คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0uw1KaPNHQQgt2pdSxxT6oaibkHtmBYrmHEd4NXhxVtijf1A9LdnSUKJzL8tbnubnl

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 20 ส.ค. 2565)
รวม 142,443,167 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 20 สิงหาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 79,913 โดส
เข็มที่ 1 : 8,188 ราย
เข็มที่ 2 : 20,296 ราย
เข็มที่ 3 : 51,429 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,220,708 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,657,297 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,565,162 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0eH9Fkqtui6Zu369ipFjyD58NCcinAeFBUmK2ekRoussHhjdjvBFGjDyq1BbrHykkl

1 ก.ย. นี้ ร้านยาจ่ายยาให้ผู้ป่วยโควิดตามใบสั่งแพทย์ได้
ยืนยัน !! ยาฟาวิพิราเวียร์ - โมลนูพิราเวียร์ มีเพียงพอรองรับผู้ป่วย
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0PSnWazTJB6B1whYt6Se6Uc2WDFHZ76k8fMRsPudXcqRztN2REhKRaSGB2y5NQyZyl

นายกฯ ย้ำ !! ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด สมัครใจมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และกลุ่ม 608 ลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของวัคซีน และพร้อมสมัครใจมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และกลุ่ม 608 เพื่อลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิดได้ ซึ่งขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม และมีสถานพยาบาลของรัฐบาลได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนฟรีแล้ว ทั้งนี้ เพื่อรองรับด้านการท่องเที่ยวและการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาลอันจะสร้างรายได้ให้กับประเทศตามเป้าหมายกำหนดไว้
ที่มา : โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02jFnyErrFawGVkkWBmX692GTtCQCctsJW6v5ScEaMd61Z1MtbyzWqX9r2dxYa8RBl

รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565 จำนวน 27 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid05ee7haTJ9wjTPtu1q8K1AJaFie6mbngEP7F36nrFBEW8utwrz3buoxiaxG4pBEsol

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0uw1KaPNHQQgt2pdSxxT6oaibkHtmBYrmHEd4NXhxVtijf1A9LdnSUKJzL8tbnubnl

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 20 ส.ค. 2565)
รวม 142,443,167 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 20 สิงหาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 79,913 โดส
เข็มที่ 1 : 8,188 ราย
เข็มที่ 2 : 20,296 ราย
เข็มที่ 3 : 51,429 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,220,708 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,657,297 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,565,162 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0eH9Fkqtui6Zu369ipFjyD58NCcinAeFBUmK2ekRoussHhjdjvBFGjDyq1BbrHykkl

1 ก.ย. นี้ ร้านยาจ่ายยาให้ผู้ป่วยโควิดตามใบสั่งแพทย์ได้
ยืนยัน !! ยาฟาวิพิราเวียร์ - โมลนูพิราเวียร์ มีเพียงพอรองรับผู้ป่วย
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0PSnWazTJB6B1whYt6Se6Uc2WDFHZ76k8fMRsPudXcqRztN2REhKRaSGB2y5NQyZyl

นายกฯ ย้ำ !! ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด สมัครใจมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และกลุ่ม 608 ลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของวัคซีน และพร้อมสมัครใจมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และกลุ่ม 608 เพื่อลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิดได้ ซึ่งขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม และมีสถานพยาบาลของรัฐบาลได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนฟรีแล้ว ทั้งนี้ เพื่อรองรับด้านการท่องเที่ยวและการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาลอันจะสร้างรายได้ให้กับประเทศตามเป้าหมายกำหนดไว้
ที่มา : โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02jFnyErrFawGVkkWBmX692GTtCQCctsJW6v5ScEaMd61Z1MtbyzWqX9r2dxYa8RBl

รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565 จำนวน 27 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid05ee7haTJ9wjTPtu1q8K1AJaFie6mbngEP7F36nrFBEW8utwrz3buoxiaxG4pBEsol
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭❤️มาลาริน❤️🇹🇭21ส.ค.โควิดไทยอันดับ29โลก/ป่วย1,968คน หาย2,252คน เสียชีวิต27คน/นักวิจัยไทยคิดตรวจโควิดจากลมหายใจ 10บ.
https://www.bangkokbiznews.com/social/public_health/1022088
“พล.อ.ประยุทธ์” ชื่นชมนักวิจัยไทย หลังช่วยกันคิดค้นเครื่องตรวจโควิด-19 จากลมหายใจ ไม่ต้องเจ็บตัวและมีความแม่นยำ แถมค่าใช้จ่ายไม่เกิน 10 บาทต่อคน
วันที่ 21 สิงหาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความสำเร็จของนักวิจัยคนไทยที่คิดค้น “การพัฒนาระบบต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แบบไม่เจ็บตัว” โดยการวิเคราะห์โปรไฟล์จากลมหายใจ ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากการบูรณาการความเชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ โรงพยาบาลราชวิถี มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคเอกชน สนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นางสาวรัชดา ระบุต่อไปว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นหนึ่งในปัญหาที่มีความสำคัญ และยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน หากไม่มีมาตรการหรือยุทธศาสตร์เชิงรุกในการควบคุมเชื้อโรคได้ดีอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นได้อีกในอนาคต รัฐบาลให้ความสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุนวิจัยนวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์รูปแบบใหม่เพื่อเป็นทางเลือกในการคัดกรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งการคิดค้นต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบไม่เจ็บตัว โดยการวิเคราะห์โปรไฟล์จากลมหายใจ เป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องแยงจมูก ไม่ต้องเจาะเลือด และไม่ต้องใช้น้ำลาย โดยเป็นวิธีที่มีความไว (Sensitivity) และความจำเพาะ (Specificity) สูง รู้ผลตรวจได้ใน 5 นาที ทำให้คัดแยกผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อออกมาได้อย่างรวดเร็ว เข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงที ลดโอกาสระบาดของเชื้อโควิด-19 ในวงกว้างได้ โดยมีค่าใช้จ่ายในการตรวจไม่เกิน 10 บาทต่อคน
สำหรับเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาครั้งนี้ เป็นการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่าจมูกอิเล็กทรอนิกส์ หรือก๊าซเซนเซอร์ (Gas Sensor) มาตรวจวัดสารระเหยอินทรีย์ หรือกลิ่นที่เป็นสารไบโอมาร์กเกอร์จากลมหายใจ ซึ่งทีมวิจัยมีฐานข้อมูลที่สามารถจดจำและจำแนกกลิ่นที่แตกต่าง ระหว่างคนที่ติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อได้ นอกจากนี้ ยังมีการนำระบบแมชชีนเลิร์นนิ่ง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ในการประมวลผล ทำให้สามารถวิเคราะห์และตรวจคัดกรองได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันมีความแม่นยำประมาณ 97% จากฐานข้อมูลของทีมวิจัยที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ตัวอย่าง
รองโฆษกรัฐบาล เผยในช่วงท้ายด้วยว่า “ถือเป็นความสำเร็จที่พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งของระบบสาธารณสุขของประเทศไทย และเป็นผลจากความสามารถของนักวิจัยคนไทยและคณะที่ร่วมมือกันคิดค้นพัฒนาจนผลงานวิจัยประสบความสำเร็จ ช่วยประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุขให้กับประเทศได้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญสามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไปได้ และผลงานนี้จะนำมาจัดแสดงภายในงานประชุม APEC Health Week ระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค. 2565 ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กทม. เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย และให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคด้วย”
(ภาพจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม)
https://www.thairath.co.th/news/politic/2478182
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ....