JJNY : ป่วยเพิ่ม 1.2 พัน เสียชีวิต 26│หนี้ครัวเรือนจ่อซ้ำอสังหาฯ│สรยุทธแจ้งให้ทราบ ที่ชัชชาติเดินแบบ│พปชร.ใต้ยุ‘ป้อม’

วันฟ้ามืด ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 1.2 พัน เสียชีวิต 26
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3532608

 
โควิดไทย รักษาอยู่ 16,603 ราย ป่วยเพิ่ม 1.2 พัน เสียชีวิต 26
 
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 1,273 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 1,273 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย ผู้ป่วยสะสม 2,424,250 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 2,198 ราย
หายป่วยสะสม 2,430,340 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
 
ผู้ป่วยกำลังรักษา 16,603 ราย
เสียชีวิต 26 รายเสียชีวิตสะสม 10,550 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ
รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 760 ราย
 
* เนื่องจากตั้งแต่ 1 มิ.ย. 65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสม มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม



หนี้ครัวเรือนจ่อซ้ำอสังหาฯ ชี้ดอกเบี้ยขาขึ้น บ้านต่ำกว่า 5 ล้านกู้ยาก
https://www.thairath.co.th/business/economics/2484787
 
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประเมินดอกเบี้ยขาขึ้น หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ส่งผลผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง กลุ่มอาชีพอิสระ เข้าถึงสินเชื่อได้ยาก ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้สูง มีกำลังซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ยื่นกู้ผ่านง่ายกว่า ขณะที่แบงก์พาณิชย์ ปฏิเสธลูกค้ากู้บ้านต่ำกว่า 5 ล้านบาท หวั่นมีปัญหาผ่อนในระยะยาว เดินหน้าเก็บข้อมูลกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนด้วย เน้นคอนโดราคาถูก
 
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นยังผลให้ธนาคารพาณิชย์ พิจารณาไม่ผ่านเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มผู้ซื้อรายใหม่ เนื่องจากเกรงว่าจะมีความเสี่ยงในการผ่อนชำระ โดย เฉพาะที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 5 ล้านบาท แต่จะพิจารณาผ่านเกณฑ์สินเชื่อให้ที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป เพราะมั่นใจว่าจะมีเงินชำระค่างวดแน่นอน ขณะที่ผู้ซื้อบ้านต่ำกว่า 5 ล้านบาท จะยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ ทั้งธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน ซึ่งพร้อมพิจารณาสินเชื่อให้กับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของตัวเอง ตามนโยบายรัฐบาล
 
“ทิศทางการลงทุนที่อยู่อาศัย กำลังเป็นที่สนใจ เช่น การลงทุนซื้อคอนโดราคาถูก ต่ำกว่ายูนิตละ 1 ล้านบาท นำมาปล่อยให้เช่าเดือนละ 4,000-5,000 บาท ถือว่าคุ้มค่า ซึ่งศูนย์ข้อมูลอสังหาฯอยู่ระหว่างติดตามจัดเก็บข้อมูลว่ากลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเหล่านี้เพื่อการลงทุนอย่างใกล้ชิดว่ามีพฤติกรรมอย่างไรและแนวโน้มอย่างไร”
 
นายวิชัยกล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์โดยภาพรวม คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2564 บ้านแนวราบน่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อมากกว่า ในขณะที่อาคารชุดจะค่อยๆฟื้นตัว เนื่องจากสต๊อกลดลงและราคาที่ดินที่แพงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องสร้างอาคารชุดเพื่อให้สอดคล้องกำลังซื้อ ผู้ประกอบการ บ้านใหม่จะยังคงมีส่วนลดและของแถมเพื่อจูงใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อ แต่ไม่ลดราคามากเท่ากับปี 2564 เนื่องจากมีต้นทุนของการก่อสร้างที่สูงขึ้น ตลาดยังเป็นของผู้ซื้อจะมีการขยายตัวขึ้นในกลุ่มของการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสอง แต่ยังมีสิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงถึงประมาณ 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทำให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางในกลุ่มอาชีพอิสระจะเข้าถึงสินเชื่อได้ยากเช่นเดียวกัน
 
สำหรับการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินจำนวน 9,069 หน่วย คิดเป็น 56.9% ของทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30.9% ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 4,223 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 3,737 หน่วย บ้านแฝด 1,012 หน่วย ส่วนทำเลที่อยู่อาศัย ยังคงเป็นที่นิยมและมีการโอนกรรมสิทธิ์มากสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 47,334 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 161,151 ล้านบาท
 
นายวิชัยกล่าวต่อว่า ขณะที่พื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล มีการเปิดขายโครงการใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1.เขตธนบุรี 3,098 หน่วย เป็นโครงการอาคารชุดทั้งหมด มีมูลค่าโครงการ 3,718 ล้านบาท อันดับ 2.อำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี 2,739 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุด 2,380 หน่วย บ้านจัดสรร 359 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 9,749 ล้านบาท อันดับ 3.อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ 1,763 หน่วย เป็นบ้านจัดสรรทั้งจำนวน มูลค่าโครงการรวม 32,436 ล้านบาท อันดับ 4.เขตลาดพร้าว 1,250 หน่วย เป็นโครงการอาคารชุดทั้งจำนวน มูลค่าโครงการ 4,669 ล้านบาท อันดับ 5.เขตจตุจักร 1,209 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุด 1,199 หน่วย บ้านจัดสรร 10 หน่วยมูลค่าโครงการรวม 3,515 ล้านบาท
 
สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดของคนต่างชาติ ใน 6 เดือนของปี 2565 มีจำนวน 4,433 หน่วย เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 4,370 หน่วยมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดคนต่างชาติ 22,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 20,472 ล้านบาท โดยผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงมีการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด. 
 

 
สรยุทธแจ้งให้ทราบ ที่ชัชชาติไปเดินแบบ แล้วพี่ศรีสงสัย คืองานอะไร
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7235976

สรยุทธแจ้งให้ทราบ ที่ชัชชาติไปเดินแบบ แล้วพี่ศรีสงสัยว่ามันเป็นงานหลัก ยิ่งกว่าน้ำท่วม รถติด คืองานอะไร จัดเมื่อวานนี้ ที่สยามนี่เองเน้อ
 
วันที่ 28 ส.ค.2565 เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ชี้แจงงานที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ไปเดินแบบ แล้วถูกนายศรีสุวรรณ จรรยาตั้งคำถามว่าเป็นงานหลักหรือไม่นั้น ปรากฎว่าเป็นงาน “Face of Ability ปีที่ 7” การเดินแบบคนพิการทุกประเภท จัดเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 15.30-20.00 น. 
 
อ่านข่าว พี่ศรีถามชัชชาติ เดินแบบเป็นงานหลัก น้ำท่วมรถติด เอาไว้ทีหลัง?
  
โดยงานนี้อยู่ภายใต้แนวคิดแสดงถึงนวัตกรรมของคนพิการ ที่มีภาพลักษณ์ใหม่ และเพื่อส่งเสริมศักยภาพความสามารถคนพิการที่มีอย่างเท่าเทียมกันในสังคม พร้อมเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคคลทั่วไปในการเพิ่มพลังให้กับการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี
 
ทั้งนี้ภายในงานมีการโชว์สุดพิเศษ การเดินแบบของคนพิการทุกประเภท ร่วมกับศิลปินมากมาย และการแสดงดนตรีคนพิการ 7 วง พร้อมศิลปินรับเชิญ ร่วมสร้างความสุขแก่ทุกคน พร้อมทั้งมีบูทผลิตภัณฑ์คนพิการ และนวัตกรรมอุปกรณ์ เครื่องช่วยเหลือ หุ่นยนต์ แก่คนพิการ ตลอดถนนวอล์กกิ้ง สตรีทสยามแสควร์

https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/pfbid028kx52Yf9hJoZijXPwFfohbP9efDHsK4Nk54cgGrdi8Wfx1EvnsAjxmNuLS26Nxj2l
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่