ตัวอย่าง La campanella เพลง shut up
(เข้าใจแล้วที่ว่าเพลงมีความตึงเครียด)
https://twitter.com/pinkssIut/status/1567715275847368706?t=2vYuFASqlSvh58D1ydluiw&s=19
"Shut Down" เป็นการsamplingเพลง"La Campanella"ของPaganini
(*samplingคือการนำทำนองหรือเนื้อร้องบางส่วนมาใช้ในอีกเพลงหนึ่ง) และได้ขยายออร่าที่มืดหม่นและลึกลับของเพลงต้นฉบับจนถึงขีดสุด การประสานระหว่างดนตรีคลาสสิคและบีทแนวฮิปฮอปที่เป็นกระแสสร้างความประทับใจอันน่าจดจำ ทั้งยังมีทำนองที่ติดหูและเนื้อเพลงที่ปราดเปรื่องซึ่งจะทำให้ผู้ฟังได้สัมผัสกับความตื่นเต้นในแบบฉบับที่มีเพียง SHUTDOWN เท่านั้นที่ทำได้"
"Typa Girl" เป็นเพลงฮิปฮอป/ป๊อปซึ่งมาพร้อมการเรียบเรียงเสียงออร์แกนที่ไม่เหมือนใครในช่วงต้น แตกต่างกับบีทดรอปอย่างน่าประทับใจ เสียงเบสในท่อนคอรัสเป็นทั้งการปลุกเร้าและติดหู อีกทั้งยังนำเสนอรสชาติสุดพิเศษของเพลง เนื้อเพลงTypa Girl พูดถึงการเป็น"ไทป์(สเปค)"ของทุกคนอย่างมั่นใจซึ่งไปได้ดีกับการเรียบเรียงเพลงแบบร่วมสมัย ตัวเพลงยังขับเน้นศักยภาพของแนวเพลงที่แตกต่างออกไป
"Yeah Yeah Yeah" เป็นเพลงป๊อปที่นำเสียงซินธีไซเซอร์แบบเรโทรเข้ามา องค์ประกอบในเพลงมีกลิ่นอายของเพลงยุค80 เนื้อเพลงเล่าถึงความรู้สึกที่สับสนแต่ก็มีความสุขเวลาที่ตกหลุมรักสักคนโดยไม่คาดคิดมาก่อนรวมถึงคอร์ดของเพลงที่โรแมนติกแต่ก็กระตุ้นความรู้สึกและทำนองที่สดใหม่ก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำเช่นกัน บีทดรอปซึ่งชวนให้ประหลาดใจและท่อนปิดของเพลงก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนฟังได้สัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีที่น่าพอใจ
"Hard to Love" เป็นเพลงป๊อป/ดิสโก้ ที่มีช่วงอินโทรของเพลงค่อยๆคลี่ตัวไปสู่ความวินเทจ ขัดกับบีท
ดรอปที่ทรงพลังอย่างสิ้นเชิง เสียงกีตาร์ที่สดใหม่จะเชื่อมต่อกับจังหวะแบบดิสโก้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยท่อนบริดจ์ การประสานกันระหว่างจังหวะที่สนุกสนานและเสียงเครื่องดนตรีที่นำ/โดดเด่นในเพลงจะเร่งเร้าความตื่นเต้นในการฟังจนถึงที่สุด เนื้อเพลงจะแสดงความเห็นอกเห็นใจให้กับผู้คนมากมายด้วยการพูดถึงความรู้สึกที่จริงใจแต่ก็ซับซ้อน
"The Happiest Girl" เป็นเพลงบัลลาดที่มีคอร์ดประกอบ/สื่อถึงเนื้อเพลงและการตีความของแกรนด์เปียโนซึ่งจะสร้างความอบอุ่นให้กับหัวใจของผู้คนมากมาย การประพันธ์ทำนองที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขัดกับชื่อเพลงอย่างมาก เนื้อเพลงค่อนข้างเป็นที่น่าจดจำจากการพูดถึงความแน่วแน่อย่างแรงกล้าที่จะมีความสุขแม้ในสถานการณ์ที่กำลังคิดถึงใครสักคน The Happiest Girlไม่ได้ไปไกลจากแนวเพลงป๊อปมากนัก แต่องค์ประกอบเพลงคลาสสิคในคอร์ดเพลงก็สร้างความประทับใจให้ได้ไม่น้อย
"Tally" เป็นเพลงป๊อปที่มีกลิ่นอายของทั้งฮิปฮอปและร็อค เสียงกีตาร์ดังสะเทือนในช่วงอินโทรนั้นโดดเด่น เนื้อเพลงสื่อถึงข้อความเชิงบวกด้วยการพูดถึงความสำคัญและความงดงามในการทำเป้าหมายในชีวิตให้สำเร็จอย่างหนักแน่นTallyให้มู้ดที่เป็นอิสระแต่ก็ชิคซึ่งเหมาะเจาะกับการปิด BORNPINK อย่างสมบูรณ์แบบด้วยไฮโน้ต และยังให้ความอ้อยอิ่ง/อาลัยอาวรณ์อย่างลึกซึ้งที่เป็น BLACKPINK
แปลโดย แอคทวิตเตอร์ : @thepaleblood
สปอยล์ แนวเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม bornpink
ตัวอย่าง La campanella เพลง shut up
(เข้าใจแล้วที่ว่าเพลงมีความตึงเครียด)
https://twitter.com/pinkssIut/status/1567715275847368706?t=2vYuFASqlSvh58D1ydluiw&s=19
"Shut Down" เป็นการsamplingเพลง"La Campanella"ของPaganini
(*samplingคือการนำทำนองหรือเนื้อร้องบางส่วนมาใช้ในอีกเพลงหนึ่ง) และได้ขยายออร่าที่มืดหม่นและลึกลับของเพลงต้นฉบับจนถึงขีดสุด การประสานระหว่างดนตรีคลาสสิคและบีทแนวฮิปฮอปที่เป็นกระแสสร้างความประทับใจอันน่าจดจำ ทั้งยังมีทำนองที่ติดหูและเนื้อเพลงที่ปราดเปรื่องซึ่งจะทำให้ผู้ฟังได้สัมผัสกับความตื่นเต้นในแบบฉบับที่มีเพียง SHUTDOWN เท่านั้นที่ทำได้"
"Typa Girl" เป็นเพลงฮิปฮอป/ป๊อปซึ่งมาพร้อมการเรียบเรียงเสียงออร์แกนที่ไม่เหมือนใครในช่วงต้น แตกต่างกับบีทดรอปอย่างน่าประทับใจ เสียงเบสในท่อนคอรัสเป็นทั้งการปลุกเร้าและติดหู อีกทั้งยังนำเสนอรสชาติสุดพิเศษของเพลง เนื้อเพลงTypa Girl พูดถึงการเป็น"ไทป์(สเปค)"ของทุกคนอย่างมั่นใจซึ่งไปได้ดีกับการเรียบเรียงเพลงแบบร่วมสมัย ตัวเพลงยังขับเน้นศักยภาพของแนวเพลงที่แตกต่างออกไป
"Yeah Yeah Yeah" เป็นเพลงป๊อปที่นำเสียงซินธีไซเซอร์แบบเรโทรเข้ามา องค์ประกอบในเพลงมีกลิ่นอายของเพลงยุค80 เนื้อเพลงเล่าถึงความรู้สึกที่สับสนแต่ก็มีความสุขเวลาที่ตกหลุมรักสักคนโดยไม่คาดคิดมาก่อนรวมถึงคอร์ดของเพลงที่โรแมนติกแต่ก็กระตุ้นความรู้สึกและทำนองที่สดใหม่ก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำเช่นกัน บีทดรอปซึ่งชวนให้ประหลาดใจและท่อนปิดของเพลงก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนฟังได้สัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีที่น่าพอใจ
"Hard to Love" เป็นเพลงป๊อป/ดิสโก้ ที่มีช่วงอินโทรของเพลงค่อยๆคลี่ตัวไปสู่ความวินเทจ ขัดกับบีท
ดรอปที่ทรงพลังอย่างสิ้นเชิง เสียงกีตาร์ที่สดใหม่จะเชื่อมต่อกับจังหวะแบบดิสโก้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยท่อนบริดจ์ การประสานกันระหว่างจังหวะที่สนุกสนานและเสียงเครื่องดนตรีที่นำ/โดดเด่นในเพลงจะเร่งเร้าความตื่นเต้นในการฟังจนถึงที่สุด เนื้อเพลงจะแสดงความเห็นอกเห็นใจให้กับผู้คนมากมายด้วยการพูดถึงความรู้สึกที่จริงใจแต่ก็ซับซ้อน
"The Happiest Girl" เป็นเพลงบัลลาดที่มีคอร์ดประกอบ/สื่อถึงเนื้อเพลงและการตีความของแกรนด์เปียโนซึ่งจะสร้างความอบอุ่นให้กับหัวใจของผู้คนมากมาย การประพันธ์ทำนองที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขัดกับชื่อเพลงอย่างมาก เนื้อเพลงค่อนข้างเป็นที่น่าจดจำจากการพูดถึงความแน่วแน่อย่างแรงกล้าที่จะมีความสุขแม้ในสถานการณ์ที่กำลังคิดถึงใครสักคน The Happiest Girlไม่ได้ไปไกลจากแนวเพลงป๊อปมากนัก แต่องค์ประกอบเพลงคลาสสิคในคอร์ดเพลงก็สร้างความประทับใจให้ได้ไม่น้อย
"Tally" เป็นเพลงป๊อปที่มีกลิ่นอายของทั้งฮิปฮอปและร็อค เสียงกีตาร์ดังสะเทือนในช่วงอินโทรนั้นโดดเด่น เนื้อเพลงสื่อถึงข้อความเชิงบวกด้วยการพูดถึงความสำคัญและความงดงามในการทำเป้าหมายในชีวิตให้สำเร็จอย่างหนักแน่นTallyให้มู้ดที่เป็นอิสระแต่ก็ชิคซึ่งเหมาะเจาะกับการปิด BORNPINK อย่างสมบูรณ์แบบด้วยไฮโน้ต และยังให้ความอ้อยอิ่ง/อาลัยอาวรณ์อย่างลึกซึ้งที่เป็น BLACKPINK
แปลโดย แอคทวิตเตอร์ : @thepaleblood