JJNY : เสียชีวิต 30 ป่วยใหม่ 1,663│อสังหาฯห่วงปรับดบ.กระทบผู้ซื้อ│'ไข่มุก'คว้าชัยนายกอบจ.│คณะก้าวหน้าคว้าชัยทต.ด่านสำโรง

โควิดวันนี้ปอดอักเสบพุ่ง 937 ราย เสียชีวิต 30 ราย ป่วยใหม่ 1,663 ราย
https://www.dailynews.co.th/news/1359776/
 
 
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 30 ราย ขณะที่มีจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวใน รพ.รายใหม่ 1,663 ราย กำลังรักษา 20,256 ราย

สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 15 สิงหาคม 2565 มีจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลรายใหม่วันนี้ 1,663 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 1,663 ราย ผู้ป่วยจากต่างประเทศ 0 ราย ผู้ป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 2,398,653 ราย หายป่วยกลับบ้าน 2,335 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 2,401,480 ราย กำลังรักษา 20,256 ราย เสียชีวิต 30 ราย เสียชีวิตสะสม (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 10,160 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 937 ราย
 

  
อสังหาฯยังไหวขึ้นค่าแรง ห่วงปรับดบ.กระทบผู้ซื้อ
https://www.innnews.co.th/news/news_391311/
 
จากการยืนยันของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ว่าจะมีการพิจารณาอัตราค่าจ้างในเดือน ส.ค นี้
 
เบื้องต้นคาดจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ ราว 5-8% โดยเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในต้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 รวมไปถึงเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ของ กนง.
 
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ก็ทำเกิดแรงเพื้อมกับเศรษฐกิจและผู้ประกอบการไทยอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
 
โดยนายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ อาจได้รับผลกระทบไม่มากนัก
 
เพราะค่าแรงที่จ้างอยู่ในปัจจุบันนั้นอาจสูงกว่าที่จะปรับขึ้นอยู่แล้ว เนื่องจากแรงงานฝีมือค่อนข้างขาดแคลน แต่ผู้ประกอบการเองก็พยายามปรับตัวและวางแผนเผื่อรับมือกับต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
 
โดยการใช้ของสำเร็จรูปและเทคโนโลยีให้มากขึ้นเพื่อทดแทนแรงงานบางประเภท แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับการยอมรับของลูกค้าด้วย
 
“คงได้รับผลกระทบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าจริงๆ แล้วภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลกระทบอาจจะไม่มากเท่าไหร่ ค่าแรงที่กำลังปรับขึ้น ถ้าเทียบกับที่เราจ้างอยู่ เราอาจจะจ้างแพงไปกว่าที่ปรับขึ้น เพราะว่าเราจ่ายค่าแรงอยู่ในระดับสูงพอสมควร
 
เพราะว่าแรงงานบางประเภทหายากอยู่แล้ว ปัจจุบันนี้บางคนอาจจะจ่ายล้ำหน้าไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะว่าแรงงานมันขาดแคลน และแรงงานฝีมือบางประเภทก็ถูกปรับขึ้นไปแล้ว ผลกระทบทางอ้อมก็คือว่าอาจจะเป็นแรงกดดันให้เราต้องปรับเพิ่มขึ้นอีก
 
และแรงงานประเภทมีกึ่งฝีมือและก็มีฝีมือ อาจจะเป็นตัวที่ทำให้เราปรับเพิ่มขึ้นมากขึ้นไปอีก เพราะว่าถ้าออกมาก็จะมีการเทียบเคียงในระดับสูงขึ้นไป เพราะว่ามันจะทำให้แรงงานประเภทที่อยู่ในระดับสูง ค่าแรงก็จะกระทบในทางเดียวกัน คือมันจะสูงขึ้นไปด้วยเท่านั้นเอง”
 
ทั้งนี้ นายอธิป ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ของ กนง. ว่า เป็นห่วงว่าจะกระทบกับการผ่อนชำระของผู้ซื้อ อาจทำให้มีปัญหาในเรื่องของการขอกู้ เพราะหากกู้ไม่ผ่านก็จะทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ หรือการซื้อใหม่ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
 
“กลัวเรื่องการกระทบกับผู้ซื้อเท่านั้นเอง ดอกเบี้ยเนี้ยมันจะเป็นอะไรที่ มีผลกระทบต่อการผ่อนชำระของผู้ซื้อบ้าน ถ้าปรับขึ้น 0.25% ที่ผ่านมาก็กระทบการผ่อนชำระผู้ซื้อบ้านอยู่ประมาณ 2% มันก็จะทำให้ลูกค้ามีปัญหาเรื่องการขอกู้ด้วย
 
ซึ่งทำให้อาจจะบั่นทอนความสามารถในการขอกู้ของลูกค้า อันนี้เราก็กลัวเรื่องไปกระทบเรื่องการขอกู้ของลูกค้า เพราะถ้าลูกค้ากู้ไม่ผ่าน การการโอนกรรมสิทธิ์ หรือว่าการซื้อใหม่มันก็จะได้รับผลกระทบ”
 
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างใกล้ชิดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ปลายปีนี้จริงหรือไม่ รวมถึงผลกระทบของการปรับขึ้น ดอกเบี้ยโยบายของ กนง. ด้วยว่าจะสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจและผู้ประกอบการไทยมากน้อยเพียงใด
 
วันนี้แรงงานไทยอาจจะยิ้มได้ แต่อีกฝากฝั่งของนายจ้าง ผู้ประกอบการก็คงต้องกัดฟันฝ่าวิกฤตกันต่อไป
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
'ไข่มุก' คว้าชัย นายก อบจ.กาฬสินธุ์ คะแนนทิ้งห่างคู่แข่ง เกือบแสนคะแนน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3507107
 
‘ไข่มุก’ คว้าชัย นายก อบจ.กาฬสินธุ์ คะแนนทิ้งห่างคู่แข่ง เกือบแสนคะแนน
 
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.65 จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการจัดเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักหลังมีการเปิดหีบเมื่อเวลา 08.00 น. โดยนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ อำเภอสหัสขันธ์ และอำเภอท่าคันโท เพื่อกำกับดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งซ่อม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์
ทั้งนี้ หลังจากปิดหีบเมื่อเวลา 17.00 น. หน่วยเลือกตั้งต่างๆ ได้ทยอยนับคะแนนผลการเลือกดตั้ง
 
โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 20.50 น. ซึ่งมีการนับคะแนนไปแล้วกว่า 99.88% พบว่า
 
ผู้สมัครเบอร์ 2 คือ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล  (หรือไข่มุก)  จากพรรคเพื่อไทย ลูกสาวนายยงยุทธ หล่อตระกูล อดีตนายก อบจ.กาฬสินธุ์ มีคะแนนนำคู่แข่งเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 248,657 
 
ขณะที่นายชานุวัฒน์ วรามิตร อดีตนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 150,237
 
และนางเขมจิรา อนันทวรรณ ผู้สมัครหมายเลย 3 ได้คะแนน 13,769 คะแนน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่