เราไม่ค่อยได้ทบทวนตัวเองเลยค่ะ มารู้ตัวก็ตอน อายุ 26-27 แล้ว
ตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม-มหาลัย คิดว่าเราติดบ้านมาก อยากหาคณะที่เรียนอะไรก็ได้ ให้จบมาทำงานแถวบ้าน จนมาเจอคณะนึงที่เห็นในพันทิปว่าหลายๆที่ยังขาดงานตำแหน่งนี้อยู่ ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกตัวเอง ยังไม่เคยเข้าใจตัวเอง หรือไม่เคยค้นหาตัวเองมาก่อน จึงตัดสินใจเรียนคณะนี้ เพื่อจบมาทำงานนี้ ที่นี่ โดยเฉพาะ ไม่ได้คิดถึงความก้าวหน้าหรือสังคม คิดแค่ 'อยู่บ้าน' ความจริงคือเหนื่อยกับตัวเองในตอนนั้นด้วย เรียนหนักมาตลอด เรียนพิเศษเพิ่มอีก ไม่มีเวลาทบทวนตัวเอง ไม่ได้ลองทำอะไรหลายๆอย่าง เพราะอยู่ ตจว
ตอนเรียนมหาลัยก็เริ่มรู้สึกเอะใจแล้วก็กลับมาทบทวน ว่าที่ผ่านมาเรามัวแต่ทำอะไรอยู่ ไม่ได้คิดสนใจหรือใส่ใจอะไรเลย ไม่ว่าจะเรื่องเพื่อน เรื่องการเรียน หรืออื่นๆ เราคิดมาตลอดว่า อะไรที่ใช่กับเรา มันจะดึงดูดเราเอง โดยที่ไม่ต้องพยายามมากจนเกินไป ที่ผ่านมา เราจึงทำอะไรที่ง่าย หรือพอดีกับตัวเองมาตลอด เรื่องมหาลัยเองก็เช่นกัน เราเห็นกระทู้หลายอย่างตั้งขึ้นว่า ไม่ชอบคณะตัวเอง เรียนเครียดแทบอ้วก หรือยากเย็นมากกว่าจะผ่านมาได้ แต่ของเรา ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น คิดว่าทำให้ผ่านก็พอ ประมาณนี้มาตลอด จนคิดมาถึงว่า เกณฑ์การใช้ชีวิตของคนๆนึง มันควรจะอยู่ในจุดไหน ซึ่งเราใช้ชีวิตเรื่อยๆ สบายๆมาตลอด การใช้ชีวิตเรื่อยๆแบบนี้มันทำให้เราสับสน เพราะว่ามันดูเรียบเกินไปจนเหมือนกำลังจะเดินผิดทาง
เดินผิดทางเช่น เมื่อเติบโตขึ้นมากกว่านี้ อายุ 30 ปี 40 ปี เราจะใช้ชีวิตแบบไหน ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เราจะเป็นยังไง ทั้งเรื่องบ้าน เรื่องงาน ไปถึง เรื่องการแต่งงานนี่ก็ยังไม่รู้เลย เพราะการอยู่ ตจว ทำให้การไปเดตกับใครสักคนกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ ปกติเราจึงเลือกคบแต่คนที่อยู่คนละจังหวัดอีกที เช่น บินไปหาแฟนที่กทม ไปเดตที่กทม เพราะสบายใจกว่า แต่จะมีปัญหาเรื่องการสร้างและดูแลครอบครัว ซึ่งจะเป็นไปได้ยาก ถ้าไม่ได้มีพ่อแม่ตายายคอยดูแลลูกของเราในระหว่างที่ทำงาน เป็นต้น
ตอนนี้ไม่รู้ทิศทางในชีวิตเลยค่ะ อยู่ไปเรื่อยๆ หรือว่าแบบนี้คือปกติของชีวิตวัยทำงานคะ
รู้สึกหลงทาง ค้นหาตัวเองไม่เจอ
ตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม-มหาลัย คิดว่าเราติดบ้านมาก อยากหาคณะที่เรียนอะไรก็ได้ ให้จบมาทำงานแถวบ้าน จนมาเจอคณะนึงที่เห็นในพันทิปว่าหลายๆที่ยังขาดงานตำแหน่งนี้อยู่ ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกตัวเอง ยังไม่เคยเข้าใจตัวเอง หรือไม่เคยค้นหาตัวเองมาก่อน จึงตัดสินใจเรียนคณะนี้ เพื่อจบมาทำงานนี้ ที่นี่ โดยเฉพาะ ไม่ได้คิดถึงความก้าวหน้าหรือสังคม คิดแค่ 'อยู่บ้าน' ความจริงคือเหนื่อยกับตัวเองในตอนนั้นด้วย เรียนหนักมาตลอด เรียนพิเศษเพิ่มอีก ไม่มีเวลาทบทวนตัวเอง ไม่ได้ลองทำอะไรหลายๆอย่าง เพราะอยู่ ตจว
ตอนเรียนมหาลัยก็เริ่มรู้สึกเอะใจแล้วก็กลับมาทบทวน ว่าที่ผ่านมาเรามัวแต่ทำอะไรอยู่ ไม่ได้คิดสนใจหรือใส่ใจอะไรเลย ไม่ว่าจะเรื่องเพื่อน เรื่องการเรียน หรืออื่นๆ เราคิดมาตลอดว่า อะไรที่ใช่กับเรา มันจะดึงดูดเราเอง โดยที่ไม่ต้องพยายามมากจนเกินไป ที่ผ่านมา เราจึงทำอะไรที่ง่าย หรือพอดีกับตัวเองมาตลอด เรื่องมหาลัยเองก็เช่นกัน เราเห็นกระทู้หลายอย่างตั้งขึ้นว่า ไม่ชอบคณะตัวเอง เรียนเครียดแทบอ้วก หรือยากเย็นมากกว่าจะผ่านมาได้ แต่ของเรา ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น คิดว่าทำให้ผ่านก็พอ ประมาณนี้มาตลอด จนคิดมาถึงว่า เกณฑ์การใช้ชีวิตของคนๆนึง มันควรจะอยู่ในจุดไหน ซึ่งเราใช้ชีวิตเรื่อยๆ สบายๆมาตลอด การใช้ชีวิตเรื่อยๆแบบนี้มันทำให้เราสับสน เพราะว่ามันดูเรียบเกินไปจนเหมือนกำลังจะเดินผิดทาง
เดินผิดทางเช่น เมื่อเติบโตขึ้นมากกว่านี้ อายุ 30 ปี 40 ปี เราจะใช้ชีวิตแบบไหน ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เราจะเป็นยังไง ทั้งเรื่องบ้าน เรื่องงาน ไปถึง เรื่องการแต่งงานนี่ก็ยังไม่รู้เลย เพราะการอยู่ ตจว ทำให้การไปเดตกับใครสักคนกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ ปกติเราจึงเลือกคบแต่คนที่อยู่คนละจังหวัดอีกที เช่น บินไปหาแฟนที่กทม ไปเดตที่กทม เพราะสบายใจกว่า แต่จะมีปัญหาเรื่องการสร้างและดูแลครอบครัว ซึ่งจะเป็นไปได้ยาก ถ้าไม่ได้มีพ่อแม่ตายายคอยดูแลลูกของเราในระหว่างที่ทำงาน เป็นต้น
ตอนนี้ไม่รู้ทิศทางในชีวิตเลยค่ะ อยู่ไปเรื่อยๆ หรือว่าแบบนี้คือปกติของชีวิตวัยทำงานคะ