สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ หัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่อยากจะเขียนมากๆ เพราะมีเพื่อนๆ รอบตัวมุกที่จัดฟันเหมือนกัน ถามตลอดเวลา ทำไมฟันถึงยังสวย ไม่ล้ม เหมือนของคนอื่นๆ
ก่อนอื่นเลยต้องเล่าแบบนี้มุกเป็นเด็กที่มีปัญหาเรื่องฟันเยอะมาก ทั้งมีเขี้ยวอยู่บนเหงือก ไหนจะฟันหน้าซ้อนกัน (มีภาพประกอบตอนสมัยเด็ก ><) ตอนแรกก็คิดว่าคาวาอิแบบสาวญี่ปุ่นดีแต่พอใช้ชีวิตไปมาๆ เริ่มเป็นปัญหาเขี้ยวด้านบนดันปากทำให้ขาดความมั่นใจไปเยอะมากๆ แม่เลยลากเข้าร้านทำฟันในตอนนั้น

คุณหมอแจ้งว่าเราต้องผ่าฟันคุดออกทั้งหมด 3 ซีก และก็ถอนอีก 1 Omg มากเพราะพึงรู้ว่าฟันเยอะเหมือนกันนะเรา 555 ทีนี้เลยจัดฟันตั้งแต่นั้นมาตอน ม.2 แต่คิดว่าจะได้จัดฟันนาน พอตอน ม.4 ก็ต้องถอดออกแล้ว ตอนนั้นเทรนด์ฟันเหล็กเด็กแนวกำลังมาเลย แต่เราต้องเอาออกก่อน หลังจากเอาเหล็กจัดฟันออก ปัญหาก็เกิดขึ้นทันที!!
คุณหมอให้เราใส่รีเทนเนอร์อยากได้แบบเป็นสีๆ คุณหมอก็ดันไม่ทำให้555 เป็นแบบธรรมดามากๆ เราก็ไม่รู้ว่าต้องใส่ช่วงเวลาไหนบ้าง ก็ใส่ไปโรงเรียนทุกวัน บางทีก็รำคาญ เพราะทำให้เราพูดไม่ชัดเลย เพื่อนก็ชอบล้อตลอด รู้สึกว่าอยากถอดมากกว่าโชว์ฟันสวยๆ ไปเลย พอใส่กลางวันบ่อยๆ เริ่มรู้สึกไม่อยากใส่ เลยปรับเวลามาใส่ช่วงกลางคืนแทน ก็ทำให้ฟันสวยมากตลอด จนเข้ามหาลัยเลยค่ะ!!
พอเข้ามหาลัย เราก็ต้องย้ายไปนอนหอ ซึ่งสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น! เรากลับบ้านทุกวันอาทิตย์จะหยิบรีเทนเนอร์ไปใส่นอนที่บ้าน แต่ทีนี้ ลืม!! ไว้ที่บ้านและก็ไปอยู่หอปกติ7 วัน คิดว่าค่อยกลับมาใส่ก็ได้ไม่น่าจะเป็นอะไร
พอมาส่องกระจกดูเฮ้ย!! ทำไมฟันหน้าที่เคยบิ่นมันกลับมาบิ่นเหมือนเดิม ฟันล่างก็ทยอยเอียงไปด้วย TT ตอนนั้นคือคิดในใจ “

ละ ฟันล้ม” เพราะค่าจัดฟันในตอนนั้นก็50K กว่าๆ ถ้ากลับไปจัดฟันใหม่มีหวังโดนแม่ทุบแน่ๆ เลยตัดสินใจพยายามใส่รีเทนเนอร์ยัดเข้าไป โอโห้!! นอนปวดทั้งคืน จนต้องอดพาราไป 2 เม็ด เข็ดเลยค่ะ ตั้งแต่นั้นไม่กล้าให้ห่างสักคืนเลย และเห็นเพื่อนๆ รอบตัวฟันล้มกันหมด เลยไม่อยากกลับไปฟันไม่สวยอีกละ หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานปัญหาก็เกิดขึ้นอีกหลังเรียนจบ สังเกตความผิดปกติของรีเทนเนอร์ใช่ค่ะ!! มันแตก!! รีเทนเนอร์แตกและร้าว เลยกลัวว่าจะทำให้ฟันแย่ลงหรือเปล่า ประกอบกับเรานอนกัดฟันด้วย อาจจะทำให้รีเทเนอร์แตกได้เลยเข้าพบแพทย์อีกรอบเพื่อทำรีเทนเนอร์ใหม่ เรียกได้ว่าจัดฟันมา 13 ปีเปลี่ยนไปแล้ว 3 ครั้งค่ะ ใครที่บอกว่าใช้ได้ตลอดชีวิตนั่นไม่จริงเลย 555
ทีนี้พอเราเริ่มมีประสบการณ์การจัดฟันและดูแลฟันมานาน 13 ปีเลยอยากลองมาศึกษาเพิ่มด้านนี้
เพราะระยะเวลาการจัดฟันที่ผ่านมามีปัญหาเยอะมาก ทั้งรีเทนเนอร์แตก ฟันล้ม เปลี่ยนบ่อยๆ
ปัญหาการนอนกัดฟันที่อาจจะเกิดจากสาเหตุการจัดฟันที่ผิดตั้งแต่แรกด้วยหรือเปล่า
ศึกษาจนมาเจอแบรนด์Beforedent ที่เขาดูแลเรื่องการจัดฟันใสโดยเฉพาะ
ที่นี้เขาออกแบบการจัดฟันจากหมอที่เกาหลี ช่วยออกแบบการจัดฟันตามปัญหาฟันของคนไข้แต่ละคน ซึ่งเขาใช้เทคโนโลยี3 มิติในการออกแบบการรักษา เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มจนจัดฟันเสร็จนั่นเองค่ะ ที่สำคัญจัดฟันใสยี่ห้อนี้ราคาไม่แพงมาก (ไม่ถึง 4 หมื่น) ตอนสมัยมุกจัดเกือบ 50K เลยค่ะแพงเกิ๊น
ทีนี้เราเลยลองเปรียบเทียบระหว่างการจัดฟันทั่วไป กับ การจัดฟันใส มีข้อดี-ข้อเสีย ยังไงบ้าง เพราะเรามีประสบการณ์การจัดฟันทั่วไปมา สิ่งที่น่าเบื่อมากๆ คือ การต้องเข้ามาพบแพทย์ทุกๆเดือน นั่งรอคิว ทำแบบนี้จนกว่าจะจัดฟันเสร็จทุกเดือน แถมเวลาปรับลวดและดึงยางในแต่ละครั้ง ปวดฟันมาก (ใครที่เคยจัดฟันทั่วไปมาจะทราบดี) แต่การจัดฟันใส เขาใช้แรงดันที่สม่ำเสมอเพื่อเคลื่อนตัวตำแหน่งของฟัน เครื่องมือครอบแนบไปกับฟัน ทำให้มีความเจ็บ หรือ ปวดน้อยเวลาปรับเครื่องมือ นั่นเองค่ะ
และที่ชอบมากๆ คือ การจัดฟันใสไม่ต้องเสียเวลามาอัพเดตกับแพทย์ทุกๆ เดือน ใช้เวลาเข้าคลินิกเพียงแค่ครั้งเดียวเพื่อตรวจ และสแกนฟัน หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ตามคู่มือที่บ้านได้เลย ไม่ต้องออกมาตามนัด หรือ รอคิวทุกๆ เดือนแล้ว! แถมยังสามารถติดตามผลทางออนไลน์ได้อย่างสม่ำเสมอเลยล่ะ
ตอนนี้เรามีแพลนจะจัดฟันใหม่แบบใสดูเพื่อนๆ คนไหนที่เคยจัดฟันกับ Beforedent หรือจัดฟันใสยี่ห้อไหนมาแชร์ประสบการณ์ด้วยนะคะ ถ้าเราจัดเริ่มจัดแล้ว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังนะคะ หรือมีใครมีข้อมูลการจัดฟันของที่อื่นแนะนำได้เลยนะคะ ^^
[CR] แชร์ประสบการณ์จัดฟัน 13 ปีไม่ใส่รีเทนเนอร์ฟันล้ม! รีเทนเนอร์แตก!
ก่อนอื่นเลยต้องเล่าแบบนี้มุกเป็นเด็กที่มีปัญหาเรื่องฟันเยอะมาก ทั้งมีเขี้ยวอยู่บนเหงือก ไหนจะฟันหน้าซ้อนกัน (มีภาพประกอบตอนสมัยเด็ก ><) ตอนแรกก็คิดว่าคาวาอิแบบสาวญี่ปุ่นดีแต่พอใช้ชีวิตไปมาๆ เริ่มเป็นปัญหาเขี้ยวด้านบนดันปากทำให้ขาดความมั่นใจไปเยอะมากๆ แม่เลยลากเข้าร้านทำฟันในตอนนั้น
คุณหมอแจ้งว่าเราต้องผ่าฟันคุดออกทั้งหมด 3 ซีก และก็ถอนอีก 1 Omg มากเพราะพึงรู้ว่าฟันเยอะเหมือนกันนะเรา 555 ทีนี้เลยจัดฟันตั้งแต่นั้นมาตอน ม.2 แต่คิดว่าจะได้จัดฟันนาน พอตอน ม.4 ก็ต้องถอดออกแล้ว ตอนนั้นเทรนด์ฟันเหล็กเด็กแนวกำลังมาเลย แต่เราต้องเอาออกก่อน หลังจากเอาเหล็กจัดฟันออก ปัญหาก็เกิดขึ้นทันที!!
คุณหมอให้เราใส่รีเทนเนอร์อยากได้แบบเป็นสีๆ คุณหมอก็ดันไม่ทำให้555 เป็นแบบธรรมดามากๆ เราก็ไม่รู้ว่าต้องใส่ช่วงเวลาไหนบ้าง ก็ใส่ไปโรงเรียนทุกวัน บางทีก็รำคาญ เพราะทำให้เราพูดไม่ชัดเลย เพื่อนก็ชอบล้อตลอด รู้สึกว่าอยากถอดมากกว่าโชว์ฟันสวยๆ ไปเลย พอใส่กลางวันบ่อยๆ เริ่มรู้สึกไม่อยากใส่ เลยปรับเวลามาใส่ช่วงกลางคืนแทน ก็ทำให้ฟันสวยมากตลอด จนเข้ามหาลัยเลยค่ะ!!
พอเข้ามหาลัย เราก็ต้องย้ายไปนอนหอ ซึ่งสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น! เรากลับบ้านทุกวันอาทิตย์จะหยิบรีเทนเนอร์ไปใส่นอนที่บ้าน แต่ทีนี้ ลืม!! ไว้ที่บ้านและก็ไปอยู่หอปกติ7 วัน คิดว่าค่อยกลับมาใส่ก็ได้ไม่น่าจะเป็นอะไร
พอมาส่องกระจกดูเฮ้ย!! ทำไมฟันหน้าที่เคยบิ่นมันกลับมาบิ่นเหมือนเดิม ฟันล่างก็ทยอยเอียงไปด้วย TT ตอนนั้นคือคิดในใจ “
หลังจากนั้นไม่นานปัญหาก็เกิดขึ้นอีกหลังเรียนจบ สังเกตความผิดปกติของรีเทนเนอร์ใช่ค่ะ!! มันแตก!! รีเทนเนอร์แตกและร้าว เลยกลัวว่าจะทำให้ฟันแย่ลงหรือเปล่า ประกอบกับเรานอนกัดฟันด้วย อาจจะทำให้รีเทเนอร์แตกได้เลยเข้าพบแพทย์อีกรอบเพื่อทำรีเทนเนอร์ใหม่ เรียกได้ว่าจัดฟันมา 13 ปีเปลี่ยนไปแล้ว 3 ครั้งค่ะ ใครที่บอกว่าใช้ได้ตลอดชีวิตนั่นไม่จริงเลย 555
ทีนี้พอเราเริ่มมีประสบการณ์การจัดฟันและดูแลฟันมานาน 13 ปีเลยอยากลองมาศึกษาเพิ่มด้านนี้
เพราะระยะเวลาการจัดฟันที่ผ่านมามีปัญหาเยอะมาก ทั้งรีเทนเนอร์แตก ฟันล้ม เปลี่ยนบ่อยๆ
ปัญหาการนอนกัดฟันที่อาจจะเกิดจากสาเหตุการจัดฟันที่ผิดตั้งแต่แรกด้วยหรือเปล่า
ศึกษาจนมาเจอแบรนด์Beforedent ที่เขาดูแลเรื่องการจัดฟันใสโดยเฉพาะ
ที่นี้เขาออกแบบการจัดฟันจากหมอที่เกาหลี ช่วยออกแบบการจัดฟันตามปัญหาฟันของคนไข้แต่ละคน ซึ่งเขาใช้เทคโนโลยี3 มิติในการออกแบบการรักษา เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มจนจัดฟันเสร็จนั่นเองค่ะ ที่สำคัญจัดฟันใสยี่ห้อนี้ราคาไม่แพงมาก (ไม่ถึง 4 หมื่น) ตอนสมัยมุกจัดเกือบ 50K เลยค่ะแพงเกิ๊น
ทีนี้เราเลยลองเปรียบเทียบระหว่างการจัดฟันทั่วไป กับ การจัดฟันใส มีข้อดี-ข้อเสีย ยังไงบ้าง เพราะเรามีประสบการณ์การจัดฟันทั่วไปมา สิ่งที่น่าเบื่อมากๆ คือ การต้องเข้ามาพบแพทย์ทุกๆเดือน นั่งรอคิว ทำแบบนี้จนกว่าจะจัดฟันเสร็จทุกเดือน แถมเวลาปรับลวดและดึงยางในแต่ละครั้ง ปวดฟันมาก (ใครที่เคยจัดฟันทั่วไปมาจะทราบดี) แต่การจัดฟันใส เขาใช้แรงดันที่สม่ำเสมอเพื่อเคลื่อนตัวตำแหน่งของฟัน เครื่องมือครอบแนบไปกับฟัน ทำให้มีความเจ็บ หรือ ปวดน้อยเวลาปรับเครื่องมือ นั่นเองค่ะ
และที่ชอบมากๆ คือ การจัดฟันใสไม่ต้องเสียเวลามาอัพเดตกับแพทย์ทุกๆ เดือน ใช้เวลาเข้าคลินิกเพียงแค่ครั้งเดียวเพื่อตรวจ และสแกนฟัน หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ตามคู่มือที่บ้านได้เลย ไม่ต้องออกมาตามนัด หรือ รอคิวทุกๆ เดือนแล้ว! แถมยังสามารถติดตามผลทางออนไลน์ได้อย่างสม่ำเสมอเลยล่ะ
ตอนนี้เรามีแพลนจะจัดฟันใหม่แบบใสดูเพื่อนๆ คนไหนที่เคยจัดฟันกับ Beforedent หรือจัดฟันใสยี่ห้อไหนมาแชร์ประสบการณ์ด้วยนะคะ ถ้าเราจัดเริ่มจัดแล้ว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังนะคะ หรือมีใครมีข้อมูลการจัดฟันของที่อื่นแนะนำได้เลยนะคะ ^^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้