การอยู่ในวัฏสงสาร (คุก) มีกฏที่ใช้ควบคุมอยู่ 2 ข้อ

การอยู่ในวัฏสงสาร (คุก) มีกฏที่ใช้ควบคุมอยู่ 2 ข้อ คือ
1.กฏแห่งกรรม เป็นกฏที่ใช้ควบคุมสัตว์ในคุกตลอดเวลาโดยไม่ให้รู้ตัว มีหลักการสั้นๆ คือ “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทุกคนต้องได้รับผลของกรรมที่ตนกระทำ”

2.กฏไตรลักษณ์ คือ กฎธรรมดาของสรรพสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในวัฏสงสารนี้ ประกอบด้วย

-อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง ความไม่จีรัง ความไม่แน่นอน มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา

-ทุกขัง คือ การเป็นทุกข์ จากการถูกทำให้เกิดขึ้นและถูกทำให้แตกสลาย ทนอยู่ตลอดไปไม่ได้ ถูกบีบคั้นด้วยอำนาจของธรรมชาติทำให้ทุกสิ่งไม่สามารถทนอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดไป

-อนัตตา คือ ความไม่เป็นตัวตนของตัวเอง ไม่มีใครสามารถควบคุมบังคับบัญชาได้ ไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามต้องการได้ เช่น ไม่สามารถบังคับให้ชีวิตยั่งยืนอยู่ได้ตลอดไป ไม่สามารถบังคับจิตใจให้เป็นไปตามปรารถนา ความมิใช่ตัวตน

ทุกสรรพสิ่งในวัฏสงสาร ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนแล้วอยู่ใน กฎไตรลักษณ์

วิธีการออกจากวัฏสงสาร (หนีออกจากคุก) ตามที่ ท่านพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโตสอน คือ

ปฏิบัติสมาธิ ภาวนา จึงจิตรวมเป็นสมาธิ จนถึงเอกัคตาและอุเบกขา สำคัญที่สุด คือ ต้องได้ อุเบกขา คือ มีใจที่เป็นกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์ ปราศจากอวิชชาครอบงำ แล้วนำผลของอุเบกขา มาเจริญปัญญาหรือวิปัสสนา นำผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก สิ่งใดสิ่ง สิ่งหนึ่งมาพิจารณาตามกฏไตรลักษณ์ 3 ข้อ ที่กล่าวข้างต้น ที่สำคัญต้องพิจารณาตอนที่ใจยังเป็นอุเบกขา เพิ่งออกจากสมาธิใหม่ๆ จะเกิดปัญญาสว่างไสว คลายความยึดมั่นถือมั่น

การพิจารณาโดยใจเป็นอุเบกขา กับใจที่ไม่เป็นอุเบกขาต่างกันมาก เพราะใจที่ไม่เป็นอุเบกขาถูกอวิชชาครอบงำจนมืดบอดยากที่จะเกิดปัญญาขึ้นได้ ดังนั้น ศีล สมาธิ วิปัสสนา เป็นของคู่กันต้องทำไปพร้อมๆกัน ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้

โดย ดร.ดิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่