" สัตว์ "---ตอนที่ 6 :...สัตว์-บุคคล...ในขันธ์๕..มีกล่าวมีสอน....ทำไม่ว่าไม่มี..หละ?

กระทู้สนทนา


ภารวรรคที่ ๓ 
๑. ภารสูตร ว่าด้วยขันธ์ ๕ เป็นภาระ 
[๔๙] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง...
- ภาระ
- ผู้แบกภาระ
- เครื่องถือมั่นภาระ
- และเครื่องวางภาระ
แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ ใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุเหล่านั้น ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภาระเป็นไฉน?
พึงกล่าวว่า...
ภาระ คืออุปาทานขันธ์ ๕
   อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นไฉน? คือ
     อุปาทานขันธ์ คือรูป
     อุปาทานขันธ์ คือเวทนา
     อุปาทานขันธ์ คือสัญญา
      อุปาทาน ขันธ์ คือสังขาร
      และอุปาทานขันธ์ คือวิญญาณ.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าภาระ.

[๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ผู้แบกภาระเป็นไฉน?
พึงกล่าวว่า....
              บุคคล บุคคลนี้นั้น คือ ท่านผู้มีชื่ออย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าผู้แบกภาระ.

[๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เครื่องถือมั่นภาระเป็นไฉน?
ตัณหานี้ใด นำให้เกิดภพใหม่ ประกอบด้วยความกำหนัด ด้วยอำนาจความเพลิดเพลิน
มีปกติเพลิดเพลินยิ่งในภพหรืออารมณ์ นั้นๆ ได้แก่กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าเครื่องถือมั่นภาระ.

[๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็การวางภาระเป็นไฉน?

ความที่ตัณหานั่นแลดับไป   ด้วยสำรอกโดยไม่เหลือ ความสละ ความสละคืน ความพ้น ความไม่อาลัย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าการวางภาระ.

พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลง แล้ว
จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกในภายหลังว่า
[๕๓] ขันธ์ ๕ ชื่อว่าภาระแล และผู้แบกภาระคือบุคคล
         เครื่องถือมั่น ภาระเป็นเหตุนำมาซึ่งความทุกข์ในโลก
         การวางภาระเสียได้เป็นสุข บุคคลวางภาระหนักเสียได้แล้ว
         ไม่ถือภาระอื่น ถอนตัณหาพร้อม ทั้งมูลรากแล้ว เป็นผู้หายหิว ดับรอบแล้วดังนี้.
จบ สูตรที่ ๑.
https://etipitaka.com/read/thai/17/25/
 
สรุป... <----อันนี้เป็นความเข้าใจของผม...หากมีคำแนะนำ-หรือ-เห็นต่าง..นำหลักฐานมาแสดง...ก็ยินดีเลยครับ
1.   ภาระ ...................=  อุปาทานขันธ์๕ <---ไม่ใช่ขันธ์๕...มันต่างกันอยู่นะ
      ผู้แบกภาระ ..........=  บุคคล = สัตว์ = ผู้มีอุปาทาน = ผู้ทีมีทุกข์      ( อุปาทานขันธ์๕ = ทุกข์ )
      เครื่องถือมั่นภาระ..=  ตัณหาที่ยังมีอยู่
      เครื่องวางภาระ.....= การกลดับของตัณหา
จะเห็นได้มันมี " บุคคล "....ผู้แบกภาระ..คือแบกอุปาทานขันธ์๕...อยู่   
ไม่ใช่ขันธ์๕..มันมีอุปาทานของมันได้เอง

2 .  ดังนั้นการไปกล่าวว่า  " สัตว์-บุคคล..ไม่มี "....อันนี้มันจะถูกหรือ? 
     สัตว์-บุคคลนะมีอยู่ในขันธ์๕..สำหรับผู้ที่มีอุปาทาน
     ดังนั้น จึงมีการสอนให้ถอนตัณหาอุปาทานออกจากความมีความเป็นในอุปาทานขันธ์
      ถ้าไม่มีตั้งแต่แรก...แล้วจะไปถอนอะไร???

     ผมจะยกอุปามานะ... ดังนี้
     หากประเทศหนึ่งออกกฏหมายว่าห้ามเล่นการพนัน   
     แล้วมีคนมาแสดงความเห็นว่า..ออกกฏหมายอย่างนี้มาได้อย่างไร
     เพราะการเล่นการพนันมันผิดศีลธรรม.... เรารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควร...
     เมื่อเรารู้ว่าไม่ควร---มันก็จะไม่มีการเล่นการพนัน
     ก็การที่ท่านออกกฏหมายห้ามเล่นการพนันนี่ก็เท่ากับ...ท่านมากล่าวหากพวกเราว่าเล่นการพนัน
     และยอมรับว่ามีการเล่นการพนัน

     " นี่ท่านไม่รู้หรอกหรือว่า...การเล่นการพนันมันไม่ดี  ซึ่งพวกเรารู้ดีว่า...มันไม่ดี.."
     
   3.  มีคนถามว่า  ก็ขันธ์๕...มันเกิด-ดับ..อย่างนี้  " สัตว์ "....มันจะเกิดดับหรือไม่
         คำตอนนี้เป็นคำตอบของผม...แต่ผมอ้างอิงพระสูตร  ว่า
         " สัตว์...มันไม่ตายหรอก  มันจะตายก็เมื่อนิพพานนั่นหละ  เราจึงต้องทนทุกข์ในสังสารวัฏอย่างยาวนาน "

          คำถามว่า  แล้วสัตว์...มันเกิดมาได้อย่างไร?   
          คำตอบก็คือ   มันเกิดมาได้เพราะมีการไปมี  ฉันทะ-ราคะ-นันทิ-ตัณหา...ใน...รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ
          คำถามว่า  แล้วสัตว์...มันเกิดมาตั้งแต่เมื่อไร?   
          คำตอบก็คือ   นามมากๆๆๆๆๆ  จนพระศาสดาท่านกล่าวว่า " เบื้องต้นไม่ปรากฏ.. "

          คำถามว่า  แล้วก่อนที่จะเป็น...สัตว์...มันคืออะไร?   
          คำตอบก็คือ   ไม่รู้..   แต่มันมันมีสภาวะก่อนที่จะเป็น " สัตว์ "
                               เพราะพระศาสดาท่านกล่าวว่า " ก่อนนี้..อวิชชามิได้มี...แต่ภายหลังจึงมี.."

      4.  จาก ถาม-ตอบ ในข้อ 3...
            ทำให้ผมมาคิดเรื่อง..อวิชขา - วิชชา....ว่ามี 4 สภาวะ  คือ...
            - สภาวะที่...ไม่มีอวิชชา...และ...ไม่มีวิชชา  <---------ก่อนได้สภาวะ " สัตว์ "
            - สภาวะที่... มีอวิชชา...และ...ไม่มีวิชชา <----------ปุถุชนผู้ที่มิได้สดับ
            - สภาวะที่... ยังมีอวิชชาบางส่วน...และ...มีวิชชามากส่วน <---อริยสาวกผู้ได้สดับ
            - สภาวะที่... มีวิชชา...และอวิชชาดับไป <----อรหันต์

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่