค่ปลายนิ้วสัมผัส(บางจังหวะแค่นิ้วไปใกล้ยังไม่ทันโดนหน้าจอด้วยซ้ำ)
เมื่อผิดพลาดโอนเงินผิดบัญชี สิ่งที่จะต้องรีบดำเนินการมีดังต่อไปนี้
1.ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เพื่อใช้ยื่นกับธนาคารต้นทางของเรา โดยนำบัตรประชาชน สลิปการโอนเงินที่ผิด สมุดบัญชีที่โอนผิด
ไปด้วย ตำรวจที่รับเรื่องลงบันทึกประจำวันให้เรา จะกลายเป็นเจ้าของสำนวน และรับผิดชอบดูแลเราจนจบคดี ถือว่าสำคัญมาก
2. ไปติดต่อธนาคารต้นทางที่เรามีบัญชี เพื่อให้ช่วยส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ หรือ
ติดต่อ call center ของธนาคาร เพื่อให้เขาช่วยรับเรื่องและประสานงานให้ (ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 1-3 วัน ในการส่งเรื่องไปสำนักงานใหญ่ และกว่าจะได้รับการติดต่อจากธนาคารปลายทางที่โอนผิดไป เจ้าหน้าที่แจ้งว่าภายใน 20 วัน หรือ
ติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่โดยตรง ถ้าพอจะเดินทางสะดวก จะรวดเร็วยิ่งขึ้น และจะได้คำตอบว่าเราพลาดโอนเงินผิดไปธนาคารใด เมื่อรู้แล้วจึงจะสามารถให้ข้อมูลกับสน.ตำรวจในพื้นที่ในการระบุชื่อธนาคารในหมายเรียกได้
โดยใช้หลักฐาน สำเนาบัตรประชาชน(ขีดฆ่าศาสนาและกรุ๊ปเลือด) สลิปการโอนเงินที่ผิด และหนังสือลงบันทึกประจำวัน อย่าลืมนำสมุดบัญชีและบัตรประชาชนตัวจริงไปด้วย (เซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องให้เหมือนกับในสมุดบัญชี)
ทางธนาคารต้นทางจะบอกให้เราไปติดต่อกับธนาคารปลายทางต่อเอง และจะแจ้งเราว่าส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่แล้ว โดยที่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องส่งไปที่แผนกอะไร ให้เราไปติดตามเรื่องเอาเอง
3.กลับไปติดต่อส.น.ตำรวจในพื้นที่เพื่อขอหมายเรียกเอกสาร ในการขออายัดเฉพาะยอดเงินที่เราโอนผิดไป
ในทางปฏิบัติจะเกิดประเด็นปัญหา กล่าวคือ การโอนเงินผิดบัญชี มิใช่การถูกหลอกให้โอนเงิน ทางตำรวจจึงยังไม่สามารถออกหมายเรียกให้อายัดบัญชีได้ทันที
ต้องผ่านขั้นตอนแรกคือ ขอหมายเรียกเอกสารจากธนาคารว่า มีการโอนเงินผิดจริง จากบัญชีอะไรมาเข้าบัญชีอะไร ในส่วนนี้ทางธนาคารต้องอาศัยอำนาจของตำรวจในการเรียกข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อเรานำไปยื่นกับธนาคารปลายทาง เช่น ธนาคารสาขาใดก็ได้ เขาจะส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ให้เรา แต่ขั้นตอนนี้จะใช้ระยะเวลา2-3เดือนเลยทีเดียว
*** เราอย่าเพิ่งถอดใจยอม call center ที่ให้รอ 20วัน หรือถอดใจปล่อยทิ้งไว้ ควรร้องขอให้ทางฝ่ายตำรวจสืบสวนช่วยติดต่อกับเจ้าของบัญชีที่เราโอนผิด เพื่อลองเจรจากับเจ้าของบัญชีปลายทางให้โอนเงินคืนกลับมาให้เรา และแจ้งเขาว่าจะมีความผิดตามกฎหมาย หากถอนเงินส่วนที่โอนผิดออกมาใช้ (แต่ตอนนี้ทุกคนกลัวแก๊งมิจฉาชีพกันไปหมด ไม่ค่อยมีใครเชื่อตำรวจจริงกันแล้ว) ***
หากเจ้าของบัญชีปลายทางสุจริตใจอยากคืนเงินแต่ยังกังวลใจ ให้ไปติดต่อที่ส.น.ใกล้บ้าน เพื่อลงบันทึกประจำวันและให้ช่วยกลั่นกรองว่าเป็นความจริง และมิได้มีส่วนในการกระทำผิดของแก๊งมิจฉาชีพ เพื่อเซฟตัวเอง
เมื่อเราขอให้ฝ่ายสืบสวนช่วยติดต่อทางเจ้าของบัญชีปลายทาง โดยหากติดต่อหลายครั้งแล้วติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงจะพิจารณาออกหมายเรียกเอกสาร เพื่อขออายัดยอดเงินในส่วนที่โอนผิดให้เราต่อไป เพื่อให้เรานำไปยื่นกับธนาคารปลายทางที่โอนผิด ในขั้นตอนนี้จะถูกเรียกว่าเป็นการดำเนินคดีแล้ว
ทราบมาว่าทางตำรวจร้อยเวรเคยช่วยออกหมายเรียกเอกสาร ขออายัดยอดเงินให้ไปยื่นกับธนาคาร เพื่อลดขั้นตอนแรกที่ใช้เวลานานเกินไปไม่ทันกาล แต่ในภายหลังกลับถูกทางกรมบัญชีกลางเรียกสอบ ซึ่งก็คงเป็นไปตามระเบียบภายในของหน่วยงานนั้น ทว่ากลับสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับตำรวจที่ได้ทำงานและมีใจต้องการช่วยเหลือบริการประชาชน
ยังไงเราสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้(ขออายัดยอดเงินที่โอนผิด) ได้จนถึงเที่ยงคืน ก่อนที่กะดึกจะออกเวร มีการเข้าเวรตลอด24ช.ม.
**อยากส่งกำลังใจให้กับตำรวจท่านที่ทำงานเสียสละ โดยเห็นแก่ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง**
4.ไปติดต่อธนาคารปลายทางที่โอนผิด
โดยทางธนาคารสามารถอายัดเฉพาะยอดเงินที่โอนผิดไปได้ และบัญชีนั้นยังสามารถใช้ทำธุรกรรมได้อยู่
แต่ในทางปฏิบัติ หากเกิดความล่าช้าขึ้น หรือหากบัญชีปลายทางใช้เงินเข้าออกบ่อย ยอดเงินที่โอนผิดเข้าไปก็อาจถูกถอนออกมาใช้ ทางธนาคารจึงจำต้องอายัดบัญชีเพื่อป้องกันความเสียหายให้เรา
เราควรจะไปยื่นที่สำนักงานใหญ่เลย เพื่อลดขั้นตอนให้เร็วขึ้น ทางสำนักงานใหญ่จะเช็คข้อมูลที่เกี่ยวข้องและพิจารณาอายัดยอดเงินในบัญชีให้โดยไม่ล่าช้า
ทางธนาคารปลายทางจะต้องติดต่อเจ้าของบัญชีปลายทางที่โอนผิด เพื่อให้เซ็นต์ยินยอมให้ทางธนาคารโอนเงินคืนไปยังบัญชีธนาคารต้นทางของเรา
จะช้าจะเร็วขึ้นอยู่กับว่าได้รับความยินยอมเร็วหรือไม่ และหากไม่ได้รับความยินยอม ก็เป็นหน้าที่ของทางตำรวจในพื้นที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คงไม่มีใครอยากให้ใครต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำจากความผิดพลาดเพียงปลายนิ้วของเราเองแน่นอน หากเป็นไปได้อยากแค่อายัดยอดเงินเฉพาะที่โอนผิดทันที แต่เจ้าของบัญชียังสามารถใช้บัญชีตนเองทำธุรกรรมส่วนอื่นได้ตามปกติ
หากเรายื่นอายัดยอดเงินที่โอนผิดช้าไป ทางเจ้าของบัญชีปลายทางที่โอนผิด จะมีความผิดทางอาญาทันที หากใช้เงินในบัญชีในส่วนที่เราโอนผิดไป
และหากเคยได้ยินข่าว เจ้าของบัญชีปลายทางได้ใช้เงินจนหมด โดยชดใช้คืนบางส่วน และยอมติดคุก
เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร ถ้าลดขั้นตอนต่างๆลงไปได้ไม่ล่าช้า อายัดเฉพาะยอดเงินเฉพาะส่วนที่โอนผิดได้ทันที ก็คงจะไม่สร้างภาระและความเดือดร้อนให้กับทุกๆฝ่ายจนเกินควร โดยเฉพาะยั่วกิเลสมนุษย์กับเงินตรา
ทางที่ดีอย่าโอนเงินผิดเป็นดีที่สุดนั่นแหละ แต่คนเราผิดพลาดกันได้ Human error ก็ขอให้ข้อมูลข้างต้นเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาสำหรับคนที่โอนเงินผิดไป