สวัสดีทุ๊กคนน กลับมาแล้วอีกกระทู้หลังจากทิ้งช่วงหลายเดือนหลังจากรีโนเวทบ้านขายเสร็จไปหลังก่อน และจับอีกหลังจนขายแล้ว กับอีกหลังเตรียมโอน ก็ยังไม่ได้มาเขียนซะที จะบอกว่ายิ่งทำบ้านแต่ละหลังไอเดียยิ่งบรรเจิด บ้านที่รีโนเวทขายยิ่งสวยขึ้น ละมุนมากขึ้นและสถิติการขายบ้านออกไวเร็วกว่าเดิมราวปาฎิหาริย์ แต่เอากระทู้นี้แซงหน้าก่อนแล้วกัน กว่าจะเขียนได้แต่ละอันเพราะอารมณ์ศิลปิน ต้องบิ้วตัวเองอยู่นาน ฮ่าๆ รอติดตามได้เลยค่ะกับ2กระทู้เรื่องรีโนเวทบ้าน
กระทู้นี้จะมาพูดถึงขั้นตอนการเตรียมงานแต่งงานตัวเองในวัย32ปี บทจะปุ๊บปั๊บก้อปุ๊บปั๊บเลยเพราะแทบไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ เพราะเราคบกับแฟนมานาน อยู่ด้วยกัน24 ชั่วโมง ขนาดไปอยู่จีนทำงานด้วยกัน นั่งหันหลังชนกันก็ต้องแกล้งไม่รู้จักกันเพราะกฎของบริษัท กลับมาไทยก็ตัวติดกันอีกทำธุรกิจร่วมกันอีก จนเราลืมไปเลยว่ามันผ่านมานาน จนอีก 2 เดือนจะครบ7ปีแล้ว ถึงมันยังไม่พร้อมแต่ด้วยหลายๆอย่าง ก็คงต้องพร้อมแล้วแหละ ฮ่าๆ ความไม่พร้อมของเรา เราเองก็ตอบไม่ได้เพราะอะไร แค่คงเป็นความกังวลลึกๆของผู้หญิงมั้งและเราเป็นโรคกลัวความรู้สึกแบบผูกมัด ฮ่าๆ เอาจริงๆภาพในหัวเรื่องงานแต่งงาน ตัดเค้ก 9 ชั้น เหมือนตอนเด็กๆ สมัยป๊อปปี้เลิฟมันหายไปไหนหมดไม่รู้ กลับกลายเป็นว่าเรามองเป็นวันๆนึง เพราะยังไงกลับมาก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เอามืดอัดตดให้ดมเหมือนเดิม เจอมันนอนกรนข้างๆเหมือนเดิม 55+ ไม่ต้องมารอลุ้นว่าจะใช้ชีวิตด้วยกันยังไงจะอยู่ด้วยกันได้มั้ย เพราะมันผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว แค่ตั้งเป้าต่อแต่นี้ต้องเติบโตไปด้วยกัน ฝ่าทุกวิกฤติในชีวิตไปให้ได้
หลังจากที่ให้พ่อแม่แฟนไปดูฤกษ์ ไม่รุ้จะเรียกว่าเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการดี ก็คือไม่ได้ระบุวัน เหมือนฤกษ์สะดวก เมื่อคืนแฟนก็เลยพูดขึ้นมาว่า งั้นก็แต่งวันที่ 1พ.ย เลยสิ ตรงกับวันครบรอบ7ปีพอดี อยู่ๆก็เออว่ะ จำไม่ได้เลย ไม่เคยจะจำวันสำคัญเลย มีแต่แฟนจะจำแทนแล้วส่งมาอวยพรทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน แต่หลายรอบเดือนนี่ไม่อวยพรและ หายไปถี่ๆเลย 555+ เราก็เออ ความหมายดีนะ ดูในเวป โอเครข้างขึ้นจบ แต่อาจจะไม่ใช่วันดิถีเรียงหมอนที่เค้าขึ้นในเวปไซต์กัน และมันตรงกับวันพระที่คนสมัยโบราณเค้าถือ แต่เราว่าความหมายดีครบรอบ7 ปี และตรงกับวันธรรมดาที่เพื่อนน่าจะติดงานมาไม่ได้ 555+ จัดแบบเล็กๆไปเราตั้งใจเชิญไม่เกิน 50คน
หลังจากที่เมื่อคืนแฟนปิ๊งไอเดียครบรอบ 7 ปี วันนี้เราก็หาข้อมูลทั้งวัน เดี๋ยวจะไม่ทัน เพราะเพื่อนบอกเค้าจองกันข้ามปีโน่น วันนี้นี่ถ้าทั้งวันจนเกือบได้ข้อสรุปและ
อันดับแรกเลยเราตั้งงบก่อนว่าเรามีในใจเท่าไหร่ ซึ่งเราสองคนก็คุยกันแล้วว่า จะใช้เงินของพวกเราเองที่หามาด้วยกันไม่ไปเบียดเบียดทางผู้ใหญ่ ถ้าพ่อแม่แฟนจะช่วยอาจจะเป็นสินสอด แบงค์มาวางในพิธีแต่ก็ไม่ได้รับเก็บไว้ งบเราเลยตั้งไว้ไม่อยากให้เกิน 100,000บาท หรืออาจจะบวกลบใกล้เคียง แอบยากอยู่ถ้าต้องจ้างออแกไนซ์ แต่ถ้าทำเองเตรียมทุกอย่างก็คงไม่ไหว เราพยายามเซฟงบ เพราะไม่อยากเอาไปหมดในงานเยอะ เก็บไว้ไปจับบ้านมารีโนเวทขายดีกว่า แต่ก็คงคุณภาพงานไว้ ขอเป็นเล็กๆ แต่อบอุ่น แขกมางานกินอิ่ม แค่นั้นพอ เราก็เริ่มหาข้อมูลแบ่งตามนี้
1. สถานที่จัดงาน ซึ่งบางที่มีออแกไนซ์รวมทุกอย่างให้เลย แต่ละที่ก็จะมีราคาแตกต่างกันออกไป บางที่ต้องหาไปเช่าสถานที่เอง และยังไม่รวมอาหารบลาๆ ความรู้สึกเราคืออยากเอามารวมกันให้หมด ไม่อยากแยกหลายเจ้า เพราะเราจัดการกันเอง 2คน เดววันงานจริงจะงง ตอนนี้มีร้านในใจ 1 ร้าน ราคารวมทุกอย่าง ประมาณ 69,000 คือรวมสถานที่ / พิธีช่วงเช้า / ฉากแบคดรอป / อาหารเสริฟแขก50คน เราว่าราคาน่ารักอยู่ เดี๋ยวจะมาสรุปให้ฟังต่อนะคะ ว่าเราเลือกร้านไหน
เตรียมแต่งงานในวัย32พร้อมข้อมูลแบบละเอียด
กระทู้นี้จะมาพูดถึงขั้นตอนการเตรียมงานแต่งงานตัวเองในวัย32ปี บทจะปุ๊บปั๊บก้อปุ๊บปั๊บเลยเพราะแทบไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ เพราะเราคบกับแฟนมานาน อยู่ด้วยกัน24 ชั่วโมง ขนาดไปอยู่จีนทำงานด้วยกัน นั่งหันหลังชนกันก็ต้องแกล้งไม่รู้จักกันเพราะกฎของบริษัท กลับมาไทยก็ตัวติดกันอีกทำธุรกิจร่วมกันอีก จนเราลืมไปเลยว่ามันผ่านมานาน จนอีก 2 เดือนจะครบ7ปีแล้ว ถึงมันยังไม่พร้อมแต่ด้วยหลายๆอย่าง ก็คงต้องพร้อมแล้วแหละ ฮ่าๆ ความไม่พร้อมของเรา เราเองก็ตอบไม่ได้เพราะอะไร แค่คงเป็นความกังวลลึกๆของผู้หญิงมั้งและเราเป็นโรคกลัวความรู้สึกแบบผูกมัด ฮ่าๆ เอาจริงๆภาพในหัวเรื่องงานแต่งงาน ตัดเค้ก 9 ชั้น เหมือนตอนเด็กๆ สมัยป๊อปปี้เลิฟมันหายไปไหนหมดไม่รู้ กลับกลายเป็นว่าเรามองเป็นวันๆนึง เพราะยังไงกลับมาก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เอามืดอัดตดให้ดมเหมือนเดิม เจอมันนอนกรนข้างๆเหมือนเดิม 55+ ไม่ต้องมารอลุ้นว่าจะใช้ชีวิตด้วยกันยังไงจะอยู่ด้วยกันได้มั้ย เพราะมันผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว แค่ตั้งเป้าต่อแต่นี้ต้องเติบโตไปด้วยกัน ฝ่าทุกวิกฤติในชีวิตไปให้ได้
หลังจากที่ให้พ่อแม่แฟนไปดูฤกษ์ ไม่รุ้จะเรียกว่าเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการดี ก็คือไม่ได้ระบุวัน เหมือนฤกษ์สะดวก เมื่อคืนแฟนก็เลยพูดขึ้นมาว่า งั้นก็แต่งวันที่ 1พ.ย เลยสิ ตรงกับวันครบรอบ7ปีพอดี อยู่ๆก็เออว่ะ จำไม่ได้เลย ไม่เคยจะจำวันสำคัญเลย มีแต่แฟนจะจำแทนแล้วส่งมาอวยพรทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน แต่หลายรอบเดือนนี่ไม่อวยพรและ หายไปถี่ๆเลย 555+ เราก็เออ ความหมายดีนะ ดูในเวป โอเครข้างขึ้นจบ แต่อาจจะไม่ใช่วันดิถีเรียงหมอนที่เค้าขึ้นในเวปไซต์กัน และมันตรงกับวันพระที่คนสมัยโบราณเค้าถือ แต่เราว่าความหมายดีครบรอบ7 ปี และตรงกับวันธรรมดาที่เพื่อนน่าจะติดงานมาไม่ได้ 555+ จัดแบบเล็กๆไปเราตั้งใจเชิญไม่เกิน 50คน
หลังจากที่เมื่อคืนแฟนปิ๊งไอเดียครบรอบ 7 ปี วันนี้เราก็หาข้อมูลทั้งวัน เดี๋ยวจะไม่ทัน เพราะเพื่อนบอกเค้าจองกันข้ามปีโน่น วันนี้นี่ถ้าทั้งวันจนเกือบได้ข้อสรุปและ
อันดับแรกเลยเราตั้งงบก่อนว่าเรามีในใจเท่าไหร่ ซึ่งเราสองคนก็คุยกันแล้วว่า จะใช้เงินของพวกเราเองที่หามาด้วยกันไม่ไปเบียดเบียดทางผู้ใหญ่ ถ้าพ่อแม่แฟนจะช่วยอาจจะเป็นสินสอด แบงค์มาวางในพิธีแต่ก็ไม่ได้รับเก็บไว้ งบเราเลยตั้งไว้ไม่อยากให้เกิน 100,000บาท หรืออาจจะบวกลบใกล้เคียง แอบยากอยู่ถ้าต้องจ้างออแกไนซ์ แต่ถ้าทำเองเตรียมทุกอย่างก็คงไม่ไหว เราพยายามเซฟงบ เพราะไม่อยากเอาไปหมดในงานเยอะ เก็บไว้ไปจับบ้านมารีโนเวทขายดีกว่า แต่ก็คงคุณภาพงานไว้ ขอเป็นเล็กๆ แต่อบอุ่น แขกมางานกินอิ่ม แค่นั้นพอ เราก็เริ่มหาข้อมูลแบ่งตามนี้
1. สถานที่จัดงาน ซึ่งบางที่มีออแกไนซ์รวมทุกอย่างให้เลย แต่ละที่ก็จะมีราคาแตกต่างกันออกไป บางที่ต้องหาไปเช่าสถานที่เอง และยังไม่รวมอาหารบลาๆ ความรู้สึกเราคืออยากเอามารวมกันให้หมด ไม่อยากแยกหลายเจ้า เพราะเราจัดการกันเอง 2คน เดววันงานจริงจะงง ตอนนี้มีร้านในใจ 1 ร้าน ราคารวมทุกอย่าง ประมาณ 69,000 คือรวมสถานที่ / พิธีช่วงเช้า / ฉากแบคดรอป / อาหารเสริฟแขก50คน เราว่าราคาน่ารักอยู่ เดี๋ยวจะมาสรุปให้ฟังต่อนะคะ ว่าเราเลือกร้านไหน