'อรุณี' บี้ 'ประวิตร' เร่งรื้อระบบกาฝาก ชี้ 8 ปี 'ประยุทธ์' สร้างระบบ [เผล่ะจัง] แผ่อำนาจ กอ.รมน.ถลุงภาษีปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3543506
‘อรุณี’ บี้ ‘ประวิตร’ เร่งรื้อระบบกาฝาก ชี้ 8 ปี ‘ประยุทธ์’ สร้างระบบ [เผล่ะจัง] แผ่อำนาจ กอ.รมน.ถลุงภาษีปชช.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.
อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค พท. แถลงผลการสอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กรณี การมาช่วยราชการของ ส.ต.ท.
หญิง ว่า เป็นการขอมาช่วยราชการเอง พิจารณาแล้วเหมาะสม และได้มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่โดยมีผลย้อนหลังนั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าจบ แต่คำถามที่สังคมสงสัย คือกรณีแบบนี้มีอีกกี่คน และใครควรต้องรับผิดชอบ กอ.รมน.เองใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องจ่ายภาษีทุกวัน เพื่อให้ผู้มีอำนาจบางคนถลุงเงินภาษีไปในทางที่ไม่เหมาะสม
น.ส.
อรุณี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านในขณะที่พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารประเทศ ได้มีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2562 แบ่งโครงสร้าง กอ.รมน.ใหม่ 17 หน่วยงาน ให้หน้าที่อำนาจส่วนงานศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน.ภาค-จังหวัด ขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. ส่วนอัตรากำลังให้ ผอ.กอ.รมน. จัดสรรจำนวนตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้เพียงพอกับความจำเป็น และยังให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ อย่างไรก็ตาม อำนาจของ กอ.รมน.ที่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางเช่นนี้ ก่อให้เกิดคำถามว่า กอ.รมน.เข้าไปแทรกแซงการบริหารงานของราชการส่วนภูมิภาคหรือไม่ เพราะมีทั้ง กอ.รมน.ภาคตามพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาค ส่วนในระดับจังหวัด แม้จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เช่นกฎหมายเดิม แต่ก็จะเพิ่มจังหวัดทหารบก หรือมณฑลทหารบกที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัด โดยแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการฝ่ายทหาร เพราะทหารพยายามผูกโยงว่าทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับมิติด้านความมั่นคง แทนที่ กอ.รมน.จะเป็นหน่วยงานที่พึ่งที่หวังของประชาชนเพราะมีเจ้าหน้าที่อยู่ทุกจังหวัด แต่กลับเป็นหน่วยงานที่เป็นเสมือนดินแดนสนธยาที่ประชาชนยากจะเข้าถึงและตรวจสอบ กรณีของ ส.ต.ท หญิงคือภาพสะท้อนของสิ่งเหล่านั้น
“วันนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แม้จะอยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี และเป็น ผอ.กอ.รมน.ด้วย มีอำนาจเต็มมือ ควรต้องตระหนักเร่งสั่งการตรวจสอบทั้งระบบ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นกำลังพลผู้ปฏิบัติงานในอัตราช่วยราชการแบบปีต่อปี ซึ่งจะเป็นกำลังพลส่วนใหญ่ประกอบด้วยพลเรือน ตำรวจ และทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เพื่อเป็นการทำลายระบบกาฝากทั้งองคาพยพ ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเป็นรายกรณีแล้วจบไป” น.ส.
อรุณี กล่าว
ผู้บริโภคทั่วประเทศ ฮือค้านควบรวมทรู-ดีแทค จับไต๋ 'กสทช.' ส่อไฟเขียว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3543376
ผู้บริโภคทั่วประเทศ ฮือค้านควบรวมทรู-ดีแทค จับไต๋ ‘กสทช.’ ส่อไฟเขียว จี้ผุดเงื่อนไขชัด สร้างเชื่อมั่นประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายสภาองค์กรของผู้บริโภคหลายจังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีการเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย เพื่อคัดค้านการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค
นางสาว
ปาณิสรา ตุงคะสามน เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายและนวัตกรรม สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวของเครือข่ายสภาองค์กรของผู้บริโภคในหลายจังหวัด เพื่อคัดค้านการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทค เพราะกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการประกอบด้วย 1.ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง เกิดการผูกขาดตลาด เพราะสัดส่วนการแข่งขันในตลาดเปลี่ยนไป และในตลาดธุรกิจโทรคมนาคมที่มีผู้ให้บริการ 3 ราย เหลือเพียง 2 ราย ย่อมส่งผลต่อการแข่งขันทั้งด้านการพัฒนาบริการ การขยายพื้นที่การบริการ รวมถึงการแข่งขันด้านราคา และ 2.ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าบริการแพงขึ้น อย่างน้อย 7-10% แม้จะแข่งขันกันตามกลไกตลาดก็ตาม
“สภาองค์กรของผู้บริโภคแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการนี้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการจัดเวทีเสวนาวิชาการเพื่อคัดค้านไม่ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุญาตให้ควบรวมกิจการได้ และในวันที่ 14 กันยายนนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค จะมีการจัดเวทีเสวนาวิชาการ Consumer Forum ep:4 ยุคผูกขาด 5G จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อสิทธิผู้บริโภค เพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อสังคมได้ตื่นตัวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพิ่มเติมจากที่ผู้ขอควบรวม อ้างว่าการควบรวมกิจการจะทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม ทำให้ผู้บริโภคได้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ไม่มีหลักประกันใดมาการันตีเลยว่า สิ่งต่างๆ เหล่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง” นางสาว
ปาณิสรากล่าว
นางสาว
ปาณิสรากล่าวว่า มีแนวโน้มว่า กสทช.จะอนุญาตให้ควบรวมกิจการได้โดยมีเงื่อนไข ซึ่งประเมินจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะของ กสทช. ทั้งภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง และกลุ่มนักวิชาการ รวมถึงการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคม ระหว่างทรูและดีแทค และการค้าปลีก-ค้าส่ง สภาผู้แทนราษฎร และผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ ที่ กสทช.แต่งตั้งขึ้น เพื่อพิจารณาผลกระทบของการควบรวมกิจการครั้งนี้
“หาก กสทช.อนุญาตให้ควบรวมกิจการได้ ก็หวังอย่างยิ่งว่าจะมีการวางเงื่อนไขที่ชัดเจนเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและสังคม ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภคจะเฝ้าติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ใกล้ชิด และประเมินเงื่อนไข หรือมาตรการเยียวยาดังกล่าวว่าสามารถยอมรับได้หรือไม่ เพื่อกำหนดทิศทางในการเคลื่อนไหวอีกครั้งต่อไป” นางสาว
ปาณิสรากล่าว
ฝนตกนานหลายสัปดาห์ น้ำมูลทะลักเอ่อล้น ไหลท่วมพื้นที่เกษตร นาข้าวเสียหายหมด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7247261
นครราชสีมา ฝนตกหนัก น้ำมูลทะลักท่วมนาข้าว 4 ตำบล จำนวน 25 หมู่บ้าน อำเภอเมืองยาง ขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง ทำเสียหายทั้งหมด ก่อนหน้านี้น้ำท่วมนาข้าว 8 พันไร่ นับสัปดาห์
4 ก.ย. 65 – ช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกลงมา ติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้ปริมาณลำน้ำมูล อำเภอพิมาย และ ลำน้ำลำสะแทด อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของเกษตรกร พื้นที่ ตำบลกระเบื้องนอก อำเภอเมืองยาง
ส่งผลทำให้พื้นที่นาข้าวได้รับผลกระทบทั้ง 4 ตำบล จำนวน 25 หมู่บ้าน พื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายเกือบหมด จากเดิมท่วมอยู่แล้ว 8 พันไร่ ขณะนี้ปริมาณน้ำท่วมยังคงขยายไปในหลายพื้นที่เป็นวงกว้างออกไปมากขึ้น คาดว่า นาข้าวจะเสียหายเกือบหมด
นาย
สมศักดิ์ เป็นผลดี อายุ 66 ปี ชาวนาราย ต.กระเบื้องนอก อ.เมืองยาง บอกว่า ตนเองลงทุนทำนาปลูกข้าว จำนวน 22 ไร่ ซึ่งปริมาณน้ำมูลและลำน้ำ ลำสะแทด ได้ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าว ระดับน้ำท่วมสูง 80 – 90 เซนติเมตร บางจุดท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยน้ำท่วมขังนานหลายสัปดาห์แล้ว ต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโตถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบทั้งหมด
ซึ่งภาพจากมุมสูง จะเห็นว่า ปริมาณน้ำมูล อำเภอพิมาย และ ลำน้ำลำสะแทด อำเภอประทาย ได้ไหลทะลักท่วมนาข้าว เป็นวงกว้าง ซึ่งคาดว่า หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ อาจจะส่งผลทำให้นาข้าวของเกษตรกรได้รับความเสียหายนับหมื่นไร่แน่นอน
ขณะที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา รายงานข้อมูลของพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยในจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 ที่ผ่านมา ขณะนี้มีพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยไปแล้วทั้งหมด 14 อำเภอ 76 ตำบล 486 หมู่บ้าน 8 ชุมชน 11,897 ครัวเรือนและมีพื้นที่การเกษตรที่เป็นพืชไร่เสียหาย 7,641 ไร่ และนาข้าวเสียหายไปกว่า 87,582 ไร่
ส่วนสถานการณ์น้ำทั้ง 12 อำเภอได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วเหลือเพียงอำเภอประทายที่ยังคงมีน้ำท่วมในบางจุดและที่อำเภอเมืองยาง
JJNY : 'อรุณี'บี้'ประวิตร' เร่งรื้อระบบกาฝาก│ฮือค้านควบรวมทรู-ดีแทค│น้ำมูลท่วมพื้นที่เกษตร│ชัชชาติเปิดตัวรถขยะแนวใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3543506
‘อรุณี’ บี้ ‘ประวิตร’ เร่งรื้อระบบกาฝาก ชี้ 8 ปี ‘ประยุทธ์’ สร้างระบบ [เผล่ะจัง] แผ่อำนาจ กอ.รมน.ถลุงภาษีปชช.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค พท. แถลงผลการสอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กรณี การมาช่วยราชการของ ส.ต.ท.หญิง ว่า เป็นการขอมาช่วยราชการเอง พิจารณาแล้วเหมาะสม และได้มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่โดยมีผลย้อนหลังนั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าจบ แต่คำถามที่สังคมสงสัย คือกรณีแบบนี้มีอีกกี่คน และใครควรต้องรับผิดชอบ กอ.รมน.เองใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องจ่ายภาษีทุกวัน เพื่อให้ผู้มีอำนาจบางคนถลุงเงินภาษีไปในทางที่ไม่เหมาะสม
น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารประเทศ ได้มีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2562 แบ่งโครงสร้าง กอ.รมน.ใหม่ 17 หน่วยงาน ให้หน้าที่อำนาจส่วนงานศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน.ภาค-จังหวัด ขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. ส่วนอัตรากำลังให้ ผอ.กอ.รมน. จัดสรรจำนวนตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้เพียงพอกับความจำเป็น และยังให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ อย่างไรก็ตาม อำนาจของ กอ.รมน.ที่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางเช่นนี้ ก่อให้เกิดคำถามว่า กอ.รมน.เข้าไปแทรกแซงการบริหารงานของราชการส่วนภูมิภาคหรือไม่ เพราะมีทั้ง กอ.รมน.ภาคตามพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาค ส่วนในระดับจังหวัด แม้จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เช่นกฎหมายเดิม แต่ก็จะเพิ่มจังหวัดทหารบก หรือมณฑลทหารบกที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัด โดยแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการฝ่ายทหาร เพราะทหารพยายามผูกโยงว่าทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับมิติด้านความมั่นคง แทนที่ กอ.รมน.จะเป็นหน่วยงานที่พึ่งที่หวังของประชาชนเพราะมีเจ้าหน้าที่อยู่ทุกจังหวัด แต่กลับเป็นหน่วยงานที่เป็นเสมือนดินแดนสนธยาที่ประชาชนยากจะเข้าถึงและตรวจสอบ กรณีของ ส.ต.ท หญิงคือภาพสะท้อนของสิ่งเหล่านั้น
“วันนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แม้จะอยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี และเป็น ผอ.กอ.รมน.ด้วย มีอำนาจเต็มมือ ควรต้องตระหนักเร่งสั่งการตรวจสอบทั้งระบบ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นกำลังพลผู้ปฏิบัติงานในอัตราช่วยราชการแบบปีต่อปี ซึ่งจะเป็นกำลังพลส่วนใหญ่ประกอบด้วยพลเรือน ตำรวจ และทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เพื่อเป็นการทำลายระบบกาฝากทั้งองคาพยพ ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเป็นรายกรณีแล้วจบไป” น.ส.อรุณี กล่าว
ผู้บริโภคทั่วประเทศ ฮือค้านควบรวมทรู-ดีแทค จับไต๋ 'กสทช.' ส่อไฟเขียว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3543376
ผู้บริโภคทั่วประเทศ ฮือค้านควบรวมทรู-ดีแทค จับไต๋ ‘กสทช.’ ส่อไฟเขียว จี้ผุดเงื่อนไขชัด สร้างเชื่อมั่นประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายสภาองค์กรของผู้บริโภคหลายจังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีการเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย เพื่อคัดค้านการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค
นางสาวปาณิสรา ตุงคะสามน เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายและนวัตกรรม สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวของเครือข่ายสภาองค์กรของผู้บริโภคในหลายจังหวัด เพื่อคัดค้านการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทค เพราะกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการประกอบด้วย 1.ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง เกิดการผูกขาดตลาด เพราะสัดส่วนการแข่งขันในตลาดเปลี่ยนไป และในตลาดธุรกิจโทรคมนาคมที่มีผู้ให้บริการ 3 ราย เหลือเพียง 2 ราย ย่อมส่งผลต่อการแข่งขันทั้งด้านการพัฒนาบริการ การขยายพื้นที่การบริการ รวมถึงการแข่งขันด้านราคา และ 2.ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าบริการแพงขึ้น อย่างน้อย 7-10% แม้จะแข่งขันกันตามกลไกตลาดก็ตาม
“สภาองค์กรของผู้บริโภคแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการนี้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการจัดเวทีเสวนาวิชาการเพื่อคัดค้านไม่ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุญาตให้ควบรวมกิจการได้ และในวันที่ 14 กันยายนนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค จะมีการจัดเวทีเสวนาวิชาการ Consumer Forum ep:4 ยุคผูกขาด 5G จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อสิทธิผู้บริโภค เพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อสังคมได้ตื่นตัวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพิ่มเติมจากที่ผู้ขอควบรวม อ้างว่าการควบรวมกิจการจะทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม ทำให้ผู้บริโภคได้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ไม่มีหลักประกันใดมาการันตีเลยว่า สิ่งต่างๆ เหล่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง” นางสาวปาณิสรากล่าว
นางสาวปาณิสรากล่าวว่า มีแนวโน้มว่า กสทช.จะอนุญาตให้ควบรวมกิจการได้โดยมีเงื่อนไข ซึ่งประเมินจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะของ กสทช. ทั้งภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง และกลุ่มนักวิชาการ รวมถึงการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคม ระหว่างทรูและดีแทค และการค้าปลีก-ค้าส่ง สภาผู้แทนราษฎร และผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ ที่ กสทช.แต่งตั้งขึ้น เพื่อพิจารณาผลกระทบของการควบรวมกิจการครั้งนี้
“หาก กสทช.อนุญาตให้ควบรวมกิจการได้ ก็หวังอย่างยิ่งว่าจะมีการวางเงื่อนไขที่ชัดเจนเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและสังคม ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภคจะเฝ้าติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ใกล้ชิด และประเมินเงื่อนไข หรือมาตรการเยียวยาดังกล่าวว่าสามารถยอมรับได้หรือไม่ เพื่อกำหนดทิศทางในการเคลื่อนไหวอีกครั้งต่อไป” นางสาวปาณิสรากล่าว
ฝนตกนานหลายสัปดาห์ น้ำมูลทะลักเอ่อล้น ไหลท่วมพื้นที่เกษตร นาข้าวเสียหายหมด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7247261
นครราชสีมา ฝนตกหนัก น้ำมูลทะลักท่วมนาข้าว 4 ตำบล จำนวน 25 หมู่บ้าน อำเภอเมืองยาง ขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง ทำเสียหายทั้งหมด ก่อนหน้านี้น้ำท่วมนาข้าว 8 พันไร่ นับสัปดาห์
4 ก.ย. 65 – ช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกลงมา ติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทำให้ปริมาณลำน้ำมูล อำเภอพิมาย และ ลำน้ำลำสะแทด อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของเกษตรกร พื้นที่ ตำบลกระเบื้องนอก อำเภอเมืองยาง
ส่งผลทำให้พื้นที่นาข้าวได้รับผลกระทบทั้ง 4 ตำบล จำนวน 25 หมู่บ้าน พื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายเกือบหมด จากเดิมท่วมอยู่แล้ว 8 พันไร่ ขณะนี้ปริมาณน้ำท่วมยังคงขยายไปในหลายพื้นที่เป็นวงกว้างออกไปมากขึ้น คาดว่า นาข้าวจะเสียหายเกือบหมด
นายสมศักดิ์ เป็นผลดี อายุ 66 ปี ชาวนาราย ต.กระเบื้องนอก อ.เมืองยาง บอกว่า ตนเองลงทุนทำนาปลูกข้าว จำนวน 22 ไร่ ซึ่งปริมาณน้ำมูลและลำน้ำ ลำสะแทด ได้ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าว ระดับน้ำท่วมสูง 80 – 90 เซนติเมตร บางจุดท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยน้ำท่วมขังนานหลายสัปดาห์แล้ว ต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโตถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบทั้งหมด
ซึ่งภาพจากมุมสูง จะเห็นว่า ปริมาณน้ำมูล อำเภอพิมาย และ ลำน้ำลำสะแทด อำเภอประทาย ได้ไหลทะลักท่วมนาข้าว เป็นวงกว้าง ซึ่งคาดว่า หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ อาจจะส่งผลทำให้นาข้าวของเกษตรกรได้รับความเสียหายนับหมื่นไร่แน่นอน
ขณะที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา รายงานข้อมูลของพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยในจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 ที่ผ่านมา ขณะนี้มีพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยไปแล้วทั้งหมด 14 อำเภอ 76 ตำบล 486 หมู่บ้าน 8 ชุมชน 11,897 ครัวเรือนและมีพื้นที่การเกษตรที่เป็นพืชไร่เสียหาย 7,641 ไร่ และนาข้าวเสียหายไปกว่า 87,582 ไร่
ส่วนสถานการณ์น้ำทั้ง 12 อำเภอได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วเหลือเพียงอำเภอประทายที่ยังคงมีน้ำท่วมในบางจุดและที่อำเภอเมืองยาง