สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
นี่ล่ะค่ะ หนึ่งในมิติความเสี่ยงของ “ผู้หญิงใจถึง” ที่มั่นใจไปอยู่กับเขาก่อน #รักเค้า
พ่อแม่ผู้ชายมีแววเห็นแก่ตัว งก ไม่ให้เกียรติตั้งแต่ไม่ยอมมาคุย จนแม่ฝ่ายหญิงต้องบากหน้าโทรไปคุย ไม่สงสารแม่เหรอคะนั่น ต้องโทรไปขอให้ผู้ชายมาแต่งกับลูกสาว
แล้วก็ต้องหน้าม้านเพราะบ้านผู้ชายบอกว่า “เด็กมันก็อยู่กันไปแล้ว..”
ก็นั่นล่ะค่ะ ไปอยู่กับเขาก็เปิดโอกาสให้พ่อแม่เขาเค็มใส่ได้เต็มที่ เพราะรู้ดีว่ายังไงสาวว่าที่สะใภ้ก็ไม่ไปไหน ต้องยอมแต่งแต่โดยดี เพราะต่อให้ไม่แต่งฝ่ายหญิงก็ไม่ไปจากลูกเขาหรอก เขาไม่เดือดร้อน ลูกเขาไม่เดือดร้อน มีแต่ได้กับได้
คนที่เดือดร้อนก็คือฝ่ายหญิง แม่ฝ่ายหญิง ซึ่งทางผู้ชายแสดงออกชัดเจนว่า “ไม่แคร์”
คุณยังจะเลือกผู้ชายคนนี้ที่บ้านเขาเหยียบย่ำเกียรติแม่คุณขนาดนี้เหรอคะ ถ้าทำลงก็เอาเลยค่ะ เก็บเงินสู่ขอตัวเองได้เลย
เป็นเรานะ มันจบตั้งแต่พ่อแม่เขาไม่ยอมมาคุยแล้วล่ะ เราไม่มีวันให้แม่ต้องแบกหน้าไปขอให้ผู้ชายมาขอเราหรอก ต่อให้ชีวิตนี้เราจะหาผู้ชายไม่ได้อีกเลย เราก็จะเป็นลูกที่ดีให้แม่ต่อไป ดีกว่าเอาเขยที่เขาดูถูกบ้านเรา
แต่ก็ว่าไม่ได้ ลูกสาวก็เปิดโอกาสให้บ้านผู้ชายหยามเกียรติแม่เองด้วยนะพูดตรงๆ ซึ่งถ้ามั่นใจว่านี่มันสมัยไหนแล้ว อยู่ด้วยกันไม่ผิด ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น จีน เขาก็ทำมาตั้งนาน ก็ควรทำตัวให้ได้อย่างชาติอื่นทั้งหมดสิคะ จะแต่งงานก็รับผิดชอบเอง หาเงินกันเอง ผู้ชายไม่ยอมแต่งก็เลิก ไม่ใช่ให้แม่ไปง้อบ้านผู้ชาย คนสมัยนี้นี่เหมือนอะไรตามใจตัวเองก็เอาหมดไม่ว่าไทยฝรั่ง แต่เลือกเอาเฉพาะที่ตัวเองอยากทำนะ ผลลัพธ์อื่นๆโทษพ่อแม่ตัวเองบ้าง พ่อแม่แฟนบ้าง ก็รุงรังกันต่อไปค่ะ
ใครจะถามว่า “คุณค่าผู้หญิงวัดที่อะไร” ก็ย้อนนกลับไปอ่านเนื้อกระทู้ค่ะ อย่ามาถามเราเลย แล้วตอบเอาเองว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้บอกว่าผู้ชายทำถูกนะ แต่บอกว่าบางทีผู้หญิงก็เปิดโอกาสให้ฝ่ายชายเห็นแก่ตัวได้ชัดเจนขึ้น
ส่วนตัวแนะนำให้เลิก ย้ายออกค่ะ ให้เขารู้ว่าเราก็ไม่ง้อเช่นกัน และถ้ามั่นใจว่าอยู่ด้วยกันมาแล้วไม่ได้เสียหายอะไร ก็ค่อยหาคนใหม่ที่ดึกว่านี้ดีกว่าค่ะ
พ่อแม่ผู้ชายมีแววเห็นแก่ตัว งก ไม่ให้เกียรติตั้งแต่ไม่ยอมมาคุย จนแม่ฝ่ายหญิงต้องบากหน้าโทรไปคุย ไม่สงสารแม่เหรอคะนั่น ต้องโทรไปขอให้ผู้ชายมาแต่งกับลูกสาว
แล้วก็ต้องหน้าม้านเพราะบ้านผู้ชายบอกว่า “เด็กมันก็อยู่กันไปแล้ว..”
ก็นั่นล่ะค่ะ ไปอยู่กับเขาก็เปิดโอกาสให้พ่อแม่เขาเค็มใส่ได้เต็มที่ เพราะรู้ดีว่ายังไงสาวว่าที่สะใภ้ก็ไม่ไปไหน ต้องยอมแต่งแต่โดยดี เพราะต่อให้ไม่แต่งฝ่ายหญิงก็ไม่ไปจากลูกเขาหรอก เขาไม่เดือดร้อน ลูกเขาไม่เดือดร้อน มีแต่ได้กับได้
คนที่เดือดร้อนก็คือฝ่ายหญิง แม่ฝ่ายหญิง ซึ่งทางผู้ชายแสดงออกชัดเจนว่า “ไม่แคร์”
คุณยังจะเลือกผู้ชายคนนี้ที่บ้านเขาเหยียบย่ำเกียรติแม่คุณขนาดนี้เหรอคะ ถ้าทำลงก็เอาเลยค่ะ เก็บเงินสู่ขอตัวเองได้เลย
เป็นเรานะ มันจบตั้งแต่พ่อแม่เขาไม่ยอมมาคุยแล้วล่ะ เราไม่มีวันให้แม่ต้องแบกหน้าไปขอให้ผู้ชายมาขอเราหรอก ต่อให้ชีวิตนี้เราจะหาผู้ชายไม่ได้อีกเลย เราก็จะเป็นลูกที่ดีให้แม่ต่อไป ดีกว่าเอาเขยที่เขาดูถูกบ้านเรา
แต่ก็ว่าไม่ได้ ลูกสาวก็เปิดโอกาสให้บ้านผู้ชายหยามเกียรติแม่เองด้วยนะพูดตรงๆ ซึ่งถ้ามั่นใจว่านี่มันสมัยไหนแล้ว อยู่ด้วยกันไม่ผิด ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น จีน เขาก็ทำมาตั้งนาน ก็ควรทำตัวให้ได้อย่างชาติอื่นทั้งหมดสิคะ จะแต่งงานก็รับผิดชอบเอง หาเงินกันเอง ผู้ชายไม่ยอมแต่งก็เลิก ไม่ใช่ให้แม่ไปง้อบ้านผู้ชาย คนสมัยนี้นี่เหมือนอะไรตามใจตัวเองก็เอาหมดไม่ว่าไทยฝรั่ง แต่เลือกเอาเฉพาะที่ตัวเองอยากทำนะ ผลลัพธ์อื่นๆโทษพ่อแม่ตัวเองบ้าง พ่อแม่แฟนบ้าง ก็รุงรังกันต่อไปค่ะ
ใครจะถามว่า “คุณค่าผู้หญิงวัดที่อะไร” ก็ย้อนนกลับไปอ่านเนื้อกระทู้ค่ะ อย่ามาถามเราเลย แล้วตอบเอาเองว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้บอกว่าผู้ชายทำถูกนะ แต่บอกว่าบางทีผู้หญิงก็เปิดโอกาสให้ฝ่ายชายเห็นแก่ตัวได้ชัดเจนขึ้น
ส่วนตัวแนะนำให้เลิก ย้ายออกค่ะ ให้เขารู้ว่าเราก็ไม่ง้อเช่นกัน และถ้ามั่นใจว่าอยู่ด้วยกันมาแล้วไม่ได้เสียหายอะไร ก็ค่อยหาคนใหม่ที่ดึกว่านี้ดีกว่าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
เอิ่ม ไม่เอาสินสอด แต่เรียก5แสน คือ?
กะให้เขาล้มละลายจริงนั่นแหละ 555
แต่งงาน ควรหาเงินกันเอง ไม่ใช่ให้พ่อแม่ฝ่ายชายมาจ่ายให้
แล้วที่สำคัญ พูดหลายคนละ อยากแต่ง อย่าย้ายไปอยู่กินก่อน เพราะมันจะเป็นงี้
สุดท้ายเคลียกันไม่ได้ ฝ่ายเราเสียหายไปแล้ว แต่อีกฝ่ายมองก็อยู่กินกันแล้วจะแต่งทำไม
สรุปก็แยกทาง
กะให้เขาล้มละลายจริงนั่นแหละ 555
แต่งงาน ควรหาเงินกันเอง ไม่ใช่ให้พ่อแม่ฝ่ายชายมาจ่ายให้
แล้วที่สำคัญ พูดหลายคนละ อยากแต่ง อย่าย้ายไปอยู่กินก่อน เพราะมันจะเป็นงี้
สุดท้ายเคลียกันไม่ได้ ฝ่ายเราเสียหายไปแล้ว แต่อีกฝ่ายมองก็อยู่กินกันแล้วจะแต่งทำไม
สรุปก็แยกทาง
แสดงความคิดเห็น
อยากแต่งงานจนไม่อยากแต่งแล้ว ควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดี?