JJNY : "จตุพร"ยันชุมนุมใหญ่ 28ส.ค.│‘เด็กพท.’ดีใจ‘ประยุทธ์’ไปแล้วไปเลย│"ณัฐชา"ขุดความจำ"จุรินทร์"│โชห่วยจ่อขึ้นราคามาม่า

"จตุพร" ยัน ชุมนุมใหญ่ 28 ส.ค. ร้อง "มีชัย" พูดความจริง ต้นตอวิกฤติการเมือง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2481971
 
 
25 ส.ค. 2565 เวลา 10.30 น. ที่สถานีพีซทีวี นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และคณะหลอมรวมประชาชน แถลงข่าวกรณีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ในการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และการขับเคลื่อนของคณะหลอมรวมประชาชน
 
โดยนายนิติธร ระบุว่า เป็นที่รับทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเป็นเอกฉันท์ และมีคำสั่งให้พลเอกประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเหตุผลนั้นหยิบยกมาจากหลักรัฐศาสตร์และการเคลื่อนไหวทางสังคม แสดงว่า ศาลมองเห็นเค้าลางจุดมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ
 
ทั้งนี้ตนเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ เตรียมช่องทางไว้เรียบร้อยแล้วจะยื่นวันนี้ก็ได้ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ว่า มองอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะมีอำนาจเต็มทุกประการในการยุบสภา ต้องไปดูว่าความขัดแย้งของ 3 ป.มีจริงหรือไม่
 
นายนิติธร ยังกล่าวอีกว่า ให้จับตาความสัมพันธ์ของ 3 ป.ที่อาจจะไม่มีความขัดแย้งกันจริง ตามที่หลายคนเข้าใจ และมีสื่อพยายามปั่น เพราะอำนาจของ 3 ป.ได้วางโครงสร้างการบริหารกระจายอำนาจไว้หมดแล้ว หาก ป.ใด ป.หนึ่ง ไม่จับมือเดินไปด้วยกัน วันนั้นจะทำให้อำนาจขาด และประเทศเกิดความเสียหาย สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้อาจเป็นเพียงเล่ห์กลที่หวังจะตบตาฝ่ายการเมืองและประชาชน ขณะเดียวกันให้จับตาอำนาจของพลเอกประวิตรในการรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่อาจตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะการยุบสภา ที่สุดแล้วอำนาจก็ยังกลับไปอยู่ในมือของ 3 ป.และทหาร
 
ขณะที่ นายจตุพร มองว่า วัตถุประสงค์ของพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ปล่อยวาง แต่พร้อมสู้ทุกกรณี ฝากถึงพลเอกประยุทธ์ให้ดูปรากฏการณ์ที่ตัวเองยึดอำนาจจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ดี ทุกอย่างนำพาให้ท่านสู่อำนาจในลักษณะนี้ สุดท้ายนำพาประเทศมาสู่วิกฤติทางการเมือง
 
นายจตุพร ยังยืนยันว่า คณะหลอมรวมประชาชนจะชุมนุมต่อในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ เพราะเชื่อว่าวิกฤติทางการเมืองยังจะมีขึ้น ยืนยันว่า คณะหลอมรวมประชาชน จะไม่ลงถนน การกดดันยังมีต่อไป โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของพลเอกประวิตร
 
นายจตุพร ยังกล่าวว่า วิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการตัดสินใจของกลุ่มอำนาจการเมืองกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะ นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่เป็นคนกุมและร่างรัฐธรรมนูญทุกฉบับตั้งแต่ปี 2534 และรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่นายมีชัยร่าง ทำให้เกิดวิกฤติทางการเมือง โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ต้องถกเถียงกันเรื่อง วาระนายกรัฐมนตรี 8 ปี ตนอยากให้นายมีชัยออกมาเปิดปากพูดความจริงว่าแท้จริงแล้วประเทศชาติตอนนี้เกิดวิกฤติอะไร และเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เลือกระหว่างจะเดินเส้นทางทรราช หรือจะเลือกความสง่างาม.



‘เด็กเพื่อไทย’ ดีใจ ‘ประยุทธ์’ ไปแล้วต้องไปเลย-ประเทศไทยจะได้เดินหน้า
https://www.dailynews.co.th/news/1397540/
 
"เด็กเพื่อไทย" ดีใจ “ประยุทธ์” ไปแล้วต้องไปเลยนะ เพื่อประเทศไทยจะได้เดินหน้า ชี้ระบบยุติธรรมทำให้ประเทศดูดีขึ้น แนะเร่งแก้ไขปัญหาหมักหมม เร่งเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนตัดสินอนาคต

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. น.ส.จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางรัก และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตามที่มติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในระหว่างการพิจารณากรณีวาระนายกฯ 8 ปี ได้สร้างความปลาบปลื้มดีใจให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่เบื่อหน่าย พล.อ.ประยุทธ์ อย่างมาก กับความล้มเหลวตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้ชี้ให้เห็นมาโดยตลอด ซึ่งหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปแล้วก็ให้ไปเลย ไม่ต้องกลับมาอีก เพราะประชาชนคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน หากจะหวนกลับมาอีก เพราะไม่ต้องการที่จะลำบากกันอีกต่อไปแล้ว
 
ทั้งนี้นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่ประเทศจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และระบบยุติธรรมของไทยไม่เป็นที่ครหาของนานาชาติ ทำให้ประเทศไทยดูน่าเชื่อถือมากขึ้น นอกจากนี้คนรุ่นใหม่เริ่มจะมีความหวังว่าประเทศนี้ยังสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ไม่จมปลักอยู่กับความล้มเหลวซ้ำซาก
 
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สร้าง และทิ้งเป็นมรดกบาปไว้ ไม่ใช่จะแก้ไขได้ง่ายๆ รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาในความทุกข์ทั้ง 4 เรื่องที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้แล้ว คือ ทุกข์จากการมีหนี้มาก ทุกข์จากค่าใช้จ่ายสูง เงินเฟ้อ ค่าครองชีพแพง ทุกข์จากรายได้ไม่เพิ่ม รายได้ไม่พอรายจ่าย และทุกข์จากมองไม่เห็นอนาคตของประเทศ นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางเศรษฐกิจและข้อแนะนำที่ต้องเร่งแก้ไขที่คณะทำงานเศรษฐกิจได้เสนอไว้แล้ว เช่น ปัญหาการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังไม่เพิ่มเท่าที่ควร การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมหนองคาย-เวียงจันทน์-จีน สภาวะที่โลกขาดแคลนอาหาร แต่ราคาสินค้าเกษตรของไทยกลับไม่ขึ้น แถมเจอกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากปุ๋ยแพง น้ำมันแพง ฯลฯ
 
การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง ก๊าซแพง ไฟฟ้าแพง การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน การเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทยกัมพูชา ปัญหาคนว่างงาน นักศึกษาจบใหม่ไม่มีงานทำ ไม่ได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ธุรกิจเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ยังไม่เกิด เป็นต้น
 
“ดังนั้น ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ให้มีทิศทางแก้ไขที่ชัดเจน อย่าปล่อยให้ล้มเหลวเหมือนที่ผ่านมา โดยมีแต่คำพูด แต่ไม่ได้มีการกระทำ หากแก้ไขไม่ได้ควรจะเร่งดำเนินการให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนตัดสินอนาคตของประเทศ หลังจากต้องเจอปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างมากใน 8 ปีที่ผ่านมา ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องก้าวไปข้างหน้า โดยเรียนรู้ประสบการณ์จาก 8 ปีแห่งความย่ำแย่ และหวังว่าในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น ประชาชนจะเลือกพรรคพรรคการเมืองที่มีผลงานทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ชัดเจน ให้กลับเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยพรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วในทุกด้าน ขอให้มั่นใจ” น.ส.จุฑาพร กล่าว


 
"ณัฐชา" ขุดความจำ "จุรินทร์" โพสต์ฯ "ผีอีแพง" ตอนนี้เป็น "แพงมากอีผี"
https://www.thairath.co.th/news/politic/2482015

"ณัฐชา" ก้าวไกล เตือนความจำ "จุรินทร์" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เคยโพสต์เฟซฯ "ผีอีแพง" ซัด ปัจจุบันกลายเป็น "แพงมากอีผี" หลังอนุมัติให้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขึ้นราคา จาก 6 เป็น 7 บาท เพิ่ม 16% ทำประชาชนเดือดร้อนรายวัน
 
วันที่ 25 ส.ค. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์สินค้าปรับราคาสูงขึ้นในขณะนี้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่แน่ใจว่า รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่เคยโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อช่วงปี 2556 ว่า เจอแต่ผีอีแพง เวลาผ่านมา 10 ปี วันนี้ คุณจุรินทร์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ประชาชนฝากบอกมาว่า จากผีอีแพง สู่ปรากฏการณ์แพงมากอีผี ในยุคของรัฐมนตรีจุรินทร์
 
ล่าสุด ท่านรัฐมนตรี อนุมัติปรับขึ้นถึง 16% จากราคา 6 บาทเป็น 7 บาท จะให้พี่น้องประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรหากขึ้นราคาของแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ พวกเขาต้องแบกรับภาระเพราะไม่มีทางเลือก สินค้าอุปโภค บริโภคปรับราคาสูงขึ้นทุกอย่าง ผมว่าเหตุการณ์ปัจจุบันยิ่งกว่า ข้าวยากหมากแพงเสียอีก
 
สถานการณ์ขณะนี้คือการบีบให้ประชาชนจนมุม อยู่บ้าน ค่าไฟก็แพง ออกไปทำงานเสริม ค่าน้ำมันก็แพง จะประหยัดกินมาม่า ค่ามาม่าแพง
แล้วคนไทยจะอยู่กันอย่างไรต่อไป เมื่อรัฐมนตรีไร้ความสามารถมาร่วมกับรัฐบาลไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้
 
"ผมในฐานะฝ่ายค้านทั้งอภิปราย ทั้งแนะนำนำเสนอ แต่กลับไม่เข้าหู เข้าหัวพวกท่านเลย ไม่ฟังไม่พัฒนา ไม่แก้ไข ไม่ช่วยเหลือประชาชนกันเลย บริหารประเทศยังไงให้ประชาชนรอคอยความตายรายวัน แบบนี้ หนำซ้ำตอกย้ำปิดประตูความหวัง เมื่อรักษาการนายกรัฐมนตรี คือ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผมว่านี่คือยุคที่ตกต่ำที่สุดของประเทศไทยแล้ว" นายณัฐชา กล่าวทิ้งท้าย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่