เกิดเรื่องเลยก็คือเราอ่ะก่อนหน้านี้มีงานประจำทำแต่เป็นสัญญาจ้างและรายได้ดีมากแต่แล้วอยู่ดีๆอ่ะเขาก็มาบอกว่าจะปิด shop แต่ว่าไอ้ข่าวจะปิด shop เนี่ยเพิ่งมาตอนสิ้นเดือนมิถุนายนแต่วันนั้นน่ะมันเป็นวันหยุดเราเรารู้อีกทีก็คือวันที่ 1 แล้วของอีกเดือนนึงคือตกใจหนักมาก มากกว่านั้นก็คือพี่ผู้จัดการอ่ะเขารู้เรื่องตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนแล้วแล้วเขาก็ได้งานใหม่แล้วซึ่งไปทำเลยวันที่ 1ของก.ค.ก็ทำให้เราใจเสียไปอีก คิดอยู่นานมากว่าจะเอายังไงต่อดีจะทำต่อหรือว่าจะออกเลยตอนนี้ แต่คือภาพรวมคือหลายๆความคิดอ่ะมันก็ทำให้เราว่าถึงจะอยู่ต่ออ่ะไงช็อปมันก็จะต้องปิดอยู่ดี เราเลยคิดว่าไปหางานใหม่ที่มันมั่นคงกว่านี้ที่จะไม่มีวันปิดช็อปอีกอ่ะมันจะดีกว่าไหม คิดอยู่นานมากแล้วเรื่องงานเราเครียดสะสมแล้วก็สับสนด้วยความที่ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานแล้วก็เลยออกเพื่อไปหางานใหม่
พอไปเจองานใหม่ก็คงคิดว่าเออก็คงจะดีกว่านี้แน่นอนแต่พอไปทำจริงๆคือมันไม่ไหวเลยมันไม่ได้เลย งานใหม่ที่เราไปทำก็คือร้านน้ำร้าน 1 แบรนด์ดังเลยเราไม่เคยทำร้านน้ำมาก่อนเลย เราโดนปล่อยให้อยู่ร้าน 2 คนกับพี่คนใหม่ ซึ่งใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ให้รับออเดอร์น้ำต่อไรเดอร์ 1 คน 5 แก้ว 6 แก้วแล้วเราทำกันไม่ทันเราก็โดนคอมเพลนจากพี่ไรเดอร์แล้วก็ไม่มีเวลาพักให้ได้กินข้าวเลย แล้วแถมสิ้นเดือนก็ต้องมาลุ้นว่าจะต้องจ่ายของค่าขนมถ้าหายก็ต้องจ่ายถ้าของเกินก็ต้องจ่าย มันทำให้เราคิดหนักมากว่าจะเอายังไงต่อดี พอถึงสิ้นเดือนเราก็เลยตัดสินใจว่าเราจะออกเพราะว่าเราทนกับระบบแบบนี้ไม่ไหวไม่มีสำนักงานใหญ่เข้ามา support เลยแถมของอะไรที่เราขายไปถ้าเกินก็ต้องจ่ายถ้าหายก็ต้องจ่ายอีกเรารับไม่ไหว ประจบเหมาะกับเจอพี่ที่ทำงานเก่าอีกที่หนึ่งที่ไม่ใช่ที่เป็นสัญญาจ้างที่เราทำก่อนหน้านี้ เจอกันพอดีเราก็เลยบอกว่าเราไม่ไหวกับร้านน้ำ ที่ทำงานเก่าอ่ะยังรับคนอยู่ไหม พี่เขาก็บอกว่ายังรับคนขาดพอดีแต่เงื่อนไขก็คือจะต้องโดนหักประกัน 2,000 บาท 4 เดือนแล้วก็ต้องซื้อชุดอีก 2,000 บาทแล้วก็ต้องตรวจสุขภาพใหม่อีก 590 บาท ด้วยความที่เรารีบอ่ะเรากลัวว่าจะไม่มีจ่ายหนี้สินตอนสิ้นเดือนเราก็เลยไปสมัครที่ๆเขาหักตังค์เรา4 เดือน ซึ่งตอนนี้ทำมาได้ 1 อาทิตย์แล้ว แล้วอยู่ดีๆพี่ที่ทำงานเก่าที่ shop ปิดอ่ะโทรมาบอกว่า shop จะไม่ปิดแล้ว ซึ่งเราก็คิดหนักมากเพราะว่าเราซื้อชุดที่ทำงานใหม่ไปแล้ว แต่ในความคิดเราเราคิดว่างานที่ shop ปิดอ่ะได้เงินเยอะกว่าที่ทำงานใหม่ที่ต้องซื้อชุด เราเลยคุยกับพี่เขาว่าไปเอาคำตอบมาให้ชัวร์ก่อนว่าปิดหรือไม่ปิดจริงหรือไม่จริง ถ้าไม่ปิดเราจะกลับไปทำที่เดิมเพราะว่ารายได้มันดีกว่าที่งานเราต้องซื้อชุดอีก ตอนนี้เราสับสนมากว่าจะเอายังไงดีกับงาน ? ตอนนี้เรายังไม่ได้บอกแม่กับพี่เรารอคำตอบจากพี่ที่ปิด shop ก่อนว่าสรุปแล้วมันจะไม่ปิดจริงๆใช่ไหม คำถามคือเราควรเอาไงดีถ้า shop มันไม่ปิดจริงๆเราควรกลับไปทำดีไหมหรือว่าทำที่ใหม่ดีกว่า??
ภายใน 2 เดือนเปลี่ยนงานมาแล้ว 3 งานใครเคยเป็นบ้าง
พอไปเจองานใหม่ก็คงคิดว่าเออก็คงจะดีกว่านี้แน่นอนแต่พอไปทำจริงๆคือมันไม่ไหวเลยมันไม่ได้เลย งานใหม่ที่เราไปทำก็คือร้านน้ำร้าน 1 แบรนด์ดังเลยเราไม่เคยทำร้านน้ำมาก่อนเลย เราโดนปล่อยให้อยู่ร้าน 2 คนกับพี่คนใหม่ ซึ่งใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ให้รับออเดอร์น้ำต่อไรเดอร์ 1 คน 5 แก้ว 6 แก้วแล้วเราทำกันไม่ทันเราก็โดนคอมเพลนจากพี่ไรเดอร์แล้วก็ไม่มีเวลาพักให้ได้กินข้าวเลย แล้วแถมสิ้นเดือนก็ต้องมาลุ้นว่าจะต้องจ่ายของค่าขนมถ้าหายก็ต้องจ่ายถ้าของเกินก็ต้องจ่าย มันทำให้เราคิดหนักมากว่าจะเอายังไงต่อดี พอถึงสิ้นเดือนเราก็เลยตัดสินใจว่าเราจะออกเพราะว่าเราทนกับระบบแบบนี้ไม่ไหวไม่มีสำนักงานใหญ่เข้ามา support เลยแถมของอะไรที่เราขายไปถ้าเกินก็ต้องจ่ายถ้าหายก็ต้องจ่ายอีกเรารับไม่ไหว ประจบเหมาะกับเจอพี่ที่ทำงานเก่าอีกที่หนึ่งที่ไม่ใช่ที่เป็นสัญญาจ้างที่เราทำก่อนหน้านี้ เจอกันพอดีเราก็เลยบอกว่าเราไม่ไหวกับร้านน้ำ ที่ทำงานเก่าอ่ะยังรับคนอยู่ไหม พี่เขาก็บอกว่ายังรับคนขาดพอดีแต่เงื่อนไขก็คือจะต้องโดนหักประกัน 2,000 บาท 4 เดือนแล้วก็ต้องซื้อชุดอีก 2,000 บาทแล้วก็ต้องตรวจสุขภาพใหม่อีก 590 บาท ด้วยความที่เรารีบอ่ะเรากลัวว่าจะไม่มีจ่ายหนี้สินตอนสิ้นเดือนเราก็เลยไปสมัครที่ๆเขาหักตังค์เรา4 เดือน ซึ่งตอนนี้ทำมาได้ 1 อาทิตย์แล้ว แล้วอยู่ดีๆพี่ที่ทำงานเก่าที่ shop ปิดอ่ะโทรมาบอกว่า shop จะไม่ปิดแล้ว ซึ่งเราก็คิดหนักมากเพราะว่าเราซื้อชุดที่ทำงานใหม่ไปแล้ว แต่ในความคิดเราเราคิดว่างานที่ shop ปิดอ่ะได้เงินเยอะกว่าที่ทำงานใหม่ที่ต้องซื้อชุด เราเลยคุยกับพี่เขาว่าไปเอาคำตอบมาให้ชัวร์ก่อนว่าปิดหรือไม่ปิดจริงหรือไม่จริง ถ้าไม่ปิดเราจะกลับไปทำที่เดิมเพราะว่ารายได้มันดีกว่าที่งานเราต้องซื้อชุดอีก ตอนนี้เราสับสนมากว่าจะเอายังไงดีกับงาน ? ตอนนี้เรายังไม่ได้บอกแม่กับพี่เรารอคำตอบจากพี่ที่ปิด shop ก่อนว่าสรุปแล้วมันจะไม่ปิดจริงๆใช่ไหม คำถามคือเราควรเอาไงดีถ้า shop มันไม่ปิดจริงๆเราควรกลับไปทำดีไหมหรือว่าทำที่ใหม่ดีกว่า??