สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เลิกกันดีแล้วครับ
ทัศนคติเขามองคุณค่าในตัวคุณน้อยมากๆ
ทั้งๆที่คุณเป็นผู้หญิงแกร่ง ผู้หญิงทำงานสุจริต
หาเงินเลี้ยงพ่อแม่ครอบครัวเองได้
คบกันต่างฝ่ายต่างต้องรับฟังกัน ให้เกียรติกัน
แต่เขาดูถูกคุณ แล้วก็ไม่ยอมขอโทษในสิ่งที่เขากล่าวหาคุณ
ทั้งๆที่คุณไม่ผิด แต่เป็นฝ่ายเริ่มขอโทษ เป็นฝ่ายพยายามปรับความเข้าใจ แต่เขากลับไม่ยอมรับฟัง
คบกันไปเรื่อยๆ คุณจะเห็นคุณค่าของตัวเองน้อยลงๆ ตัวคุณจะเล็กลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่ผู้หญิงแบบคุณ ผู้ชายดีๆ ต่อแถวรอเข้าคิวรอจีบอีกเพียบ
แทนที่คบกันจะใจเย็นๆ เข้าใจคุณว่าคุณมาหาเงินรักษาพ่อแม่ ถ้าเขาอยากให้คุณไปอยู่กับเขา เขาต้องพยายามหางาน รองรับให้คุณ หรือสามารถ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายตอนคุณกำลังหางานได้ เพราะคุณได้เสียสละ ลาออกจากงาน ไปอยู่กับเขาแล้ว
แต่เขาเรียกร้อง เอาแต่ใจ แทนที่จะหาวิธีแก้ปัญหา
พอไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ ก็ประชด บอกเลิกกันง่ายๆ คุณก็ต้องทนไปเรื่อยๆ ไม่มีปากไม่มีเสียง เพราะเขาไม่ฟังคุณเลย
ทัศนคติเขามองคุณค่าในตัวคุณน้อยมากๆ
ทั้งๆที่คุณเป็นผู้หญิงแกร่ง ผู้หญิงทำงานสุจริต
หาเงินเลี้ยงพ่อแม่ครอบครัวเองได้
คบกันต่างฝ่ายต่างต้องรับฟังกัน ให้เกียรติกัน
แต่เขาดูถูกคุณ แล้วก็ไม่ยอมขอโทษในสิ่งที่เขากล่าวหาคุณ
ทั้งๆที่คุณไม่ผิด แต่เป็นฝ่ายเริ่มขอโทษ เป็นฝ่ายพยายามปรับความเข้าใจ แต่เขากลับไม่ยอมรับฟัง
คบกันไปเรื่อยๆ คุณจะเห็นคุณค่าของตัวเองน้อยลงๆ ตัวคุณจะเล็กลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่ผู้หญิงแบบคุณ ผู้ชายดีๆ ต่อแถวรอเข้าคิวรอจีบอีกเพียบ
แทนที่คบกันจะใจเย็นๆ เข้าใจคุณว่าคุณมาหาเงินรักษาพ่อแม่ ถ้าเขาอยากให้คุณไปอยู่กับเขา เขาต้องพยายามหางาน รองรับให้คุณ หรือสามารถ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายตอนคุณกำลังหางานได้ เพราะคุณได้เสียสละ ลาออกจากงาน ไปอยู่กับเขาแล้ว
แต่เขาเรียกร้อง เอาแต่ใจ แทนที่จะหาวิธีแก้ปัญหา
พอไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ ก็ประชด บอกเลิกกันง่ายๆ คุณก็ต้องทนไปเรื่อยๆ ไม่มีปากไม่มีเสียง เพราะเขาไม่ฟังคุณเลย
ความคิดเห็นที่ 5
อ่านแล้ว ปวดใจแทน … รักกันอยู่ดีๆ เพียงเพราะคุมอารมณ์ไม่เป็น ทำให้รักพังทันที

คงทำได้เพียง มาพิจารณา ถึง ความผิดพลาดที่ได้ทำลงไป
เพื่อจะได้ “ไม่พลาดซ้ำ” ในเรื่องเดิมอีก หากมีโอกาส ได้พบรักใหม่อีกครั้งนะคะ
เราจะ แยกให้เห็นชัดๆ
แฟนคุณเป็นโรคซึมเศร้า อาการหนักแค่ไหน ไม่รู้ คุณนั่นแหละ ที่ต้องรู้ดีกว่าใคร เพราะเคยอยู่ด้วยกันมาตั้งปีกว่า
_ เห็นไหมคะ คุณเรียกร้องว่า เขาควรจะเข้าใจคุณ ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงเห็นแก่เงิน / คุณน่ะเข้าใจเขาไหม
ที่เขาพูดคำนั้นออกมา
บริบท มาจากที่ เขาอยากให้คุณกลับไทย __เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณค่ะ__
แต่คุณจะอยู่ต่อ เพราะเงินดีกว่า เขาจึงโมโห และ หลุดพูดคำนั้นออกมา (ในชีวิตนี้ คุณเคยหลุดพูดอะไรออกมาด้วยโทสะ แล้วเสียใจทีหลังไหมล่ะ)
ที่เขาตัดสายทิ้ง เพราะ อารมณ์กำลังร้อน และ รู้ตัวแล้ว ว่าพูดจาไม่ดีออกไปแล้ว เขาแค่ต้องการจะเบรคอารมณ์ตัวเองก่อน
แต่เขาก็ยังส่งข้อความ มาว่าเป็นห่วง
(คือ จะอธิบายแหละ ว่าทำไมโมโหขนาดนั้น และทำไมพูดอย่างนั้น แต่ก็ปากหนัก เกินกว่าจะขอโทษ เพราะเขายังไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ
คือ ให้คุณย้ายกลับไทย หากได้ตรงนี้แล้ว เขาคงจะยอมขอโทษแต่โดยดี)
คุณกลับตอบข้อความไปว่า “ฉันเกลียดคุณ”
และ เขา ก็ โทรกลับมาง้อ แต่คุณไม่รับสาย
และไปลบ ไอจี ลบ เฟส เขาเห็น จึงไปลบ วีแชท บ้าง
ผ่านไป หนึ่งอาทิตย์ (จะมองว่า มีทิฐิด้วยกันทั้งคู่ หรือ จะมองว่า เขาพิจารณาดีแล้วว่า คุณกับเขาไปกันไม่รอดแน่ๆก็ได้)
คุณส่งข้อความไปอีก ขอโทษ ที่ลบ ไอจีและ เฟส
คุณได้ ขอโทษ ที่บอกว่า เกลียดเขา หรือยัง
__ ไม่ต้องเชื่อเราทั้งหมด เพราะเราเป็นแค่คนนอก เราไม่รู้หรอกว่า คำใด จากปากใคร ใครจะถือสาหาความมากน้อยแค่ไหน__
แต่ถ้าคน ซึ่ง (ป่วยทางจิต ย่อมไม่มีสติดีแบบคนที่ สุขภาพจิตดีๆ) กำลังห่วงใยคนรัก และ ถูกบอกว่าเกลียด / ถูกปฏิเสธไม่รับสาย
ถูกลบช่องทางการติดต่อ __ มันน่าปวดใจแค่ไหน
__ คุณไม่เคยขอเงินแฟน ตรงนี้คุณย่อมรู้ว่าเขาจะมาว่าคุณเห็นแก่เงินไม่ได้ (ด่ายังไงก็ไม่โดน ก็เพราะไม่มีมูล อย่างมากสุดคือ โมโห / น้อยใจ)
คุณด่าเขากลับได้เต็มที่เลย ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดให้เขารู้สึกผิดได้เลย จะด่าตอนเขาส่งข้อความมา หรือ ด่าตอนเขาโทรมา ก็ได้
แต่การตอบโต้ โดยพูดว่า เกลียดเขา และ ไม่รับสาย มันจะต่างอะไร กัน
เราไม่ได้บอกว่าคุณผิด เหตุผลของคุณน่ะ สมควรแล้ว ที่จะอยู่ต่อ เพื่อหาเงินมาดูแลพ่อ และ คุณมิได้เห็นแก่เงินแบบคนเห็นแก่ตัว
เรียกได้ว่า คุณเห็นแก่โอกาส ที่จะหาเงินได้โดยสุจริต และมีจำนวนมาก เพื่อพ่อแม่ และอนาคตที่ดีของตัวคุณเอง
ตรงนี้นอกจากไม่ผิดอะไรเลย ยังเป็นผู้หญิงเก่งที่น่าชื่นชมเสียด้วยซ้ำไป
แต่ในเรื่องความสัมพันธ์
คุณทั้งคู่ สาดอารมณ์เข้าหากัน ในแบบที่ “คนเกลียดกัน” ทำต่อกัน มิใช่ ในแบบที่ “คนรักกัน พร้อมจะปรับความเข้าใจเข้าหากัน”
รักครั้งนี้ อาจจะยังอยู่ หากคุณจะส่งข้อความ ไป ขอโทษ ขอปรับความเข้าใจ อีกครั้ง และ อีกครั้ง
มองข้ามทิฐิตัวเองไป หากยังอยากมีเขาไว้ ส่งข้อความไปเล่าเรื่องราว แล้วสอบถามสารทุกข์สุขดิบของเขาเนืองๆ
ไม่นาน เขา(อาจจะ) ใจอ่อน
แต่เราไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น
เพราะนั่นจะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ / หากไม่แก้ที่อารมณ์ทั้งคู่ ถึงรอบนี้ จะดีกัน ไม่นานก็จะมีเรื่องใหม่มาทะเลาะกันอีก
คงทำได้เพียง จดจำ และ เรียนรู้ จากข้อผิดพลาด ที่ต่างก็กระทำในครั้งนี้ไว้
ใครเจ็บมากกว่า ก็ได้รับความรู้ที่เข้มข้นกว่า ว่าต่อไป ไม่ควรจะใช้อารมณ์เหนือเหตุผล กับคนที่ตนรัก (หรือกับใครก็ตาม)
โทสะ ไม่เคยให้คุณ แก่ใครเลย มีแต่ให้โทษ
ยามขาดสติ ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น และ มากขึ้น
กระทั่ง ถึงที่สุด ที่เกินจะกลับไปแก้ไขให้สิ่งใดก็ตาม ที่หลุดสลายไปแล้ว กลับมาดีดังเดิม

คงทำได้เพียง มาพิจารณา ถึง ความผิดพลาดที่ได้ทำลงไป
เพื่อจะได้ “ไม่พลาดซ้ำ” ในเรื่องเดิมอีก หากมีโอกาส ได้พบรักใหม่อีกครั้งนะคะ
เราจะ แยกให้เห็นชัดๆ
แฟนคุณเป็นโรคซึมเศร้า อาการหนักแค่ไหน ไม่รู้ คุณนั่นแหละ ที่ต้องรู้ดีกว่าใคร เพราะเคยอยู่ด้วยกันมาตั้งปีกว่า
_ เห็นไหมคะ คุณเรียกร้องว่า เขาควรจะเข้าใจคุณ ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงเห็นแก่เงิน / คุณน่ะเข้าใจเขาไหม
ที่เขาพูดคำนั้นออกมา
บริบท มาจากที่ เขาอยากให้คุณกลับไทย __เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณค่ะ__
แต่คุณจะอยู่ต่อ เพราะเงินดีกว่า เขาจึงโมโห และ หลุดพูดคำนั้นออกมา (ในชีวิตนี้ คุณเคยหลุดพูดอะไรออกมาด้วยโทสะ แล้วเสียใจทีหลังไหมล่ะ)
ที่เขาตัดสายทิ้ง เพราะ อารมณ์กำลังร้อน และ รู้ตัวแล้ว ว่าพูดจาไม่ดีออกไปแล้ว เขาแค่ต้องการจะเบรคอารมณ์ตัวเองก่อน
แต่เขาก็ยังส่งข้อความ มาว่าเป็นห่วง
(คือ จะอธิบายแหละ ว่าทำไมโมโหขนาดนั้น และทำไมพูดอย่างนั้น แต่ก็ปากหนัก เกินกว่าจะขอโทษ เพราะเขายังไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ
คือ ให้คุณย้ายกลับไทย หากได้ตรงนี้แล้ว เขาคงจะยอมขอโทษแต่โดยดี)
คุณกลับตอบข้อความไปว่า “ฉันเกลียดคุณ”
และ เขา ก็ โทรกลับมาง้อ แต่คุณไม่รับสาย
และไปลบ ไอจี ลบ เฟส เขาเห็น จึงไปลบ วีแชท บ้าง
ผ่านไป หนึ่งอาทิตย์ (จะมองว่า มีทิฐิด้วยกันทั้งคู่ หรือ จะมองว่า เขาพิจารณาดีแล้วว่า คุณกับเขาไปกันไม่รอดแน่ๆก็ได้)
คุณส่งข้อความไปอีก ขอโทษ ที่ลบ ไอจีและ เฟส
คุณได้ ขอโทษ ที่บอกว่า เกลียดเขา หรือยัง
__ ไม่ต้องเชื่อเราทั้งหมด เพราะเราเป็นแค่คนนอก เราไม่รู้หรอกว่า คำใด จากปากใคร ใครจะถือสาหาความมากน้อยแค่ไหน__
แต่ถ้าคน ซึ่ง (ป่วยทางจิต ย่อมไม่มีสติดีแบบคนที่ สุขภาพจิตดีๆ) กำลังห่วงใยคนรัก และ ถูกบอกว่าเกลียด / ถูกปฏิเสธไม่รับสาย
ถูกลบช่องทางการติดต่อ __ มันน่าปวดใจแค่ไหน
__ คุณไม่เคยขอเงินแฟน ตรงนี้คุณย่อมรู้ว่าเขาจะมาว่าคุณเห็นแก่เงินไม่ได้ (ด่ายังไงก็ไม่โดน ก็เพราะไม่มีมูล อย่างมากสุดคือ โมโห / น้อยใจ)
คุณด่าเขากลับได้เต็มที่เลย ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดให้เขารู้สึกผิดได้เลย จะด่าตอนเขาส่งข้อความมา หรือ ด่าตอนเขาโทรมา ก็ได้
แต่การตอบโต้ โดยพูดว่า เกลียดเขา และ ไม่รับสาย มันจะต่างอะไร กัน
เราไม่ได้บอกว่าคุณผิด เหตุผลของคุณน่ะ สมควรแล้ว ที่จะอยู่ต่อ เพื่อหาเงินมาดูแลพ่อ และ คุณมิได้เห็นแก่เงินแบบคนเห็นแก่ตัว
เรียกได้ว่า คุณเห็นแก่โอกาส ที่จะหาเงินได้โดยสุจริต และมีจำนวนมาก เพื่อพ่อแม่ และอนาคตที่ดีของตัวคุณเอง
ตรงนี้นอกจากไม่ผิดอะไรเลย ยังเป็นผู้หญิงเก่งที่น่าชื่นชมเสียด้วยซ้ำไป
แต่ในเรื่องความสัมพันธ์
คุณทั้งคู่ สาดอารมณ์เข้าหากัน ในแบบที่ “คนเกลียดกัน” ทำต่อกัน มิใช่ ในแบบที่ “คนรักกัน พร้อมจะปรับความเข้าใจเข้าหากัน”
รักครั้งนี้ อาจจะยังอยู่ หากคุณจะส่งข้อความ ไป ขอโทษ ขอปรับความเข้าใจ อีกครั้ง และ อีกครั้ง
มองข้ามทิฐิตัวเองไป หากยังอยากมีเขาไว้ ส่งข้อความไปเล่าเรื่องราว แล้วสอบถามสารทุกข์สุขดิบของเขาเนืองๆ
ไม่นาน เขา(อาจจะ) ใจอ่อน
แต่เราไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น
เพราะนั่นจะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ / หากไม่แก้ที่อารมณ์ทั้งคู่ ถึงรอบนี้ จะดีกัน ไม่นานก็จะมีเรื่องใหม่มาทะเลาะกันอีก
คงทำได้เพียง จดจำ และ เรียนรู้ จากข้อผิดพลาด ที่ต่างก็กระทำในครั้งนี้ไว้
ใครเจ็บมากกว่า ก็ได้รับความรู้ที่เข้มข้นกว่า ว่าต่อไป ไม่ควรจะใช้อารมณ์เหนือเหตุผล กับคนที่ตนรัก (หรือกับใครก็ตาม)
โทสะ ไม่เคยให้คุณ แก่ใครเลย มีแต่ให้โทษ
ยามขาดสติ ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น และ มากขึ้น
กระทั่ง ถึงที่สุด ที่เกินจะกลับไปแก้ไขให้สิ่งใดก็ตาม ที่หลุดสลายไปแล้ว กลับมาดีดังเดิม

แสดงความคิดเห็น
แฟนว่าเราเห็นแก่เงิน ตอนนี้อยากขอกำลังใจมากค่ะ
วันนั้นที่ทะเลาะแฟนเราหลุดปากว่าเราออกมาว่า “เธอก็เห็นแก่เงินเหมือนผญ.จีนนั่นแหละ ” พอเราจะอธิบาย จู่ๆเขาก็ตัดสายวิดีโอคอลเราไปเลย หลังจากนั้นเขาส่งข้อความมาว่าเขาเป็นห่วงเรา แต่เรายังโกธรอยู่มากๆ เลยส่งข้อความกลับไปว่า “ไม่โอเคมากๆกับคำที่พูดออก เหมือนคุณดูถูกฉันมาก ฉันเกลียดคุณ” แล้วก็ส่งกลับมาว่าแล้วแต่เราจะคิดเลย สักพักเขาก็โทรกลับมาใหม่ แต่เราตัดสายไปเพราะเรายังโมโห (ตอนนั้นรู้สึกเหมือนเป็นขยะมาก เหมือนคิดอยากจะตัดสายก็ตัดง่ายๆ พออยากจะคุยก็โทรกลับมาใหม่) เราโมโหลบ FB กับ IG เขาไปในคืนวันนั้น (อันนี้เรารู้ว่าเราทำผิดจริง เพราะมันทำให้เรื่องบานปลายเข้าไปใหญ่) แต่เรายังเหลือวีแชทแอปหลักในการสนทนากันทุกวัน เราอยากให้เขาขอโทษ แต่เขาก็ไม่ขอโทษเราอยู่ดี แล้วพอเขาเห็นเราลบ FB กับ IG เขาก็ลบวีแชท ช่องทางเดียวที่เราสองคนจะคุยกันได้ไป
บอกตรงๆเราปวดใจมากค่ะ ไม่คิดว่าคำพูดแบบนี้จะหลุดออกมาจากแฟนเราที่คบกันมา 2.5 ปี เหมือนเขาไม่รู้จักเราเลย ตอนนี้เราไม่ได้คุยกันมา 1 อาทิตย์แล้ว เราเลยตัดสินใจทักส่งในไดเรค IG เขา บอกสิ่งที่เราอยากพูดทั้งหมดในวันนั้น ว่าเราไม่ชอบคำพูดนั้น ไม่ชอบที่ตัดสายเรา และขอโทษที่เราลบ FB กับ IG เขาอ่านข้อความเราแต่ไม่ตอบค่ะ ลึกๆในใจตอนนี้เรายังรอเขาอยู่ แต่เราก็อยากเดินหน้าต่อ เรามีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย ในหัวเราคิดเครียดเรื่องพ่อป่วยก็หนักมากพอแล้ว (ตอนนี้พ่อเข้ารับการรักษาดีขึ้นแล้ว แต่อีก2-3เดือนข้างหน้าต่อไปทำบอลลูนหัวใจอีกครั้งค่ะ)
เราไม่รู้ว่าทำไมเขาพูดออกมายังนั้น ทั้งๆที่เราไม่เคยขอเงินเขาสักบาท ตลอดเวลาที่เราพวกเราสองคบกันแชร์ค่าจ่ายกันตลอด เขามีเลี้ยงข้างเราบ้างในโอกาสพิเศษ ตอนเขามาเรียนระยะสั้นที่จีน เราก็ทำงานที่จีน สถานะการเงินเราต่างกัน เราเข้าใจ ให้เขาเข้ามาอยู่กับเราโดยที่เราจ่ายค่าคอนโด น้ำไฟเองทุกอย่าง ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขาเลย และอีกหนึ่งเรื่องเราอยากให้เขามองในมุมเรา ว่าทำไมเราต้องยังเลือกอยู่ที่นี่ เราทำงานที่นี่รายได้ดีกว่าประเทศไทย เราอยากให้พ่อแม่สบาย เราส่งเงินให้แม่ใช้ทุกเดือน พ่อเราป่วยต้องใช้เงินในการรักษาเราก็เป็นคนรับผิดชอบให้ทั้งหมด เราเองก็เสียใจที่ไม่กลับไปดูแลพ่อ แต่เราว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เราอยากอยู่เก็บเงินที่นี่อีกสักปี ตอนแรกเราแพลนกับแฟนไว้ด้วยว่า ปีหน้ากลางปีเราจะไปหาเขาที่อังกฤษ แล้วก็จะเลยกลับไปไทยหาและงานใหม่ที่นั่น เพราะจะได้ไปหาแฟนสะดวกขึ้น เราจะทำหรือคิดอะไรจะแคร์ความรู้สึกคิดในมุมมองแฟนตลอด แต่ในมุมกลับกันเขาไม่เคยมองในมุมเราเลย ไม่ฟังเราอธิบายอะไร เราท้อและเหนื่อยมากค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย อาจพิมพ์ถูกผิดย้อนไปมาไปบ้าง ยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
เราอยากถามว่าสิ่งที่เราทำไปมันผิดมากๆเลยเหรอคะ และอยากขอกำลังใจเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปค่ะ