สวัสดีค่ะ ก่อนหน้านี้เตรียมเอกสารขอวีซ่าอังกฤษเป็นครั้งแรก ก็แอบหวั่น ๆ ว่าจะรอนานมั้ย เราบินพ.ย. แต่พี่สาวก็เตือนว่าช่วงนี้วีซ่าต้องรอ 9-10 สัปดาห์นะให้รีบไปทำ
นอกจากลุ้นเรื่องระยะเวลาแล้วก็แอบลุ้นว่าจะผ่านรึเปล่า เพราะเราไม่เคยมีเชงเก้นและ US Visa เลย ปกติจะไปญี่ปุ่นบ่อยเกินสิบครั้งแล้วแต่ญี่ปุ่นก็ฟรีวีซ่ามานานมากแล้ว นอกจากนั้นที่ไปบ่อยรองลงมาจะเป็นฮ่องกง สิงคโปร์ ที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเช่นกัน
แต่ในที่สุดเราก็ได้วีซ่าท่องเที่ยว 2 ปีมาในเวลาแค่ 10 วันทำการเท่านั้นค่ะ ถ้านับวันหยุดด้วยก็ 16 วัน เรายื่น 10 สิงหาคม ได้เมลล์ว่าเล่มส่งออกมาแล้ววันที่ 26 สิงหาคม และ ได้เล่มอยู่ในมือวันที่ 27 สิงหาคมค่ะ
มาดูขั้นตอนเตรียมเอกสารกัน ส่วนตัวเราว่าเราไม่ได้เตรียมเยอะ เพราะอ่านมาเค้าบอกเอาแค่จำเป็น อาจเป็นไปได้ว่าเพราะเอกสารไม่เยอะเลยสามารถพิจารณาเร็ว
เอกสารที่เราแนบไป นอกจากใบสมัครที่กรอกในเว็บมีดังนี้
ใบรับรองการทำงาน
Statement 3 เดือน เป็นภาษาอังกฤษขอจากธนาคารเพราะลองขอในแอพแล้วมันเป็นชื่อภาษาไทย (เราไม่ได้ใช้บัญชีที่ใช้รับเงินเดือนนะคะ)
ใบทรานสคริปจบป.โท
หน้าพาสปอร์ตเล่มเก่าทั้งหมด 3 เล่ม (ไม่ได้ถ่ายตราประทับเข้าออกประเทศ หรือพวกหน้าวีซ่าประเทศต่าง ๆ ไปด้วย Upload แค่หน้าพาสปอร์ต)
หน้า passport ปัจจุบัน
สำเนาบัตรประชาชน
ใบจองโรงแรม
สิ่งที่ไม่ได้แนบไป
-ใบแนะนำตัว
-ใบแสดงว่ามีภาระหนี้สินอะไรบ้างที่ผูดมัดว่าต้องกลับไทย (จริง ๆ ยังต้องผ่อนรถอยู่)
-หน้าพาสปอร์ตที่รวมตราปั๊มประวัติการเดินทางหรือวีซ่าประเทศต่าง ๆ ที่เคยได้ (วีซ่าเดิมมีแค่ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีนเมื่อนานมาแล้ว)
-สลิปเงินเดือน (มีระบุเงินเดือนในใบรับรองการทำงานแล้ว)
-แพลนการเดินทาง
-ตั๋วเครื่องบิน (เห็นหลายท่านได้วีซ่าช้าเลยไม่จองล่วงหน้า)
-หน้าสมุดบัญชี จริง ๆ เป็นคนมีบัญชีหลายธนาคารมาก แต่ไม่ได้แนบไปสักเล่มเลยค่ะ บัญชีที่ใช้ยื่น Statement ก็เป็นแบบไม่มีสมุดด้วย
เรายื่นเองทั้งหมดไม่ผ่านเอเจนซี่ใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ พวกเอกสารถ้าใบไหนมีสำเนาอยู่แล้วก็เซ็น Certified true copy แล้วใช้มือถือถ่ายรูปและแปลงเป็น pdf ตอนที่จะอัพโหลดข้อมูลถ้าไฟล์ไหนใหญ่เกินก็ใช้พวกเว็บฟรีย่อไฟล์ pdf เอาค่ะ
เอาจริงเป็นคนไม่ชอบวุ่นวายกับเอกสารการขอวีซ่าพวกนี้มาก ๆๆๆๆ แต่ถึงตอนนี้พอได้ลงมือทำจริง ๆ มันไม่ยากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่กำลังเตรียมตัวขอวีซ่านะคะ จากประสบการณ์ของเราเอง ขอฝากไว้ว่า มินิมอลน่าจะดีที่สุดค่ะ ยิ่งเยอะยิ่งใช้เวลาพิจารณานาน และอย่าลืมทาลิปค่ะ รูปออกมาปากซีดมาก
ขอวีซ่าอังกฤษครั้งแรก ได้อนุมัติภายใน 10 วันทำการ ไม่ได้ซื้อบริการใด ๆ เพิ่ม นอกจากส่งเล่มมาที่บ้าน(ส.ค. 2022 aka 2565)
นอกจากลุ้นเรื่องระยะเวลาแล้วก็แอบลุ้นว่าจะผ่านรึเปล่า เพราะเราไม่เคยมีเชงเก้นและ US Visa เลย ปกติจะไปญี่ปุ่นบ่อยเกินสิบครั้งแล้วแต่ญี่ปุ่นก็ฟรีวีซ่ามานานมากแล้ว นอกจากนั้นที่ไปบ่อยรองลงมาจะเป็นฮ่องกง สิงคโปร์ ที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเช่นกัน
แต่ในที่สุดเราก็ได้วีซ่าท่องเที่ยว 2 ปีมาในเวลาแค่ 10 วันทำการเท่านั้นค่ะ ถ้านับวันหยุดด้วยก็ 16 วัน เรายื่น 10 สิงหาคม ได้เมลล์ว่าเล่มส่งออกมาแล้ววันที่ 26 สิงหาคม และ ได้เล่มอยู่ในมือวันที่ 27 สิงหาคมค่ะ
มาดูขั้นตอนเตรียมเอกสารกัน ส่วนตัวเราว่าเราไม่ได้เตรียมเยอะ เพราะอ่านมาเค้าบอกเอาแค่จำเป็น อาจเป็นไปได้ว่าเพราะเอกสารไม่เยอะเลยสามารถพิจารณาเร็ว
เอกสารที่เราแนบไป นอกจากใบสมัครที่กรอกในเว็บมีดังนี้
ใบรับรองการทำงาน
Statement 3 เดือน เป็นภาษาอังกฤษขอจากธนาคารเพราะลองขอในแอพแล้วมันเป็นชื่อภาษาไทย (เราไม่ได้ใช้บัญชีที่ใช้รับเงินเดือนนะคะ)
ใบทรานสคริปจบป.โท
หน้าพาสปอร์ตเล่มเก่าทั้งหมด 3 เล่ม (ไม่ได้ถ่ายตราประทับเข้าออกประเทศ หรือพวกหน้าวีซ่าประเทศต่าง ๆ ไปด้วย Upload แค่หน้าพาสปอร์ต)
หน้า passport ปัจจุบัน
สำเนาบัตรประชาชน
ใบจองโรงแรม
สิ่งที่ไม่ได้แนบไป
-ใบแนะนำตัว
-ใบแสดงว่ามีภาระหนี้สินอะไรบ้างที่ผูดมัดว่าต้องกลับไทย (จริง ๆ ยังต้องผ่อนรถอยู่)
-หน้าพาสปอร์ตที่รวมตราปั๊มประวัติการเดินทางหรือวีซ่าประเทศต่าง ๆ ที่เคยได้ (วีซ่าเดิมมีแค่ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีนเมื่อนานมาแล้ว)
-สลิปเงินเดือน (มีระบุเงินเดือนในใบรับรองการทำงานแล้ว)
-แพลนการเดินทาง
-ตั๋วเครื่องบิน (เห็นหลายท่านได้วีซ่าช้าเลยไม่จองล่วงหน้า)
-หน้าสมุดบัญชี จริง ๆ เป็นคนมีบัญชีหลายธนาคารมาก แต่ไม่ได้แนบไปสักเล่มเลยค่ะ บัญชีที่ใช้ยื่น Statement ก็เป็นแบบไม่มีสมุดด้วย
เรายื่นเองทั้งหมดไม่ผ่านเอเจนซี่ใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ พวกเอกสารถ้าใบไหนมีสำเนาอยู่แล้วก็เซ็น Certified true copy แล้วใช้มือถือถ่ายรูปและแปลงเป็น pdf ตอนที่จะอัพโหลดข้อมูลถ้าไฟล์ไหนใหญ่เกินก็ใช้พวกเว็บฟรีย่อไฟล์ pdf เอาค่ะ
เอาจริงเป็นคนไม่ชอบวุ่นวายกับเอกสารการขอวีซ่าพวกนี้มาก ๆๆๆๆ แต่ถึงตอนนี้พอได้ลงมือทำจริง ๆ มันไม่ยากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่กำลังเตรียมตัวขอวีซ่านะคะ จากประสบการณ์ของเราเอง ขอฝากไว้ว่า มินิมอลน่าจะดีที่สุดค่ะ ยิ่งเยอะยิ่งใช้เวลาพิจารณานาน และอย่าลืมทาลิปค่ะ รูปออกมาปากซีดมาก