ความแรงที่เรียกได้ว่าฮือฮาที่สุดในรอบปี 2537 เกิดขึ้นเมื่อช่อง 3 นำเอาภาพยนตร์จีนชุด “เปาบุ้นจิ้น” เข้ามาฉายในเมืองไทย จนทุกวันนี้คนดูติดกันงอมแงมทั้งบ้านทั้งเมือง
“เปาบุ้นจิ้น” ทำจากตำนานของขุนนางจีนหน้าดำมีปานรูปจันทร์เสี้ยวกลางหน้าผาก ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งความยุติธรรม” เพราะเมื่อมีคดีถึงศาลเมืองไคฟง เปาบุ้นจิ้นจะตัดสินด้วยความเที่ยงธรรมและเด็ดขาด ไม่เห็นแก่หน้าใครไม่ว่าคนทำผิดนั้นจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน
เปาบุ้นจิ้นไม่ใช่เสนอด้านคุณธรรมอย่างเดียว ยังดูสนุกด้วยปฏิบัติการจากทีมงานของเปาบุ้นจิ้น คือ กงซุนเช่อ, จั่นเจา, หวังเฉา, หม่าฮั่น, จางหลง และ เจ้าหู่
ภาพยนตร์จีนชุด “เปาบุ้นจิ้น” เวอร์ชันนี้สร้างโดยบริษัทจงหัว จากประเทศไต้หวัน ผู้รับบทเปาบุ้นจิ้นคือ "จินเซาฉวิน" เรื่องนี้ฮิตทุกที่ที่มีการนำไปฉาย เคยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการโทรทัศน์ฮ่องกง ด้วยการที่สถานีเอทีวีกับทีวีบี ซึ่งเป็นสถานีคู่แข่งขันกันมาตลอด ต่างยินยอมพร้อมใจซื้อลิขสิทธิ์ไปออกอากาศพร้อม ๆ กัน แถมยังทำเรตติ้งสูงที่สุดของทั้งสองช่องได้อีกต่างหาก
สำหรับประเทศไทย เปาบุ้นจิ้น กลายเป็นภาพยนตร์จีนที่สร้างประวัติศาสตร์และกู้ชื่อเสียงของช่อง 3 กลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่
13 สิงหาคม 2537 ในตอน "ราชบุตรเขยจอมโหด"
แต่หลังจากออกอากาศได้สักระยะหนึ่งก็มีข่าวออกมาว่าจะต้องถูกย้ายเวลาจาก 20.30 น. ให้ดึกขึ้น เนื่องจากกฎของ กกช. กำหนดว่า เวลาหลังข่าวจะต้องเป็นรายการที่ผลิตโดยคนไทยเท่านั้น จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วเมือง ในที่สุด เปาบุ้นจิ้น ก็ได้รับข้อยกเว้นเพราะเป็นภาพยนตร์ที่ให้แง่คิดที่ดีกับสังคม
นอกจากนี้ เปาบุ้นจิ้นยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับการเมืองไทยตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง และแสบที่สุดคือเพลงนำจากเปาบุ้นจิ้นถูกนำมาทำเป็นเพลงไทยเกือบ 20 รายแล้ว
จากเสียงเรียกร้องและขานรับความแรงของเปาบุ้นจิ้นที่มีเพิ่มขึ้นทุกขณะ ช่อง 3 ก็เอาใจแฟน ๆ ด้วยการเพิ่มวันออกอากาศจากเดิมเป็น 5 วันเต็ม ในช่วงเวลาหลังข่าว พุธ-อาทิตย์ จึงกลายเป็นเวลาที่โฆษณาแย่งกันลงจนหาช่องว่างไม่ได้
เพราะด้วยเนื้อหาที่ “ชาวบ้านกว่า” เรื่องสามก๊ก ก็สามารถทำเรตติ้งกระฉูดแข่งตีตื้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนบัดนี้นำโด่งมาเป็นละครฮิตติดอันดับ 1 ของเมืองไทยไปแล้ว
บ้านเราเรตติ้งไม่กระฉูดบ้างก็ผิดไปล่ะ
(ตัดตอนจากบทความในนิตยสาร ทีวีพูล ฉบับที่ 240, 30 ธ.ค. 37-5 ม.ค. 38 / สีสัน ปีที่ 7 ฉบับที่ 7, 2538 / หนังสือพิมพ์ข่าวสด, 31 ธ.ค. 2537)
สวัสดี.
28 ปี "เปาบุ้นจิ้น" ฉบับไต้หวันปี'93 มาไทย...กับความแรงที่ต้องบอกต่อ
เปาบุ้นจิ้นไม่ใช่เสนอด้านคุณธรรมอย่างเดียว ยังดูสนุกด้วยปฏิบัติการจากทีมงานของเปาบุ้นจิ้น คือ กงซุนเช่อ, จั่นเจา, หวังเฉา, หม่าฮั่น, จางหลง และ เจ้าหู่
ภาพยนตร์จีนชุด “เปาบุ้นจิ้น” เวอร์ชันนี้สร้างโดยบริษัทจงหัว จากประเทศไต้หวัน ผู้รับบทเปาบุ้นจิ้นคือ "จินเซาฉวิน" เรื่องนี้ฮิตทุกที่ที่มีการนำไปฉาย เคยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการโทรทัศน์ฮ่องกง ด้วยการที่สถานีเอทีวีกับทีวีบี ซึ่งเป็นสถานีคู่แข่งขันกันมาตลอด ต่างยินยอมพร้อมใจซื้อลิขสิทธิ์ไปออกอากาศพร้อม ๆ กัน แถมยังทำเรตติ้งสูงที่สุดของทั้งสองช่องได้อีกต่างหาก
สำหรับประเทศไทย เปาบุ้นจิ้น กลายเป็นภาพยนตร์จีนที่สร้างประวัติศาสตร์และกู้ชื่อเสียงของช่อง 3 กลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2537 ในตอน "ราชบุตรเขยจอมโหด"
แต่หลังจากออกอากาศได้สักระยะหนึ่งก็มีข่าวออกมาว่าจะต้องถูกย้ายเวลาจาก 20.30 น. ให้ดึกขึ้น เนื่องจากกฎของ กกช. กำหนดว่า เวลาหลังข่าวจะต้องเป็นรายการที่ผลิตโดยคนไทยเท่านั้น จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วเมือง ในที่สุด เปาบุ้นจิ้น ก็ได้รับข้อยกเว้นเพราะเป็นภาพยนตร์ที่ให้แง่คิดที่ดีกับสังคม
นอกจากนี้ เปาบุ้นจิ้นยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับการเมืองไทยตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง และแสบที่สุดคือเพลงนำจากเปาบุ้นจิ้นถูกนำมาทำเป็นเพลงไทยเกือบ 20 รายแล้ว
จากเสียงเรียกร้องและขานรับความแรงของเปาบุ้นจิ้นที่มีเพิ่มขึ้นทุกขณะ ช่อง 3 ก็เอาใจแฟน ๆ ด้วยการเพิ่มวันออกอากาศจากเดิมเป็น 5 วันเต็ม ในช่วงเวลาหลังข่าว พุธ-อาทิตย์ จึงกลายเป็นเวลาที่โฆษณาแย่งกันลงจนหาช่องว่างไม่ได้
เพราะด้วยเนื้อหาที่ “ชาวบ้านกว่า” เรื่องสามก๊ก ก็สามารถทำเรตติ้งกระฉูดแข่งตีตื้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนบัดนี้นำโด่งมาเป็นละครฮิตติดอันดับ 1 ของเมืองไทยไปแล้ว
บ้านเราเรตติ้งไม่กระฉูดบ้างก็ผิดไปล่ะ
(ตัดตอนจากบทความในนิตยสาร ทีวีพูล ฉบับที่ 240, 30 ธ.ค. 37-5 ม.ค. 38 / สีสัน ปีที่ 7 ฉบับที่ 7, 2538 / หนังสือพิมพ์ข่าวสด, 31 ธ.ค. 2537)
สวัสดี.