งานที่มั่นคงแต่... กับ งานที่สมดุลชีวิตแต่...

สวัสดีครับ

พอดีผมมีเรื่องที่ต้องชั่งน้ำหนัก อยากปรึกษาผู้มีประสบการณ์ทุกท่าน เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจครั้งนี้ครับ (สำคัญสำหรับชีวิตผมมากนะ) หรือกับทุกๆท่านมีความ(จำเป็น)ต้องเลือกหากเจอสถานการณ์ลักษณะนี้
--

ตามหัวเรื่องเลยก็คือ หากท่านเป็นผมท่านจะเลือกอะไร ระหว่าง งานที่มั่นคงแต่... กับ งานที่(คิดว่า)สมดุลชีวิตแต่...
--

เกริ่นก่อนนะครับ ปัจจุบันผมอายุ 31 ปี โสด มีบ้านหลักเล็กที่แม่อยู่ และมี แม่ พี่สาว ที่ต้องดูแล และอนาคตอาจจะมีญาติพี่น้อง อีก 3 ท่านที่เป็นโสดจะต้องดูแลครับ ส่วนตัวมีหนี้แค่คอนโดอย่างเดียว บัตรเครดิต จิปาถะ

แผนในชีวิตผมตอนนี้ คือ ทำงานที่เราสบายใจ มีปัจจัยที่เพียงพอ พอมีเวลาอยู่กับที่บ้านและไปเยี่ยมพบปะญาติๆได้หากมีโอกาส เก็บเงิน ไม่เป็นหนี้เกินตัว สร้างประวัติการเงินที่ดีเพื่อที่จะได้มีโอกาสสร้างบ้านให้แม่อยู่สบายๆ ตอนนี้เอาจริงๆแกก็เริ่มมีอายุมากแล้วครับเกือบ 70 แล้ว แอบห่วงมากเหมือนกัน รวมถึงญาติพี่น้องที่เป็นโสดท่านอื่นๆด้วยครับ
--

เมื่อข้างต้นที่เกริ่นเป็นแผนธรรมดาๆในชีวิตของผม แต่ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมจะปรึกษาพี่ๆที่มีประสบการณ์ เกี่ยวกับชีวิตการทำงานในแต่ละท่านว่าท่านจะเลือกทางเดินชีวิตอย่างไรหากมีเงื่อนไขชีวิตแบบผม
--

เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสวางแผนให้กับชีวิตตัวเองใหม่ คือวางแผนขยับขยายประสบการณ์และปัจจัย เพื่อให้รองรับกับอายุที่มากขึ้น และเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่มากขึ้นด้วย ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสเข้าทำงาน ณ ที่แห่งนึง ทางด้าน IT SOFTWARE PROJECT เป็นเวลา 4 ย่างเข้า 5 ปี ถือเป็นการสะสม ปสก มาได้ช่วงระยะเวลานึง จริงๆผมวางแผนไว้ว่า หากอายุ 30 จะวางแผนชีวิตใหม่ เพื่อขนับขยาย ปสก และปัจจัย ตามที่กล่าวข้างต้น จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจึงได้มีโอกาสเปลี่ยนงาน และจุดเปลี่ยนมันก็เกิดขึ้นกับผมด้วยเช่นกัน

จนผมได้มีโอกาสเปลี่ยนงานมา บA เมื่อต้นปี จริงๆทุกๆคนจะคิดเสมอว่าสิ่งที่เราเลือกนั้นคือสิ่งที่(คาดหวัง)ว่ามันจะดีที่สุดเพราะเราได้ไตร่ตรองแล้ว แต่ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อผมได้มีโอกาสเข้าไปทำ ก็เจอกับสิ่งที่เรารู้สึกไม่สบายใจ คือ Colleague และคิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้น มันไม่สนุก บรรยากาศก็ไม่สนุก มันจึงทำให้เราไม่สนุกกับงานที่ทำ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คือไม่สบายใจสำหรับตัวผม นั่นจึงทำให้ผมได้มีโอกาสไตร่ตรองอีกครั้งสำหรับโอกาสถัดไป ผมทำได้อยู่ช่วง Probation จึงส่งเมลขอไม่ต่อสัญญา

ในช่วงที่ผมทำอยู่ บA ผมก็ได้มี โอกาส ยื่นสมัครไปหลายๆที่ ซึ่ง มีที่ผมสนใจอยู่ 2 ที่หลักๆคือ บB กับ บC แต่ที่ผมสนใจมากเป็นพิเศษที่ช่วงนั้นอยากเปลี่ยนไปทำที่นี่คือ บB แต่ บB ยังไม่ได้ติดต่อมาหาผม ณ ตอนนั้น กลายเป็น บC ที่ติดต่อมาหาผมก่อน ด้วยความที่ต้องการจะเปลี่ยนงานอยู่แล้วจึงตัดสินใจที่ บC ไปก่อนเดี๋ยวไม่มีเงินกินข้าว😅 จึงไม่ต้องชั่งน้ำหนักอะไรมาก

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นอีกครั้ง จริงๆตอนนั้นเป็นใครก็คงดีใจแหละนะที่ได้งานต่อจากที่ที่ไม่อยากอยู่ ซึ่งเกริ่นก่อนว่า บC เป็น บ ต่างชาติที่เรียกว่าใหญ่ และผูกขาดผลิตภัณฑ์ส่งออกให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก สวัสดิการดีมากๆ สามารถอุ้มชีวิตเราได้และจุนเจือครอบครัวได้ แต่งานที่ผมจะไปรับผิดชอบคือทำเกี่ยวกับ Process Engineer ซึ่งเป็นงานเข้ากะ ทำ 4 หยุด 2 เช้า4 หยุด2 ดึก4 วนไปเรื่อยๆ ใน 12ชม นั้น มีโอทีให้ 4ชม ตามเรทกฎหมายแรงงาน และโชคดีคือผมไม่ได้เป็น contract ผมเป็น permanent และปัจจัยที่ บ นี้ให้คือ 4x,xxx ซึ่งมากว่า บA 30% ซึ่งจริงๆผมไม่ได้คาดหวังมากขนาดนี้เลย ซึ่งตำแหน่งที่ผมสมัครไปนั่นมีแค่ชื่อตำแหน่ง ไม่ได้มี ระดับ อะไร หลังจากนั้นผมจึงตอบตกลง HR ไป ว่าผมจะเข้าทำงานที่นี่ คล้ายกับลองไปทำดูเพราะเราก็ตั้งใจออกจากที่แรกมาที่ใหม่อยู่แล้ว แต่ช่วงนั้นก็คิดว่าติดอยู่อย่างเดียวเรื่องเข้ากะ และยังไม่ทราบถึงเงื่อนไขต่างๆ และคิดว่าหากมันเป็นเนื้องานที่เราโอเค เพื่อนร่วมงานโอเค ก็คิดว่าน่าอยู่และอยู่ได้ยาวๆ มันก็คือความเสี่ยงที่ผมอาจจะต้องไปยอมรับและปรับตัวข้างหน้า เมื่อผมได้มีโอกาสเข้ามาทำ เริ่มต้นเมื่อช่วง May ที่ผ่านมา ก็เข้าสู่การปรับตัวในที่ทำงาน จวบจนถึง ปัจจุบัน แล้วผมพบสิ่งที่เป็นความไม่สบายใจกับตัวผมดังนี้

1. ผมเข้าไปทำงานกลายเป็นว่าผมระดับสูงกว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในทีม ซึ่งเข้าไปผมได้เข้าไปเป็น Senior แต่ผมไม่ได้ต้องการจะเป็น Senior  และไม่ได้จะสมัครเป็น Senior ผมต้องการอยู่ระดับเดียวกับทีมก่อนและหากมีความรู้ความสามารถที่มากพอค่อยประเมินปรับ มันจึงเป็นความกดดันสำหรับตัวผมมากอย่างนึง เพราะผมไม่ชอบการได้เข้าไปเป็นอะไรสักอย่างนึงโดยที่เรายังไม่เหมาะสม

2. งานเข้ากะ 24x7 ไม่ได้ไปตีแบดเหมือนที่เคยไป เวลาชีวิตเพี้ยน นอนไม่ค่อยหลับ ปวดหัวไมเกรน เคยมีวันนึงหัวจะระเบิด น่าจะเกิดจากความเครียดการปรับตัวกับสิ่งที่เจอด้วย และสังเกตว่าเป็นหลายครั้งน่าจะเกิดจากการปรับตัว

3. เนื้องานอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าทำแล้วจะเพิ่ม value หรือ knowledgeให้กับตัวเอง แต่โชคดีเป็นงานที่ใช้ English แต่เหมือนทำไปตามกฎระเบียบว่าเราต้องดูอะไรบ้าง ทำแบบนี้นะ ทำแบบนั้นจะไม่ถูกนะ เป็นต้น ซึ่งต้องอยู่ใน allignment เดียวกัน แต่จริงๆผมก็มองว่าก็ดีแล้วเพราะเรามีหน้าที่ที่ควรทำแบบนี้ แต่มันอาจจะไม่ค่อยตรงจริตผมเท่าไร

4. โชคดีที่มีบัดดี้ดีมากๆ เป็นผช แต่คนอื่นเป็นผญหมด รวม 6 คน แต่ในทีมคนอื่นอาจจะเฉยๆ และมีคนนึงรู้สึกปรับตัวเข้าด้วยยากมาก แค่รู้สึกว่าโชคดีมีบัดดี้คนนี้ มีอะไรก็จะพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุดกะคนนี้ มันแค่รู้สึกว่าทีมน่าจะใส่ใจพนักงานใหม่ทุกคนเพื่อความคุ้นเคยต่อกัน แต่อันนี้ก็เหมือนต่างคนต่างทำงานผมเข้ามาใหม่ก็ไม่ได้ มา ทรีต อะไรเท่าไร มีแค่บัดดี้ผมที่ผมคิดว่าเค้าคือเพื่อนที่ดีคนนึง เคยเฟลครั้งนึงตอนไปถามคนที่ปรับตัวยากคนนั้น เค้าบอกว่า เร็วๆสิจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ คือแบบ ส่วนตัวผมเองผมเป็นคนที่ ทรีต คนเสมอ พูดใส่ใจ คนที่มาใหม่เพราะเค้าเหมือนแขกมาเข้าบ้าน เราต้องทรีตเค้าให่เค้าเป็นส่วนนึงกับเราเค้าจะได้สบายใจ

5. จำเป็นต้องเข้า site ในวันทำงานไม่สามารถ WFH WFA ได้

6. หากจะลาจะต้องมีคนมาทำแทน อาจจะผิดธรรมชาติที่ผมเป็นคนค่อนข้างเกรงใจ เคยไม่ต้องเข้างานกะ ก็ลาก็คือลา ไม่ต้องมามห้คนอื่นมาทำแทน และก็อาจจะกังวลว่าคนที่มาทำแทน เราต้องทำงานร่วมกันอีก ซึ่งหากเรายังไม่ มี ปสก มากพอ เรายิ่งเกรงใจเค้ามากๆหาหไม่ใช่บัดดี้เรา

7. แทนที่จะได้โฟกัสงานของตัวเองให้คล่องทำแต่งานนี้ให้เก่งก่อน ก็มามี Project ที่ต้องไป lead ซึ่งในทีมไม่มีใครอาสา เราจำเป็นต้องอาสาแทน แต่ก็ได้คิดว่าลองดู เพราะตัวเลือกสุดท้ายคือเรา บวกกับเราตำแหน่งสูงกว่าด้วยมั้ยไม่แน่ใจ มันก็อาจจะต้องเป็นเราแหละมั้ง

8. เหมือนแบกความคาดหวังหัวหน้าอยู่มาก ว่าเราจะต้องเข้ามาแล้วเป็นแบบนั้นแบบนี้
--

ทั้งหมดที่กล่าวมาอาจจะมีเล็กๆน้อยๆอย่างอื่นที่ไม่ค่อยสบายใจ และอาจจะไม่ตรงกับเงื่อนไขชีวิตตัวเองด้วย ซึ่งนั่นผมเข้าใจดีถึงความเสี่ยงที่ได้ตัดสินใจเลือกและต้องยอมรับหรือปรับตัว ทั้งหมด เกือบ 4 เดือนที่ผ่านมาผมประเมินตัวเองอยู่เสมอว่าเหมาะสมไหม แล้วใจเรารู้สึกอย่างไรบ้าง

ผมมาประเมินเงื่อนไขชีวิตตัวเองดังนี้
1. Flexible working / WFH WFA
2. เข้างานเวลาปกติ หยุดตามปฏิธิน
3. มีเวลาไปตีแบด ว่ายน้ำ ออกกำลังกาย หลังเลิกงานหรือวันหยุด เพราะเป็นความสุขในชีวิต
4. มีเวลาให้กับที่บ้าน นั่งคุยกับแม่ เล่นกับแมว นั่งทำงานที่บ้าน มีเวลาพาแม่ไปพักผ่อน บ้าน ตจว ไปบ้านญาติ และสามารถ wfa ได้ นั่นแหละฮะสรุปคือผมรักอิสระ

ซึ่งเมื่อผมประเมินมันก็ยิ่งทำให้ตัวผมเองอยากไปหางานที่สมดุลชีวิตตัวเองตรงตามเงื่อนไขของตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีความสุขกับการไปทำงานเท่าไร ทำให้ผมมานั่งคิดว่า เราจะอดทนทำแต่คุณก็จะได้ปัจจัยอื่นๆตามมาหรือเราอยากจะมีความสุขระหว่างทำมีสมดุลที่ยืดหยุ่น
--

และในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ช่วงที่ผมประสบความกังวลไม่สบายของชีวิต บB ก็ได้ติดต่อมาหาผม ผมดีใจมากๆนะ เพราะ บB เป็น บ ที่ผมอยากเข้าไปทำ เป็น southeast asia ขนาดเล็ก สวัสดิการไม่ได้หวือหวาอะไร ก็เหมือนกับที่ผมเคยทำหรือลาออกมาเมื่อสิ้นปี หากเทียบกับ บC คือไม่สามารถเทียบได้เลย และเค้าก็ลด salary ลง 30-35% ซึ่งจริงๆผมมามองว่า บC ผมก็ไม่เคยคาดหวังหรือต้องการได้ขนาดนั้นอยู่แล้วนี่นาแล้วเราจะไปเปรียบเทียบทำไม ทำไมเราไม่เปรียบเทียบกะที่เก่าที่เราออกมา ยังไงที่ บB ก็ให้ offer ดีกว่า เมื่อได้อ่าน JD แล้ว และอ่าน BENEFIT Culture ของบริษัท ทำให้รู้สึกถึงความเป็นตัวเองในการเข้าไปทำงานที่นี่ และตรงกับเงื่อนไขชีวิตและได้ใช้ English และ skill ที่เคยได้ ปสก จาก บริษัทที่เคยอยู่ ผมเพิ่งจะสัมผ่านไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว ผมลิสคำถาม 15 ข้อในการถาม จึงไม่แน่ใจว่าใครสัมใครกันแน่😅 สรุปคือผมสัมผ่านและรอสรุปวันเริ่มงาน ซึ่งผมยังไม่ได้แจ้งออกที่ บC และยังไม่ได้แจ้งวันทำงานให้กับ บB ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็เข้าใจอีกว่า เราก็มองไม่เห็นภูเขาน้ำแข็งใตน้ำที่ บB นอกเสียจากเราจะต้องเสี่ยงดำลงไปหรือไปอยุ่ตรงจุดๆนั้น แต่สุดท้ายมันคือการตัดสินใจและยอมรับในการตัดสินใจนั้น
--

เล่าเรื่องเขียนมาสะยาว เพื่อเป็นรายละเอียดให้พี่ๆที่มี ปสก ได้ช่วยชั่งน้ำหนักให้ทีครับว่า จาก ปสก ส่วนตัวของทุกท่าน เป็นท่านจะให้น้ำหนักกับสิ่งใดเพื่อจะได้ตัดสินใจ ผมเข้าใจในเรื่องของเงื่อนไขชีวิตบุคคลที่แตกต่างกันเสมอนะครับ ตอนนี้ผมคิดว่าตัวผมเองไม่เหมาะสมกับหน้าที่ตรงนี้และเงินเดือนที่ได้รับตรงนี้ เพราะอาจจะใส่เสื้อใหญ่เกินไป และเงื่อนไขอื่นๆที่เกี่ยวกะชีวิตส่วนตัวผม หากใครมี ปสก ในการชั่งน้ำหนักแบบนี้มาแชร์หรือแนะนำผมทีนะครับ ผมคิดเสมอเลยว่า ผมเป็นคนขี้แพ้ไหมครับ😔 มันมีช่วงนึงผมรู้สึก Depress มากเลย บางทีเราอาจจะกังวลกับอนาคตมากไปจนลืมความสุข ณ ปัจจุบันขณะ หรือปล่าว🙂
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่