ถึงวงการโทรทัศน์ของเมืองไทยจะรุดหน้าแค่ไหน ก็ย่อมพบรายการใหม่ ๆ มาแนะนำอยู่ตลอดเวลา
ในปี 2536 ก็ถือเป็นปีแห่งการเพิ่มเวลาออกอากาศ และเพิ่มความหรรษาสู่ชาวบ้านกันตั้งแต่เช้าตรู่
เราได้คัด 10 รายการหน้าใหม่ที่มีรูปแบบและองค์ประกอบอันโดดเด่น น่าสนใจ ท้าทาย
จนเป็นที่คุ้นตาหรือได้รับความนิยมจากคนทั่วไป
ดูสิว่ารายการใดตรงกับใจของคนทางนี้บ้าง ทันดูไหมเอ่ย เห็นแล้วมาช่วยบอกเล่าด้วยกันนะ...
สามคนอลเวง
นับเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการตลกจอตู้ของเมืองไทยก็ว่าได้ ปรกติรายการแนวนี้จะใช้ตลกคาเฟ่หรือตลกนักศึกษามาเป็นตัวดำเนินรายการ แต่รายการใหม่จากฝีมือ “แดสส์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” ซึ่งขึ้นชื่อทางด้านละครเวที แน่นอนว่าต้องอาศัยนักแสดงละครเวทีมาเป็นตัวตลกประจำรายการ แรกเริ่มใช้ขาประจำเพียง 3 คนตามชื่อรายการ แต่เมื่อรายการได้รับความนิยมมากขึ้นก็จึงเพิ่มขาประจำเข้ามาอีกหลายคนถึงกับเปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น “มหาชนอลเวง” ในปีถัดมา นำทีมขบวนการโดย บุญชัย จักราวรวุธ, แจง วราพรรณ, ปู กนกวรรณ, ชมพู ฟรุตตี้, ท็อป ดารณีนุช, ก้อง ปิยะ, ผัดไท นิลุบล (ดีใจ ดีดีดี) เรียกว่าแจ้งเกิดจากรายการนี้กันทุกคน
โอนลี่วันเกม
เกมส์โชว์รายการแรกของบริษัท “ทีวีธันเดอร์” ที่มาประเดิมช่วงสาย ๆ วันอาทิตย์ที่ช่อง 3 แถมพิธีกรก็หน้าใหม่ทั้งคู่คือ "ปิงปอง-กนกพร โลศิริ" และหนุ่มโสดขี้เหงาหน้าทะเล้น “นีโน่-เมทนี บุรณศิริ” ที่พอเริ่มจับงานนี้ก็ฮิตติดลมบนขึ้นทันทีจนได้ฉายาพิธีกรรวยอารมณ์ขันในเวลาต่อมา รายการนี้ทุ่มแจกรางวัลแจ็คพอตด้วยรถสปอร์ตมูลค่านับล้านบาท ซึ่งก็ได้ดาราที่คว้ารถหลังจากที่รายการออกอากาศมาไม่นานนักนั่นคือ "มอริส เค" รายการมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและกติกาอย่างต่อเนื่องแต่อยู่ได้ไม่กี่ปีก็ถึงคราวอิ่มตัวแล้วล้มเลิกไปในที่สุด
คู่รัก
เรียกว่าเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ต้นปีเพราะหลังจากภักดีแต่ช่อง 3 มายาวนาน พิธีกรคนเก่ง “ไตรภพ ลิมปพัทธ์” ยังได้นำรายการใหม่เอี่ยมของตัวเองมาบุกช่อง 5 ทุกสี่ทุ่มของวันพุธ พร้อมกับเป็นพิธีกรไปในตัวด้วย(เพื่อให้คนรู้ว่านี่คือเจ้าของรายการ) เป็นเกมส์โชว์ทายปัญหาชีวิตคู่และเปิดป้าย(ตามฟอร์มเกมส์โชว์สมัยนั้น) โดยเปิดโอกาสให้คู่บ่าวสาว คู่สนิท คู่พี่น้อง คู่พ่อลูกหรือแม่ลูก มาแข่งเกมชิงรางวัลมูลค่ามหาศาล ถือเป็นรายการที่ส่งเสริมความรู้ใจในชีวิตคู่เป็นอย่างดี
ละครแห่งชีวิต
ไม่ใช่ชื่อละครฟอร์มยักษ์ที่สร้างจากวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของหม่อมดำเกิง หากเป็นชื่อรายการล้วงลึกชีวประวัติคนดังโดยนำเสนอในรูปแบบพูดคุยสลับละครจำลอง หลังจากที่รายการ คู่ทรหด ปรับเปลี่ยนรูปแบบก็ถือโอกาสเปลี่ยนชื่อเสียเลยเพื่อให้เข้ากับช่วงเวลาใหม่ตอนสี่ทุ่มของวันอาทิตย์ ทางช่อง 5 และบุคคลต้นเรื่องที่หลากหลายกว่าเดิมถึงขนาดบางเรื่องบางตอนเกือบไม่ได้ออกอากาศ ดำเนินรายการโดย "อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ" และ "ดิลก ทองวัฒนา" ฝีมือ “เวิร์คพอยท์” ของ ปัญญา นิรันดร์กุล รับประกันคุณภาพเช่นเคย
คืนวันอาทิตย์
ก้าวแรกในบทบาทเจ้าของรายการโทรทัศน์ของยอดพระเอกมากความสามารถ “ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” โดยจับมือกับเพื่อนร่วมสถาบันอย่าง “วัชระ ปานเอี่ยม” และ “ภิญโญ รู้ธรรม” ร่วมผลิตผลงานชิ้นโบแดงในรูปแบบวาไรตี้ทอล์กโชว์มุมมองใหม่ที่ใช้ชื่อเดียวกับเวลาออกอากาศทางช่อง 3 และทั้งสามคนก็เป็นพิธีกรประจำรายการไปในตัวด้วย ใครที่ติดตามช่อง 3 จะสังเกตว่าในวันอาทิตย์จะมีรายการประเภทนี้แข่งกันถึงสองรายการและความยาวออกอากาศก็เท่ากัน ผลก็คือรายการรุ่นน้องนี้ทำท่าเวิร์คตั้งแต่เปิดตัว พอนาน ๆ ไปก็ค่อย ๆ อิ่มตัว จนในที่สุดก็ต้องปิดตัวเองทั้งรายการและบริษัทผู้ผลิตอย่างสิ้นเชิง
พีเพิลทูไนท์
เข้าสู่ยุคทองของช่อง 9 อสมท. ภายใต้การบริหารของ ผอ.คนเก่งนาม “แสงชัย สุนทรวัฒน์” จึงเปิดประเดิมรายการใหม่ ๆ ไว้หลายรายการ แต่ที่ฮือฮาสุด ๆ เห็นจะเป็นช่วงสี่ทุ่มของวันพุธซึ่งมีรายการชิงร้อยชิงล้านเป็นจ้าวเรตติ้ง แต่รายการนี้มาในรูปแบบวาไรตี้ที่เจาะลึกและขุดคุ้ยเรื่องราวของคนบันเทิงรวมถึงบุคคลในกระแสซึ่งทำออกมาแล้วไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะ 3 พิธีกรคุณภาพแห่งยุคอย่าง เศรษฐา ศิระฉายา, สมพล ปิยะพงศ์ศิริ และน้องนุช ยู่ยี่-อลิสา อินทุสมิต ร่วมกันทำหน้าที่ได้อย่างคล่องแคล่ว ถือเป็นรายการที่เป็นหน้าตาของช่องและ “แกรมมี่” ก่อนจะผลัดเปลี่ยนเวลาและพิธีกรหลายครั้งแล้วเลิกไป
เที่ยงวันกันเอง
หลังจากประสบความสำเร็จพอสมควรกับรายการภาคเช้า “บ้านเลขที่ 5” คราวนี้ “มีเดีย ออฟ มีเดียส์” ยังได้เวลาเพิ่มมาอีกหนึ่งในภาคเที่ยงวันเสาร์ที่ช่อง 5 และรายการนี้จึงเกิดขึ้นด้วยรูปแบบเกมส์โชว์ทายใจจากการล้วงลึกเรื่องราวครั้งวันวานของครอบครัวคนดังได้อย่างครบเครื่องและเป็นกันเองตามชื่อรายการ ตบท้ายด้วยเรื่องที่น่าเศร้าสะเทือนใจที่สุดของผู้ที่มาร่วมรายการ เรียกน้ำตาต่อหน้าผู้ชมไว้อยู่ จากความซาบซึ้งและประทับใจนั้นเองจึงต้องมีการจัดกิจกรรมประจำปี “ครอบครัวในดวงใจ” ผ่านคะแนนเสียงจากผู้ชมทางบ้านอีกด้วย พิธีกรรายการนี้คือ แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี, ยลดา รองหานาม และ ณัฐชา นฤกวิน
โชคดีนาทีทอง
จากกรณีที่ “ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ” ได้มีการปรับผังรายการยกใหญ่ในช่วงเที่ยงวันธรรมดา หลังจากโอนการรายงานหุ้นไปออกอากาศทางช่องอื่น ทำให้ช่วงเวลานี้กลายเป็นช่วงแห่งความคึกคักและอัดแน่นด้วยความบันเทิงไว้เต็มอัตรา และนี่ก็เป็นรายการหนึ่งที่ยึดช่วงเที่ยงจนสามารถครองใจพ่อบ้านแม่บ้านได้สำเร็จ จากฝีมือของผู้จัดรายเล็กแต่ใจถึงอย่าง “อิ๋งอิ๋ง-สิทธิณี กิตติสิทโธ” ที่ยังรับหน้าที่พิธีกรร่วมกับน้องสาวร่างกลม “อิ่งอ้อย สิทธิวดี” เป็นรายการถ่ายทอดสดที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมทุกสาขาอาชีพมาแข่งเกมชิงของรางวัลมากมาย รายการนี้อยู่มาได้ 5 ปีก็เป็นอันต้องลาจอด้วยความจำเป็นของทางผู้จัดรายการ
เกมฮอตเพลงฮิต
ในช่วงเที่ยงของวันพฤหัสบดี ยังมีรายการหน้าใหม่อีกรายการที่มีรูปแบบการนำเสนอที่ผิดแผกออกไป ไม่ใช่แค่เปิดเพลงจากค่าย “แกรมมี่” ที่ทางบ้านเห็นกันดาษดื่น แต่ยังมีเกมการแข่งขันแบบสด ๆ ทางโทรศัพท์ และช่วงท้ายยังได้พบกับศิลปินดารา(ในสังกัดอีกแหละ)ที่จะมาอัพเดทผลงานให้แฟนคลับได้กรี๊ดกัน โดยมี “ดี.เจ.ไก่-สมพล ปิยะพงศ์ศิริ” รับหน้าที่ดำเนินรายการ และยังมี “น้าเหลือม” มาเพิ่มสีสันในยุคท้าย ๆ ของรายการ
กามเทพผิดคิว
ส่งท้ายด้วยเที่ยงวันศุกร์ช่องเดียวกัน ยังมีรายการจาก “เวิร์คพอยท์” ที่มาเรียกความสนุกสนานเฮฮาอย่างเป็นกันเองด้วยความสามารถของพิธีกรอารมณ์ดี “เกียรติ กิจเจริญ” หรือ “ซูโม่กิ๊ก” ซึ่งจะพาผู้ชมพบกับแขกรับเชิญมากหน้าหลายตาที่จะมาทายใจคู่เดท 3 ท่าน(ที่ไม่ใช่คู่รักนอกจอนะ) ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ นานา หากแขกรับเชิญเลือกคนที่คิดว่าถูกใจที่สุดจะเข้าไปแข่งเกมเปิดป้ายชิงรางวัลนับแสนบาทในช่วงสุดท้าย
สวัสดี.
2536 พาเหรด : รวม 10 รายการใหม่ที่น่าสนใจแห่งปี...ใครทันบ้างเอ่ย?
ในปี 2536 ก็ถือเป็นปีแห่งการเพิ่มเวลาออกอากาศ และเพิ่มความหรรษาสู่ชาวบ้านกันตั้งแต่เช้าตรู่
เราได้คัด 10 รายการหน้าใหม่ที่มีรูปแบบและองค์ประกอบอันโดดเด่น น่าสนใจ ท้าทาย
จนเป็นที่คุ้นตาหรือได้รับความนิยมจากคนทั่วไป
ดูสิว่ารายการใดตรงกับใจของคนทางนี้บ้าง ทันดูไหมเอ่ย เห็นแล้วมาช่วยบอกเล่าด้วยกันนะ...
สามคนอลเวง
นับเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการตลกจอตู้ของเมืองไทยก็ว่าได้ ปรกติรายการแนวนี้จะใช้ตลกคาเฟ่หรือตลกนักศึกษามาเป็นตัวดำเนินรายการ แต่รายการใหม่จากฝีมือ “แดสส์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” ซึ่งขึ้นชื่อทางด้านละครเวที แน่นอนว่าต้องอาศัยนักแสดงละครเวทีมาเป็นตัวตลกประจำรายการ แรกเริ่มใช้ขาประจำเพียง 3 คนตามชื่อรายการ แต่เมื่อรายการได้รับความนิยมมากขึ้นก็จึงเพิ่มขาประจำเข้ามาอีกหลายคนถึงกับเปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น “มหาชนอลเวง” ในปีถัดมา นำทีมขบวนการโดย บุญชัย จักราวรวุธ, แจง วราพรรณ, ปู กนกวรรณ, ชมพู ฟรุตตี้, ท็อป ดารณีนุช, ก้อง ปิยะ, ผัดไท นิลุบล (ดีใจ ดีดีดี) เรียกว่าแจ้งเกิดจากรายการนี้กันทุกคน
โอนลี่วันเกม
เกมส์โชว์รายการแรกของบริษัท “ทีวีธันเดอร์” ที่มาประเดิมช่วงสาย ๆ วันอาทิตย์ที่ช่อง 3 แถมพิธีกรก็หน้าใหม่ทั้งคู่คือ "ปิงปอง-กนกพร โลศิริ" และหนุ่มโสดขี้เหงาหน้าทะเล้น “นีโน่-เมทนี บุรณศิริ” ที่พอเริ่มจับงานนี้ก็ฮิตติดลมบนขึ้นทันทีจนได้ฉายาพิธีกรรวยอารมณ์ขันในเวลาต่อมา รายการนี้ทุ่มแจกรางวัลแจ็คพอตด้วยรถสปอร์ตมูลค่านับล้านบาท ซึ่งก็ได้ดาราที่คว้ารถหลังจากที่รายการออกอากาศมาไม่นานนักนั่นคือ "มอริส เค" รายการมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและกติกาอย่างต่อเนื่องแต่อยู่ได้ไม่กี่ปีก็ถึงคราวอิ่มตัวแล้วล้มเลิกไปในที่สุด
คู่รัก
เรียกว่าเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ต้นปีเพราะหลังจากภักดีแต่ช่อง 3 มายาวนาน พิธีกรคนเก่ง “ไตรภพ ลิมปพัทธ์” ยังได้นำรายการใหม่เอี่ยมของตัวเองมาบุกช่อง 5 ทุกสี่ทุ่มของวันพุธ พร้อมกับเป็นพิธีกรไปในตัวด้วย(เพื่อให้คนรู้ว่านี่คือเจ้าของรายการ) เป็นเกมส์โชว์ทายปัญหาชีวิตคู่และเปิดป้าย(ตามฟอร์มเกมส์โชว์สมัยนั้น) โดยเปิดโอกาสให้คู่บ่าวสาว คู่สนิท คู่พี่น้อง คู่พ่อลูกหรือแม่ลูก มาแข่งเกมชิงรางวัลมูลค่ามหาศาล ถือเป็นรายการที่ส่งเสริมความรู้ใจในชีวิตคู่เป็นอย่างดี
ละครแห่งชีวิต
ไม่ใช่ชื่อละครฟอร์มยักษ์ที่สร้างจากวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของหม่อมดำเกิง หากเป็นชื่อรายการล้วงลึกชีวประวัติคนดังโดยนำเสนอในรูปแบบพูดคุยสลับละครจำลอง หลังจากที่รายการ คู่ทรหด ปรับเปลี่ยนรูปแบบก็ถือโอกาสเปลี่ยนชื่อเสียเลยเพื่อให้เข้ากับช่วงเวลาใหม่ตอนสี่ทุ่มของวันอาทิตย์ ทางช่อง 5 และบุคคลต้นเรื่องที่หลากหลายกว่าเดิมถึงขนาดบางเรื่องบางตอนเกือบไม่ได้ออกอากาศ ดำเนินรายการโดย "อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ" และ "ดิลก ทองวัฒนา" ฝีมือ “เวิร์คพอยท์” ของ ปัญญา นิรันดร์กุล รับประกันคุณภาพเช่นเคย
คืนวันอาทิตย์
ก้าวแรกในบทบาทเจ้าของรายการโทรทัศน์ของยอดพระเอกมากความสามารถ “ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” โดยจับมือกับเพื่อนร่วมสถาบันอย่าง “วัชระ ปานเอี่ยม” และ “ภิญโญ รู้ธรรม” ร่วมผลิตผลงานชิ้นโบแดงในรูปแบบวาไรตี้ทอล์กโชว์มุมมองใหม่ที่ใช้ชื่อเดียวกับเวลาออกอากาศทางช่อง 3 และทั้งสามคนก็เป็นพิธีกรประจำรายการไปในตัวด้วย ใครที่ติดตามช่อง 3 จะสังเกตว่าในวันอาทิตย์จะมีรายการประเภทนี้แข่งกันถึงสองรายการและความยาวออกอากาศก็เท่ากัน ผลก็คือรายการรุ่นน้องนี้ทำท่าเวิร์คตั้งแต่เปิดตัว พอนาน ๆ ไปก็ค่อย ๆ อิ่มตัว จนในที่สุดก็ต้องปิดตัวเองทั้งรายการและบริษัทผู้ผลิตอย่างสิ้นเชิง
พีเพิลทูไนท์
เข้าสู่ยุคทองของช่อง 9 อสมท. ภายใต้การบริหารของ ผอ.คนเก่งนาม “แสงชัย สุนทรวัฒน์” จึงเปิดประเดิมรายการใหม่ ๆ ไว้หลายรายการ แต่ที่ฮือฮาสุด ๆ เห็นจะเป็นช่วงสี่ทุ่มของวันพุธซึ่งมีรายการชิงร้อยชิงล้านเป็นจ้าวเรตติ้ง แต่รายการนี้มาในรูปแบบวาไรตี้ที่เจาะลึกและขุดคุ้ยเรื่องราวของคนบันเทิงรวมถึงบุคคลในกระแสซึ่งทำออกมาแล้วไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะ 3 พิธีกรคุณภาพแห่งยุคอย่าง เศรษฐา ศิระฉายา, สมพล ปิยะพงศ์ศิริ และน้องนุช ยู่ยี่-อลิสา อินทุสมิต ร่วมกันทำหน้าที่ได้อย่างคล่องแคล่ว ถือเป็นรายการที่เป็นหน้าตาของช่องและ “แกรมมี่” ก่อนจะผลัดเปลี่ยนเวลาและพิธีกรหลายครั้งแล้วเลิกไป
เที่ยงวันกันเอง
หลังจากประสบความสำเร็จพอสมควรกับรายการภาคเช้า “บ้านเลขที่ 5” คราวนี้ “มีเดีย ออฟ มีเดียส์” ยังได้เวลาเพิ่มมาอีกหนึ่งในภาคเที่ยงวันเสาร์ที่ช่อง 5 และรายการนี้จึงเกิดขึ้นด้วยรูปแบบเกมส์โชว์ทายใจจากการล้วงลึกเรื่องราวครั้งวันวานของครอบครัวคนดังได้อย่างครบเครื่องและเป็นกันเองตามชื่อรายการ ตบท้ายด้วยเรื่องที่น่าเศร้าสะเทือนใจที่สุดของผู้ที่มาร่วมรายการ เรียกน้ำตาต่อหน้าผู้ชมไว้อยู่ จากความซาบซึ้งและประทับใจนั้นเองจึงต้องมีการจัดกิจกรรมประจำปี “ครอบครัวในดวงใจ” ผ่านคะแนนเสียงจากผู้ชมทางบ้านอีกด้วย พิธีกรรายการนี้คือ แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี, ยลดา รองหานาม และ ณัฐชา นฤกวิน
โชคดีนาทีทอง
จากกรณีที่ “ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ” ได้มีการปรับผังรายการยกใหญ่ในช่วงเที่ยงวันธรรมดา หลังจากโอนการรายงานหุ้นไปออกอากาศทางช่องอื่น ทำให้ช่วงเวลานี้กลายเป็นช่วงแห่งความคึกคักและอัดแน่นด้วยความบันเทิงไว้เต็มอัตรา และนี่ก็เป็นรายการหนึ่งที่ยึดช่วงเที่ยงจนสามารถครองใจพ่อบ้านแม่บ้านได้สำเร็จ จากฝีมือของผู้จัดรายเล็กแต่ใจถึงอย่าง “อิ๋งอิ๋ง-สิทธิณี กิตติสิทโธ” ที่ยังรับหน้าที่พิธีกรร่วมกับน้องสาวร่างกลม “อิ่งอ้อย สิทธิวดี” เป็นรายการถ่ายทอดสดที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมทุกสาขาอาชีพมาแข่งเกมชิงของรางวัลมากมาย รายการนี้อยู่มาได้ 5 ปีก็เป็นอันต้องลาจอด้วยความจำเป็นของทางผู้จัดรายการ
เกมฮอตเพลงฮิต
ในช่วงเที่ยงของวันพฤหัสบดี ยังมีรายการหน้าใหม่อีกรายการที่มีรูปแบบการนำเสนอที่ผิดแผกออกไป ไม่ใช่แค่เปิดเพลงจากค่าย “แกรมมี่” ที่ทางบ้านเห็นกันดาษดื่น แต่ยังมีเกมการแข่งขันแบบสด ๆ ทางโทรศัพท์ และช่วงท้ายยังได้พบกับศิลปินดารา(ในสังกัดอีกแหละ)ที่จะมาอัพเดทผลงานให้แฟนคลับได้กรี๊ดกัน โดยมี “ดี.เจ.ไก่-สมพล ปิยะพงศ์ศิริ” รับหน้าที่ดำเนินรายการ และยังมี “น้าเหลือม” มาเพิ่มสีสันในยุคท้าย ๆ ของรายการ
กามเทพผิดคิว
ส่งท้ายด้วยเที่ยงวันศุกร์ช่องเดียวกัน ยังมีรายการจาก “เวิร์คพอยท์” ที่มาเรียกความสนุกสนานเฮฮาอย่างเป็นกันเองด้วยความสามารถของพิธีกรอารมณ์ดี “เกียรติ กิจเจริญ” หรือ “ซูโม่กิ๊ก” ซึ่งจะพาผู้ชมพบกับแขกรับเชิญมากหน้าหลายตาที่จะมาทายใจคู่เดท 3 ท่าน(ที่ไม่ใช่คู่รักนอกจอนะ) ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ นานา หากแขกรับเชิญเลือกคนที่คิดว่าถูกใจที่สุดจะเข้าไปแข่งเกมเปิดป้ายชิงรางวัลนับแสนบาทในช่วงสุดท้าย