เปรียบง่ายๆ ให้ฟัง
เราไปซื้อกล้วย หรือซื้อมะพร้าวใบหนึ่งจากตลาด แล้วก็เดินหิ้วมา อีกคนหนึ่งก็ถาม
ท่านซื้อกล้วยมาทำไม ?
ซื้อ ไปรับประทาน
เปลือกมันต้องรับประทานด้วยหรือ ?
เปล่า
ไม่เชื่อหรอก ไม่รับประทานแล้วเอาไปทำไม
เปลือกมัน ?
หรือเอามะพร้าวใบหนึ่งมาก็เหมือนกัน
เอามะพร้าวไปทำไม ?
จะเอาไปแกง
เปลือกมันแกงด้วยหรือ ?
เปล่า
จะเอาไปทำไมล่ะ ?
เอ้า จะว่าอย่างไรล่ะ จะตอบปัญหาเขาอย่างไร
ด้วย...ความอยาก
ถ้าไม่อยาก เราก็ไม่ได้ทำให้มันมีปัญญานะ
การทำความเพียร ก็เป็นเช่นนั้น...
คือ ทำด้วยการปล่อยวาง...
อย่างกล้วย อย่างมะพร้าว เอาไปทำไมเปลือกมัน ?
ก็เพราะว่า
ยังไม่ถึงเวลาเอามันทิ้ง มันก็ห่อเนื้อในมันไปอยู่นั้น ยังไม่ถึงเวลาจะทิ้ง ก็ถือมันไว้ก่อน
การประพฤติปฏิบัติ ก็เหมือนกัน
สมมติ วิมุตติ
ก็ต้องปนกันอยู่อย่างนั้น เหมือนมะพร้าวมันจะปน
อยู่ทั้งเปลือก ทั้งกะลา ทั้งเนื้อ เราก็เอามาทั้งหมดแหละ
เขาจะหาว่า
เรากินเปลือกมะพร้าว อย่างไรก็ช่างเขา
เรารู้จัก...ของเราอยู่."
--------------------------------------------------------------------------
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.
วัดพระธาตุขุนบง - "เปรียบง่ายๆ ให้ฟัง เราไปซื้อกล้วย
เราไปซื้อกล้วย หรือซื้อมะพร้าวใบหนึ่งจากตลาด แล้วก็เดินหิ้วมา อีกคนหนึ่งก็ถาม
ท่านซื้อกล้วยมาทำไม ?
ซื้อ ไปรับประทาน
เปลือกมันต้องรับประทานด้วยหรือ ?
เปล่า
ไม่เชื่อหรอก ไม่รับประทานแล้วเอาไปทำไม
เปลือกมัน ?
หรือเอามะพร้าวใบหนึ่งมาก็เหมือนกัน
เอามะพร้าวไปทำไม ?
จะเอาไปแกง
เปลือกมันแกงด้วยหรือ ?
เปล่า
จะเอาไปทำไมล่ะ ?
เอ้า จะว่าอย่างไรล่ะ จะตอบปัญหาเขาอย่างไร
ด้วย...ความอยาก
ถ้าไม่อยาก เราก็ไม่ได้ทำให้มันมีปัญญานะ
การทำความเพียร ก็เป็นเช่นนั้น...
คือ ทำด้วยการปล่อยวาง...
อย่างกล้วย อย่างมะพร้าว เอาไปทำไมเปลือกมัน ?
ก็เพราะว่า
ยังไม่ถึงเวลาเอามันทิ้ง มันก็ห่อเนื้อในมันไปอยู่นั้น ยังไม่ถึงเวลาจะทิ้ง ก็ถือมันไว้ก่อน
การประพฤติปฏิบัติ ก็เหมือนกัน
สมมติ วิมุตติ
ก็ต้องปนกันอยู่อย่างนั้น เหมือนมะพร้าวมันจะปน
อยู่ทั้งเปลือก ทั้งกะลา ทั้งเนื้อ เราก็เอามาทั้งหมดแหละ
เขาจะหาว่า
เรากินเปลือกมะพร้าว อย่างไรก็ช่างเขา
เรารู้จัก...ของเราอยู่."
--------------------------------------------------------------------------
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.