สางป่า

เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นๆ ที่อยากจะเอามาเล่าให้ฟังกัน 
มันเป็นเรื่องที่คาใจผมมากเรื่องหนึ่ง จนทำให้ผมต้องออกตามหาความจริง ของปรากฏการณ์นั้นมาทั้งชีวิต
สมัยเด็กๆ ช่วงสัก 7-8 ขวบได้มั้ง  พี่ชายผม ถูกหมาบ้ากัด 
ตอนนั้น ที่หมู่บ้านผม ไม่มีโรงพยาบาล ไม่มีคลีนิคใดๆ
นอกจาก สุขศาลา ที่จะพอเป็นจุดพึ่งพาอาศัยของชาวบ้าน ที่ป่วยไข้  ได้แวะเวียนมาใช้บริการบ้าง
แต่วันนั้น เป็นช่วงเย็นมากแล้ว หลังจากพี่ชายถูกหมากัด 
พ่อกับแม่ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก 
พอล้างแผลด้วยน้ำเปล่า ใส่ยาแล้ว ก็ให้พี่ชายเข้านอน ตามปกติ
กลางดึก คืนนั้น พี่ชาย ร้องโหยหวนออกมา จนผมตกใจตื่น
ได้ยินเสียงพี่ชายบอกว่า หิวน้ำ หิวน้ำ ขอน้ำหน่อย
สักพักผมก็ลุกขึ้นไปดู เห็นแม่กำลัง เทน้ำใส่แก้ว 
แล้วก็ยื่นไปให้พี่ชายจิบ พอพี่ชายจิบน้ำได้อึกหนึ่งเท่านั้นแหละ
พี่ชายก็ร้องโวยวายขึ้นอีก เอามือปัดแก้วน้ำออกจากมือแม่
แล้วผมก็ได้ยืนเสียง แกร้อง เหมือน หอน อะครับ 
จริงๆนะ ผมตกใจเลย ตอนนั้น 
น้ำลายพี่ชายก็ไหล่ออกมา 
พอแม่ถามว่าจะกินน้ำอีกไหม 
เอาแก้วน้ำไปใกล้ๆหน้าพี่ชาย แกก็ร้องเสียงดังขึ้นว่า ไม่เอาไม่เอา
พ่อผมเห็นว่าอาการพี่ชาย เริ่มหนักแล้ว
ก็เลยไปปลุก ตาฉ่ำคนข้างบ้าน มาดู
ตาฉ่ำ แกก็บอกว่า สงสัยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ต้องส่งไปรักษาในเมือง
ซึ่งห่างจากหมู่บ้านไกลมาก บวกกับสมัยนั้นทางกันดารเหลือเกิน 
กว่าจะถึงในเมืองก็น่าจะ ร่วมๆ สองช่วงโมงได้
ตาฉ่ำ ก็ไปตามหมอชาวบ้านมาดู อาการให้
จำได้ว่า ตอนนั้นมีคนมาดูอาการพี่ชายหลายคนเลย 
แต่สรุปแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ 
บอกแต่ว่า อย่าให้พี่ชายกินน้ำ เพราะจะทำให้ ขากรรไกรแข็ง 
พี่ชาย ตอนนั้นก็ บ่นหิวน้ำ หิวน้ำ กับ สงเสียง หอน เป็นระยะ ระยะ
แล้วก็มีลุงคนหนึ่งที่มาดูอาการ 
เขาก็แนะนำว่า ให้พาพี่ชายไปหาหลวงพ่อดำ ที่วัดป่า
ซึ่งไม่ไกลนัก ขับรถไปสัก 30 นาทีก็น่าจะถึง
ลุงคนนั้นบอกว่า หลวงพ่อดำ ท่านมียาร้อยแปด รักษาคนป่วยได้หลายขนาน
ลองไปให้ท่านดูให้ก่อน
สรุป พ่อกับแม่ ก็ไปจ้างรถเพื่อนบ้าน ให้ขับพาไปส่ง
เหลือผมกับยาย ให้ อยู่เฝ้าบ้าน ตอนนั้น
หลังจากพ่อแม่พาพี่ชายออกไปได้ สักพักใหญ่ๆ
หมาที่เลี้ยงไว้ก็เห่าครับ
ผมก็ลุกขึ้นมาดูว่ามันเห่าอะไร
แต่ก็ไม่มีใครเลย
ดูไปดูมา เห็นมันเห่าอะไรอยู่ใต้ต้นไม้ 
ผมก็เลยถือตระเกียงลงไปส่องดู แต่ยังไม่ได้ออกจากตัวบ้านครับ
มองไปใต้ต้นไม้ เห็นเป็นพระรูปหนึ่ง ยืนอยู่
หมาก็เห่าไม่หยุด ผมก็ พยายามดุ สุนัขให้มันเงียบ ลง
แล้วก็เดินออกไปดูตรงรั้วหน้าบ้าน
ก็เห็นเป็นพระองค์หนึ่ง เดินออกมาจากใต้ต้นไม้
ผมก็ตะโกนถามไปว่า หลวงพ่อมาหาใครครับ
ทานก็เดินตรงมาที่รั้วหน้าบ้าน
คืนนั้น พระจันทร์เต็มดวง  เลยทำให้บรรยากาศไม่ค่อยมืดนัก
ผมก็เลยวางตะเกียงไว้ตรงชานบ้าน
แล้วก็เดินไปหาหลวงพ่อที่รั้ว
พอเข้าไปใกล้ๆ 
ท่านก็ ถามว่าอยู่กันที่นี่หรือ
ผมก็ งง มาก
เพราะว่ายังเด็ก ก็เลยไม่รู้ว่าหลวงพ่อพูดเรื่องอะไร
แล้วท่านก็พูดว่า อาตมา มาส่ง 
พูดแล้วก็ เดินไปทางใต้ต้นไม้ 
ผมก็ งง มาก ได้แต่ยืนดู 
จนท่านเดินไปตามถนน 
ผมก็เลยคิดว่าไม่มีอะไร ก็เลยขึ้นบ้าน
สักพักใหญ่ๆ 
พ่อกับแม่ก็กลับมา 
ผมก็ลงไปดู 
ก็เห็นพ่ออุ้มพี่ชาย ขึ้นมาบนบ้าน
ผมก็ลงไปดูแม่กับคนที่ขับรถพาไป
เห็นยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าบ้าน สองสามคน
ผมก็เดินเข้าไปฟัง
แล้วก็ได้ยืน แม่เล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่า
หลวงพ่อดำ แก มรณภาพแล้ว
แม่เล่าว่า
ตอนไปถึงที่วัด หลวงพ่ออาพาธอยู่ 
พอไปบอกลูกศิษย์ว่า      จะมาหาหลวงพ่อดำ จะให้ท่านช่วย
ลูกศิษย์ ก็บอกว่า ท่านไม่สบาย  อาพาธ อยู่ 
แต่สั่งไว้ ถ้าคืนนี้มีคนมาหาท่าน ให้เอายาห่อนี้ให้
แม่ก็เล่าว่า เปิดออกมา เป็น ยาลูกกลอน 
ก็เลยรีบให้พี่ชายกลืนดู  พอพี่ชายกลืนยาลงไป
สักพักก็ตัวเย็นเฉียบเลย 
แล้วก็ สงบลง 
พอสักสิบนาทีได้ ลูกศิษย์ก็มาบอก พ่อกับแม่ว่า หลวงพ่อมรณภาพแล้ว
แล้วก็เลยบอกให้พ่อกับแม่ กลับกันก่อน 
ลูกชายจะสงบลงแค่คืนนี้ พรุ้งนี้เช้าให้รีบพาไปหาหมอในเมือง
นั่นแหละ พ่อกับแม่ก็เลยได้พาพี่ชายกลับมา

พอผมได้ฟัง จนพอปะติดปะต่อภาพ ออกได้ 
ภาพพระที่มายืนอยู่หน้าบ้าน ก็แว๊บขึ้นมาเลย 
พร้อมกับเสียงที่ก้องขึ้นมาในหัวผม 
"อาตมา มาส่ง "
ตัวผมเย็นเฉียบ ขนลุกซู่อยู่คนเดียว

เรื่องนี้ผมไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย 
มันเป็นเรื่องที่คาใจผมมาก จนมาถึงปัจจุบัน
กระทั่งผมโตมา ก็ยังคงเสาะแสวงหา ความจริงเรื่องนี้อยู่ ว่ามันคืออะไรกันแน่

มีอยู่ช่วงหนึ่ง  
ตอนนั้นผมยังเป็นผู้ช่วยทีมภาพ อาชญากรรม อยู่ ได้มีโอกาสติดตาม พี่ภพ ไปถ่ายภาพคดีอาชญากรรมหลายคดี
ถ้าใครเคยได้เห็นหนังสืออาชญากรรม ที่มีภาพสยอง เละๆ สภาพศพไม่สู้ดี นั่นแหละ ฝีมือเก็บภาพของพี่เขาหละ
ช่วงรถแก๊สระเบิด ช่วงนั้น ผมก็ตามแกไปครับ ยอมรับเลย ทานข้าวไม่ลงไปหลายวัน
จนมาช่วงที่ผมได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นตากล้องเอง 
ตอนนั้นมี ฮ. ตก ที่เขาลูกหนึ่ง
บก. ส่งผมไปเก็บภาพ กับทีมข่าว ของกองทับบก
และที่นั่นเองที่ทำให้ผมแทบเอาชีวิตไม่รอดกลับมา
และเจอเรื่องที่ ใกล้เคียงกับ ประสบการณ์วัยเยาว์ของผมมาก

โปรดติดตามตอนต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่